แชร์ลงโซเชียลมีเดีย

เกริ่นนำ.

“ไฟนอลแฟนตาซี ภาค 5” อีกหนึ่งตำนานความสนุกสนานที่บันเทิงขั้นสุด เพราะระบบอาชีพที่มีหลากหลายและสามารถผสมผสานอบิลิตี้ของต่างอาชีพได้.. เนื้อเรื่องถึงแม้จะไม่ได้เน้นดราม่ามาก(แต่ก็มีอยู่นะ) แต่ก็ถูกเติมเต็มด้วยการผจญภัยที่สนุกสนานด้วยความสดใสของเนื้อเรื่องและตัวละครหลัก.. เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของหนุ่ม “บัทซ์” ลูกชายของอัศวินแห่งแสงผู้ล่วงลับ “ดอร์แกน คลอว์เซอร์”.. อุกกาบาตที่สั่นสะเทือนผืนดินนั้น เปลี่ยนชีวิตเค้าไปตลอดกาล…..

เป็นอีกหนึ่งภาคที่ได้รับความนิยมระดับสูง และเป็นอานิสงฆ์ที่รุนแรงส่งต่อไปยังภาค 6 ทำให้คนหลงรักซีรีย์นี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง.. ห้ามพลาดที่จะเล่นครับ….. 🙂

คำเตือน999

บทสรุป.

เริ่มต้นเกม.. พระราชาจะรู้สึกถึงความผิดปกติของสายลม จึงตั้งใจจะแว๊นซ์มังกรคู่ใจไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่ “วิหารคริสตัลแห่งลม”.. ด้วยความเป็นห่วงของ เจ้าหญิงเลนน่า(หรือเรย์น่าบนps1) เธอจึงได้วิ่งออกมาบอกให้เสด็จพ่อระวังตัวด้วย..

ตัดฉากมาที่พระเอกสุดหล่อของเรา “หนุ่มบัทซ์” นักผจญภัยที่กำลังปิ้งมันอยู่ในป่าอย่างเพลิดเพลินกับเจ้า “โบโกะ” โจโคโบะคู่ใจ.. ทันใดนั้นเอง อุกกาบาตมหากาฬขนาดเท่ารัฐเท็กซัส(รู้ได้ไง 😂) ก็ได้พุ่งลงอัดกับพื้นพสุธาจนสะเทือนเลื่อนลั่น จนหัวมันในมือกระฉอก.. “ให้ตายเถอะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?”.. ให้เราเขวี้ยงมันที่เหลือลงกับพื้น ดับไฟ แล้วกระโดดควบเจ้า “โบโกะ” เพื่อแจ้นไปที่จุดเกิดเหตุทันที.. ออกจากป่าแล้วเดินทางไปทางทิศตะวันออก เราจะได้เจอกับเจ้าอุกกาบาตเจ้าปัญหาแหวกดินเป็นทางยาว ให้เข้าไปสำรวจทันที.. เมื่อจอดเจ้าโบโกะแล้วบัทซ์จะบอกให้เค้ารออยู่ตรงนี้ก่อน เดินต่อมาทางขวา เราจะเจอ “ก็อปลิ่น” สองตัวกำลังช่วยกันอุ้มหญิงสาวคนนึงไปไหนไม่รู้ แต่ไม่น่าไปทำเรื่องดี.. ให้เราจัดการซะ.. หญิงสาวนางนั้นก็คือเจ้าหญิง “เลนน่า” คนงามนั่นเอง เธอขอบคุณบัทซ์ที่ช่วยเธอไว้ แล้วเราจะได้ยินเสียงคนโอดโอยลอยมาเข้าหู ให้เดินไปทางขวาบน จะได้พบกับชายสูงอายุแต่กำยำท่านนึง นอนพะงาบๆอยู่.. ให้เราเข้าไปช่วยเค้า เค้าจะจำอะไรไม่ได้นอกจากชื่อของเค้า “กาลัฟ” นั่นเอง.. เลนน่าบอกว่าเธอกำลังจะไปตามหาพ่อที่วิหารแห่งลม กาลัฟจึงนึกขึ้นมาได้ว่าคุ้นๆจะไปที่นี่แหละ.. กาลัฟจึงขอเดินทางไปกับเลนน่า แต่บัทซ์ขอท่องเที่ยวต่อ.. ก่อนจากกัน สัมผัสได้ถึงความอาลัยและแอบปิ๊งที่เจ้าหญิงเลนน่ามีกับบัทซ์เลยทีเดียว….. ก่อนออกจากที่นี่ อย่าลืมที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ขวาล่าง มีทางให้มุดเข้าไปเก็บกล่องสมบัติได้หนึ่งชิ้น นะจ๊ะ..

เฮ้!! ทำอะไรกันน่ะ
มาถึงก็ได้บู๊เลยทีเดียว
ไหวไม๊นี่.. ลุง..

ออกจากที่นี่ ควบเจ้าโบโกะมาทางตะวันตกบ้าง เลาะซอกเขาขึ้นไปทางทิศเหนือ.. อยู่ดีๆเจ้าโบโกะจะเบรกจนบัทซ์หัวทิ่ม แล้วมันจะแสดงท่าทางแปลกๆ เราจะได้ยินเสียงกรี๊ดจากเลนน่าและกาลัฟ.. จากนั้นแผ่นดินจะทรุดตัวลง ให้เรารีบแจ้นไปทางเหนืออย่างเร็ว จะพบกับเลนน่าและกาลัฟนอนสลบอยู่ ก็อปลิ่นจะเข้าโจมตีเราอีกครั้ง.. จัดการให้หมด.. บัทซ์จะระวังภัยให้ทุกคนจนฟื้น คุยกันแล้ว ดูทรงแล้ว บัทซ์คิดว่าไปด้วยน่าจะดีกว่า เพราะทางข้างหน้าอันตรายมาก มอนสเตอร์เยอะ ปล่อยสองคนนี้ไปลำพัง ไม่รอดแน่.. เป็นห่วง.. อีกอย่าง อาฟเตอร์ช็อกจากแผ่นดินไหวเมื่อสักครู่ ก็ทำให้ทางที่จะไปเมืองที่ตั้งใจจะไปทีแรกไปไม่ได้ซะแล้ว.. สรุปได้ดังนั้น กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเราจึงได้ก่อตั้งขึ้น มีสมาชิกสามคนตามนั้นแล..

แว้ก!! เบรกทำไม!? โบโกะ!!!
สงสัยต้องไปด้วยซะแล้วล่ะแบบนี้..

เดินทางขึ้นเหนือมาไม่ไกลจะได้พบกับถ้ำ ซึ่งเป็นทางเดียวที่เราจะทะลุไปยัง “วิหารแห่งลม” ได้.. บัทซ์บอกโบโกะไม่ต้องตามมา เพราะทางข้างหน้าอันตราย อยู่แถวหน้าถ้ำนี้แหละ หาอะไรกินไปก่อน….. เมื่อเราเข้ามาในถ้ำ.. ดอกแรก เราจะได้เจอกับน้ำพุฟื้นพลังทางซ้ายมือ.. กินแล้วจะผิวพรรณผ่องใส HP และ MP เต็ม เพื่อนที่น็อคจากการต่อสู้ก็จะถูกชุบชีวิตด้วย.. คือดี คือเลิศ….. เดินทางต่อ สำรวจให้ทั่ว เก็บสมบัติให้หมด.. จุดแรกที่เราทะลุโผล่หน้าออกมาได้ เราได้เห็นเรือของโจรสลัดแล่นฉิวเข้ามาจอดในถ้ำนี่แหละ.. เราจะงงว่า มันแล่นได้ยังไงในเมื่อไม่มีลมซักหน่อย.. เดินทางต่อ.. จะได้จ๊ะเอ๋เข้ากับเจ้าโจรสลัดที่กำลังทำท่าทางลับๆล่อๆ เราจะหลบได้ทันพอดี และแอบเห็นมันกดสวิทช์เพื่อเปิดประตูทางลับ.. ตามไปโลด.. กดบ้าง…..

ว้าว!.. บ่อน้ำนี่เพิ่มพลังให้ได้นี่นา..
ค้างคาวกับถ้ำ ของคู่กันจริงๆ
หลบเร็ว!! นั่นแน่ เห็นแล้ว..

พอเข้าไป.. ชัดเลย ธงโจรสลัดเด่นเป็นสง่าเต็มไปหมด.. นี่มันซ่องโจรสลัดเป็นแน่แท้.. เลนน่าเสนอไอเดียขอติดเรือไปลงที่วิหารแห่งลม บัทซ์บอกมันจะฆ่าเราน่ะสิ.. แต่จนแล้วจนรอดก็ตัดสินใจ “ขโมยเรือ” มันซะเลย(ไอเดียล่อตรีนหนักกว่าเดิมอีก 😂 ).. ให้ขึ้นเรือแล้วไปสำรวจที่พวงมาลัยด้านบนท้ายเรือ.. บัทซ์จะกระโดดขี่และทำท่าขับเหมือนผู้ชำนาญการ ทั้งๆที่ขับไม่เป็นนั่นแหละ.. ยังไม่ทันจะไปไหน งานก็เข้า เมื่อ “ฟารีส” หัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์โจรสลัดจับได้ซะก่อน.. เลนน่าพยายามเจรจา แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล ทุกคนถูกจับมัดและขังในคุก.. แต่สร้อยคอประจำตัวของเลนน่าที่เหมือนสร้อยคอที่ติดตัวมาแต่เกิดของฟารีสเป๊ะ สร้างคำถามให้เกิดขึ้นในใจของโจรสลัดสาวอย่างมาก..

นี่มัน “ซ่องโจรสลัด”!! นี่นา
ว้าว.. เจอเรือแล้ว!!..
ชิบหายละ.. จะรอดไม๊ ตอบ..

รุ่งเช้า.. ฟารีสจะสั่งให้แกะเชือกที่มัดพวกเราออก และตัดสินใจที่จะพาเราไปส่งที่วิหารแห่งลม เพราะต้องการเจอกับพ่อของเลนน่า เผื่อได้คำตอบเกี่ยวกับสร้อยคอที่เธอมี.. และก่อนจะออกเรือ คำตอบที่ทุกคนสงสัยมาตลอดว่าเรือแล่นได้ยังไงในเมื่อไม่มีลม ก็ได้ถูกเปิดเผย….. เจ้า “ซิลดร้า” มอนสเตอร์ยักษ์มังกรน้ำ ลูกรักของฟารีสนั่นเอง ที่เป็นคนลากเรืออยู่ใต้น้ำอย่างรู้งาน.. ทุกคนอึ้งตกใจตาโตกันหมด.. ฟารีสหัวเราะชอบใจ.. ต้นหนเรือจะถามว่า จะให้เค้านำทางไม๊?.. ถ้าขี้เกียจขับเองหรือยังไม่รู้ทาง ก็ตอบ “Yes” ไป.. เค้าก็จะขับไปถึงหน้าวิหารให้เราเลย…..

จ๊ากกก!! น้อง “ซิลดร้า” นี่เอง
ถึงแล้วสินะ “วิหารคริสตัลแห่งลม”

เมื่อถึง “วิหารคริสตัลแห่งลม” ไม่ต้องรอช้า เข้าไปด้านในได้เลย.. ชั้นแรก เราจะได้เจอกับกลุ่มคนที่หนีมอนสเตอร์มาหลบรวมกันอยู่ที่ห้องซ้ายมือ.. เข้าไปคุยกับพวกเค้าเพื่อหาข้อมูล.. ด้านล่างในสุดของห้อง มีไหฮีลเพื่อฟื้น HP, MP ให้อีกด้วย(คือเลิศ คือแจ่ม).. ตะลุยให้ทั่ว เก็บสมบัติ เข้าไปด้านในสุดจะได้เจอกับบอสมอนส์ “” จัดการให้ได้.. เข้าไปด้านในจะได้พบกับห้องเก็บคริสตัลและเศษคริสตัลที่แตกกระจายอยู่.. พระราชาไทคูนเสด็จพ่อของเลนน่าจะปรากฏตัว ฝากฝังทุกคนให้ช่วยพิทักษ์คริสตัลแห่งธาตุอีก 3 ชิ้นที่เหลือให้ได้ พวกเราคือ “นักรบแห่งแสง” ที่ถูกเลือก.. หรือกลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซในตำนานนั่นเอง(ทุ้ย 😂 นอกเรื่องตลอด).. จากนั้นพระราชาจะถูกดาร์คโฮลดูดหายไป.. ฟารีสทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร..

อ้าว.. เจอโจทก์พอดี..
ดูร้อนรนกันน่าดูนะทุกคน
ปะทะบอสตัวร้าย!!

เศษคริสตัลจะมาล้อมรอบตัวเรา แล้วแจกจ๊อบให้เราผู้กล้าได้เลือก(JOB).. ในเบื้องต้นนี้จะมีอาชีพหลักๆคือ..

  1. Knight (ไนคท์) หรือ อัศวิน : ข้อดีคือ ใช้อาวุธหนักประเภทดาบและขวานได้ พลังโจมตีและป้องกันสูง มีความสามารถพิเศษหลักในการ “ปกป้องเพื่อน” ที่กำลังบาดเจ็บใกล้ตายได้
  2. Monk (ม๊องค์) หรือ นักสู้สายหมัด : ข้อดีคือ ร่างกายแข็งแรง ทำให้HPสูงสุดๆ เลือดเยอะ ต่อยหนัก ต่อยเบิ้ล ต่อยซะดาบอัศวินเขินเลยทีเดียว กระโดดถีบได้ทั้งฝูง โหดจัดๆ พ่อหวงเฟยหง 😂
  3. Thief (ติ๊ฟ) หรือ โจร : ข้อดีคือ ความเร็วสูง ย่องเบาชิงทรัพย์ได้ดียิ่งนัก ฉกไอเท็มจากมอนส์ได้เรื่อยๆ ไอเท็มสำคัญแจ่มๆที่หาได้ยาก ก็อาจได้จากการวิ่งราวนี่เอง.. สามารถมองเห็นเส้นทางลับในจุดดำมืดได้
  4. White Mage (ไวท์เมจ) หรือ นักเวทย์ขาว : ข้อดีคือ คอยเติมเลือดเติมพลังให้ทีมได้เสมอ คอยสนับสนุนการต่อสู้ให้เพื่อนๆได้อย่างดี ไม่ว่าจะทำให้ศัตรูช้าลง สร้างบาเรียให้เพื่อนที่กำลังแย่ ฯลฯ
  5. Black Mage (แบล็คเมจ) หรือ นักเวทย์ดำ : ข้อดีคือ สามารถโจมตีมอนสเตอร์ที่ใช้ดาบฟันไม่เข้า ต่อยไม่เข้า ได้.. มีพลังเวทย์ธาตุต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกใช้ธาตุที่บอสแพ้หรือมอนส์ทั่วไปแพ้ จะได้ดาเมจที่รุนแรงเป็นพิเศษ
  6. Blue Mage (บลูเมจ) หรือ นักเวทย์น้ำเงิน : ข้อดีคือ สามารถใช้ได้ทั้ง “ดาบ” และ “คฑา” สามารถเรียนรู้เวทย์แปลกๆจ๊าบๆของมอนสเตอร์ที่สู้ด้วยได้.. แจ่มไม่น้อยเลยนะ เพราะบางเวทย์โหดจริงไรจริง..

*** ขอแนะนำระบบอาชีพนิดนึงครับ อย่างเป็นทางการ.. คืออยากจะบอกว่า ความสนุกแบบวัวตายควายล้มของภาคนี้คือ “สามารถผสมผสานสกิล(อบิลิตี้)ของแต่ละอาชีพ” ได้.. ยกตัวอย่างเช่น เราเซ็งมากกับการที่นักเวทย์ขาวตีเบามากๆ ตีเหมือนตบยุง แม้จะถือคฑาก็เบาอยู่ดี และในบางครั้งเราก็ไม่ต้องการใช้เวทย์แล้ว อยากตี แต่ก็แทบไม่มีความหมายเพราะเบามาก(ในภาคอื่นๆ).. แต่ในภาคนี้ เราสามารถเรียนสกิลของอาชีพอื่นมาก่อน แล้วค่อยมาเป็นนักเวทย์ขาวก็ได้.. เช่น ไปเป็น Monk สายหมัดก่อน พอได้สกิลต่อยสองมือมา ก็ค่อยมาเป็นนักเวทย์ขาว.. พอเปลี่ยนมาเป็นนักเวทย์ขาวแล้ว เราก็เอาสกิลต่อยสองมือใส่เข้าไปในช่อง อบิลิตี้รอง(ช่องล่างนะ ช่องบนเป็นอบิลิตี้หลัก).. แค่นี้ เราก็จะได้นักเวทย์ขาวสายบู๊ ที่ต่อยจนมอนส์สลบได้แล้วครับ.. แค่คิดก็มันแล้วใช่ไม๊.. แล้วเราสามารถประยุกต์ใช้กับทุกๆอาชีพได้เลย.. บันเทิงไม๊ล่ะทีนี้.. สนุกขั้นสุดจริงๆ….. อบิลิตี้ที่มีเครื่องหมาย “!” นำหน้า คือเราต้องกดใช้.. ส่วนอบิลิตี้ที่ไม่มีเครื่องหมายนำหน้าคือ อบิลิตี้ที่ส่งผลอัตโนมัติ..

มีอาชีพจ๊าบๆเป็นของตัวเองแล้ว!!

จัดการเลือกจ๊อบให้เพื่อนๆในทีมจนครบแล้ว ติดตั้งอาวุธ พร้อมเดินทางต่อ.. เดินอ้อมมาทางด้านหลังแท่นวางคริสตัล จะมีแท่นวาร์ปอยู่ วาร์ปออกมาแล้วไปขึ้นเรือ.. ต่อไปเราจะเดินทางไปที่หมู่บ้าน “Tule” ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จากวิหารแห่งลมนี้.. (ก่อนไป อยากจะแอบบอกนิดนึงว่า แผ่นดินยาวๆตรงขวาล่าง มีฝูงสิงโตรอแดกทุกคนอยู่.. 😂 ถ้าห้าวและแกร่งพอ อยากลองอาชีพใหม่ ไปโดนกันได้ ได้แต้มอาชีพดีอยู่.. เงินกับExp ได้คุ้มรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คลานหนีให้ทันเป็นพอ.. 😂 โหดจัดๆ กัดทีแทบขิต..)..

ฝูงสิงโตโหดที่กัดได้รุนแรงมากๆ!

ขับเรือมาทางซ้ายล่างอย่างที่ว่า.. จะได้เจอกับหมู่บ้าน “Tule” สมปราถนา.. มาถึง ลูกเรือของฟาริสและตัวฟาริสเองจะขอแยกตัวไปดื่มเบียร์ที่ผับ.. เดินคุยกับชาวบ้านให้ทั่ว ซึมซับเบาะแสและข้อมูลต่างๆ.. ซื้ออาวุธ นอนหลับพักผ่อน.. ปิดท้ายด้วยการไปหาพ่อเฒ่า “Zokk : ซ็อก” ที่บ้านขวาบน.. แกจะเป็นคนที่รู้จักและสนิทสนมกับองค์หญิงเลนน่าดี แกเป็นคนถือกุญแจประตูน้ำ “” ซึ่งเราต้องผ่านไปทางนั้น.. แต่แกจะโกหกว่าไม่มี หายไปแล้ว ในตอนแรก เพราะทางข้างหน้าอันตราย และแกเป็นห่วงองค์หญิง.. ตกกลางคืนบัทซ์จะนอนไม่หลับ เค้าจะเดินออกมานั่งเล่นหน้าบ้านริมคลองและนึกถึงเรื่องที่พ่อพูดถึงคริสตัลในตอนที่เค้ายังเด็ก.. พ่อเฒ่าซ็อกหลังจากแอบไปดูองค์หญิงตอนหลับ ได้เห็นเลนน่าละเมอถึงคุณพ่อและการปกป้องคริสตัลทั้งสามตามที่คุณพ่อได้สั่งไว้.. คุณตาจึงใจอ่อน เดินเอากุญแจมาให้พระเอกที่กำลังต้มมาม่ารอบดึกอยู่ พร้อมกับบอกว่า.. ดูแลองค์หญิงให้ปลอดภัยกลับมา โอเคไม๊? ไม่งั้นกูจะกระทืบมึง.. 😂

หมู่บ้าน “Tule”
พบพ่อเฒ่า “Zokk”
บัทซ์นึกถึงสิ่งที่พ่อเคยพูดไว้

รุ่งเช้าไปหาฟาริสที่ห้องพักในผับ บัทซ์จะเป็นคนไปปลุกก่อน แล้วเคลิ้มในความงามของฟาริสจนเดินเหม่อออกมา.. พ่อเฒ่ากาลัฟเห็นท่าทางแปลกๆจึงได้ฉุนเฉียวแล้วเข้าไปบ้าง แต่ก็เคลิ้มออกมาเหมือนกัน(ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าฟาริสเป็นผู้ชายหน้าหวานมาตลอด ตอนนี้ก็ยังแค่เคลิ้ม แต่ยังไม่ได้ฟันธง) เลนน่าจึงเข้าไปปลุกเอง.. ฟาริสตื่นมาอย่างสดใสและงงว่าไอ้สองคนนี่มันเคลิ้มอะไร.. ออกจากหมู่บ้าน ฟาริสก็จะวิ่งตามมาเข้ากลุ่ม แต่เธอจะไม่ให้ลูกน้องตามมาด้วยเพราะน่าจะยาวละการเดินทางครั้งนี้.. ลูกน้องโจรสลัดตกใจ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ลูกพี่..

เคลิ้มออกมากันเลยนะพวกเอ็ง
ลูกเรือโจรสลัดตกใจจนจะร้องไห้เอา

ออกเรือมุ่งหน้ามาทางทิศตะวันออก.. จะได้พบกับประตูน้ำ “Torna : ทอร์น่า” เมื่อกดสำรวจ บัทซ์จะเอากุญแจไปไข ประตูจะเปิดออกพร้อมเดินทางต่อ.. ขับเรือต่อมาได้ไม่ไกล ก็จะเจอของดีทันที น้ำวนขนาดใหญ่จากฝีมือมอนสเตอร์ “Karlabos : คาร์ลาบอส” เราจะถูกจู่โจม.. จัดการให้ได้.. เมื่อเอาชนะได้ เรือออกมาได้ แต่เจ้าซิลดร้าผู้ลากเรือมาตลอดจะขาดออกจากเรือและถูกดูดลงไปแทน.. ฟาริสร้องเสียงดัง แต่ก็ไม่สามารถช่วยมันไว้ได้ เพื่อนๆจะช่วยปลอบ..

เรือของเราจะลอยเท้งเต้งไร้ทิศทาง จนมาเกยเข้ากับซากเรือในสุสานเรือ.. โถ อนิจจังวัตตะสังขารา ถึงเวลาโบกมือลาเรือสุดรักของฟาริสแล้วครับ.. ออกเดินทางต่อ กระโดดไปตามซากเรือต่างๆ สำรวจให้ทั่วเก็บสมบัติให้หมด.. หินที่โผล่ขึ้นมาสามารถกระโดดดึ๋งๆเพื่อไปเก็บสมบัติหรือเพื่อไปต่อได้.. ถึงจุดหนึ่งเราจะต้องลงน้ำ แล้วเราจะเปียกกันหมด.. เดินต่อไปเรื่อยๆจะได้พบกับห้องๆหนึ่งที่สะอาดและใช้เป็นที่พักได้.. พวกเราจะก่อไฟเพื่ออังเสื้อผ้าให้แห้ง เลนน่าจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ย้ำชัดว่าห้ามแอบดูเด็ดขาดนะ.. ส่วนฟาริสยืนเก๊กอยู่มุมห้องเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี บัทซ์และกาลัฟจึงบอกให้ถอดเสื้อแล้วมานั่งอังไฟด้วยกัน ก่อนจะลุกไปช่วยกันรุมถอดเสื้อแม่เสือสาวด้วยความเป็นห่วง กลัวจะเป็นหวัด ก่อนถูกถีบกระเด็นและได้รู้ชัดเจนว่าฟาริสเป็น “ผู้หญิง!!”.. ทุกคนอึ้งแต่ก็รับได้อย่างรวดเร็วเพราะความรักที่มีต่อกัน.. สาเหตุที่เธอปิดบังมาตลอดก็เพราะอยู่ในดงโจรแบบนี้ ถูกมองว่าเป็นผู้ชายน่าจะปลอดภัยกว่า..

โอ้วก็อด.. ซากเรือผีสิงชัดๆ..
มีทั้งผีทั้งวิญญาณ
จะรุมถอดเสื้อฟาริส.. ไม่เคยตายบ่?..

เมื่อตื่นกันครบทุกคนก็เดินทางต่อ.. จะได้เจอกับ “แผนที่โลก” ที่สมบูรณ์และสามารถเก็บได้ที่เรืออีกลำ.. มีก้อนหินที่ไปต่อได้เพื่อเก็บกล่องสมบัติ.. มีกล่องสมบัติที่เป็นกลไกลับเพื่อเปิดทางไปต่อ.. ไปจนสุดทาง จะได้เจอกับเหตุการณ์ปริศนา คือ แม่ของบัทซ์, พ่อของเลนน่า, หลานของกาลัฟมายืนรอ.. ทุกคนจะหลงกลและถูกดูดวิญญาณ ยกเว้นกาลัฟที่จำอะไรไม่ได้ จึงเป็นคนเดียวที่ยังมีสติ จากกลลวงของ “ไซเรน” ปีศาจทะเลที่สามารถสร้างภาพลวงตาได้.. กาลัฟจะเรียกสติทุกคนจนตื่นและได้วิญญาณกลับมา.. สุดท้ายเราต้องสู้กับมัน.. เอาชนะให้ได้ แล้วเดินทางต่อ ก็จะสามารถขึ้นฝั่งได้ครับ..

เกือบขิตยกตี้แล้วไม๊ล่ะ
ต้องผ่านเจ๊เค้าให้ได้

เดินเลาะชายฝั่งลงมาทางใต้เรื่อยๆ จะได้พบกับเมือง “Carwen : คาร์เว็น” ที่นี่จะมีเสียงดนตรีที่จ๊าบมากๆ.. อารมณ์เหมือนปี่สก็อต เหมือนฉากที่แจ็คกับโรสเต้นรำกันใต้ท้องเรือในเรื่องไททานิค.. หาข้อมูลจากชาวบ้านให้ทั่ว เราจะได้รู้ว่าที่นี่เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญมากๆที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ต้องหยุดกิจการไปกันหมดเพราะไม่มีลมหรือลมพัดอ่อนมากๆ ไม่มีใครออกเรือเพื่อพาเราไปที่ต้องการแน่นอน.. ได้ข่าวว่ามีหญ้ามังกรอยู่บนหุบเขาทางเหนือ.. ได้ข่าวเรื่องสัตว์ประหลาดในคลอง.. ได้ข่าวเรื่องมังกรฮิริว(มังกรของพ่อเลนน่า)เป็นมังกรลมตัวสุดท้าย.. ฯลฯ.. ซื้ออาวุธ ซื้อไอเท็ม พักผ่อนให้เพียงพอ เสร็จแล้วออกเดินทางไปที่หุบเขา “นอร์ทเมาท์เท่น” ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ(ขึ้นเหนือเยอะเลย)..

เสียงดนตรีอย่างจ๊าบ
ได้เบาะแสสำคัญ

เมื่อถึงแล้ว ก็เข้าไปได้เลย.. ในหุบเขานี้จะมีหญ้าพิษสีม่วงอยู่ อย่าไปเหยียบเชียว ติดพิษทั้งกลุ่มทันที.. สำรวจให้ทั่ว เก็บสมบัติให้หมด.. ไปได้ถึงกลางทาง เลนน่าจะได้พบกับหมวกเหล็กของคุณพ่อ.. เมื่อเธอวิ่งไปเก็บจะถูกโจมตีจาก “มากิสซ่า” โจรที่จะมาล่าฮิริว แผ่นดินก็จะทรุดแยกตัดขาดเราจากเลนน่าพอดี แต่ฟาริสไม่ยอม กระโดดข้ามไปช่วย ถึงจะพลัดตกไปแต่ก็ปีนขึ้นมาได้ในที่สุด.. ฟาริสจะมัดเชือกเป็นสะพานแล้วเหวี่ยงให้เรา.. ก็ข้ามไป จัดการอิเจ๊นั่นซะ.. ซักพักมันจะเรียกผัวมันมาช่วย.. อย่าให้มันรอดไปได้ เอาให้ยับทั้งคู่.. 😂

นี่สินะ “นอร์ทเมาท์เท่น”
วอนเจ็บตัวซะแล้ว
สองผัวเมียมหาปลัย

เดินทางต่อ ไปจนสุดทาง จะได้พบกับ “ฮิริว” มังกรของเสด็จพ่อเลนน่านอนป่วยอยู่.. เลนน่าจะฝ่าดงหญ้าพิษไปเก็บหญ้ามังกรมารักษาฮิริวจนได้ จนตัวเองบาดเจ็บเอง.. ฮิริวจะหายดี แข็งแรง และกลายเป็นพาหนะสุดจ๊าบให้เราขับลงเขาเช่นนั้นเอง.. บัทซ์ถึงแม้จะกลัวความสูงไม่น้อย แต่ก็โดนเพื่อนๆคะยั้นคะยอจนต้องขึ้นขี่ด้วยเช่นกัน..

เลนน่าทุ่มสุดตัว
เหวอ!!.. สูงเกินไปแล้ว..

เมื่อได้ฮิริวมาแล้ว.. ทีนี้เราก็จะค่อนข้างอิสระในการเดินทางขึ้นมากมายทีเดียว.. ไปแวะเก็บเวลให้เพลินใจ เมื่อพร้อมแล้วก็เดินทางต่อไปยังเมือง “วอลสุ(หรือวอลรัส)” ทางทิศใต้.. เข้าไปในส่วนของหมู่บ้านก่อนเพื่อคุยกับชาวบ้านและซื้อของ.. เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่พอสมควร จะได้รู้ว่ามอนสเตอร์ที่ชื่อ “กาลูร่า” ที่มีลักษณะคล้ายช้าง เป็นสัตว์ที่เชื่อง.. พระราชาของที่นี่ใช้คริสตัลแห่งน้ำดูแลทุกคน และคริสตัลอยู่ที่ “หอคอยวอลสุ” ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากที่นี่.. เสร็จแล้วออกจากส่วนหมู่บ้านไปเข้าพระราชวัง..

เชื่องจริงรึ? เจ้ายักษ์ใหญ่นี่..

เมื่อเข้ามาในพระราชวัง.. ชอนไชให้ทั่วทุกห้อง(ก่อนไปหาพระราชา).. คุยกับทหารและนักปราชญ์ทุกคน จะได้ข้อมูลมากมาย จะได้รู้ว่าอสูรน้ำแข็ง “ชิวา” ถูกผนึกไว้ที่ไหนสักแห่งในปราสาทนี้.. จะมีทางลับไปเก็บสมบัติ ไปเก็บ “ผ้าคลุมเอลฟ์” แต่ระหว่างทางอาจได้เจอ “วานรมืด” ซึ่งตบแรงมากๆด้วย.. จะวิ่งหนีหรือจะสู้ ตัดสินใจให้ดี.. สำรวจทั่วแล้ว คุยทั่วแล้ว ดิ่งไปที่ห้องพระราชาตรงกลาง.. เมื่อพบหน้ากัน เลนน่าจะขอให้พระราชาหยุดใช้คริสตัลแห่งน้ำอย่างหักโหม.. แต่พระราชากลับปฏิเสธ.. คุยกันได้สักพัก จะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเพราะมีอุกกาบาตตกมาที่ใกล้ๆกับ “หอคอยวอลสุ” อีกหนึ่งก้อน.. พระราชารีบแจ้นไปดูอย่างไว.. ให้เราตามไป.. หอคอยวอลสุจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาท ขับฮิริวตรงไปเลย ก็จะได้พบกับอุกกาบาตตกอยู่ใกล้ๆจริงๆ แต่เข้าไปสำรวจรอบแรกที่อุกกาบาตจะยังไม่เจออะไร.. เดินไปที่หอคอย จะได้พบกับทหารผู้พิทักษ์หอคอยนอนบาดเจ็บอยู่ พวกเค้าจะบอกว่า เจ้าช้าง “กาลูร่า” ที่เคยเป็นสัตว์ที่สุภาพมาตลอดเกิดบ้าคลั่งทำร้ายทุกคน และวิ่งตามพระราชาขึ้นไปที่ห้องเก็บคริสตัลพร้อมกับอัศวินแปลกหน้าหนึ่งนายแล้ว..

พระราชาแห่งวอลสุ
“หอคอยวอลสุ” กับ “อุกกาบาต” อีกลูก

ให้เราตามขึ้นไปบนหอคอย.. ในหอคอยนี้มีเถาวัลย์ให้ปีนขึ้นไปได้.. ก็เช็คให้หมด.. ปีนขึ้นไปเก็บสมบัติ ปีนขึ้นไปส่อง.. มีสมบัติดีๆหลายชิ้นอยู่ครับ กวาดให้หมด.. ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดจะเจอพระราชาก่อนถึงห้องคริสตัล พระราชานอนบาดเจ็บอยู่.. เมื่อเข้าไปถึงห้องเก็บคริสตัล เจ้าช้างคลั่งจะโจมตีอัศวินแปลกหน้าคนนั้นอยู่พอดี เสร็จแล้วมันก็จะหันมาทางเรา.. ก็จัดการให้เรียบร้อย.. สยบความคลั่งของเค้าซะ..

มีหลายชั้นทีเดียว
ทำไมอยู่ดีๆมันถึงได้คลั่งนะ?!
ไม่ออมมือให้ล่ะนะ!!

เมื่อเอาชนะเจ้าช้างได้.. อัศวินแปลกหน้าจะคลานไปที่ประตู และจะบ่นพึมพัมว่าขอโทษท่านกาลัฟที่ข้าไม่สามารถพิทักษ์คริสตัลตามคำสั่งได้อีกแล้ว ก่อนจะเสียชีวิตไป.. กาลัฟตกใจ ตะโกนลั่นว่าอย่าเพิ่งตาย ช่วยบอกทีว่าข้าเป็นใครรร!!!?

จากนั้น คริสตัลแห่งน้ำก็จะระเบิดแตกสลายออก เหมือนที่เลนน่ากังวล.. เศษคริสตัลจะเป็นพลังให้เรา แจกจ๊อบให้เราอีก 5 จ๊อบ.. อีกเม็ดนึงยังเก็บไม่ได้ ปล่อยไปก่อน.. ซักพักหอคอยจะเกิดการถล่ม และยุบตัวหายไปพร้อมแผ่นดินเลย.. ถึงแม้เราจะวิ่งออกประตูหลังมาได้ทัน แต่สุดท้ายก็ต้องลอยคออยู่กลางทะเลอยู่ดี.. ในขณะที่เรากำลังจะจมน้ำตายกลางทะเลนั่นเอง น้องซิลดร้าที่ทุกคนคิดว่าอาจตายไปแล้วก็โผล่มาช่วยเราไว้ พาเราไปจนถึงฝั่ง.. แต่กระนั้น ดูเหมือนซิลดร้าจะใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมีเพื่อช่วยเรา เค้าเลยหมดแรง และจมลงทะเลไปอีกครั้ง.. ฟาริสได้ร้องไห้ให้เพื่อนปลอบอีกรอบ..

เดินทางมาสำรวจที่อุกกาบาตอีกรอบ.. รอบนี้จะมีทางให้เข้าไปในอุกกาบาตได้.. เข้าไปด้านในสุด จะได้เจอจุดวาร์ปให้วาร์ปไปที่อุกกาบาตอีกลูกที่ตกอยู่ใกล้ๆเมือง “Karnak : คาร์นัก”.. เดินไปที่เมืองคาร์นักทางทิศตะวันตก(ต้องอ้อมแนวเขาโดยเลียบขึ้นไปทางเหนือก่อนแล้วลงมา)..

เมื่อเข้าไปซื้อของในเมือง ก็จะถูกทหารล็อคตัว แล้วจับไปขังในคุกเพราะคิดว่าเราเป็นมอนสเตอร์ที่ออกมาจากอุกกาบาต.. เราจะได้เจอกับ “ซิด” ในคุก.. เค้าจะพยายามแหกคุกโดยระเบิด แต่ดันเจาะมาเจอห้องของพวกเรา.. ซิดจะเล่าให้เราฟังหลายอย่างว่าเค้าเป็นคนสร้างเครื่องขยายพลังคริสตัลเอง แต่เค้าก็พยายามหยุดมันก่อนที่จะโดนจับโยนเข้ามาในคุก.. ไม่นานมหาอุปราชของคาร์นักก็วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ เพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ซิดพูดจริงๆ คริสตัลกำลังจะระเบิด.. เค้าจะขอให้ซิดช่วย และซิดก็จะขอให้ปล่อยพวกเราเพราะต้องการให้เราช่วยอีกที.. ตอนแรกเค้าเหมือนจะไม่ยอม แต่สุดท้ายก็จะยอม.. ซิดจะออกไปก่อน เราก็ตามไปและสำรวจให้ทั่ว จะได้เห็นกล่องสมบัติเต็มไปหมดหลายจุด แต่ยังเก็บไม่ได้.. ออกไปจากเมืองแล้วจะเห็นเรือจอดอยู่หน้าเมือง เข้าไป.. เรือนี้เป็นเรือกลไฟของซิด ซิดจะส่งเราที่ทางเข้าและอวยพรให้ปลอดภัย.. เข้าไปโลด..

เจอยอดอัจฉริยะในคุก
ต้องบู๊บนเรือนี่สินะ

ภายในเรือกลไฟ จะอุดมไปด้วย “กลไก, สายพาน, และลิฟท์” มึนกันซะให้พอ.. เก็บสมบัติให้หมด ของดีๆเยอะทีเดียว.. มีอยู่ห้องหนึ่งถัดจากจุดเซฟ จะเป็นคันโยกซับซ้อนหลายอัน เพื่อโยกให้พื้นที่ๆเราเหยียบอยู่ในจุดที่เหมาะสม เพื่อไปเอากล่องสมบัติและเดินทางต่อ.. ใช้ได้ทีเดียว ใครหัวร้อนง่ายแนะนำเตรียมน้ำแข็งไว้ประคบ.. 😂 เมื่อได้ของแล้วก็เดินทางต่อ จะได้เจอกับราชินีแห่งคาร์นักยืนทำหน้ามึนอยู่ เพราะเธอถูกสิงอยู่.. เธอจะเข้าโจมตีเรา เราจะได้สู้กับปีศาจไฟ “” เอาเรื่องทีเดียว.. ตบให้ลง..

มึนซะให้พอ
องค์ราชินี!?
ร้ายใช้ได้ทีเดียว

เมื่อเอาชนะได้ ราชินีจะหลุดจากภวังค์ที่ถูกสะกด.. เธอจะบอกให้เรารีบไปปกป้องคริสตัลด้านใน.. เมื่อเราเข้ามาในห้องคริสตัล จะได้พบกับเจ้ามนุษย์หมาป่าที่หลายคนพูดถึง.. เค้าจะบอกว่าไม่ได้เป็นศัตรู และพูดกับกาลัฟราวกับว่ารู้จักกัน ส่วนกาลัฟก็ทำได้เพียงแค่งง..

ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเอง ก็จะมีทหารที่ถูกสิงเดินมาเปิดสวิทช์เร่งเครื่องจนคริสตัลระเบิด.. มนุษย์หมาป่าจะสละชีพให้พวกเรารอด กาลัฟก็ยังไม่ได้รู้อะไรอีกเช่นเคย.. เรามีเวลาวิ่งออกจากปราสาทก่อนที่ปราสาทจะระเบิด 10 นาที.. ยังจำกล่องสมบัติมากมายที่เข้าไปเอาไม่ได้ในตอนแรกได้ไม๊?.. นี่แหละโอกาสของเรา.. วิ่งไป แฮ้ปไป ให้หมด..

เมื่อออกมาได้ ปราสาทก็ระเบิด กลายเป็นโกโก้ครั้นช์.. เศษคริสตัลจะกระเด็นมามอบจ็อบให้เราอีก 3 จ๊อบ แซ่บๆ..

ได้อาชีพเพิ่มอีกแล้ว!!

เมื่อออกมายืนบนแผนที่โลกอีกครั้ง.. จะเห็นว่า กำแพงที่เคยกั้นทางๆซ้ายได้พังลงไปครึ่งหนึ่งเพราะแรงระเบิดของปราสาท.. เข้าไปคุยกับซิดในเรือ.. พ่อเฒ่าจะโทษตัวเองอย่างมาก ที่สร้างเครื่องเร่งพลังคริสตัลจนทุกอย่างวายป่วงไปหมด.. เค้าจะหนีไปอยู่ที่ห้องพักในเมืองคาร์นักนั่นเอง.. ให้เราตามไปคุยกับเค้าในผับด้านบน.. เค้าจะพูดถึงหลานชายของเค้า และบอกว่าอยากอยู่คนเดียวซักพัก เลนน่าจะปลอบใจว่าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเค้าหรอก.. ไปดูอาการพระราชินีที่โรงแรมชั้นสอง.. เธอจะยังนอนสลบอยู่ แต่ก็มีอาการหวาดกลัวและละเมอถึงความมืดที่แสนน่ากลัวอยู่ตลอด.. เตรียมตัวซื้อข้าวของให้พร้อม แล้วออกเดินทางผ่านกำแพงที่พังทลายด้านซ้ายเพื่อลงไปที่ “ห้องสมุดโบราณ” ทางทิศใต้..

ซิดรู้สึกผิดมาก
พระราชินียังหลอนไม่หาย

ในระหว่างการเดินทาง เราจะได้พบกับทะเลทรายเวิ้งหนึ่ง ไม่เล็กไม่ใหญ่.. มีเจ้ามอนส์ตัวโหด “คิเมร่า” อยู่ด้วย.. ตบโหดจัดๆ ถ้าไม่แข็งจริงคือตายจริงๆ.. สิ่งที่อยากบอกคือ ใครที่อยากเล่นอาชีพ “มนตร์น้ำเงิน” อย่าพลาดที่จะเรียนรู้เวทย์ “ฟองน้ำ” ของเจ้านี่เอาไว้.. โจมตีได้ทั้งกลุ่ม แถมแรงใช้ได้เลยด้วย.. ได้แล้ว หรือเก็บเลเวลพอใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ.. ลงใต้และโยกมาทางตะวันออกนิดหน่อย ก็จะได้พบกับ “ห้องสมุดโบราณ” ที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ สมใจ.. ***ก่อนจะไปบู๊ในห้องสมุดโบราณ แนะนำให้มีหนึ่งคนในทีมที่ใช้เวทย์ดำได้ เพราะมอนส์ในห้องสมุดส่วนใหญ่จะแพ้เวทย์ไฟ แถมต้องบวกกับ “อิฟริท” อสูรแห่งเปลวเพลิงอีกด้วย.. และเฮียแกก็แพ้เวทย์น้ำแข็ง.. ถ้ามีนักเวทย์ดำไปด้วย อะไรก็จะง่ายขึ้นครับ….. เมื่อเข้าไปในห้องสมุด พูดคุยกับนักปราชญ์ให้ทั่วทั้งหมด จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือหลายเล่มที่นี่มีปีศาจสิงอยู่ และพวกเค้าก็พยายามเผาทำลายมัน.. ขึ้นไปชั้นสอง มีไหฮีลให้ ขึ้นไปอีกจะพบกับนักปราชญ์ที่กำลังเผาหนังสืออยู่ สำรวจที่หนังสือ จะมีบางเล่มที่มีปีศาจอยู่จริงๆ และมันจะโจมตีเรา..

อีกหนึ่งตัวโหดประจำซีรีย์
ได้รับรู้เรื่องราวของ “อิฟริท”

กลับมาที่ห้องแรก.. ไปที่ชั้นซ้ายล่าง จะมีทางไปต่อ.. ในห้องสมุดนี้ จะมีกลไกทั้งที่แบบเหยียบแล้วเกิดผลอัตโนมัติกับแบบต้องกดสำรวจ.. ก็กดๆเหยียบๆไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่.. เราจะไปจนถึงห้องที่ชั้นหนังสือผีสิงมันแกล้งเรา กั้นทางเรา.. ก็ให้ไปอีกทาง.. แล้วเราจะได้เจอกับอสูรแห่งเปลวเพลิงในตำนาน “อิฟริท” สุดหล่อนั่นเอง.. เค้าจะทดสอบเรา เราต้องชนะเค้าให้ได้เท่านั้น เค้าถึงจะยอมให้เราใช้พลังของเค้า.. จัดการให้ตามคำขอ.. อัดเวทย์น้ำแข็งเข้าไป ต่อยเข้าไป ฟันเข้าไป.. ซักพักก็เสร็จโก๋ครับ.. ได้อิฟริทมาครอบครองสมใจหมาย..

เมื่อปราบอิฟริทได้แล้ว นอกจากได้เค้ามา อิฟริทก็จะให้ไอเท็ม “คัมภีร์ไฟ” มาด้วย.. เดินทางกลับมาทางห้องที่มีเจ้าชั้นหนังสือผีสิงที่กั้นทางเรา.. รอบนี้เรามีอิฟริทมาด้วย มันจะเจอไฟของอิฟริทเหวี่ยงใส่จนต้องหลบอย่างเร็ว.. เดินทางต่อ เดินไปเรื่อยๆ เราจะได้เจอกับหนุ่มน้อยคนหนึ่งยืนหันหลังง่วนอ่านหนังสืออยู่.. แต่ก่อนเราจะได้คุยกับเค้า เราจะต้องผ่านเจ้าบอสใหญ่แห่งห้องสมุดโบราณนี้ก่อน.. นั่นคือเจ้า “ไบบลอส” นั่นเอง.. แสบใช้ได้เลย เอาลงไม่ได้ง่ายๆถ้าไม่มีนักเวทย์ดำ.. อัดเวทย์ไฟใส่มันหนักๆ.. แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สุดท้ายแล้วให้ขว้างไอเท็มที่อิฟริทเพิ่งให้มา “คัมภีร์ไฟ” ใส่มัน.. โดนไปตูมเดียวเท่านั้นแหละ ยอมแพ้อย่างไว.. เมื่อชนะมันได้ หนุ่มน้อย “มิด” หลานชายสุดรักของ “ซิด” ก็จะหันมาคุยกับเรา..

สุดหล่อ “อิฟริท” เทพอสูรแห่งเปลวเพลิง
ทั้ง “หนังสือ” และ “กลไก” เต็มไปหมด
หนุ่มน้อย “มิด” หลานชายสุดรักของปู่ “ซิด”

ดูเค้าจะเป็นเด็กที่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือเอามากๆจริงๆ.. เค้าจะพาเราออกทางลัดมาโผล่ที่ห้องด้านหน้า.. เราจะสุมหัวคุยกันพักหนึ่ง เราจะบอกว่าซิดปู่ของเค้ากำลังหมดไฟและรู้สึกแย่ เก็บตัวอยู่คนเดียวที่ห้องพักในเมืองคาร์นัก มิดได้ฟังก็ตกใจและรับไม่ได้ เพราะคุณปู่ของเค้าไม่เคยเป็นคนยอมแพ้ต่ออะไรมาก่อน ก่อนที่มิดจะรีบออกไปหาซิด…

ให้เราตามกลับไปที่คาร์นัก.. ขึ้นไปคุยกับซิดที่ห้องพักชั้นสอง.. มิดจะเข้ามาโวยวายใส่คุณปู่ ที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพคนขี้แพ้แบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เคยสอนเค้าเอาไว้เองว่าอย่ายอมแพ้กับอะไร.. ซิดได้สติอีกครั้ง.. ทั้งคู่จะกลับออกไปขึ้นเรือ ให้เราตามไปคุย เค้าจะช่วยกันซ่อมเรือปรับปรุงเรือให้เรา.. ระหว่างรอสองอัจฉริยะซ่อมเรือ กาลัฟเหมือนจะได้ความทรงจำเดิมๆกลับคืนมาเมื่อเห็นมิดคุยกับซิด.. เค้าเหมือนจะจำได้ว่าเค้ามาจากดาวดวงอื่นเพื่อมาหยุดจอมปีศาจ “เอ็กซ์เดธ” เค้าเริ่มเห็นภาพลางๆมากขึ้น เห็นหลานสาวตัวเอง และบอกว่าเค้าเคยมาผนึกมันไว้ที่นี่เมื่อสามสิบปีที่แล้ว..

เมื่อเรือทำเสร็จ เดินออกมาจากห้อง เราจะได้พบสองหนุ่มปู่กับหลานนอนสลบเพราะความเพลียอยู่.. หลับปุ๋ย.. คุยกับซิด แล้วเราจะได้เรือกลไฟลำนี้มาครอบครอง..

มิดเรียกสติซิด
ความทรงจำของกาลัฟเริ่มกลับมา

เดินทางด้วยเรือมาที่เมือง “เครสเซ่น” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สุดของแผนที่ เป็นเกาะลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยวหรือเขี้ยวมด.. เมื่อเข้าไปหาข้อมูลในเมือง จะเกิดแผ่นดินไหว เกิดน้ำวน ดูดเรือเราลงไปทั้งลำ(เหี้ยมาก บอกเลย 😂).. ซิดกับมิดรู้ มันจะฆ่ากูไม๊เนี่ย ตั้งใจทำกันขนาดนั้น.. ถุยชีวิต.. 😂

พูดคุยหาข้อมูลให้ทั่ว ซื้อของซื้อเวทย์ เดินเก็บเวล.. เมื่อพอใจแล้ว ให้เดินลงมาที่ป่าด้านล่าง.. จะเป็นป่าที่มีโจโคโบะสีดำซึ่งสามารถบินได้อาศัยอยู่.. จับมันให้ได้.. ตอนแรกมันจะบินไม่ขึ้นเพราะมีบางอย่างติดคออยู่.. ฟาริสจึงตบหลังจนมันคายออกมา.. เป็นเศษคริสตัลสองชิ้นจากคาร์นักที่กระเด็นมาแถวนี้.. เราจะได้อาชีพใหม่อีกสองอาชีพ.. คือ 1.นักกวี(ใช้เครื่องดนตรี) 2.เรนเจอร์(ใช้ธนู).. หลังจากนี้ เจ้าโจโคโบะดำก็จะสามารถบินได้แล้ว แถมบินได้โหดยิ่งกว่าฮิริวอีก.. แต่มีข้อแม้คือ ต้องจอดในป่าเท่านั้น มันไม่ยอมอยู่นอกป่าหรือพื้นที่อื่น..

มาถึงก็งานเข้าทันที
งานไล่จับก็มา.. หอบกันนิสนึง..

แว๊นซ์เจ้าแบล็คกลับมาหาซิดและมิดที่ห้องสมุดโบราณ.. ซิดและมิดจะบอกว่า ได้ข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชาไทคูนหรือเสด็จพ่อของเลนน่านั่นเอง.. มีคนเห็นเค้าเข้าไปใน “ทะเลทรายสายน้ำ”.. ทุกคนตกลงไปตรวจสอบทันที.. เดินเท้าออกมาทางซอกเขาซ้ายล่างของห้องสมุดนั่นเอง ไปตามทางเรื่อยๆ จะไปทะลุที่ทะเลทรายสายน้ำในที่สุด..

ว้าว.. ทะเลทรายแสนสวย..

ปัญหาก็คือ.. ทะเลทรายที่นี่ จะไหลไปมาเหมือนสายน้ำ เราจะไปไหนไม่ได้ตรงจุดเริ่มต้น.. ซิดและมิดจึงเสนอไอเดีย เรียกเจ้าหนอนทรายตัวยักษ์ให้ปรากฏ แล้วให้เราปราบมัน เหยียบมันข้ามเข้าไป.. ก็ให้กด “ตกลง” พวกเค้าก็จะเรียกมันมา.. ก็ลุย.. มันจะมาพร้อมกับหลุมสามหลุม ผลุบๆโผล่ๆทำให้เราโจมตีพลาดได้.. โจมตีสวนเอาเรื่องทีเดียว.. วิธีปราบมันที่ง่ายที่สุดคือ ให้จอมเวทย์น้ำเงินใช้ท่า “ฟองน้ำ” ของมอนส์เตอร์ “ชิเมร่า” (ที่มีหัวเป็นสิงโต,แพะ,มังกร มีหางเป็นงู) ดาเมจโหดๆที่ 5,000+ ถึงกับร้องเจี๊ยกเลยล่ะ..

เจ้า “หนอนทราย” ผลุบๆโผล่ๆ

เมื่อปราบมันได้ก็เดินทางต่อ.. กลางล่างจะเป็นปีระมิดที่เข้าไม่ได้.. ขวาล่างจะเป็นทางออกไปสู่ “เมืองร้าง”.. ไปที่เมืองร้าง เมื่อเข้าไป เราจะได้เห็นพระราชาไทคูนวิ่งหลบแว้บไปแว้บมา ก็ให้ตามไปเรื่อยๆ.. จนในที่สุด ก็จะเดินผ่ากลางขึ้นไปนั่นแหละ แล้วเราจะตกหลุมกับดักไปโผล่ใต้ดิน.. เดินไปตามทาง.. เมื่อเข้ามาที่ห้องซ้ายบน เดินไปจนสุดจะได้เจอกับจุดวาร์ป(ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร).. มันจะพาเราวาร์ปไปโผล่ที่ถ้ำใต้ทะเลบริเวณที่เรือเราถูกน้ำวนดูดลงไป.. แท่นวาร์ปจะโอเวอร์โหลดเพราะไม่ได้เปิดใช้มานาน มันจะช็อตและระเบิดแตกออก.. เดินทางต่อ.. เมื่อโผล่มาอีกชั้น ขึ้นบนจะเป็นจุดเซฟและทางไปต่อ แต่อย่าเพิ่งไป เดินอ้อมลงมาข้างล่าง จะมีห้องนอนให้นอนพักผ่อนได้.. จะมีห้องสมบัติสามกล่องให้ไปโยกที่คันโยก จะได้คำใบ้ ก็ไปตามคำใบ้เรื่อยๆ จนสุดท้ายก็กลับมาโยกที่เดิม(กวนจริงๆ).. เก็บสมบัติทั้งสามกล่อง แล้วเดินกลับไปทางข้างบนที่มีห้องเซฟ.. เมื่อเราโยกคันโยก(ก่อนถึงห้องเซฟ).. ซิดกับมิดที่ขี่โจโคโบะสีดำกลับมาคืนที่ป่าเดิมของเค้า ก็จะเจอกับหลุมกับดัก ตกลงมาในถ้ำเดียวกับเรา.. เมื่อเราเดินต่อไปอีก ก็จะได้เจอกับเรือกลไฟที่ซิดให้เราจอดอยู่ที่นี่ คู่กับเรือเหาะที่มีใบพัดอีกลำ.. เมื่อเดินไปสำรวจ จะได้พบกับซิดและมิดที่ตกมาอยู่บนเรือลำนั้นพอดี.. ซิดจะแกะนู่นทำนี่จนเรือเหาะใช้งานได้จริงๆอีกครั้ง.. พวกเราจะได้ออกผจญภัยอีกครั้ง ส่วนซิดกับมิดจะอยู่ซ่อมเรือกลไฟต่อที่นี่.. แต่ก่อนที่จะไปไหนได้ เราต้องปราบเจ้าบอสกุ้งสีเงินที่เกาะเรือเหาะของเราตามขึ้นมาเสียก่อน..

พระราชาไทคูนที่วิ่งจนเราเหนื่อย
ตกมาที่ไหนนะนี่!?
พาเจ้าแบล็คโจมาส่งบ้าน

เดินทางไปบริเวณเหนือเมืองร้างที่เจอพระราชาไทคูนแว้บไปแว้บมาอีกครั้ง.. จะเกิดเหตุการณ์ เมืองยกตัวลอยสูงขึ้นบนฟ้า.. จังหวะนี้ เราจะบินไปเดินเก็บเวลซื้อของเพลินๆได้ทั่วโลก.. ก็จัดไปครับ อย่าให้เสียโอกาส.. พร้อมแล้วก็กลับไปคุยกับซิดและมิดที่ถ้ำใต้ทะเลอีกครั้ง..

เมืองลอยฟ้าก็มา

พวกเค้าจะบอกว่าต้องการแร่ “” เพื่ออัพเกรดเรือเหาะให้บินได้สูงขึ้น เพื่อขึ้นไปบนเกาะลอยฟ้า.. กาลัฟบอกว่า ดาวตกที่เค้านั่งมา มีแร่นี้อยู่.. ก็ให้เราขับเรือเหาะไปที่อุกกาบาตลูกแรกที่เราเจอกาลัฟ.. สำรวจตรงกลางก้อน กาลัฟจะกดกลไกบางอย่าง ทางเข้าจะเปิดออก.. เข้าไปด้านใน แร่””ก็จะรอเราอยู่เลย.. เดินตรงเข้าไปเก็บ แล้วกลับไปหาซิดกับมิดที่ถ้ำใต้ทะเล.. แล้วเค้าทั้งสองจะอัพเกรดเรือเหาะของเราให้บินสูงขึ้นได้อีกระดับ..

มาเก็บแร่สำคัญ

เมื่อได้เรือแล้ว ก่อนจะเหาะขึ้นไปบนเกาะลอยฟ้า แนะนำให้เปลี่ยนอาชีพทุกคนเป็นอาชีพที่โจมตีทางกายภาพได้ไม่รุนแรงก่อน เช่น นักเวทย์ขาว,ดำ,น้ำเงิน ห้ามติดอาวุธหนัก เน้นใช้เวทย์.. เหตุผลก็เพราะ บนเกาะลอยฟ้ามีป้อมปืนที่มีกระสุนยิงให้เราติด “สับสน” ได้.. ถ้าใช้อาชีพโจมตีหนักเช่น อัศวินหรือม๊องค์ เวลาเพื่อนของเราติดสับสน อันตรายทั้งมันจะฆ่าเรา และเราจะฆ่ามัน(โจมตีเรียกสติ).. และจะติดแบบรัวๆตอนป้อมปืนใกล้พัง.. แต่ถ้าเราใช้นักเวทย์ จะตีกายภาพเบา.. เวลาเพื่อนเราสับสน เราก็ตบมันให้ได้สติแบบที่ไม่โหดได้.. เวทย์น้ำเงิน2เวทย์ขาว2, หรือเวทย์ดำ2เวทย์ขาว2, ประมาณนั้นครับ..

พร้อมแล้ว ยกเพดานบินเรือเหาะของเราขึ้นไปครับ.. ที่เกาะลอยฟ้า จะมีป้อมปืนซ้ายขวาฝั่งละ2เซ็ท.. จัดการให้หมด ก็จะได้เจอกับป้อมปืนใหญ่.. พลังเยอะที่เดียว แพ้สายฟ้า.. ก็จัดไป ตบให้ลง.. แล้วจะได้พบกับทางเข้า.. (ระหว่างนี้เราสามารถลงไปพักผ่อนที่เมืองก่อนได้ โดยขับยานเหาะออกนอกรัศมีเกาะลอยฟ้าครับ พร้อมแล้วค่อยกลับขึ้นมา)..

พร้อมแล้วบุกเข้าไปด้านใน.. ความน่าหงุดหงิดในนี้คือ จะมีทางขาดแบบหลอกๆอยู่ตลอด ซึ่งจริงๆมันไปได้.. ทำให้เราสับสนและต้องคลำหาทางไปเอากล่องสมบัติหรือประตูเอาเอง.. เข้าไปด้านในสุด จะได้พบกับพระราชาไทคูนยืนประจัญหน้ากับบอส “” อยู่.. เค้าดูไม่ปกติเท่าไหร่ และเค้าจะให้เราสู้กับบอส.. จัดการให้ได้(บอสจิ้งเหลนจะตายแล้วฟื้นรอบนึงนะครับ).. เมื่อผ่านบอสไปได้ เข้าไปจะเป็นห้องเก็บคริสตัล พระราชาจะดูเพี้ยนๆเหมือนโดนควบคุมอยู่ บัทซ์กับกาลัฟจะเข้าบวกแต่เลนน่ากับฟาริสจะห้ามเอาไว้.. ในขณะที่สถานะการณ์กำลังตึงเครียด “คูรูรู” หลานสาวของกาลัฟที่มาจากต่างดาวจะนั่งอุกกาบาตมาถึงพอดี เธอจะอัดเวทย์ใส่พระราชาไทคูนจนสลบไป กาลัฟจะจำทุกอย่างได้ คริสตัลจะแตกออก “เอ็กซ์เดธ” จะหลุดจากสะกด มันจะปากดีก่อนที่จะวาร์ปหายไปเพื่อไปทำลายบ้านเกิดของกาลัฟ.. กาลัฟและหลานก็จะรีบตามไป แต่เราจะยังไปไม่ได้เพราะแท่นวาร์ปพลังอ่อนมากแล้ว.. พระราชาจะได้สติและดีใจมากที่ได้เห็นหน้า “ฟาริส”.. พระองค์จะใช้พลังที่เหลือทั้งหมดทำให้เศษคริสตัลใช้ได้ เราจะได้อาชีพใหม่อีก 4 อาชีพ..

ตั่วไร้อะ!?
พระราชาแปลกๆว่ะ.. ซักฝุ่นดีมั้ง?..
“เอ็กซ์เดธ” หลุดจากพันธนาการซะแล้ว

ก่อนสิ้นใจ พระราชาจะบอกให้ฟาริสและเลนน่าสามัคคีกันเป็นพลังให้กัน ฝากบัทซ์ให้ดูแลทั้งคู่ด้วย.. จากนั้นเมืองลอยฟ้าจะระเบิด พวกเราจะรีบออกมา.. เมื่อถึงพื้นดิน ให้เอาเรือเหาะขึ้น พวกเราจะคุยกันว่ายังไงก็ต้องไปช่วยกาลัฟ เราจะไม่ทิ้งเค้า.. ให้กลับมาปรึกษากับซิดและมิดที่ฐานทัพใต้ทะเลอีกครั้ง..


เมื่อไปถึงบริเวณห้องพักในฐานทัพใต้ทะเล.. เราจะได้เห็นเศษกระดาษที่เป็นโน้ตทิ้งไว้ที่ห้องด้านขวาของห้องพัก เมื่อไปอ่าน จะได้รู้ว่ามิดและซิดเอาแร่อดามันไทด์ไปคืนที่อุกกาบาตลูกแรกนั่นเอง เพราะมันเป็นแร่อันตราย.. พักผ่อนเสร็จแล้วรีบตามไปทันที.. เมื่อถึงอุกกาบาต(ใกล้เมืองไทคูน) ก็เข้าไปคุยกับซิดและมิดด้านใน.. เราจะคุยกันถึงเรื่องพลังของอุกกาบาต ว่ามีน้อย ลำพังลูกเดียวไม่สามารถวาร์ปไปหากาลัฟได้แน่ แต่ถ้าสี่ลูกรวมกัน อาจได้ลุ้น.. สรุปได้ดังนั้น ก็ให้เราไปตามซิดและมิดให้ครบทั้ง 4 จุด..

โน้ตของซิดและมิด

จุดแรกที่ไทคูนเรียบร้อยแล้วก็ให้ไปจุดที่สองที่ใกล้หอคอยวอลสุ(ทางทิศเหนือของไทคูน).. จุดที่สองนี้(ให้เซฟก่อนจะเข้าไป) ตอนจะออกจากอุกกาบาต เราจะถูกโจมตีโดยฝูงมอนสเตอร์ไฟ “” ฝูงใหญ่.. ท่าโจมตีที่น่ากลัวที่สุดคือท่าระเบิดตัวเอง ทำเราตายได้ในครั้งเดียว แถมพวกมันยังสามารถชุบชีวิตให้กันและกันได้อีกด้วย.. วางแผนให้ดี ว่าจะสู้กับมันอย่างไร.. ***ถ้าให้แนะนำก็ เวทย์ดำ1คนเวทย์ขาว1คนเวทย์น้ำเงิน1คนครับ.. เวทย์ดำยิงเวทย์น้ำแข็งยกกลุ่ม, เวทย์ขาวฮีลยกกลุ่ม, เวทย์น้ำเงินยิงเวทย์ฟองน้ำ, วนไป.. ซักพักก็เรียบร้อยครับ.. มัวต่อยทีละตัว โดนมันระเบิดตัวเองซะก่อน..

เจอสองหนุ่มแล้ว!!
อย่ารอให้มันระเบิดตัวเองเด็ดขาด

จัดการเรียบร้อยให้ไปจุดที่สาม อุกกาบาตที่ตกใกล้เมืองคาร์นัก(ทางทิศตะวันตกจากวอลสุ).. ลูกที่สามนี้ ซิดและมิดจะวิ่งออกมาแล้วให้เราไปลุยแทน.. เข้าไปจะพบกับอสูรยักษ์ “ไททัน”.. จัดการให้ได้ แล้วเราจะได้ไททันมาครอบครอง.. เรียบร้อยแล้วไปจุดที่สี่ อุกกาบาตที่ตกใกล้ซากเมืองลอยฟ้า(ทางทิศใต้จากคาร์นัก).. จุดที่สี่นี้ ซิดและมิดจะหายเข้าไปนานมากจนเราเป็นห่วง.. ให้เราตามเข้าไป จะพบพวกเค้าสองคนถูกพลังงานบางอย่างตรึงเอาไว้ เมื่อเข้าไปใกล้ พลังงานนั้นจะเข้ามาโจมตีเราแทน.. เราจะได้บวกกับบอส “” หน้าตาคล้ายคิเมร่าย้อมสีฟ้ามา.. เอาเรื่องทีเดียว ตบให้ลง…..

อสูรยักษ์ไททัน.. กะลังเบ่งอึ..
โดนของซะแล้ว ตากับหลาน

เมื่อได้พลังจากอุกกาบาตทั้งสี่ครบแล้ว.. ซิดและมิดจะให้เราดูที่แผนที่.. เราจะเห็นพลังงานของทั้งสี่อุกกาบาตพุ่งมาตัดกันที่บริเวณเกาะทางขวาล่างของเมือง “Tule” นั่นเอง.. มิดบอกว่า นั่นแหละคือ “จุดวาร์ป” เพื่อไปหากาลัฟได้นั่นเอง.. แต่!!.. ก่อนจะไปโลกอื่น อย่าลืมที่จะไปเอาบทเพลง “โรมิโอบัลลาร์ด” ที่ท้ายหมู่บ้าน “อิสโทรี่ : Istory” ก่อนนะ.. เพราะท้ายเกม เราต้องใช้บทเพลงนี้ปราบเจ้า “โอเมก้า” นั่นเอง(ผ่านอาชีพ “นักกวี”).. จะไม่เอาก็ได้ แต่เราก็จะปราบมันได้อย่างยากลำบากมาก ถึงแม้เกมก็ไม่ได้บังคับให้สู้กับมันก็ตาม(เดินหลบได้).. สรุปคือ ถ้าอยากปราบเจ้าโอเมก้า ไม่อยากค้างคาใจหรือเดินหลบมัน ก็ไปเอาเพลงนี้มา.. แต่ถ้าไม่แคร์ ก็ไม่ต้องเอาครับ…..

จากนั้น พักผ่อน ซื้อของ ให้พร้อม.. ไปที่จุดวาร์ป เสร็จแล้วกระโดดเข้าจุดวาร์ป.. เราทุกคนจะพูดกันถึงความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้กลับมาอีก เราทุกคนจะบอกลาสิ่งรักของเราที่โลกนี้ เช่นพระเอกบอกให้โบโกะดูแลตัวเอง.. เมื่อกระโดดลงไป เราจะวาร์ปพุ่งทะลุขึ้นฟ้าไปเลย….. ซูมมม!! วิ้งง!!..

พักผ่อน ซื้อของ ให้พร้อม.. เสร็จแล้วกระโดดเข้าจุดวาร์ป.. เราทุกคนจะพูดกันถึงความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้กลับมาอีก เราทุกคนจะบอกลาสิ่งรักของเราที่โลกนี้ เช่นพระเอกบอกให้โบโกะดูแลตัวเอง.. เมื่อกระโดดลงไป เราจะวาร์ปพุ่งทะลุขึ้นฟ้าไปเลย….. ซูมมม!! วิ้งง!!..

โลกที่ 2 บ้านเกิดของกาลัฟ

เราจะโผล่มาจุติยังเกาะง่อยๆเกาะหนึ่ง.. ไม่สามารถไปไหนได้ มอนส์บนเกาะฆ่าไปแล้วก็จะได้แต่ “เต๊นท์” กลับมา.. อย่ากระนั้นเลย ก็กางเต๊นท์นอนมันซะเลย..

ตกกลางคืน ในขณะที่เรากำลังนอนรอบกองไฟกันนั้นเอง.. จะมีมอนสเตอร์มาลักพาตัวเลนน่ากับฟารีส.. เราจะไม่ยอม เข้าบวกทันที.. เมื่อเอาชนะได้ มันจะดร็อปหีบสบัติไว้กล่องหนึ่ง เมื่อเราเปิดออกจะเป็นแก๊สยาสลบ ดมไปให้เต็มปอด.. เราจะมาฟื้นอีกทีในห้องขังภายในปราสาทของเจ้าเอ็กซ์เดธนั่นเอง..

นอนพักซักหน่อย
บัดซบ!!

เมื่อเราฟื้น เจ้าเอ็กซ์เดธก็จะเดินมาปากดีใส่ทันที.. มาพร้อมกับเจ้าลูกน้องคู่ใจ “กิลกาเมซ”.. ในขณะนั้นเอง กองทัพของกาลัฟก็กำลังจะบุกเข้าโจมตีปราสาทของเจ้าเอ็กซ์เดธพอดี มันจึงได้ใช้จังหวะนั้นถ่ายทอดสดว่ามีตัวประกันเป็นพวกเราอยู่ ถ้าบุกเข้ามาตัวประกันตาย.. กาลัฟจึงได้ใช้วิธีแอบขี่มังกรมาลอบลงข้างปราสาทแล้วลอบเร้นเข้ามาช่วยเรา.. กาลัฟจะได้ปะทะกับเจ้ากิลกาเมซ เมื่อเอาชนะได้ก็จะสามารถช่วยเราออกมาจากห้องขังได้.. ทีนี้เราก็จะสามารถออกมาแรดนอกปราสาทได้แล้ว.. ตบมอนส์ให้เพลินเลยเชียว…..

ถ่ายทอดสดก็มา
กองทัพของกาลัฟที่กำลังจะบุก
ออกมาได้แว้ว!

พอใจแล้วเดินมาที่สะพานทางทิศตะวันตก.. เราจะได้สู้กับเจ้ากิลกาเมซอีกครั้ง.. เมื่อเอาชนะมันได้ เจ้าเอ็กซ์เดธจะเปิดบาเรียของปราสาท แรงกระแทกมหาศาลจากบาเรียจะผลักเราให้กระเด็นไปโผล่อีกที่หนึ่ง…..

เดินมาทางทิศตะวันออกไม่ไกล จะได้พบกับหมู่บ้าน “เรโกล”.. คุยกับชาวบ้าน ซื้ออาวุธและเวทย์ ปิดท้ายด้วยการนอนในโรงแรม.. ในตอนกลางคืนจะเกิดเหตุการณ์นิดหน่อย.. กาลัฟจะนอนไม่หลับแล้วเดินมากินเบียร์ที่ผับ บัซเองก็นอนไม่หลับเช่นกัน จึงเดินตามไปกินเบียร์ด้วย.. บัซขอโทษกาลัฟที่เป็นตัวการให้กองทัพของกาลัฟต้องหยุดชะงัก.. ส่วนกาลัฟกลับบอกว่าเค้าต่างหากต้องขอบคุณ เพราะถ้าบัซไม่มา บางทีทหารของเค้าอาจต้องบาดเจ็บหรือตายทั้งหมดเพราะแรงกระแทกของบาเรีย..

รุ่งเช้าให้เราออกเดินทางต่อลงไปทางใต้ เดินผ่านปราสาทคูซ่าไปก่อน ยังเข้าไปเอาของไม่ได้ มอนส์โหดจัดๆ.. เลยปราสาทไปแล้วเลี้ยวมาทางทิศตะวันออก ขึ้นเหนือนิดหน่อย จะได้พบกับทางเข้าไปยังป่าเล็กๆป่าหนึ่ง.. เมื่อเข้าไป เราจะได้พบกับเจ้า “ม็อคเกิ้ล” กำลังทำอะไรกับต้นไม้อยู่.. เข้าไปคุยด้วย มันจะตกใจ และวิ่งหนีตกหลุมไปในถ้ำ.. ให้เราตามไป..

นั่น “ม็อคเกิ้ล” นี่นา

เมื่อเราตกลงไปในถ้ำ ทุกๆครั้งที่เราลงน้ำ เราจะถูกกระแสน้ำพัดไปเรื่อยๆ(ทุกครั้งที่ขึ้นบกให้เติมพลังด้วย เดี๋ยวจะแย่).. ไปเรื่อยๆ มีสมบัติให้เก็บด้วย.. ไปจนสุดทาง เราจะได้เจอเจ้าม็อคเกิ้ลกำลังจะมีเรื่องกับเจ้าโครงกระดูกไดโนเสาร์ไทแรนนอซอรัส.. เมื่อเข้าไปเคลียร์ เจ้ากระดูกจะโจมตีเรา.. จัดการให้อยู่หมัด..

อย่าตีกันเน้อ
จัดการซะ.. เจ้ากระดูกซ่า..

เมื่อเอาชนะได้ ม็อคเกิ้ลจะขอบคุณและวิ่งหนีออกจากถ้ำกลับไปบ้านตัวเอง.. ให้เราจ้องให้ดี จำจุดที่เค้าหายเข้าไปให้ดี แล้วตามไป.. เมื่อเข้าไปในป่าจุดนั้น เราจะได้พบรังของแก๊งค์ม็อคเกิ้ล.. พวกเค้าจะตกใจจ้าล่ะหวั่นกันไปหมด.. ให้เราไปคุยกับตัวด้านขวาสุดของหมู่บ้าน.. เค้าจะเป็นตัวที่เราช่วยเค้าจะให้เราเข้าไปเอาของในกล่องสมบัติทั้งหมด.. คุยให้ทั่ว.. แล้วม็อคเกิ้ลจะส่งโทรจิตไปหาเพื่อนที่อยู่ที่ปราสาท “บาล” ซึ่งเป็นที่อยู่ของหลานสาวกาลัฟนั่นเอง.. หลานสาวจะแว๊นซ์มังกรลมมารับถึงในป่าเลยทีเดียว.. เราทั้งหมดจะได้กลับไปยังปราสาท “บาล” บ้านของกาลัฟโดยสวัสดิภาพ…..

เมื่อมาถึงยังปราสาท “บาล” หลานสาวของกาลัฟ “คูรูรู” จะขอแยกตัวพามังกรลมไปพักผ่อนเพราะมันยังไม่ค่อยสบายนัก.. ส่วนกาลัฟจะเข้ามาถามถึงเรื่องสงครามกับเอ็กซ์เดธกับทหาร.. ซึ่งเราทุกคนจะได้รับรู้ตอนนั้นเองว่า กาลัฟคือ “พระราชา” ของอาณาจักรบาลนี่เอง.. ซึ่งบัสเองก็อึ้งมาก(เหมือนผู้เขียน).. ถึงกับเอ่ยปากออกมาว่า “ข้านึกว่าท่านเป็นแค่ตาแก่บ้าบอซะอีก.. ไม่เห็นเคยบอกเรื่องนี้..” ซึ่งฮามากๆ.. มีการขอทำใจซักครู่ด้วย(ซึ่งก็เหมือนผู้เขียนอีกเหมือนกัน).. แต่กาลัฟเองก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด เค้ามองทุกคนเป็น “เพื่อน” และให้เรียกแค่ชื่อเหมือนเดิม ไม่ต้องเรียกยศอะไร.. น่ารักนะ.. 🙂

จะพูดแบบนี้กับพระราชาไม่ได้นะ.. เจ้าบัทซ์!!..

จากนั้นเราจะสามารถเดินสำรวจได้ทั่วปราสาท.. แอ่งน้ำซ้ายล่างมีทางลับทะลุออกไปที่คูน้ำรอบวังได้.. เดินอ้อมไปจนสุดคูน้ำ จะมีไอเท็ม “ดาบยักษ์” ซ่อนอยู่.. ห้ามพลาดเด็ดขาด.. จะมีห้องใต้ดิน ที่มีประตูที่ถูกล็อคเอาไว้บานใหญ่อยู่.. บริเวณหน้าประตูสามารถเดินเก็บเวลได้.. ระวังไว้นิด เพราะมอนส์โหดเอาเรื่อง แต่พวกมันแพ้สายฟ้านะ.. สำรวจให้ทั่วๆปราสาท จะได้ไม่พลาดของดี….. สำรวจทั่วปราสาทดีแล้วก็ให้เดินไปคุยกับคูรูรูบนดาดฟ้าปราสาท.. คูรูรูจะบอกว่ามังกรลมของเธอกำลังจะตาย เราทุกคนจะสรุปกันว่าจะช่วยมันโดยการไปเอาหญ้ามังกรที่หุบเขาทางทิศเหนือของปราสาท.. พักผ่อนซื้อของให้พร้อมแล้วไปคุยกับทหารที่ประตูหน้าปราสาทได้เลย.. กาลัฟจะบอกว่าเมื่อพวกเราออกไปแล้วให้ล็อคประตูเมืองได้เลย.. เราจะเข้าเมืองไม่ได้แล้ว..

ออกมาตรงนี้ได้ด้วย
มังกรลมของคูรูรูอาการไม่ค่อยดีนัก

เดินทางขึ้นมาทางเหนือไม่ไกลจะได้พบกับเมือง “เคล็บ” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเมืองร้างมีแต่ฝูงแกะเดินไปมา.. แต่เมื่อเราเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ตรงกลาง(ที่ไม่ได้ล็อค) ตอนขาออก จะมีเสียงคนตะโกนใส่เรา.. เค้าคือ “เคลเกอร์” หนึ่งในนักรบแห่งแสงทั้งสี่ที่เคยผนึกเอ็กซ์เดธไว้นั่นเอง.. เค้าจะท้าบัทซ์สู้เพื่อวัดฝีมือ ซึ่งบัทซ์ก็รับคำท้าทันที.. เค้าจะใช้ท่าไม้ตายใส่บัทซ์แต่บัทซ์จะสามารถแก้ได้อย่างง่ายดายและสวนกลับจนเคลเกอร์กระเด็นทะลุประตู.. กาลัฟจะรีบเข้าไปช่วย.. เราทุกคนจะคุยกัน บัทซ์จะขอโทษเคลเกอร์ที่หนักมือไปหน่อย.. เค้าจะถามชื่อพ่อของบัทซ์ และทุกคนจะได้รู้พร้อมๆกันว่าบัทซ์คือลูกชายของ “ดอร์แกน คลอเซอร์” หนึ่งในนักรบแห่งแสงจากโลกนี้ที่ไปอาศัยอยู่ที่โลกเรานั่นเอง..

เมืองเคล็บ
“เคลเกอร์” นักรบแห่งแสงรุ่นก่อน
กาลัฟเล่าทุกอย่างให้เราฟัง

จากนี้เคลเกอร์จะให้เราผ่านเมืองได้ละ.. ชาวเมืองจะออกมาใช้ชีวิตปกติ สามารถซื้อของนอนพักได้แล้ว.. คนที่นั่งอยู่ในโรงแรม ถ้าเราไปคุยด้วย เค้าจะเลี้ยงอาหารเรา HP/MP เต็ม สถานะผิดปกติหาย.. ให้ยาดีมาด้วย.. เตรียมตัวพร้อมแล้วก็เดินทะลุหลังเมืองลุยต่อได้เลยครับ(ซื้อยาแก้พิษไปเยอะๆด้วยครับ เราจะติดพิษบ่อยมาก)..

ขึ้นเหนือมาแค่นิดหน่อย เราก็จะได้เจอภูเขา “ดราเค่นเวล” เข้าไปในทันใด.. สำรวจให้ทั่วทุกซอกหลืบ จะมีห้องหนึ่งมีประตูหินปิดอยู่ และมีสวิทช์อยู่ด้านล่าง(แต่กดไม่ได้) เดินให้ทั่ว จะมีหลุมอยู่ เราจะตกไปในหลุมและมีของให้เก็บ.. ไปเรื่อยๆตามทาง.. มีดาบลมให้เก็บ.. ระหว่างทางเราจะได้เจอกับมอนส์ “โกเลม” ถ้ามันมาตัวเดียว มันจะต่อยเราแล้ววิ่งหนี แต่ถ้ามันมาพร้อมกับมังกรอีกสองตัว มันจะเรียกให้เราช่วยมัน.. มังกรตัวนึงจะโจมตีเราแต่อีกตัวจะโจมตีโกเลม.. ให้เราคอยเติมพลังโกเลมและฆ่ามังกรสองตัวนั่นซะ.. เมื่อทำได้สำเร็จ โกเลมจะขอไปกับเราด้วย และเราก็จะสามารถใช้มนตร์อสูรโกเลมได้..

เจ้าโกเลม เรียกให้ช่วยซะงั้น

ไปจนสุดทางเราจะได้พบกับ “หญ้ามังกร” ในที่สุด.. แต่ในขณะที่กำลังจะหยิบนั่นเอง เจ้าหญ้ามังกรจะกลายร่างเป็นปิศาจดอกไม้ยักษ์เข้าโจมตีเรา.. จัดการให้ได้.. ท่ากระโดดถีบของม๊องก์เป็นประโยชน์มากทีเดียว เพราะมันจะเรียกบริวารจำนวนมากมาช่วยอยู่ตลอด..

เจ้าหญ้าปีศาจ!!
ต้องจัดการทั้งหมดสินะ!!

เมื่อเอาชนะได้สำเร็จ.. ให้เก็บหญ้ามังกรมา.. ออกจากภูเขาดราเค่นเวล เดินทางดิ่งลงใต้มายังปราสาท “บาล” ของกาลัฟ.. กาลัฟจะเป็นคนเคาะประตูเอง แต่ทหารจะไม่ยอมเปิดเพราะนึกว่าเป็นกลเม็ดการหลอกลวงของมอนสเตอร์ กาลัฟจึงพาเรากระโดดลงไปในคูน้ำ ก็ให้เราเดินไปทางซ้ายบนและกดปุ่มที่เราเคยกดตอนไปเอาดาบยักษ์นั่นแหละ เราก็จะโดนทางน้ำดูดเข้ามาในปราสาทโดยอัตโนมัติ..

เมื่อเข้ามาในปราสาทบาลได้สำเร็จ ให้ขึ้นไปหาน้องคูรูรูที่ห้องของนาง.. คูรูรูจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ นอนพักอยู่ที่เตียง เมื่อเราเข้าไปคุยด้วยเธอจะบอกว่า พ่อเฒ่า “กิโด้” ส่งกระแสจิตมาหาเธอ มีเรื่องสำคัญต้องบอก ให้เราไปหา.. บัทซ์บอกว่า “ส่งกระแสโรคจิตมางี้เหรอ?”.. ( 😂 กระแสจิตเฉยๆเฟ้ย 😂 ).. แต่ถ้ำของผู้เฒ่ากิโด้ตั้งอยู่บนเกาะเล็กกลางทะเล ต้องใช้มังกรบินไปเท่านั้น และมังกรลมของคูรูรูก็ไม่ค่อยสบายอยู่.. ให้เราเอาหญ้ามังกรที่ได้มา ขึ้นไปให้มังกรน้อยบนดาดฟ้ากิน..

ลงคูน้ำซะแล้ว
เอาหญ้าให้มังกรกินจนป่วยเอง เลนน่า

ในตอนแรกเจ้ามังกรจะไม่ยอมกิน เพราะมันกลัวหญ้ามังกรปิศาจ.. เลนน่าจึงเล่นใหญ่ด้วยการกินให้ดูก่อน(กินเป็นเพื่อน) มังกรน้อยจึงยอมกินตาม และหายจากอาการป่วยทันที.. แต่เนื่องจากหญ้ามังกรเป็นพิษกับมนุษย์ เลนน่าจึงร่วงแทน คูรูรูจะวิ่งเอายามาให้ทานและขอบคุณที่ช่วยมังกรของเธอ.. พอเลนน่าหาย คูรูรูก็ร่วงแทนเพราะฝืนสังขารวิ่งมา.. บัทซ์ถึงกับพูดขึ้นมาว่า “พวกเธอนี่ ชอบทำอะไรเกินตัวกันซะจริงๆ..”..

เมื่อมังกรหายดีแล้ว ซื้อของซื้อไอเท็มให้เรียบร้อยอีกครั้ง.. แล้วขี่มังกรน้อยขึ้นเหนือมายาวๆ เพื่อไปยังถ้ำของพ่อเฒ่ากิโด้ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูเขาดราเค่นเวลที่เราไปเอาหญ้ามังกรนั่นเอง..

เมื่อถึงเกาะของพ่อเฒ่ากิโด้แล้ว ก็จอดมังกรแล้วเข้าไปในถ้ำได้เลย.. แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้เดินทางไปถึงไหน ก็จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นอีกครั้ง มันแรงซะจนเกาะทั้งเกาะที่เราอยู่ จมบาดาลลงไปทั้งหมดเลย.. พวกเราทั้งหมดพยายามวิ่งกลับมาขึ้นมังกร แต่ก็ไม่ทัน จมน้ำกันหมด.. ในเสี้ยวนาทีสุดท้าย มังกรน้อยแสนรู้ก็ใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมี ช่วยทุกคนพุ่งทะยานแหวกน้ำขึ้นมาได้ในที่สุด.. รอดตายไปแบบเฉียดฉิว.. และทั้งหมดนี้ ก็เป็นฝีมือของเจ้าเอ็กซ์เดธนั่นเอง.. มันดูถ่ายทอดสดอยู่ และมีความสุขกับผลงานของตัวเองมาก..

ถ้ำของนักปราชญ์ “กิโด้”
ตัวต้นเหตุให้เกาะจม
รอดตายหวุดหวิดเพราะความกล้าหาญของมังกรน้อย

ให้เรากลับมาปรึกษากับ “เคลเกอร์” ที่เมืองเคล็บ.. เคลเกอร์จะแนะนำให้เราไป “เซซัต” หนึ่งในอัศวินแห่งแสงรุ่นก่อนอีกคนหนึ่งซึ่งตอนนี้เป็นพระราชาอยู่ที่เมือง “เซอร์เกต” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาดราเค่นเวลนั่นเอง.. ไปโลด.. ไปทันที…..

แว๊นซ์มังกรน้อยไปจอดได้ที่หน้าปราสาทเซอร์เกต.. เมื่อเข้าไปในปราสาท ทหารจะบอกว่า เซซัตได้ยกกองเรือออกไปแล้ว ให้เราตามไป แต่ก่อนไปสามารถหยิบเอาทุกอย่างในปราสาทที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ไปให้หมดได้เลย(เข้าทาง.. พูดเองนะ.. 😂).. สำรวจให้ทั่วทุกซอกทุกมุม.. แฮปสมบัติให้หมด.. ในปราสาทนี้จะมีห้องสมุดที่มีนักปราชญ์เดินมากมาย คุยด้วยก็จะได้รับรู้ถึงคัมภีร์ที่มีแค่ครึ่งเล่ม ไม่สามารถอ่านจับใจความได้หมด.. อืม คุ้นๆนะ นึกถึงห้องสมุดโบราณของซิดกับมิดขึ้นมาเลยเชียว.. จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่มีคุณยายบรรณารักษ์บ่นๆอยู่เรื่องจัดหนังสือเข้าชั้น.. ให้ช่วยแกจัด หยิบหนังสือที่วางอยู่ทั้งหมดไปวางให้ถูกชั้น(เล่นภาษาอังกฤษก็เรียงแบบอังกฤษ เช่นภาษาไทยก็เรียงแบบไทย).. เมื่อเราเรียงให้แกเสร็จ แกก็จะขอบใจและขอตัวไปพัก แกจะเดินไปเปิดประตูลับไปห้องแก ตามไปในทันใด.. สำรวจให้หมด เก็บสมบัติ.. ในห้องที่มีคุณตาอยู่สามารถเดินทะลุเปิดประตูด้านล่างออกมาด้านนอกได้.. เมื่อออกมาด้านนอก เดินไปเข้าห้องฝั่งซ้ายของปราสาท เราก็จะได้ไอเท็มสำคัญที่สุดของที่นี่ นั่นคือเวทย์ “โฟลท” ที่ทำให้เราลอยได้นั่นเอง…..

หนังสือเยอะจุม ที่นี่
จัดหนังสือให้คุณยายเสร็จก็จะได้ทางไปต่อ

นอนหลับพักผ่อน ซื้อไอเท็ม ซื้ออาวุธให้เรียบร้อย.. เสร็จแล้วขับเจ้ามังกรน้อยมาทางตะวันออกของปราสาทเจ้าเอ็กซ์เดธ.. ไม่ไกลก็จะได้เจอกับกองเรือของ “เซซัต” กำลังตั้งทัพรอทำลายเสาบาเรียของปราสาทเอ็กซ์เดธอยู่นั่นเอง…..

โว่ว.. กองเรือของเซซัต..

ลงจอดบนเรือ.. เราก็จะได้พบกับตัวจริงเสียงจริงของนักดาบ “เซซัต” ในตำนาน เพื่อนพ่อของเรา ที่ตอนนี้เป็นพระราชาแล้ว.. เค้าจะบอกว่ากองเรือนี้ใช้เป็นตัวล่อเท่านั้น แต่เราจะโจมตีโดยใช้เรือดำน้ำไม่ให้มันรู้ตัว.. กาลัฟจะแนะนำให้เค้ารู้จักเราว่าเราคือบุตรชายของดอร์แกนเพื่อนรักของพวกเค้านั่นเอง.. เซซัตจะให้เราเข้าไปนอนพักในห้องพักบนเรือก่อน.. เมื่อเรากำลังพักผ่อนนั่นเอง จะมีบางอย่างโจมตีเรือรบของเราจนเราตกจากที่นอน.. ให้เรารวมตัวกันและขึ้นมาด้านบนเรืออีกครั้ง เราจะได้พบกับฝูงก็อปลิ่นเต็มไปหมด เซซัตกับทหารจะสู้กับพวกมันจ้าละหวั่นไปหมด.. ให้เราจัดการพวกมันให้หมด และไปสู้กับเจ้า “กิกาแมซ” ที่เสายาวหัวเรือ..

ในระหว่างสู้กับเจ้ากิกาแมซ ปิศาจอีกตัวที่สู้กับเซซัตอยู่จะมาร่วมสมทบ เราจะต้องสู้กับพวกมันทั้งสองตัว.. เอาชนะให้ได้..

ยอดนักดาบเซซัต อัศวินแห่งแสงอีกหนึ่งท่าน
ไอ้ตัวแสบกิลกาเมซ

เมื่อจัดการได้แล้ว เซซัตจะบอกว่าจะเริ่มแผนการต่อไป นั่นคือเข้าบุกโจมตีแบบไม่ให้ตั้งตัวโดย “เรือดำน้ำ” จากใต้ทะเลนั่นเอง.. ให้ตามลงไปที่ชั้นล่างสุดของเรือ.. เราจะขึ้นเรือดำน้ำ และถูกพาไปยังหอคอยบาเรียในที่สุด.. เมื่อเข้ามาในหอคอย เซซัตจะแบ่งหน้าที่กับเรา ตัวเค้าจะไปที่ห้องควบคุมชั้นใต้ดิน ส่วนพวกเราให้ไปทำลายเสาส่งสัญญาณที่ดาดฟ้า.. เค้าจะให้ “หญ้าสื่อสาร” ติดตัวเรามา เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกันเหมือนใช้ “วิทยุสื่อสาร”..

แบ่งหน้าที่กัน

ให้เราเดินทางต่อเพื่อไปยังดาดฟ้า.. เราจะเจอกับห้องเซฟก่อน ก็ให้เซฟหรือนอนเต๊นท์ซะให้เรียบร้อย พร้อมลุย.. ห้องถัดจากห้องเซฟจะมีกล่องสมบัติสองกล่อง.. กล่องบนซ้ายจะมี “มังกรเหลือง” สายโหดเฝ้าอยู่สองตัว โหดใช้ได้เลยทีเดียว.. ตบให้ลง แล้วเราจะได้ยอดดาบ “Blood Sword : บลัดซอร์ด” ดาบดูดเลือดในตำนานมาครอบครอง(ห้ามพลาด)..

เดินทางต่อไปเรื่อยๆ.. เมื่อถึงประตูชั้น 8 เซซัตจะติดต่อมาว่าเค้าถึงห้องควบคุมแล้ว เค้าจะถูกลอบโจมตีนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไร ให้เรารีบไปเร็วๆ.. เมื่อเปิดประตูชั้น 8 เข้าไป อย่าเดินไปทางขวา เพราะจะมีหลุมดักอยู่ เราจะตกไปชั้น 6 เสียเวลา….. เมื่อถึงชั้น 9 จะมีบันไดให้เลือกสองทาง.. ให้ไปทางซ้ายก่อน จะเจอหีบสมบัติที่มีมังกรแดงเฝ้าอยู่.. เอาชนะได้ เราจะได้ “ปิ่นปักผมสีทอง” มาครอบครอง.. มีอิทธิฤทธิ์ในการลดการใช้ MP ลงครึ่งหนึ่งเมื่อสวมใส่.. ก็ใส่ให้นักเวทย์ที่เราใช้บ่อยที่สุด ก็แจ่มเลยทีเดียว.. 🙂 เสร็จแล้วมาบันไดทางขวา ก็จะเจอห้องเซฟ ไม่ต้องเซฟ เราใจพอ เราสดพอ ผ่านไปเลย(ทุ้ย!.. เซฟนิดนึง.. เด๋วตาย 😂).. เสร็จเรียบร้อยก็เดินไปจนสุดทางที่ดาดฟ้า.. เราจะได้พบกับเสาส่งสัญญาณในที่สุด.. เราจะติดต่อไปหาเซซัต เซซัตก็จะบอกให้เราทำลายเสาได้เลย.. ในขณะที่เรากำลังจะทำลายเสานั่นเอง จะมีเสียงบอสแหกปากตวาดใส่เรา ประมาณว่าคิดว่ามันจะง่ายอย่างนั้นเชียวรึ?!!.. แล้วบอส “อะโตมอส” ก็จะเข้าโจมตีเราทันที..

ใช้ “หญ้า” สื่อสารกัน โคตรจ๊าบ!
ถึงเสาส่งสัญญาณบนดาดฟ้าแล้ว
บอส “อะโตมอส” เอาเรื่องอยู่

บอกเลยว่า “เอาเรื่อง”.. เวทย์ดาวตก “โคเม็ท” ของมัน โหดสัสๆ.. ขนาดว่าแกร่งๆ HP เกือบสองพัน โดนมันอัดโคเม็ทใส่ที ลด 700 – 1400 ดาเมจเลยทีเดียว.. แล้วมันยิงเบิ้ลด้วย.. ยังไม่แค่นั้น ถ้าเราหมดสติหรือร่วงลงไป เราจะค่อยๆถูกดูดเข้าไปหามันอีกด้วย ถ้ามันดูดเราจนถึงตัวมันได้ มันจะดูดเราไปทิ้งใน “แบล็คโฮล” หรือหายไปเลยนั่นเอง.. (การต่อสู้ครั้งนี้ โด๊ปยาด้วยก็ดีนะครับ จะสบายขึ้น.. เช่น ยาพลังยักษ์ที่เพิ่ม HP สูงสุดให้เราถึง 2 เท่าตัวเป็นต้น..)

เมื่อเอาชนะอะโตมอสได้ เราจะช่วยกันทำลายเสาส่งสัญญาณได้ในที่สุด.. แต่เมื่อติดต่อไปหาเซซัต ฝั่งเซซัตกลับมีปัญหาเสียเอง เพราะกระแสไฟฟ้าในห้องควบคุมเริ่มเสียสมดุลและแตกปุ้งปั้งจนเซซัตออกจากห้องไม่ได้.. ตัวเค้าเองก็พอจะรู้ความเสี่ยงอยู่แล้วว่ามันอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ เค้าจึงได้เลือกที่จะมาเอง และให้กลุ่มของกาลัฟไปที่ดาดฟ้าแทน.. กาลัฟไม่โอเคมากๆ และพยายามจะไปช่วย แต่เซซัตก็ออกอุบายว่าให้ไปรอที่เรือดำน้ำก่อนเดี๋ยวตามไป.. กาลัฟจะไปช่วยให้ได้ จนบัทซ์ต้องต่อยท้องจนสลบไปแล้วพาขึ้นมังกรน้อย ลงจากหอคอยอย่างปลอดภัย..

การสละชีพของ “เซซัต”
กาลัฟไม่โอเคมากๆและจะไปช่วยเพื่อนให้ได้

เมื่อไปถึงเรือดำน้ำ.. กาลัฟจะขอรอเพื่อนของเค้าอีกสักครู่ อีกหนึ่งนาทีก็ยังดี.. ให้เราไปนอนพักที่ห้องพักในเรือดำน้ำก่อน.. แล้วกลับมาคุยกับกาลัฟอีกครั้ง.. ฟาริสจะพูดถึงถ้ำของ “กิโด้” อีกครั้ง ว่ามีเรือดำน้ำแล้ว น่าจะไปหาถ้ำของกิโด้ที่จมลงไปใต้น้ำได้แล้ว.. กาลัฟจะรู้สึกแย่มากๆ และขังตัวเองอยู่เงียบๆในห้องนอนใต้เรือ.. ให้เราปล่อยเค้าไปก่อน แล้วออกเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.. ตอนนี้เราจะสามารถผลุบๆโผล่ๆขึ้นๆลงๆระหว่างบนแผ่นดินกับใต้ทะเลได้..

ความจริงที่ยากเกินกาลัฟจะรับได้

ดำน้ำมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.. เราจะได้พบกับ “ถ้ำของกิโด้” ที่จมลงมาอยู่ใต้ทะเล.. เข้าไปสำรวจ เราจะได้พบกับกล่องสมบัติวางอยู่ด้วยกัน 5 กล่อง.. กล่องตรงกลางจะมีหินอยู่ด้านใน ให้เราเอาหินจากกล่องกลางไปใส่ที่กล่องซ้ายบน แล้วประตูลับจะเปิดออก ก็เดินเข้าไปกดสวิทช์แล้วออกมา.. ทีนี้เอาหินมาใส่ที่กล่องซ้ายล่าง ประตูลับอีกบานก็จะเปิดออก ก็เข้าไปแล้วสำรวจ.. ด้านในสุดเราจะได้พบกับเต่าตัวนึง.. แล้วบัทช์ผู้ไม่รู้อะไรเลยก็จะเอาเจ้าเต่าตัวนั้นมาแกล้งเอามาเขย่า โดยไม่รู้เลยว่า เต่าตัวนั้นแหละคือ “พ่อเฒ่านักปราชญ์กิโด้” ในตำนานนั่นเอง(ฮามาก).. กิโด้จะเล่าอะไรเกี่ยวกับเอ็กซ์เดธ บ้านเกิดเอ็กซ์เดธ ป่าที่เอ็กซ์เดธเกิด.. และเราต้องไปที่ป่านั่นเพื่อเอาบางอย่างที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการปราบมัน.. สุดท้ายพ่อเฒ่าเต่าล้านปีจะให้ไอเท็มที่จะทำให้เราสามารถเข้าป่านั่นได้ มาติดตัวไว้(บทสนทนาเวลากิโด้พูดกับบัทซ์ตลกมากๆ ออกแนวเหม็นหน้าเบาๆ 😂)..

ถ้ำกิโด้สินะ
เขย่าซะแทบอ้วก.. 🙂

ต่อไปเราต้องเดินทางไปยัง “ป่าแห่งมัวร์” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของถ้ำกิโด้นั่นแหละ.. แต่จะไม่สามารถเข้าจากบนดินได้ ต้องลอดช่องแคบใต้ทะเลเท่านั้น.. ก็มองหาแนวช่องแคบยาวๆ(ไม่ยาวมาก) ขับเรือดันเข้าไปให้สุดแล้วลอยเรือขึ้นเหนือน้ำ เราก็จะได้พบกับ “หมู่บ้านแห่งมัวร์” ก่อนนั่นเอง.. นอนหลับพักผ่อน ซื้อของให้พร้อม(ของดีเยอะอยู่).. เสร็จแล้วเดินข้ามสะพานที่อยู่ขวามือของหมู่บ้านเพื่อข้ามไปยังตัวป่า.. เมื่อเข้ามาในป่า กิ่งไม้วิเศษที่กิโด้ให้มาจะเปล่งแสงและเปิดทางเข้าป่าให้กับเรา.. สำรวจให้ทั่ว เก็บสมบัติ และเดินมาที่ต้นไม้ทางขวา.. เราจะเห็นแสงแว้บๆอยู่ในต้นไม้ สำรวจ แล้วจะเกิดหลุมโพรงไม้ขึ้น.. ให้เราเข้าไปในนั้น ก็จะเดินทางต่อได้..

โผล่มาตรงแอ่งเล็กๆนี้
ป่าแห่งมัวร์มีมอนส์แปลกๆเยอะทีเดียว

เหมือนกับพื้นที่แรกคือ สำรวจให้ทั่ว เราจะได้พบกับต้นไม้ที่มีประกายแว้บวับอีก.. พอสำรวจก็จเกิดโพรงไม้ให้ไปต่อได้อีก.. (ระวังไว้นิดนึงคือตั้งแต่ชั้นที่สองเป็นต้นไป จะมีมอนส์ชื่อ “อิ๊มฟ์” ที่สามารถทำให้เราติดอาการ “สับสน” ได้.. ถ้าในกลุ่มเราเป็นสายหมัดหนักตีหนักหลายคน ก็อาจทำให้ตายยกตี้ได้เหมือนกัน.. ให้ติดตั้งเครื่องประดับ “แหวนสะท้อนเวทย์” ก็จะช่วยได้อย่างดี..).. ในชั้นที่ 3 จะมีจุดเซฟ ก็นอนเต๊นท์และเซฟให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัย….. เสร็จแล้วเดินต่อมาทางซีกซ้าย.. จะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ารุนแรงขึ้น ซึ่งทุกคนก็คาดเดาว่าเป็นฝีมือของเอ็กซ์เดธนั่นเอง.. ในระหว่าที่เรากำลังหาทางหนี จะมีเจ้ามูเกิ้ลที่อาศัยอยู่ในป่านี้โผล่ขึ้นมาช่วยเรา ให้เรากระโดดตามมูเกิ้ลลงไปในหลุม แล้วหลบอยู่ในหลุมนั้นซักครู่(บ่อน้ำสามารถเดินลงไปกินได้ HP/MP เต็ม).. ซักพักเมื่อมูเกิ้ลเดินหลบทาง ก็ให้เราขึ้นมาจากหลุม..

เราจะพบว่าป่าถูกไฟไหม้จนเตียนไปหมด.. ถ้าเดินลงมาด้านล่าง เราจะสามารถออกจากป่าได้(ออกมาเซฟที่แผนที่โลกก่อนหนึ่งที เพราะเดี๋ยวเราจะเจอขาโหดละ ถ้าไม่เซฟแล้วตาย ย้อนยาวเลยนะ).. สำรวจเก็บของแล้วเดินขึ้นด้านบน ไม้วิเศษของกิโด้จะแหวกทางให้เราอีกครั้งเพื่อเข้าไปยังต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์..

อิ๊หยังหว่า?..

เมื่อเข้าไป.. เราจะได้พบกับคริสตัลทั้งสี่ เข้าโจมตีเรา.. หน้าตามันเหมือนกันทั้งหมดๆ แต่จริงๆแล้วจะมีอันนึงที่ต่างจากเพื่อน(ตัวบน).. ให้เราจัดการตัวข้างล่างทั้งสามตัวก่อนโดยใช้เวทย์ไฟโหดๆนั่นแหละ ตุ๋ยมัน.. (ถ้าใช้กับตัวบนจะกลายเป็นเพิ่มพลังให้มัน ดังนั้นแนะนำเก็บทีละตัว).. เมื่อจัดการสามตัวล่างได้แล้ว ก็จัดการตัวบนให้เรียบร้อย.. เมื่อจัดการได้ทั้งหมด เอ็กซ์เดธจะปรากฏตัวแล้วใช้พลังของคริสตัลโจมตีเราทั้งหมด.. ในขณะที่เรากำลังแย่ คูรูรูจะสัมผัสได้ และจะขี่มังกรลมมาช่วยถึงที่.. เรารอดหวุดหวิด แต่คูรูรูก็โดนเอ็กซ์เดธเล่นงานจนได้.. ด้วยความเป็นห่วงหลาน กาลัฟจึงใช้พลังทั้งหมดที่ตัวเองมีต้านพลังของเอ็กซ์เดธ ช่วยคูรูรูและเข้าบวกกับเอ็กซ์เดธทันที.. กาลัฟจะโหดมาก แกร่งสุดๆ จนเอ็กซ์เดธอึ้ง.. แม้ HP หมดก็สู้ต่อได้เฉย.. ตบจนลง..

แต่สุดท้าย เจ้าเอ็กซ์เดธก็อาศัยช่วงชุลมุนฉกเอาคริสตัลและวาร์ปหายไปในที่สุด.. กาลัฟอยู่ในอาการโคม่าและสิ้นใจในที่สุด.. เค้าฝากให้ทุกคน ทำลายมันให้ได้.. คูรูรูเสียใจรุนแรงจนฟุบ….. วิญญาณของกาลัฟได้รับพลังจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อบอกลา.. เค้าให้กำลังใจหลานสาวและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป พร้อมกับมอบคริสตัลแห่งพลังของเค้าให้แก่คูรูรู เพื่อที่คูรูรูจะได้รับพลังทั้งหมดของเค้าไปแทน.. เราจะได้คูรูรูเข้าร่วมกลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเรา จากนี้เป็นต้นไป.. 🙂

กาลัฟบอกลาหลานรักครั้งสุดท้าย

คูรูรูจะเรียกมังกรน้อยคู่ใจมารับเราทุกคน.. ก็ให้ไปซื้อไอเท็มให้แน่นให้พร้อม นอนพักผ่อนให้เต็มที่(ที่หมู่บ้านไหนก็ได้) เพราะเรากำลังจะไปบู๊ในปราสาทเอ็กซ์เดธ โหดทั้งบอสโหดทั้งมอนส์.. เอาไปให้แน่น 99 ได้เลยยิ่งดีครับ สบายใจ….. พร้อมแล้วเดินทางไปที่ปราสาทเอ็กซ์เดธ.. รอบนี้เราจะสามารถเข้าไปในตัวปราสาทได้แล้ว เพราะบาเรียถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว..

เมื่อเข้าไปเราจะได้พบกับทหารนอนระเนระนาดทั่วไปหมด เพราะเพิ่งโดนเอ็กซ์เดธตบไปหมาดๆ.. ให้เราตามขึ้นไปในทันใด.. เดินสำรวจเก็บสมบัติขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด(ที่คล้ายห้องโถงกว้างๆ) จะไม่มีทางไปต่อ.. ก็ให้เราเดินกลับออกมา ก็จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น คือ คูรูรูรู้สึกได้ว่านี่เป็นภาพมายาที่เอ็กซ์เดธสร้างขึ้นเท่านั้น เธอจึงขอพลังจากกาลัฟเพื่อที่จะทำลายมนตร์นี้.. เคลเกอร์ที่นอนป่วยอยู่ที่เมืองเคล็บสัมผัสรู้ได้ถึงเรื่องนี้ เค้าจึงได้ส่งพลังมาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย.. คูรูรูจะคลายมนตร์ลวงตานี้ได้ในที่สุด.. ปราสาทมารที่แท้จริงจึงได้ปรากฏให้เห็น และจะสามารถเดินทางต่อได้แล้ว.. เดินทางต่อ ขึ้นไปอีกเรื่อยๆ…..

คูรูรูกำลังจะคลายมนตร์ของเอ็กซ์เดธ
ปราสาทมารที่แท้จริงปรากฏ
มอนส์แจ่มๆเพียบ

*** อยากจะบอกว่า.. ตอนนี้คือโอกาสที่เหมาะมากๆที่เราจะอัพเลเวล ABP (เลเวลอาชีพ) ได้เป็นอย่างดี.. เพราะมอนส์จ่ายค่า ABP เยอะมากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาเลย.. 4,6,12 หน่วยก็มี.. ดังนั้นอย่าให้เสียของ ถ้าไม่รีบก็ฝึกอาชีพในฝันให้ถึงระดับ “มาสเตอร์” ได้เลยครับ..

ในปราสาทมารนี้ จะมีบางจุดที่เราต้องลงไปในบ่อลาวาพิษด้วย ทุกก้าวที่เราเดินพลังเราจะลดตลอดนะครับ ดังนั้นคอยเติมเลือดให้ดี ไม่งั้นอาจถึงตายหรือแย่ได้เลย(เราสามารถใช้อาชีพนักเวทย์กาลเวลา เสกเวทย์ “ลอย” ใส่ทุกคน แล้วเราจะสามารถเดินบนพื้นลาวาพิษได้โดยไม่เสีย HP นะครับ).. จะมีกลไกหัวกะโหลกให้เราเหยียบเพื่อเปิดตรงนั้นหยุดตรงนี้ ก็คอยจำให้ดีว่าเหยียบตรงไหนเป็นอะไร บางทีเหยียบแล้วทะลุลงมาชั้นล่างก็มี ก็ให้ระวังด้วย.. จะมีกล่องสมบัติลับที่อยู่ในพื้นที่ดำมืดหลายกล่อง ก็พยายามหาทางไปหรือดันกำแพงต่างๆเพื่อหาทางไปเอาครับ.. จะมีห้องหนึ่งที่ต้องเหยียบหัวกระโหลกเพื่อให้สะพานขยับ และหยุดสะพานให้ตรงกล่องสมบัติหรือให้ตรงกับประตูเพื่อไปต่อด้วย.. ถ้ากดพลาดจะมีมอนส์มาโจมตีเราด้วย.. และมีอีกห้องหนึ่งที่มีกลไกหัวกระโหลกจำนวนมากอยู่ที่พื้น(ก่อนถึงห้องเซฟ) จะมีอยู่จุดหนึ่งด้านบนที่เราเหยียบแล้วสามารถไปเอามนตร์อสูร “คาบังเกิ้ล” ได้(เราจะมองเห็นก่อนถึงจุดนี้)..

เมื่อเราไปถึงหน้าอสูรคาบังเกิ้ล.. เค้าจะมากับเราแหละ แต่จะขอทดสอบฝีมือก่อน ว่าเราคู่ควรที่จะได้พลังของเค้า เราต้องสู้เค้าให้ชนะก่อน.. คาบังเกิ้ลร้ายกาจใช้ได้ทีเดียว ดูเหมือนเค้าจะสามารถเปลี่ยนจุดอ่อนไปได้เรื่อยๆอีกด้วย.. เอาชนะเค้าให้ได้ เราก็จะได้มนตร์อสูรคาบังเกิ้ลมาครอบครอง.. ท่าไม้ตายของเค้าคือ ทำให้ทุกคนติดเวทย์ “สะท้อนเวทย์” พร้อมกันทุกคนในกลุ่ม.. ใช้ให้ดีก็เป็นประโยชน์ไม่น้อยนะ…..

อสูร “ทาบังเกิ้ล”

ได้คาบังเกิ้ลแล้วเดินทางต่อ.. จะเจอห้องเซฟ ก็นอนเต๊นท์แล้วเซฟให้เรียบร้อยตามอัธยาศัย..

เดินทางต่อเราจะได้พบกับกล่องสมบัติ แต่เมื่อเปิดจะว่างเปล่า แล้วเจ้ากิกาแมซจะออกมาเยาะเย้ยเราว่ามันเอาสมบัติไปแล้ว เราจะได้ปะทะกับมันอีกครั้ง.. สู้ไปสักพักมันจะเอาดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ปลอมมาสู้กับเรา มันคือดาบ “เอ็กซ์คาลิพัวร์”.. เอ็กซ์เดธจะทนความรำคาญไม่ไหว มันจะทำโทษเจ้ากิกาแมซที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจโดยการเสกเนรเทศให้ไปอยู่ที่ “มิติมืด” เลยทีเดียว….. ทีนี้เราต้องสู้กับเอ็กซ์เดธเองเลย.. รอบนี้ร้ายกาจกว่าคราวก่อนๆ ให้ระวังให้มาก มันทำให้เราตายได้เลยจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นนะ..

ไอ้แสบเอ็กซ์เดธ

เมื่อเอาชนะมันได้ เจ้าเอ็กซ์เดธมันจะรวมสองโลก คือ “โลกของเรา” และ “โลกของกาลัฟ” เข้าเป็นโลกเดียวกันได้ในที่สุด.. คริสตัลจะแตกออก.. เราจะสลบทั้งกลุ่ม และมาฟื้นได้สติใกล้ๆกับปราสาทไทคูน(บ้านของเลนน่า).. ให้เข้าไปในปราสาทและเข้าไปคุยกับท่านเสนาบดี.. ทุกคนจะดีใจมากที่ได้เห็น “เลนน่า” และ “ฟาริส” อย่างปลอดภัย.. ฟาริสจะได้รับรู้ชื่อที่แท้จริงของตัวเอง จะถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเจ้าหญิง ซึ่งสวยจับใจจนบัทซ์เคลิ้มอีกครั้ง….. เมื่อบังคับตัวละครได้ก็สำรวจให้ทั่วปราสาท จะได้เห็นเรื่องราวของฟาริสผ่านการคุยกับบางคนและอ่านไดอารี่ในห้องสมุด..

งานเต้นรำฉลองที่องค์หญิงกลับมาถึงสองคน

จะมีการจัดงานฉลองขึ้น.. มีการเต้นรำ.. คูรูรูจะแยกตัวมาทางระเบียงขวา ให้เราตามไปคุยกับเธอ.. เธอจะบอกว่าเหมือนคุณปู่เร่งอยากให้เรารีบทำอะไรซักอย่าง เรากับคูรูรูจะออกมาทำภารกิจกันก่อนโดยปล่อยให้เลนน่ากับฟาริสอยู่กับที่นี่ไปก่อน..

ออกจากวัง.. ในขณะที่กำลังออกจากวังจะมีทหารวิ่งมาบอกว่าสะพานทางตะวันตกไปได้แล้ว.. ก็ข้ามสะพานมาแล้วขึ้นเหนือเข้าไปในถ้ำที่เราเคยมานั่นแหละ.. เราจะได้พบกับ “โบโกะ” โจโคโบะเพื่อนรักของเราอีกครั้ง.. แต่รอบนี้โบโกะจะมีครอบครัวซะแล้ว มีภรรยาและเด็กๆที่กำลังจะคลอดเร็วๆนี้ คูรูรูจะเป็นล่ามแปลภาษาให้ฟังทั้งหมด.. โบโกะจะร่วมการผจญภัยกับเราอีกครั้ง เค้าจะบอกให้ภรรยาดูแลบ้านและตัวเองให้ดี(น่ารัก).. 🙂

ออกเดินทางไปซอกเขาใกล้เมือง “ทูเล่” โดยย้อนกลับมาที่ปราสาทไทคูน ขึ้นมาทางเหนือ และไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือยาวๆเลย เลาะซอกเขาไปนิดหนึ่ง.. สุดท้ายก็จะไปพบกับหมู่บ้าน “ทูเล่” ในที่สุด(จะแวะหรือไม่แวะก็ได้ แต่ถ้าแวะคุยกับพ่อเฒ่าซ็อก แกก็จะบอกว่าแกดีใจที่เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์กลับมาอย่างปลอดภัย).. เลยไปทางซ้ายของหมู่บ้านนิดหนึ่ง(เหยียบคลองไปเลย) จะพบกับทางแคบๆเป็นซอกเขาอีกจุด.. เดินลงใต้มา เราจะพลัดตกลงมาในถ้ำของมอนส์เตอร์ “Antlion” คูรูรูจะโทษว่าเราขับเร็ว ส่วนบัทซ์จะโทษว่าโบโกะแหละที่ผิด 😂 (ซะงั้น).. ในขณะกำลังคุยกัน เจ้าแอ๊นท์ไลท์อ้อนก็จะโจมตีเรา.. ไม่ยากเท่าไหร่ พอจัดการได้มันจะวิ่งหนีไป.. เดินมาด้านบนจะพบเชือกห้อยลงมาช่วยเรา แต่จะชักขึ้นชักลงแกล้งเราสองสามครั้ง.. นั่นคือ “ฟาริส” นั่นเอง.. เธอแอบเคืองที่เราแอบออกมากันสองคน และบอกว่าอย่าทำแบบนี้อีก.. เธอบอกว่าเธอไม่เหมาะจะเป็นเจ้าหญิงหรอก เหมาะจะผจญภัยในนามโจรสลัดมากกว่า..

มอนสเตอร์แอ๊นท์ไลอ้อน
มีเคืองกันด้วย

เดินทางต่อมาทางซ้ายล่าง จะพบถ้ำของกิโด้.. เข้าไป จะได้พบกับกิโด้นอนหงายท้องอยู่เพราะแรงสะเทือนของการรวมกันของสองโลก.. เมื่อช่วยเค้าลุกขึ้น กิโด้จะเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ว่า ที่จริงแล้วโลกทั้งสองนี้เมื่อหนึ่งพันปีก่อน เคยเป็นโลกเดียวกันมาก่อน.. แต่เพื่อปราบเจ้าปิศาจร้าย “เอนูโอ” และผนึกพลัง “เดอะวอยด์”(มิติมืด) ของมันเอาไว้ให้อยู่ระหว่างกลางของสองโลก แบ่งคริสตัลออกเป็นสองส่วน โลกทั้งสองจึงได้แยกออกจากกัน.. ในระหว่างที่กำลังคุยกันนั่นเอง เจ้าเอ็กซ์เดธที่แปลงกายเป็น “เสี้ยนไม้” ติดตามคูรูรูมาก็ปรากฏกาย.. มันพล่ามแผนการของที่จะยึด “เดอะวอยด์” มาเป็นพลังของมันให้เราฟัง มันจะตบพวกเราทุกคนร่วงหมด กิโด้ได้โชว์วิทยายุทธเข้าบวกอย่างจริงจัง.. แต่ก็สู้ได้ไม่นาน เราทุกคนก็จะถูกมันใช้พลังซัดกระเด็นมานอนกลิ้งไกลถึง “ห้องสมุดโบราณ” เลยทีเดียว..

แปลงร่างเป็นเสี้ยนไม้นี่นะ.. โห ไอ้เก่ง..
กระเด็นมาไกลแท้

กิโด้ดีใจมากที่ได้เห็นห้องสมุดนี้อีกครั้ง.. เค้าไม่รอช้า พาทุกคนเข้าไปทันที.. นักปราชญ์ทุกคนที่นี่ดีใจและให้เกียรติกิโด้อย่างมาก.. ทุกคนจะประชุมกัน และรวมคัมภีร์โบราณจากสองโลกให้เป็นหนึ่งเดียว.. คัมภีร์จะบอกถึงอาวุธพิเศษ 12 ชิ้นที่เคยใช้ปราบเอนูโอว่าอยู่ที่ปราสาทคูซ่านั่นเอง.. แต่ต้องไปเอาแผ่นศิลาทั้ง 4 ให้ครบก่อน โดยมันจะกระจายอยู่ในหลายจุดบนโลก.. เราจะได้คัมภีร์โบราณมาติดตัวไว้..

ทุกคนจะเคารพกิโด้อย่างมาก

เมื่อบังคับตัวละครได้ คุยกับทุกคนหน่อยก็ดีเพื่อเก็บข้อมูล.. ขึ้นไปบนดาดฟ้า คุยกับนักปราชญ์ขวามือ เราจะได้บทเพลง “มานาเพียน” มาครอบครอง.. สำหรับให้อาชีพนักกวีขับร้อง สามารถเพิ่มความรุนแรงของเวทย์มนตร์ให้กับนักเวทย์ทุกคนในกลุ่มในขณะต่อสู้ได้.. เสร็จแล้วลงมาซดน้ำที่ไหฮีลอีกหนึ่งทีก่อนออกผจญภัย…..

ออกจากห้องสมุดโบราณมาทางซอกเขาทางซ้ายล่าง.. เดินไปทางตะวันตกเรื่อยๆ ด่านแรกจะเจอกับ “ป่าต้นไม้ผู้พิทักษ์” เมื่อเข้าไป เราทุกคนจะหยุดคุยกันแป๊บหนึ่งถึงการที่ต้องสูญเสียหลายๆคนไปรวมทั้งกาลัฟ เราจะไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียอะไรอีก เราจะเอาชนะเอ็กซ์เดธให้ได้ ประมาณนั้น.. เดินต่อมาอีกนิดเดียวก็จะถึงทะเลทรายสายน้ำ แต่รอบนี้ทะเลทรายจะไม่ไหลอีกแล้ว เพราะคริสตัลแตกไปหลายชิ้นแล้วนั่นเอง ทำให้เราสามารถเดินไปเข้าพีระมิดโดยตรงได้เลย.. เมื่อเข้ามาในส่วนหน้าของพีระมิด เมื่อเราสำรวจที่ประตู ปิศาจเฝ้าพีระมิด “กากอย” จะเข้าโจมตีเราทันทีสองตัวซ้ายขวา.. คำแนะนำในการจัดการมันก็คือ ต้องฆ่ามันพร้อมกันทั้งสองตัว ไม่งั้นมันจะคืนชีพให้กันเรื่อยๆ.. ดังนั้นคำนวนการโจมตีให้ดี ไม่ว่าจะกระโดดถีบพร้อมกัน ใช้เวทย์ให้โดนพร้อมกัน หรือปาเหรียญให้โดนพร้อมกัน นะ.. ถ้าไม่พร้อมกัน ก็ตายไม่พร้อมกัน ก็สู้ให้เปลืองแรงอยู่แบบนั้น ดังนั้น โจมตีให้ดี ให้ตายพร้อมกัน..

ต้องให้มันตายพร้อมกัน.. เจ้าสองตัวนี้..

เมื่อเอาชนะกากอยคู่ได้ คัมภีร์โบราณจะลอยขึ้นมาและฉีกตัวเองเผาออกหนึ่งหน้า ประตูพีระมิดจะเปิดออก..

*** ก่อนตะลุยดันเจี้ยนพีระมิดนี้.. ขอแนะนำว่า ควรมีเพื่อนในกลุ่มเป็น “โจร” ซักหนึ่งคนนะครับ.. ติดตั้งความสามารถรองเป็น “หาทางลับ” ด้วยก็จะดีมากๆ.. สาเหตุก็เพราะมีบางจุดที่เราต้องวิ่งให้ไวเพื่อพ้นจุดอันตราย เช่น บันไดที่จะสลับไปมากับการเป็นพื้นเรียบลาด ซึ่งถ้าเราวิ่งไม่พ้นไม่ทันเราก็จะไหลมาโดนพื้นที่เป็นหนามเป็นต้น.. มีทางลับดำมืดที่เป็นที่ซ่อนกล่องสมบัติหลายจุดมาก ถ้าเราติดความสามารถ “หาทางลับ” เราจะสามารถมองเห็นทางเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนง่ายดาย แต่ถ้าไม่ติดก็มีโอกาสพลาดสมบัติสูง เสียดายนะ.. ที่สำคัญอีกอย่างคือ ระวังมอนสเตอร์ที่เป็นสาย “ม๊องค์” สามคนให้ดี.. พวกมันมีท่าที่ซัดใส่เราแล้วพลังโจมตีของเราลดลงจนง่อยได้เลย มันสามารถฆ่าเราตายทั้งกลุ่มได้เลยนะ.. เตรียมรับมือ..

เมื่อเข้ามาในพีระมิด.. จะมีกับดัก, ปุ่มกด, และหลุมตก มากมาย(บางหลุมตกไปก็ดีนะ ได้เก็บของ).. ใช้ความสามารถและการจดจำผ่านไปให้ได้ เก็บของให้หมด สำรวจทุกซอกหลืบให้สมกับเป็นเกมเมอร์ระดับตำนานอย่างเราๆ 😂 (รอดออกมาได้ก็บุญละ).. เดินไปเรื่อยๆ จะเจอกับห้องเซฟ.. ก็นอนเต๊นท์และเซฟให้เรียบร้อย.. ใครยาจกไม่มีเต๊นท์ ก็เซฟอย่างเดียว 😂.. มีกลไกเยอะมาก และก็มักจะมีสมบัติรออยู่ตลอด บางกล่องมีมอนสเตอร์เฝ้าด้วย.. ไปจนสุดทาง.. เราจะพบกับ “แผ่นศิลา” แผ่นแรกมาครอบครองในที่สุด..

มาอยู่บนยอดสุด

พีระมิดจะยกเราขึ้นไปบนยอดสุด.. เราจะเห็นเหตุการณ์แผ่นดินยุบตัวลงไปในทะเลที่หนึ่ง และเห็นยอดมังกร “บากรบาฮามุต” บินเฉี่ยวหัวเราไปพร้อมกับบอกว่า จะรอเราอยู่ที่ยอดเขาทางเหนือ….. “อะไรฟระ!? รู้จักกันด้วยรึ?”.. เสร็จแล้วออกจากพีระมิด(จะให้ดีก็เซฟซะหน่อยครับ เดี๋ยวยาว)..

มังกรบาฮามุต

เมื่อเดินผ่านป่าผู้พิทักษ์ จะเกิดเหตุการณ์ มังกรลมน้อยจะอุ้มเลนน่ามาส่งให้เรา.. แต่ในขณะที่กำลังจะปลุกเลนน่านั่นเอง เจ้าเอ็กซ์เดธจะปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมกับใช้มอนสเตอร์จากเดอะวอยด์ชื่อ “เมลูซีน” ควบคุมเลนน่าเอาไว้ เลนน่าจะอาละวาด.. ส่วนเจ้าเอ็กซเดธจะโชว์การใช้เดอะวอยด์(ที่ยังไม่สมบูรณ์) ดูดกลืนห้องสมุดโบราณพร้อมกิโด้และนักปราชญ์ทั้งหมดหายไปในดาร์คโฮล กลายเป็นหลุมน้ำขนาดใหญ่.. มังกรลมจะสละชีวิตเพื่อทำให้เลนน่าได้สติอีกครั้ง ปิศาจสาวเมลูซีนจะแยกออกจากเลนน่าเพื่อให้เราได้รุมกระทืบ.. จัดการซะ เอาให้ยับ.. ปิศาจตนนี้จะสามารถเปลี่ยนบาเรียธาตุต่างๆได้เรื่อย ก็คือเราต้องโจมตีให้ถูกธาตุที่มันแพ้นั่นแหละถึงจะได้ดาเมจแบบโหดๆ.. ก็ไม่ยากเท่าไหร่ครับ..

เมื่อปราบเมลูซีนได้สำเร็จ เราก็จะได้เลนน่ามาเข้ากลุ่มอีกครั้งในที่สุด..

อย่ายุ่งกับเลนน่านะ!
ปีศาจสาว “เมลูซีน”

ต่อไปให้เราเดินไปขึ้นเรือเหาะที่ขวาบน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาท “เซอร์เกต” ใกล้ๆนั่นเอง.. ก่อนขึ้นเรือแวะหาข้อมูลและซื้อไอเท็มที่ปราสาทเซอร์เกตก่อน.. เราจะได้พบนักปราชญ์บางส่วนจากห้องสมุดโบราณที่รอดมาได้ที่นี่ มีบางคนท่องกลอนที่เก็บแผ่นศิลาทั้งสี่ได้ด้วย.. พร้อมแล้วออกจากปราสาท ไปที่เรือ..

เมื่อขึ้นเรือเหาะ เราทุกคนจะปรึกษาหารือกันว่าต้องไปเอาอาวุธพิเศษที่ปราสาท “คูซ่า” ก่อน.. ในระหว่างนั้นเจ้าเอ็กซเดธจะใช้เดอะวอยด์โจมตี ทำลายหมู่บ้านและเมืองต่างๆทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ป่าม็อคเกิ้ลและบ้านเกิดของบัทซ์.. บัทซ์โกรธจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เค้าขับเรือเหาะอย่างบ้าคลั่งจนเพื่อนๆต้องมาช่วยปลอบและเรียกสติ.. เรือเหาะจะมาหยุดอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้าน “รูกัล” ขับลงมาทางใต้ไม่ไกลมากก็จะได้พบกับปราสาท “คูซ่า”.. เมื่อเข้าไปในปราสาทจะได้พบกับเหล่ากลุ่มนักปราชญ์ที่เราเคยช่วยไว้ที่ปราสาทคริสตัลแห่งลมเมื่อต้นเกม.. จะมีคนหนึ่งหยิบไหฮีลมาด้วย เมื่อคุยกับเค้าเค้าจะเอาไหออกมา เราก็สามารถฮีลได้เรื่อยๆจากไหนี้..

เข้าไปด้านใน จะพบกับแท่นวางศิลาที่กระพริบแว้บๆอยู่.. วางแผ่นศิลาบนแท่นนั้น จะทำให้เราสามารถเลือก “อาวุธในตำนาน” ได้ 3 ชิ้นก่อน.. อาวุธในตำนานจะวางอยู่ในที่ของมัน 12 จุดรอบตัวเรา.. เดินเลือกช้อปได้ตามความเหมาะสม ปั้นอาชีพอะไรอยู่หรืออยากใช้อาวุธประเภทไหนก็เลือกมาครับ.. เพิ่มพลังโจมตีให้แบบโหดๆเลยทีเดียว.. ได้ครบแล้วก็หยิบแผ่นศิลากลับออกมาครับ..

ต่อไปเราจะไปเอาแผ่นศิลาอีกแผ่นจากวิหารเกาะกลางทะเล.. เอ็กซเดธจะรวบรวมอสูรร้ายจากรอยแยกระหว่างมิติหรือดาร์คโฮลมาเป็นสมุนของมันจำนวนมาก.. มันจะสั่งให้เหล่าอสูรนั้น ฆ่าพวกเราให้ได้ อย่าให้มาขวางแผนการของมัน อย่าให้รวบรวมอาวุธสุดยอดทั้ง 12 ชิ้นได้สำเร็จ.. ให้เราดิ่งมาที่วิหารได้เลย.. วิหารนี้จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่อนข้างไกลจากปราสาทไทคูน อยู่บริเวณกลางแผนที่ค่อนมาทางใต้นิดหน่อย.. จะมีสะพานทอดเข้าหาทั้งสองฝั่ง.. จอดตรงผืนดินว่าง แล้วเดินข้ามสะพานยาวเข้าไปได้เลย..

เหล่าสมุนร้ายของเอ็กซ์เดธ
พร้อมบู๊ในวิหาร

*** ก่อนจะบู๊ขอแนะนำนิดหน่อยครับ.. อาชีพ “โจร” และอาชีพ “นักเวทย์กาลเวลา” เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง.. เพราะในวิหารมีทางลับไปเอาของที่ถ้าไม่ใช้อาชีพโจรก็ดูจะคลำหาทางไปได้ยากจริงๆ.. กับมีมอนสเตอร์ที่แยกร่างได้, HPโคตรโหด, และฝูงอิ๊มพ์ที่ทำให้เราติดสับสนจนฆ่ากันเองได้อยู่ด้วย.. ดังนั้นการมีจอมเวทย์การเวลาจะช่วยได้มากๆเลย เพราะมีเวทย์ที่จ๊าบที่สุดเช่น “ย้อนเวลา” ซึ่งสามารถย้อนทุกอย่างไปตอนเริ่มสู้ได้เลย(โคตรเจ๋งจริงๆ).. เวลาเราเพลี่ยงพล้ำจนดูท่าไม่ดีจริงๆ ย้อนเวลาแม่งเลย 😂.. เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงเลยครับ ไม่ใช่เล่นๆ.. ส่วนมอนส์ที่ตีหนักและพลังชีวิตโหดจัดๆ(HP เยอะมาก ฆ่าไม่ตายซักที) ก็ให้อัดเวทย์เฮสติก้าเพิ่มความเร็วให้เราทุกคนและอัดเวทย์สโลวก้าใส่มัน.. ทีนี้เราก็มีเวลาฟันมันทั้งวันแหละ ไม่ตายก็ให้มันรู้ไป 😂.. เป็นทริคเล็กๆนะครับ.. จะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ครับ.. ใครคิดว่าเอาอยู่กับอาชีพที่มี ก็ได้ครับ ลุยได้เลย…..

เข้าไปจนถึงด้านในสุด เราจะได้พบกับศิลาที่เราตามหาอีกแผ่นในที่สุด.. แต่ต้องปราบเจ้ามอนสเตอร์ “เว็นดิโก้” ให้ได้ก่อน.. มันจะมีสี่ร่าง และจะย้ายร่างจริงสลับไปเรื่อยๆ เราต้องเลือกโจมตีให้โดนถึงจะเข้า.. ก็ฟันไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่.. เมื่อชนะและได้ศิลามาแล้ว ก็กลับไปที่ปราสาทคูซ่า และเลือกอาวุธในตำนานมาอีกสามชิ้นแซ่บๆ(แนะนำให้ไปเอาเรื่อยๆนะครับ เพราะมันจะทำให้เราสู้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ)…..

อสูร “เว็นดิโก้”

ต่อไปเราจะต้องไปเอาเวทย์ “โฮลี่” และ “แฟลร์” ที่หอคอยแฝด “ฟอล์ค” ทางตะวันออกเฉียงใต้เกือบสุดของแผนที่.. มันจะอยู่ใกล้ๆกับเมืองจันทร์เสี้ยว “เครสเซ่น” นั่นเอง(เราจะได้เจอกับมิดที่เครสเซ่นด้วย บ่นว่าแผ่นดินถล่มและซิดยังอยู่ใต้ดิน เดี๋ยวเราก็ต้องไปหาแหละ แต่เอาไว้ก่อน..).. จอดเรือเหาะใกล้ๆกับหอคอยฟอล์คก่อน แต่อย่าเพิ่งเข้าไป เพราะนี่คือโอกาสอันเหมาะที่เราจะไปซื้อเวทย์ที่แจ่มโคตรๆที่ “เมืองมายา” กันก่อน.. เมืองมายานี้เป็นเมืองที่ถูกดูดหายเข้าไปอยู่ในดาร์คโฮลมาเนิ่นนาน เพิ่งกลับมาอยู่บนแผนที่โลกอีกครั้งก็ตอนที่โลกทั้งสองถูกรวมกันอีกครั้งนี่เอง.. เมืองมายาจะอยู่ในป่าเล็กๆทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหอคอยฟอล์คนั่นเอง.. เดินดิ่งลงใต้มาและเลี้ยวซ้ายไปบนแผ่นดินแคบๆยาวๆนิดหน่อย เข้าไปในหย่อมป่า ก็จะเจอกับเมืองมายาในตำนาน.. เมืองนี้มีอะไรให้ค้นหาเยอะแยะเลย และมีทางลับไปเอาเจ้าแบล็คโจหรือโจโคโบะสีดำได้อีกด้วย.. แต่ยังไม่ต้องไปเอาตอนนี้.. ตอนนี้ไปซื้ออาวุธลับและเวทย์ลับดีๆก่อน.. แต่ซื้อหน้าร้านจะไม่มี ต้องอ้อมไปเข้าหลังร้านหรือหลังบ้าน(อยากเห็นทางลับต่างๆก็ใช้สกิลมองทางลับของอาชีพโจรนะครับ เห็นง่ายสุด).. เวทย์ที่แจ่มโบ๊ะที่สุดก็คือ “อไลฟ์” นั่นเอง.. เวทย์ชุบชีวิต.. จริงๆก็เจ๋งหลายเวทย์อยู่ กวาดให้หมด.. มีติดตัวไว้ใช้เร็วเท่าไหร่ก็ดีเท่านั้น.. คุยกับชาวบ้านให้ทั่วเพื่อหาข้อมูลแล้วออกมา…..

กลับมาต่อกันที่ “หอคอยฟอล์ค”.. เมื่อเข้าไปในหอคอย เราต้องแบ่งทีมออกเป็นสองทีม เพื่อขึ้นไปหยิบเวทย์ทั้งสองพร้อมๆกัน ไม่งั้นระเบิดเถิดเทิง.. ฝั่งขวาสำหรับสายตีทางกายภาพ ฝั่งซ้ายสำหรับนักเวทย์เพราะจะมีแต่มอนส์ที่ต้องใช้เวทย์เท่านั้นตี.. ลุย..

หอคอยฟอล์ค
เงื่อนไขสินะ
มีอะไรโผล่มาจากกำแพงเรื่อยๆ

ตอนแรกก็นึกว่าจะโหดสัสๆ ที่ไหนได้ งั้นๆแหละมอนส์.. แต่ฝั่งสายเวทย์ ให้ระวังนักเวทย์ตัวเล็กๆที่มาสองคนให้ดี มันอัดเวทย์อะไรก็ไม่รู้ใส่เรา ตายเฉยๆเลย ยังงงมาจนถึงตอนนี้ เพราะไม่ได้เจอมันอีก แต่ตัวอื่นๆก็งั้นๆครับ.. เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุด เราก็จะหยิบเวทย์ทั้งสองฝั่ง ฝั่งกายภาพจะเจอบอส “มิโนทอร์” ฝั่งนักเวทย์ก็จะเจอ “ผู้หยั่งรู้” ซึ่งเป็นนักเวทย์นั่นแหละ.. ก็ไม่ยากเท่าไหร่ ยิ่งใส่แหวนสะท้อน ยิ่งสบาย.. เมื่อเอาชนะได้ก็จะได้เวทย์ “โฮลี่” และ “แฟลร์” มาครอบครองเช่นนั้นเอง…..

ต่อไปเราจะไปที่ “หอคอยฟินิกซ์” กัน.. เพื่อเอามนตร์อสูร “ฟินิกซ์”.. หอคอยฟินิกซ์จะอยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาทคูซ่านั่นแหละ อยู่ขวาบนเกือบสุดของแผนที่โลก.. ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและทะเลทรายขนาดใหญ่ ไม่สามารถเดินไปได้ ไม่สามารถเอาเรือเหาะไปได้เพราะไม่มีที่จะจอด(บินผ่านได้เท่านั้น).. พาหนะเดียวที่จะเอาเข้าไปได้คือเจ้า “แบล็คโจ” แห่งเมืองมายาเท่านั้นเอง(โจโคโบะสีดำ).. เพราะด้านในมีป่าหย่อมเล็กๆอยู่หย่อมหนึ่ง.. กลับไปที่เมืองมายาอีกครั้ง ซื้อไอเท็มพักผ่อนให้เรียบร้อย แล้วหาทางลับไปหาเจ้าแบล็คโจทางซ้ายล่างของเมืองให้จงได้.. ใช้อาชีพโจรก็จะเร็วหน่อยครับ..

ได้แบล็คโจโคโบะสุดหล่อมาแล้ว ก็แว๊นซ์ขึ้นเหนือยาวๆเลย โยกมาทางตะวันออกนิดหน่อย.. บินเลยหอคอยขึ้นไปทางขวาบนนิดหน่อย จะเจอกับหย่อมป่าหนึ่งหย่อม ก็จอดเจ้าแบล็คโจตรงนั้นแหละ.. เสร็จแล้วเดินลงมาซ้ายล่างของทะเลทราย ก็จะได้พบกับ “หอคอยฟินิกซ์” ในตำนานนั่นเอง..

สำรวจที่กำแพง
จะได้เจอปีศาจโผล่จากกำแพงเรื่อยๆ
เจ้านี่ชอบไถอิลิคเซอร์นะ

เข้าไปในหอคอย.. เราจะไม่พบทางไป ก็ให้มาสำรวจกำแพงด้านหน้าทางเข้านี่แหละ ก็จะได้ปะทะกับมอนสเตอร์ที่โผล่มาจากกำแพง ก็จัดการมันซะ แล้วบันไดทางเข้าก็จะเปิดออก.. ขึ้นไปเรื่อยๆเราก็จะเจอลักษณะเดียวกันนี่แหละไปเรื่อยๆ คือต้องสำรวจกำแพงให้ทางเปิดออกและขึ้นไปเรื่อยๆ.. เราจะได้เจอไห ภายในไหจะมีเงินหรือมอนสเตอร์ที่คอยไถอิลิคเซอร์เรา.. ถ้าเราให้มันมันจะวิ่งหนีไปและให้ขนฟินิกซ์มาแทน ซึ่งดูไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะขนฟินิกซ์หาซื้อได้ไม่ยาก แต่อิลิคเซอร์ดูจะหายากกว่า ให้เลือก “หนี” ดีกว่า เพราะฆ่ามันก็ไม่ตายอีก.. ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงดาดฟ้าชั้น 30 เราจะได้พบกับ “ฮิริว” มังกรของพ่อเลนน่าตอนต้นเกมนั่นเอง.. ฮิริวรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะตาย.. เค้าอยากตอบแทนเลนน่าให้ตัวเค้ามีประโยชน์เป็นครั้งสุดท้าย(จะมีคัทซีนเรื่องราวของเลนน่าในอดีตประกอบด้วย).. ฮิริวจะสละชีวิตตัวเองโดยการกระโดดลงจากหอคอยฟินิกซ์ เมื่อสิ้นชีพ เค้าจะเกิดใหม่เป็น “ฟินิกซ์” เป็นมนตร์อสูรให้พวกเราได้ใช้งาน.. ทั้งเศร้าและดีใจไปพร้อมๆกัน.. “มนตร์อสูรฟินิกซ์” มีอิทธิฤทธิ์ในการโจมตีศัตรูทุกตัวบนสนามรบและฟื้นคืนชีพให้สมาชิกในกลุ่มหนึ่งคน ดีมากๆเลย…..

ได้พบฮิริวบนดาดฟ้า
ฮิริวสละชีพ.. เศร้าไปอีก..

เสร็จภาระกิจแล้ว ขี่เจ้าแบล็คโจมาลงจอดที่บ้านเดิมของมันคือป่าเมืองมายานั่นเอง.. แล้วก็ขับเรือบินของเราไปยังจุดเดิมของที่ตั้งของหอคอยฟอล์ค ตอนนี้มันจะกลายเป็นฐานทัพใต้ดินอันเดิมที่เราเข้าไปหาซิดกับมิดบ่อยๆพักนึงนั่นแหละ.. ลงไป ออกจากเรือเหาะ แล้วเดินเข้าไปหาซิดด้านใน.. เราจะได้พบกับซิดที่เป็นลมหงายท้องลงไปในเครื่องจักร หมุนวนอยู่ในเครื่องจักร เราจะช่วยเค้าออกมา.. มิดจะวิ่งตามมาหาคุณตาทันที.. ซิดบอกว่าระหว่างที่วิจัยได้รับความรู้ใหม่ นั่นคือการดัดแปลงเรือเหาะให้สามารถดำน้ำได้ด้วย.. พวกเค้าตาหลานจะช่วยกันโมดิฟายเรือเหาะของเราอย่างแข็งขันอีกครั้ง.. จนในที่สุด เราจะได้ สุดยอดเรือที่สามารถบินบนอากาศก็ได้, แล่นบนผิวน้ำก็ได้, และดำในน้ำก็ได้ มันสุดยอดมากจริงๆ.. ซิดจะฝากความหวังไว้ที่เรา ช่วยบู๊แทนด้วย เพราะเค้าอายุมากกว่าเกินที่จะช่วยเราบู๊ได้แล้ว.. เราเต็มใจรับปากอย่างเต็มที่…..

นักวิจัยที่แท้ทรู
บุ๋งๆกันเลยทีเดียว

ได้เรือแล้ว เหาะขึ้นฟ้าก่อนเลยดอกแรก.. บินข้ามมายังทะเลซีกขวา เสร็จแล้วดำลงไปโลดสู.. แหวกว่ายวารีไปทางทิศตะวันออกไม่ไกลมาก ขึ้นเหนือนิดหน่อย ก็จะได้พบกับ “รอยแยกกลางทะเล”.. เข้าไปโลด.. ตามสเต็ป ลุยให้ทั่ว เก็บสมบัติให้หมด.. พื้นดินที่เป็นลาวาก็สเต็ปเดิมครับ คือใช้เวทย์ “ลอย” เสกให้ทุกคน ก็จะสามารถเดินผ่านได้แบบไม่ต้องเสียพลัง.. ***และระวังมอนสเตอร์ตัวอ้วนเผละสีชมพูให้ดี ให้โจมตีมันด้วยเวทย์เท่านั้น ถ้าโจมตีกายภาพต้องดาบเดียวตายนะ เพราะถ้าไม่ตายมันจะใช้ท่า “สิง” เราจะหายไปจากสนามรบเลย และปัญหาก็คือ เมื่อเข้าสู่ฉากเดิน เวทย์ลอยตัวจะหายไปจากคนที่โดน เราก็ต้องมาเติมให้ใหม่อยู่ตลอดในทุกๆครั้งหลังสู้เสร็จ คือน่ารำคาญมาก น่ารำคาญจนหงุดหงิดจริงๆครับ.. ดังนั้น ระวังไว้ด้วย..

เดินไปสักพักจะเจอกับห้องเซฟซึ่งเป็นบ้านของคนแคระ.. พวกเค้าอยู่กัน 5 คน มีของดีๆขายเยอะซะด้วย.. ทะลุจากห้องเซฟมาจะเจอกับห้องใหญ่ที่มีแท่นกลไกให้กดหลายอันทีเดียว.. มีกล่องสมบัติอยู่กล่องหนึ่งที่เมื่อสำรวจเราจะตกลงมากระแทกพื้น ตรงนั้นแหละคือทางไปต่อเพื่อเจอบอส.. วิธีไปคือ ลงมากดแท่นกลไก 3 อันในโซนด้านล่างตรงนั้น ให้ครบทั้ง 3 อัน(ไม่มีเสียงเกิดขึ้น) แล้วเดินกลับมาสำรวจกล่องสมบัติใหม่.. เราก็จะไปต่อได้ครับ…..

พบบ้านคนแคระและจุดเซฟ

เดินต่อไม่ไกลจะได้พบกับแผ่นศิลาที่เราต้องการ.. แต่จะมีเจ้าสามหมูปีศาจ คอยพิทักษ์อยู่.. เจ้าเอ็กซเดธส่งมันมาดักรอเรานั่นแหละ.. วิธีการปราบเจ้าสามตัวนี้ก็คือ ต้องฆ่ามันให้ตายพร้อมๆกันทั้งสามตัวในเทิร์นเดียว ไม่งั้นมันจะชุบชีวิตให้กันเรื่อยๆไม่จบสิ้น.. วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ใช้ท่า “ปาเหรียญ” ของซามูไร แค่สองหรือสามครั้งก็เรียบร้อย(อยู่ที่เลเวลและความแรงในการปาของเรา) ส่วนท่าอื่นๆก็เช่นกระโดดถีบของม๊องก์หรือเวทย์โจมตีที่โดนทั้งกลุ่มเป็นต้น.. ประมาณนั้นครับ.. เมื่อเอาชนะได้ เราก็จะได้แผ่นศิลามาครอบครองพร้อมกับเวทย์ “เมเทโอ” ดาวตกมหาปลัย(ดีมากเลย)…..

สามอู๊ดมหาปลัย
ตบให้ลง
เวทย์เมเทโอสุดจ๊าบ

เรียบร้อยแล้วก็ออกมา แล้วก็ไปเอาอาวุธมหาปลัยในตำนานอีก 3 ชิ้นจากปราสาทคูซ่าอีกครั้ง..

ซื้อไอเท็มให้แน่นคลัง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ.. ต่อไป เราจะไปเอาศิลาแผ่นที่สี่ แผ่นสุดท้ายกันที่ “น้ำตกอีสโทรี่” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ(มากๆ) จากรอยแยกใต้ทะเลนั่นเอง.. น้ำตกน่ะอยู่บนดิน แต่เราต้องเข้าทางถ้ำใต้น้ำครับ.. ก็เอาเรือดำลงไป ตั้งหลักจากรอยแยกกลางทะเลที่เราเพิ่งไปเอาแผ่นที่ 3 มาก็ได้ครับ.. ดิ่งมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะผ่านช่องแคบเพื่อขึ้นหมู่บ้าน “Amur” ไปอีกหน่อย(ขวาบน).. เมื่อเจอถ้ำเล็กๆอยู่ ก็นั่นแหละครับ เอาเรือเข้าไปจอดได้เลย.. เราจะโผล่ที่ “พื้นทะเล” ก็เดินไปตามทาง เราก็จะไปโผล่หน้าถ้ำบนดินที่อยู่ใกล้ๆกับน้าตกนั่นเอง.. เดินมาทางซ้ายนิดหน่อยก็จะได้เจอกับน้ำตก “อีสโทรี่” นั่นเอง..

น้ำตก “อีสโทรี่”

เซฟก่อนก็ได้หนึ่งทีตรงทางเข้า จะได้ไม่ต้องเริ่มไกลเมื่อพลาดท่าครับ.. เมื่อเข้าไป ดอกแรกเราจะเจอกับกากอยคู่ที่เฝ้าทางเข้าอยู่เข้าโจมตี.. เหมือนเคยครับ เราต้องฆ่ามันให้ตายพร้อมกันในเทิร์นเดียว ไม่งั้นมันจะชุบชีวิตให้กันไม่จบสิ้น.. ผ่านกากอยมาแล้ว เราจะได้เจอถ้ำน้าตกที่แสนสวยงามครับ.. ในห้องโถงนี้จะมีสมบัติวางอยู่หลายจุด เก็บให้หมดครับ ระวังลื่นไถลไปในจุดที่ไม่ต้องการด้วย.. เมื่อเก็บสมบัติครบทั่วแล้ว ให้สังเกตุให้ดี ทางไปต่อจะเป็นประตูลอดที่อยู่หลังม่านน้ำตก กลางบนของห้องนั่นเอง..

*** ขอแจ้งเตือนนิดหน่อยในเรื่องของมอนสเตอร์ประจำถิ่นครับ.. ต้องระวังให้มากอยู่ 2 ตัวคือ
1.เจ้าทอนเบอรี่ มอนสเตอร์กิ้งก่าเด็กตัวเขียว ที่ถือตะเกียงมือหนึ่งและถือมีดอีกมือหนึ่งให้ดี มันจะค่อยๆเดินเข้ามาหาเราเหมือนหนังฆาตกรโรคจิต ก่อนจะจ้วงแทงเราเมื่อใกล้ตัว มันสามารถแทงซ้ำๆได้และแทงแรงมากๆ มันจะถอยหน้าถอยหลังอยู่แบบนั้น.. และที่สำคัญคือ มันมี HP ถึง 39,000+ .. ฟังไม่ผิดครับ สามหมื่นเก้าพันกว่าหน่วย จริงๆ.. ไม่มีจุดอ่อน.. ฆ่ามันให้เร็วที่สุด กระหน่ำด้วยทุกสิ่งที่เรามี แล้วกรี๊ดออกมา!.. วิธีที่ช่วยทุ่นให้ลำบากน้อยลงคือ ให้นักเวทย์ขาวร่ายเวทย์ “ปกป้อง” ใส่คนที่สำคัญที่สุดในกลุ่ม(หรือทุกคนยิ่งดี)ก่อนมันจะแทงนั่นแหละ.. ช่วยลดดาเมจได้ครึ่งนึงเลยครับ.. แสบจริงๆ.. แต่ก็ให้ค่า ABP สูงทีเดียว..
2.อีเจ๊อัลไคเมีย ที่จะมาพร้อมกับกบน้อยต้องสาปหนึ่งตัว.. ถ้าเราคลายคำสาปให้มัน(โดยการเอาไอเท็มแก้เป็นกบของเราใส่มัน) มันจะกลายเป็นมังกรโหด(หลายแบบ)มากระทืบเรา.. ก็คิดเอาเองว่าควรช่วยมันไม๊.. แต่ถ้าเราฆ่ากบ อีเจ๊อัลไคเมียจะสาดเวทย์ “เดธ” ใส่เราแบบรัวๆ ตายยกตี้ได้เลยนะ.. ดังนั้นวิธีจัดการคือ ให้ฆ่าอีเจ๊อัลไคเมียก่อน ค่อยฆ่ากบน้อยทีหลัง..จร้ะ…..

เมื่อผ่านห้องโถงแรกไปได้ ก็สำรวจให้ทั่ว เก็บของให้หมด.. ในถ้ำจะมีหลุมที่จะทำให้เราต้องไปชั้นล่างได้หลายจุด ต้องจำเอาเองนะครับ.. ห้องนึงที่มีลักษณะ เหมือนไฟฉายอยู่รอบตัวเรา(เหมือนเราถือคบเพลิงแล้วมีแสงรอบตัวเรา) ห้องนั้นมีทางลับตรงล่างกลางให้เดินไปเอา “ดาบรูน” ได้(ดูภาพประกอบด้านล่าง).. สายสะสมห้ามพลาด..

ทางลับไปเก็บดาบรูน

ทางไปต่อจะเป็นห้องที่มีกลไกให้กด แล้วมีผลึกโผล่มารอบกล่องสมบัติบ้าง มีหลุมโผล่มารอบกล่องสมบัติบ้าง.. ห้องนั้นแหละคือทางไปต่อ.. กล่องสมบัติทางซ้ายล่าง ก็จะมีกลไกเหมือนกัน พอเรากด จะเกิดหลุมสองหลุมรอบกล่องสมบัติ.. สองหลุมนั่นแหละคือทางไปต่อ.. กระโดดลงไปโลด หลุมไหนก็ได้ โผล่ที่เดียวกัน..

เมื่อเราตกลงมา ก็จะได้เจอกับแท่นวางศิลาทันที.. เดินไปหยิบได้เลยครับ.. ตอนหยิบง่ายแปลกๆ แต่ตอนเดินออก เราจะเจอนักเลงยืนดักอยู่ครับ.. มันคือ “ไอ้แดง” มันเป็นนักสู้ที่ไม่กลัวใคร เอ็กซเดธส่งมันมากระทืบเรา.. แต่ในขณะที่มันกำลังแพล่มอยู่นั่นเองว่าจะกระทืบเรา.. “ไอ้ฟ้า” สายโหด มังกรน้ำยักษ์ “ลิเวียธาร์น” จะโผล่มาข้างหลังมัน.. ไอ้แดงจึงโดนส้นตรีน และไปสู่สุขคติก่อนเวลาอันควรเช่นนั้นเอง.. ลิเวียธาร์นเป็นสัตว์อสูรมีฤทธิ์มากอีกตนหนึ่ง เค้าไม่โอเคกับเจ้าเอ็กซเดธและสิ่งที่มันกำลังจะทำ.. แต่เค้าจะมอบพลังของเค้าให้กับคนที่คู่ควรเท่านั้น.. เราต้องเอาชนะเค้าให้ได้….. ก็จัดไปครับ..

เจอแล้ว! แผ่นศิลา..
ไอ้แดงมันเป็นนักสู้
เอาชนะ ‘ลิเวียร์ธาร์น” ให้ได้

ลิเวียธาร์นเป็นมอนสเตอร์ธาตุน้ำ ดังนั้นอัดเวทย์สายฟ้าก็จะได้ผลดีมากๆ.. ท่าสุดโหดก็คือคลื่นยักษ์นั่นเอง.. โดนทุกคนแบบหนักๆ ก็หาทางรับมือให้ดีครับ(ใส่แวนปะการัง ท่านี้จะกลายเป็นฮีลให้เรา)….. เมื่อเอาชนะเค้าได้ เราก็จะได้มนตร์อสูร “มังกรน้ำ” มาครอบครองนั่นเอง.. (สามารถออกจากถ้ำโดยไม่ต้องเปลืองเวทย์วาร์ปโดยเดินลงมาด้านล่าง.. ใต้ม่านน้ำตก มีจุดวาร์ปอยู่ครับ..)

เรียบร้อยแล้วก็ไปเอาอาวุธมหาปลัยในตำนานอีก 3 ชิ้นสุดท้ายจากปราสาทคูซ่าได้เลย…..

หลังจากได้อาวุธที่ปราสาทคูซ่าครบแล้ว.. ตอนเดินออกมา จะมีนักปราชญ์คนหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับเราถึง “ภูเขาไฟใต้ทะเล” ทางทิศใต้.. ถ้าเค้ามีเรือดำน้ำเค้าจะไปสำรวจ อะไรทำนองนั้นครับ….. ก็ไม่ต้องรอช้า ขับไปสำรวจทางทิศใต้ทันที.. ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันเป็นทะเลที่อยู่ใต้เมืองมายาใกล้ๆนั่นเอง เยื้องซ้ายนิดหน่อย.. เมื่อเรามาถึง จะเห็งฟองน้ำบุ๋งๆขึ้นมาที่ผิวน้ำหนึ่งหย่อม เป็นที่ผิดปกติ.. ดำลงไปสำรวจก็จะเจอรอยแยกใต้ทะเลอีกจุดครับ.. เมื่อเข้าไปสำรวจ เราก็จะได้พบกับชิ้นคริสตัลอีกสามชิ้น มอบอาชีพให้เราอีก 3 อาชีพ 1.กราดิเอเตอร์(เจ้าสังเวียน) 2.นักยิงปืนใหญ่ 3.นักพยากรณ์ ก็ลองใช้งานดูครับ ว่าจ๊าบหรือไม่.. และจะมีคุณลุงคนหนึ่งวิ่งมาคุยด้วย แกบอกว่าแกเป็นพ่อค้าจร คอยมองหาแกตามเมืองต่างๆให้ดี ซื้อของดีๆกับแกได้ ประมาณนั้นครับ..

ฟองอากาศบุ๋งๆตรงนี้สินะ
เจอแล้ว!.. ผลึกศิลามอบอาชีพใหม่..

ต่อไปเราจะไปเอาอีกอาชีพสุดจ๊าบ(ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด)ที่หอคอย “วอลสุ” ที่จมน้ำลงไปซะแล้วนั่นเอง.. ดำลงไปใต้น้ำครับ เปิดแมพใต้น้ำแล้วไล่ดู จะมีจุดหนึ่งที่เป็นหอคอยวอลสุ.. ดิ่งไปเลยครับ เอาเรือเข้าไปเลย.. เมื่อเข้ามาในหอคอย เราต้องกลั้นหายใจเพื่อดำน้ำลงไปจนถึงชั้นล่างสุด ซึ่งกลั้นได้แค่ 7 นาทีเท่านั้น.. บริหารเวลาให้ดี.. กลางทางจะมีกล่องสมบัติที่มีอากาศอยู่ ไปดมกันได้ จะได้เวลาเพิ่มจนเต็มอีกครั้ง..

ภาระกิจกลั้นหายใจก็มา

เมื่อลงไปถึงชั้นล่างสุด เราจะได้พบกับคริสตัลอีกหนึ่งชิ้น แต่ยังไม่ทันที่จะหยิบ เราจะถูกโจมตีด้วย “โกโก้” ยอดนักเลียนแบบนั่นเอง.. อย่าโจมตีหรือใช้เวทย์กับเค้า เพราะหมอนี่มีเวทย์เมเทโอ แถมยิงซ้ำได้ด้วย.. ให้ตั้งการ์ดและนั่งกินขนมอย่างเดียว.. ซักพักโกโก้ก็จะเบื่อและถอยไปเอง.. เราก็จะได้อาชีพ “นักเลียนแบบ” มาครอบครองในที่สุด.. ความจ๊าบอันดับแรกของอาชีพนี้คือ สามารถติดตั้งสกิลได้ถึง3ช่อง.. แค่คิดก็สนุกละ อิอิ…..

“โกโก้” ยอดนักเลียนแบบ

ออกมาจากหอคอยวอลสุ.. แล้วไปเปลี่ยนยานพาหนะเป็นเจ้าแบล็คโจโคโบะ บินขึ้นเหนือไปจอดที่ป่าที่เราเคยจอดเพื่อเดินไปหอคอยฟินิกซ์.. แต่รอบนี้เราจะไม่ลงใต้ เราจะขึ้นเหนือเพื่อไปล่ามังกร “บาฮามุต” กัน.. ขึ้นเหนือและเลี้ยวขวานิดหน่อย เราจะได้พบกับ “นอร์ทเมาท์เท่น” ที่เราเคยมาช่วยมังกรของเลนน่า.. เข้าไปในหุบเขา ขึ้นไปบนยอดสุด เราก็จะได้พบกับยอดมังกร “บาฮามุต” สมใจ.. มาทรงเดียวกับลิเวียธาร์น คืออยากมอบพลังให้เรา แต่เราต้องชนะเค้าให้ได้ก่อน.. จัดไปตามสมควรครับ.. เมื่อเอาชนะได้ เราก็จะได้ “มนตร์อสูรบาฮามุต” มาครอบครอง..

ต่อไปเราจะไปหามนตร์อสูรที่มีความหมายกับฟาริสมากๆที่ถ้ำโจรสลัดกัน.. ขึ้นเรือเหาะแล้วดิ่งไปที่ถ้ำโจรสลัดที่เราได้เจอฟาริสคครั้งแรกนั่นเอง อยู่ทางทิศตะวันตกของหลุมมิติไทคูนที่เราคุ้นเคย.. ก็เข้าไปในถ้ำแล้วเดินให้ถึงซ่องโจรสลัดของฟาริส.. เมื่อเข้าไปในเขตโจรสลัด ฟาริสจะรีบวิ่งไปที่ขอบบ่อน้ำด้วยความดีใจ เพราะเธอมองเห็นซิลดร้าน้องรักของเธออยู่ในน้ำ แต่ทุกคนจะไม่เห็นยกเว้นคูรูรูอีกหนึ่งคน.. นั่นก็เพราะ ซิลดร้าอยู่ในรูปของวิญญาณแล้วนั่นเอง.. คูรูรูจะสื่อสารกับซิลดร้าแล้วบอกว่าซิลดร้าอยากช่วยเราสู้ ซิลดร้าอยากเป็นมนตร์อสูรให้เรา.. ดังนั้นเอง เราจึงได้ “มนตร์อสูรซิลดร้า” มาครอบครอง ซึ่งเป็นกำลังใจให้โจรสลัดสาวฟาริสได้อย่างดี….

*** มาถึงจุดนี้ ถือเป็นโค้งเกือบสุดท้ายของเกม Final Fantasy 5 แล้วนะครับ.. ขอแนะนำให้ไปซนให้ทั่วทั้งโลกซะตอนนี้เลย เก็บมนตร์อสูรและเวทย์ให้ครบตามอัธยาศัย(มีอีกหลายมนตร์อยู่ครับ เดี๋ยวจะมาเพิ่มรายละเอียดทีหลัง มนตร์ไหนโบ๋อยู่ ก็หมายฟามว่า ยังเก็บไม่ครบครับ).. ตรงไหนค้างคาใจ ตรงไหนที่ดูแล้วน่าจะมีอะไร ไปผจญภัยให้ทั่วเลยครับ.. อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะให้ทำก่อนที่จะวาร์ปไปต่างมิติ คือ “สร้างนักรบมหาปลัย” ที่สามารถฟันได้ 8 ที ซักหนึ่งคน.. แล้วอะไรก็จะง่ายขึ้นครับ.. วิธีก็คือ เป็นมาสเตอร์อาชีพ “นินจา” เพื่อให้ใช้ดาบสองอันได้ และ เป็นมาสเตอร์อาชีพ “นักธนู” (เรนเจอร์หรือนายพราน) เพื่อให้ได้อบิลีตี้ “ยิงรัว” ซึ่งจะทำให้เราสามารถโจมตีสี่ครั้งต่อหนึ่งอาวุธได้ครับ(รวมแล้ว8ครั้ง).. เสร็จแล้วก็ติดตั้งสกิลทั้งสองให้กับเราในอาชีพ “ฟรีแลนซ์” หรือ “นักเลียนแบบ” ก็ได้ครับ.. ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ ข้อดีคือสามารถถืออาวุธโหดแค่ไหนก็ได้ เช่น “ดาบเเร็กน่าร็อค+ดาบมาซามุเนะ”.. แต่ถ้าเป็นนักเลียนแบบ ข้อดีคือจะสามารถเพิ่มอีกหนึ่งสกิลคือ “อัดเวทย์ลงดาบ” ได้อีก(ใส่ได้ถึง3สกิล).. มอนส์ที่จะสู้แพ้เวทย์อะไรก็ จัดให้เค้าไป ก็จะได้ดาเมจโหดๆอีกแบบ แต่ข้อเสียคือใช้ดาบหนักไม่ได้ ใช้ดาบซามูไรไม่ได้ ใช้ได้แค่ดาบขนาดกลางและเล็กเท่านั้น และที่แย่ที่สุดคือ ไม่สามารถใช้คำสั่ง “ไอเท็ม” ตอนต่อสู้ได้.. สำหรับสายเวทย์ก็ เป็นมาสเตอร์ “นักเวทย์แดง” ด้วยก็ดี.. เพราะสกิลสูงสุดคือ ยิงเวทย์ได้สองครั้งติดกัน(ดับเบิ้ล)…..

และสิ่งที่อยากจะดอกจันทร์เอาไว้ตัวใหญ่ๆก่อนที่จะปักหลักฟาร์ม Exp และ ABP หลังจากนี้ก็คือ.. กรุณาเรียนสกิล “เพิ่ม Exp 50%” จากอาชีพ “นักปืนใหญ่” และสกิล “เพิ่ม ABP 50%” จากอาชีพ “นักพยากรณ์” ให้สำเร็จก่อน.. จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังว่า รู้งี้ติดตั้งสกิลนี้ก่อนฟาร์มก็ดี จะได้เร็วกว่านี้ อะไรทำนองนั้นครับ…..

เตรียมตัวให้พร้อมที่สุดของที่สุดของที่สุดอีกครั้งครับ.. ช่วงสำคัญแล้ว.. เงินเยอะแล้ว ซื้อไอเท็มยาสำคัญๆให้เต็ม 99 ชิ้นให้หมดเลยยิ่งดี จะได้อุ่นใจครับ….. พร้อมแล้วออกเดินทางสู่ “หลุมดำแห่งปราสาทไทคูน” ได้เลยครับ.. บินไปอยู่เหนือหลุมดำนั้น เราก็จะถูกดูดข้ามมิติอย่างน่าหวาดเสียวและอลังการเลยทีเดียว..

พอข้ามมิติมา.. เรือเหาะของเราจะจอดสงบนิ่งไม่ไหวติง.. เดินลงจากเรือเหาะครับ.. โซนแรกที่เราจะได้พบคือโซนรอยแยกมิติ “ทะเลทราย” พยายามเดินมาทางขวาเรื่อยๆครับ ลักษณะจะคล้ายๆทะเลทรายสายน้ำที่เราเคยผจญภัย.. เมื่อสุดทางจะได้พบกับประตูทางเข้าหนึ่งประตู.. ก่อนเข้า จะมีเหล่าปีศาจร้ายลูกสมุนของเอ็กซ์เดธมายืนเรียงแถวข่มขวัญเรา.. ไม่ต้องสนใจมัน เพราะเดี๋ยวมันต้องโดนเราตื้บเรียงตัวอยู่แล้ว อิอิ.. เข้าไปเลยครับ…..

โซนต่อมาจะเป็นโซน “กลไก” ครับ.. จะมีเครื่องจักร มีกลไก ดึงโซ่ขึ้นลงไปมา.. เราก็ไปตามทางเรื่อยๆครับ มีโหนโซ่ด้วยอะไรด้วย.. อย่าลืมสำรวจและเก็บสมบัติไปเรื่อยๆครับ.. สุดท้ายเราจะไปโผล่ในห้องหนึ่งที่โซน “หมู่บ้านมายา” ที่หยุดนิ่งในที่สุด..

ออกมาจากห้อง แล้วหาทางออกมาเรื่อยๆ.. จะเจอไหฮีลด้วยหนึ่งไห อย่าพลาดที่จะเสพย์ครับ HP/MP เต็ม.. เดินลัดเลาะหลังบ้านหน้าบ้านมาเรื่อยๆ เราคุยกับใครเค้าก็จะไม่ตอบ เพราะเหมือนเวลาถูกหยุด.. จนสามารถออกจากหมู่บ้านได้ เราก็จะเข้าสู่โซน “ป่าพิศวง”..

ในโซนป่าพิศวงนี้จะมีเส้นทางวกวนชวนมึนนิดหน่อย แต่ก็ไม่เกินมือครับ.. เดินสำรวจให้ทั่ว เก็บสมบัติให้หมด.. เดินตีโค้งขึ้นบน และลงมาขวาล่าง.. ที่ต้นไม้ขวาล่างสุด เราจะได้พบกับประกายแว้บวับที่ต้นไม้ เมื่อเราไปสำรวจจะเกิดโพรงไม้ใหญ่ให้เราไปต่อได้.. แต่เราจะเจอปิศาจสาว “ฟาโลฟิสเทรี่” ขวางทางอยู่.. เธอมาฆ่าเรา.. แต่เราอย่าให้เธอฆ่า เราต้องกระทืบเธอแทน 😂.. จัดการซะ ไม่ยากเท่าไหร่.. แล้วเดินทางต่อ..

หลีกไปน้องสาว

เมื่อทะลุโซนป่า จะไปโผล่โซน “น้ำตก” นั่นเอง.. ไม่ซับซ้อนครับ สบายๆ.. แต่มันจะพีคตรงที่ เราจะได้พบกับพี่จักรกล “โอเมก้า” มหาปลัยเดินไปเดินมาอยู่กลางทาง(เซฟก่อนซะให้เรียบร้อยที่ห้องเซฟ).. ถ้ามีบทเพลง “โรมิโอบัลลาร์ด” ติดตัวมาด้วย ก็สามารถเข้าบวกได้ครับ.. แต่ถ้าไม่มีมาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม แนะนำให้เดินเลี่ยงดีกว่าครับ.. เพราะโอเมก้าจะโจมตีต่อเนื่องและรุนแรงมากๆ.. โอกาสชนะยากมากๆถ้าไม่มีบทเพลงนี้หยุดมัน.. วิธีปราบคือ ให้ส่วมใส่ “โล่ไฟ” หรือ “แหวนไฟ” เพื่อไม่ให้ตายตอนมันโจมตี.. ให้เพื่อนที่เป็นกวีหรือร้องเพลงได้ ร้องเพลงโรมิโอบัลลาร์ดเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของมัน และให้เพื่อนที่ฟันแปดทีได้ฟันมัน ให้เพื่อนที่ใช้เวทย์เบิ้ลได้ยิงมัน หาจังหวะชุบชีวิตและชำระอาการผิดปกติต่างๆในตอนที่มันหยุดนิ่ง สลับกับโจมตีไปเรื่อยๆ.. ก็จะสามารถชนะได้ครับ.. แต่เหนื่อยครับ บอกเลย.. ยิ่งไม่มีเพลงนี้ ไม่ต้องสืบ.. 😂

เมื่อผ่านโอเมก้ามา.. เราก็จะได้พบกับ “ห้องสมุดข้ามมิติ” เล็กๆห้องหนึ่ง.. เราจะได้ปะทะกับปีศาจ “อพันด้า” เมื่อเปิดหนังสือ.. เอาชนะแล้วสำรวจให้ทั่วห้อง.. สรุปคือ หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะคือ “สวิทช์ข้ามมิติ” เพื่อไปอีกโซนนั่นเอง.. เปิดหนังสือแล้วออกมาจากห้องที่ประตูเดิมจะข้ามไปพื้นที่โซน “เส้นทางลอยฟ้าล่องหน” (ถ้าจะกลับไปโซนน้ำตกก็ปิดหนังสือ)..

เมื่อเข้ามาในโซน “เส้นทางลอยฟ้าช่องหน” แนะนำให้มีเพื่อนอาชีพโจรหนึ่งคน หรืออาชีพฟรีแลนซ์แต่เป็นมาสเตอร์อาชีพโจรไปแล้วหนึ่งคน.. เราจะสามารถเห็นเส้นทางที่ซ่อนอยู่แต่ล่องหนได้.. ก็จะเดินสบายสะดวกขึ้นครับ.. เดินไปเรื่อยๆจนสุดทางก็จะเจอกับประตูเพื่อเข้าสู่โซน “ปราสาท”

โซน “ปราสาท” นี่คือโซนเก็บ Exp ที่ยอดเยี่ยมที่สุดโซนสุดท้ายนะครับ.. เดินสำรวจเก็บสมบัติให้ทั่วจนเจอ “คุก” ในคุกนี่มอนสเตอร์ล้วนๆ แม้แต่ตัวที่หน้าตาเหมือนพ่อเฒ่าคนดีก็เป็นมอนสเตอร์.. กระทืบให้หมด เอาให้ยับทั้งคุก 😂..

เจ้าตัวซ้ายล่างที่แต่งตัวเหมือนจอมเวทย์มารชื่อ “อาซุลมาเกีย” ปราบมันได้ “จุดเซฟ” จะปรากฏ.. เจ้าตาเดียว “คาทัสโตรฟี่” จัดการซะ.. เมื่อปราบหมดแล้วก็เซฟนิดนึงแล้วเดินทางต่อ.. ขึ้นไปถึงห้องบัลลังก์พระราชา จะได้ปะทะกับ “ฮาลิคานาสซัส”.. ตบให้ลงครับ..

เดินขึ้นมาบนดาดฟ้า.. เดินขึ้นไปด้านบน จะมีบันไดยาวเกิดขึ้นเพื่อเชื่อมไปยังจุดวาร์ป.. แต่เราจะถูกขวางทางด้วยปีศาจ “ทวินทาเนีย”.. มันบอกว่านี่เป็นด่านสุดท้ายแล้ว มันยอมให้เราผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด.. มันร้ายกาจใช้ได้อยู่ สู้อย่างระมัดระวัง ตายได้อยู่นะถ้าไม่ระวัง.. เมื่อเอาชนะมันได้ เดินไปจนสุดบันไดยาว เราจะได้พบกับ “จุดวาร์ป” เพื่อเข้าไปสู่ “มิติมืด” โซนสุดท้ายที่จะได้บวกกับเอ็กซเดธนั่นเอง…..

*** ในโซนสุดท้าย “มิติมืด” นี้.. จะมีมอนสเตอร์ที่จ่ายแค่ค่า ABP เท่านั้นนะครับ(เยอะมากๆด้วย).. แต่ไม่มีค่า Exp นะครับ ฟาร์มอาชีพได้อย่างเดียวแบบรัวๆ ตัวที่ให้เยอะที่สุดคือมอนสเตอร์ที่ชื่อ “มูฟเวอร์” ที่จ่ายถึง 199 ABP.. ฟังไม่ผิดครับ หวานๆเลย 199 ABP ถ้าใส่ความสามารถ “เพิ่ม ABP 50%” ของอาชีพ “นักพยากรณ์”ด้วย จะได้ถึง 300 ABP เลยทีเดียว.. เอาให้หนำใจครับ อาชีพในฝันต่างๆ.. สำหรับมอนสเตอร์ “คิงเบฮิมอท” สายโหด ถ้าเราไม่ตีเค้าเค้าก็ไม่กัดเรานะครับ.. ถ้าคิดว่าเอาอยู่ ก็ตีได้ แต่ถ้าคิดว่าเอาไม่อยู่ ตีตัวอื่นก่อนดีกว่า ก็ให้เลือก “หนี” ได้เลย เค้าปล่อยง่ายๆนะ.. ถือเป็นมอนสเตอร์ที่เป็นสุภาพบุรุษมากๆเลย แต่ถ้าเราตีเค้าเค้าเอาคืนทุกดอกนะ 😂..

อีกเรื่องนึงคือ จะมีกล่องสมบัติกล่องหนึ่งที่มี “ดาบเเร็กน่าร็อค” อยู่.. ซึ่งเป็นสุดยอดดาบที่ฟันมอนสเตอร์ได้ทุกธาตุ(ในขณะที่เอ็กซ์คาลิเบอร์จะเพิ่มพลังให้มอนสเตอร์บางตัวบางธาตุ).. แต่ก็จะมีมังกรโคตรโหด “ชินริว” เฝ้าอยู่.. บอกตรงนี้เลยว่า โหดยิ่งกว่าเอ็กซเดธอีก บ้าบอ 😂.. วิธีปราบคือ ให้ใส่ “แหวนปะการัง” เพื่อดูดซับท่าน้ำ(ถ้าไม่ใส่จะตายตั้งแต่ท่าแรกเลย “คลื่นยักษ์” ดาเมจ -9999 จริงๆ.. ใส่โล่น้ำแข็ง.. ห้ามใช้ดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์(เพราะจะไปเพิ่มพลังให้มัน).. ให้มีสายฟันโหด 8 ทีหนึ่งคนหรือสองคน มีสายยิงเวทย์เบิ้ลได้สองคนหรือสามคนก็ได้.. ประมาณนั้นครับ.. ฮีลให้ทันฟันให้แรง ไปเรื่อยๆครับ.. บอกเลยว่าโหดครับ….. เมื่อเอาชนะได้ ก็จะได้ดาบในตำนาน “แร็กน่าร็อค” มาครอบครองครับ.. ดีมากๆเลย..

โหดจัดๆ “ชินริว” คุง

เมื่อเข้ามาในมิติมืดโซนแรก เราจะได้พบเจ้า “กิลกาเมซ” ที่ถูกเอ็กซ์เดธเนรเทศมายืนอยู่.. มันจะดีใจมากๆที่ได้เจอเรา(เพราะมันเกลียดที่นี่มากๆ).. มันจะถามหาทางออกกับเรา แล้วอวยพรให้เราชนะและปลอดภัย และถ้าได้เจอกันอีกก็คงจะได้เป็นเพื่อนกันนะ(ซะงั้น).. คงเกลียดที่นี่มากจริงๆ.. ให้เราเดินสำรวจและเก็บของให้ทั่วไปเรื่อยๆครับ.. มอนสเตอร์ก็เอาเรื่องอยู่ แต่ถ้ามีคนฟัน 8 ทีได้ก็ไม่เท่าไหร่ครับ เลือกเครื่องประดับและเสื้อผ้าให้ดีจะได้ไม่ถูกเจ้านักเวทย์ปลาหมึกยึดตรึงไว้และดูดพลังไปเรื่อยๆ..

เจ้าเบื๊อกกิลกาเมซนี่นา
ตัวแสบอีกตัวทีเดียว

เก็บทั้ง Exp และ ABP ให้จนฉ่ำจิตแล้ว.. ก็เดินไปต่อจากหีบสมบัติที่ได้ดาบแร็กน่าร็อคมานั่นแหละ.. ก็จะได้พบกับปีศาจ “เนโครโพรบ” เอาชนะได้จะปรากฏจุดเซฟ ก็เซฟซะหน่อยครับ กันเหนียว.. ไปต่อก็จะเจอเจ้าตัวแสบ “ เอ็กซเดธ” ยืนหันหลังอยู่บนบันไดสูงยาวนั่นเอง….. เมื่อเราพร้อมแล้วก็สามารถเดินเอาไม้ไปแหย่ตูดมันได้เลย.. มันจะสะดุ้ง กรี๊ด และหันกลับมาตบเรา(อร๊าย! คนบร้า! คนผีทะเล!).. มันจะแพล่มว่าสายไปแล้ว พลังเดอะวอยด์เป็นของมันแล้ว.. มันจะใช้พลังเดอะวอยด์โจมตีและดูดหลายที่บนโลก เพื่อนๆเรา ผู้คนชาวบ้าน.. และสุดท้ายมันจะใช้พลังเดอะวอยด์โจมตีเรา แต่ในขณะนั้นเอง พ่อของเรา, กาลัฟ, เคลเกอร์, และเซซัต กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซในตำนานที่อยู่ในรูปของวิญญาณที่ไม่ธรรมดา จะมาขัดขวางและให้กำลังใจเรา.. พวกเค้าจะจัดการกับพลังเดอะวอยด์และให้เราสู้กับเอ็กซเดธอย่างเต็มที่.. พวกเราคือ “นักรบแห่งแสง” ที่ทุกคนฝากความหวังไว้.. หรือกลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซแห่งวันนี้นั่นเอง(ทุ้ย.. ยังจะเลี้ยวมา..😂)..

เอ็กซ์เดธที่กลายร่างเป็นต้นไม้ปีศาจจะเข้าโจมตีเรา!!.. และนี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเราแล้วครับ.. จัดทุกอย่างที่เรามีให้เค้ารับประทาน..

ได้สู้กันซักทีนะเจ้า “เอ็กซ์เดธ” !!!

เมื่อเราเอาชนะร่างแรกได้แล้ว.. เอ็กซ์เดธจะถูกพลังของเดอะวอยด์กลืนกิน และเปลี่ยนร่างเป็น “นีโอเอ็กซ์เดธ” ที่มีร่างที่อัปลักษณ์และอลังการมากขึ้นไปอีก….. เอาให้ลงครับ.. ใส่ให้ยับ..

เข้ามาเล้ยยย!!!

เมื่อเราปราบมันได้ในที่สุด.. ทุกอย่างเหมือนจะกลับสู่ความว่างเปล่า.. พวกเราล่องลอยเหมือนจะอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย.. เหมือนต้องลุ้นว่าเราจะรอดหรือไม่….. สุดท้ายก็เป็นคุณพ่อรุ่นใหญ่ในตำนาน ที่มาโอบอุ้มพวกเราอีกครั้ง.. คุณพ่อของบัซ, พระราชาไทคูนคุณพ่อของฟาริสและเลนน่า, กาลัฟ, เคลเกอร์, เซซัต, จะเรียกสติเราและบอกให้เรากลับไปอยู่และปกป้องโลกที่เราได้ช่วยเหลือไว้ในครั้งนี้..

พวกเราทุกคนจะกลับมาที่โลก.. ความสงบสุขจะคืนกลับมายังโลกนี้อีกครั้ง.. ทุกคนมีความสุขมากมาย โดยเฉพาะมหาอุปราชแห่งไทคูนที่ได้องค์หญิงกลับมาถึงสองคน(แม้ฟาริสจะแอบปีนหน้าต่างหนีกลับไปที่ถ้ำโจรสลัดบ่อยๆก็ตาม)..

โบโกะกลายเป็นคุณพ่อลูกสาม.. บัทซ์กลับไปที่บ้านเกิดอีกครั้ง.. คูรูรูแอบไปไหว้คุณปู่กาลัฟตัวคนเดียว แต่ก็ได้พี่ๆทุกคนแอบย่องตามไปให้กำลังใจด้วย.. ความอบอุ่นกลมเกลียวไม่หายไปไหน ทุกคนเป็นตัวแทนของกาลัฟ รักกันและเป็นหนึ่งเดียวกัน.. แว๊นซ์โจโคโบะและมังกรในทุ่งกว้าง มีความสุขและอบอุ่นหัวใจกันถ้วนหน้า.. ชั่วกาลนานเธอญ….. 🙂

********* จบบริบูรณ์ *********

ขอได้รับความขอบคุณจากซีวีดีอินเตอร์เนชัลแนลมา ณ โอกาสนี้(อีกละ).. ขอขอบคุณแฟนเกมที่อุตส่าห์รออ่านจนหยดสุดท้ายจริงๆครับ.. เนื่องจากผู้เขียนโทรศัพท์ที่ใช้เก็บข้อมูลและภาพประกอบพังด้วย เนื่องจากงานยุ่งมากๆด้วย ก็เลยกลายเป็นนานไปหน่อยเลยครับภาค 5 นี้.. ต้องขออภัยจริงๆครับ.. ยังไงก็ตาม ขอบพระคุณมากมายอีกครั้งครับที่ติดตาม.. เช่นเคยครับ สามารถสนับสนุนเว็บไซต์ให้อยู่ไปนานๆ หรือมีรายได้มากพอที่แอดมินจะออกจากงานอื่นๆทั้งหมดมาพิมพ์งานลงเว็บอย่างเดียวได้ โดยการซื้อของผ่านลิ้งค์หรือป้ายโฆษณาต่างๆในเว็บได้ทั้งหมดนะครับ หรือซื้อของที่ช้อปปี้ผ่านลิ้งค์นี้ครับ >>> สนับสนุนเว็บ <<< ….. ขอบคุณคร้าบโพ้มม.. พบกันใหม่ที่เกม Chrono Trigger นะครับ.. สวัสดีคร้าบบ.. 🙂

แผนที่ Final Fantasy 5

บทสรุป FF5 แบบวิดีโอต้นจนจบ

Final Fantasy 5, FinalFantasy5, บทสรุป Final Fantasy 5, บทสรุป FinalFantasy5, บทสรุป ไฟนอลแฟนตาซีภาค 5, บทสรุป ไฟนอลแฟนตาซีภาค5, บทสรุป finalfantasy 5, บทสรุป finalfantasy5, ไฟนอลแฟนตาซีภาค 5, ไฟนอลแฟนตาซีภาค5, บทสรุป-final-fantasy-5,


แชร์ลงโซเชียลมีเดีย
11 thoughts on “บทสรุป Final Fantasy 5 (ไฟนอลแฟนตาซีภาค 5)”
    1. ขอโทษทีคร้าบบ.. พอดีโทรศัพท์เครื่องที่ลงเกม FF5 ของแอดมินพังน่ะครับ.. ภาพและข้อมูลเกมอยู่ในนั้นหมดเลย.. กำลังเล่นใหม่ไล่ถึงแล้วครับ แต่ภาพประกอบคงต้องเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่น HD Remake แทนแบบต้นฉบับนิดนึงนะครับ.. ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยครับผ้ม..

        1. ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่รออ่าน.. แอดฯงานหลักยุ่งมากเลยครับช่วงนี้ กลับบ้านดึกมากๆ กลับมาก็สลบเกือบทุกวันเลยครับ แย่มากๆเลย.. กำลังหาลู่ทางเปลี่ยนงานเพื่อจะได้อยู่หน้าคอมฯทั้งวัน จะได้เขียนบทความลงเว็บได้เต็มที่ซักทีอยู่นะครับ.. ต้องขอโทษแฟนๆเกมทุกๆคนจริงๆครับ….. เดี๋ยวจะเร่งให้เสร็จเร็วๆนี้เลยครับ.. จบ FF5 มีโครโน่ทริคเกอร์ต่อนะครับ.. ขอบคุณมากเลยครับที่รอติดตามครับ….. ขออภัยในความดองงานด้วยครับ…..

  1. ขอบคุณมาก ๆ ครับ เติมเต็มความฝันตอนเด็ก ๆ
    ผมซื้อจากกูเกิลเพลย์ เวอร์ชั่น รี พิคเซล
    หาสามอาชีพสุดท้ายไม่เจอ เศร้าเลย มันไม่มีฟองน้ำผุดขึ้นกลางทะเลครับ ( แต่ได้โกโก้อยู่ครับ )
    อ่านบทสรุปไปขำไปครับ 🤣
    เป็นกำลังใจให้ครับ ❤️

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: ชอบบทความ กรุณาส่งลิงก์มาที่นี่แทนนะครับ อย่าก็อปปี้บทความไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด..