แชร์ลงโซเชียลมีเดีย

พร้อมบุกปราสาทจอมมารกันรึยังพวกเรา!!!

เกริ่นนำ.

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ.. เป็นที่สุดของที่สุดของที่สุดของความคลาสสิค ของสาย RPG.. สุดในทุกๆด้าน ทั้งภาพที่สวยสดใสระดับ 10 คะแนนเต็ม.. กราฟิกในทุกๆส่วน สวยหยดแบบที่สุดของเครื่อง Super Famicom จะรังสรรค์ออกมาได้.. เสียงดนตรีที่ไพเราะนุ่มละมุน ประดุจเสียงพิณจากสวรรค์.. ลายเส้นตัวละครและมอนสเตอร์จาก อ.โทริยามะ อากิระ สุดหล่อ ที่วาดอะไรก็ดูเท่ห์ดูน่ารักน่าเล่นน่าอ่านไปหมด.. เนื้อเรื่องยาวเหยียดให้เล่นกันจนเต็มอิ่ม.. ระบบแทคติคอัตโนมัติของเพื่อนร่วมทีม ระบบอาชีพที่ซับซ้อนหลากหลายมากขึ้น.. เป็นยอดเกมคลาสสิคอีกหนึ่งเกมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง.. ครับ… 👍

คำเตือน999

บทสรุป.

เริ่มต้นเกมส์.. เราจะตั้งแคมป์กองไฟอยู่ในป่ากับเพื่อนๆใกล้กับปราสาทของจอมปีศาจ “มุโด้”.. ไม่นานนัก เพื่อนชายร่างใหญ่ของเราจะกลับมาจากการลาดตระเวณ เค้าบอกว่าทุกอย่างโอเค ทางสะดวก พร้อมบุก.. ให้เราดับกองไฟให้เรียบร้อยแล้วตามเพื่อนๆไปทันที.. คุยกับเพื่อนๆอีกครั้ง.. เพื่อนสาวผมทองของเราเธอจะหยิบขลุ่ยขึ้นมาเป่าเพื่อเรียกมังกรสีทอง พาหนะสุดจ๊าบของเราที่จะใช้บุกเข้าโจมตีปราสาทจอมมารในวันนี้..

เมื่อเข้ามาในปราสาทได้ ให้เราเดินนำเพื่อนๆไปซีกซ้ายบนของปราสาททันที.. เดินตามทางไปเรื่อยๆจนถึงห้องบนสุด.. เราจะเจอกับห้องของจอมปีศาจมุโด้.. เราพร้อม เพื่อนๆพร้อม บุกเข้าไปทันที.. แต่เราจะไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย.. มันจะใช้เวทมนตร์ยกเราทุกคนขึ้นเหนือพื้นดิน ทำให้เราหมุนติ้วๆๆ ทำอะไรไม่ได้.. จากนั้นมันจะเสกให้เรากลายเป็นหิน และทำให้ร่างเราระเบิดที่ละคนๆ.. ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง!….. อ้ากกก!!!..

เราจะค่อยๆสะดุ้งตื่นขึ้น(ที่เมืองไลฟ์ค็อต) เมื่อน้องสาวเรามาเรียก.. ให้ตายเถอะ เมื่อกี๊แค่ฝันไปอย่างนั้นเหรอ เหมือนจริงสุดๆเลยนะ.. เธอบอกว่า เธอไปเจอผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านอยากพบกับเราอยากคุยกับเรา.. ออกจากบ้านแล้วไปหาผู้ใหญ่บ้าน (สามารถเซฟเกมส์ได้ที่โบสถ์).. เราจะได้รับมิชชั่นให้ไปหาซื้อมงกุฏเพื่อนำกลับมาประกอบพิธีสำคัญที่หมู่บ้านของเรา.. และเราจะได้ถุงสำหรับเก็บของเพื่อฝากของไปขายมาด้วย(สินค้าโอท็อปของหมู่บ้านเรา พ่อผู้ใหญ่ฝากไปขาย).. ซื้อของให้เรียบร้อย ออกจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้ เมื่อออกจากเขตภูเขาได้ให้ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะพบเมือง “เชียน่า” เมืองนี้จะมีร้านค้าอยู่มากมาย(เป็นเมืองแห่งการค้าขาย เป็นตลาดนัดเปิดท้าย) มีร้านที่ขายแผนที่อยู่ ซึ่งเราสามารถต่อราคาจากราคาเต็ม 2,000G ให้เหลือ 200G ได้.. และทางมุมขวาล่างสุดของเมือง มีพ่อค้าร่างใหญ่แอบเปิดโต๊ะขายไอเท็มพิเศษอยู่ เราสามารถหาซื้อกุญแจผีจากเค้าได้ในราคา 470G ให้ซื้อติดตัวไว้(ถ้ามีเงินพอ แต่ถ้าเงินไม่พอ ค่อยแวะมาซื้อทีหลังได้).. ของที่ผู้ใหญ่บ้านฝากให้มาขายเราสามารถนำไปขายให้กับร้านในเมืองนี้ได้ในราคาต่างๆกัน ดังนั้นให้เราเลือกร้านที่ให้ราคาดีที่สุด(อย่าลืมสำรวจตามถังตามตู้ให้ครบนะครับ เราจะได้ไอเท็มเพิ่มค่าพลังต่างๆเรื่อยๆ เครื่องป้องกันต่างๆด้วย จะได้ไม่เสียของครับ).. ไปทางขวาบนของเมือง จะพบกับบ้านของช่างทำมงกุฏ แต่เค้าจะไม่อยู่ เค้าหายจากบ้านไปสามวันแล้ว และคุณลูกสาวก็เป็นห่วงคุณพ่อมากๆ.. เราต้องไปช่วยตามหาเค้า…..

ขายร้านไหนดีนะ? ของในถุงนี่..

ออกจากเมืองเชียน่าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนิดๆ เราจะได้พบกับ “หลุมยักษ์” ให้เข้าไปสำรวจในนั้น เราจะพบกับช่างทำมงกุฏซึ่งกำลังจะหล่นไปในหลุมยักษ์ ให้เราเข้าไปช่วยเค้า แต่กลายเป็นว่าเราจะตกลงไปซะเอง.. และสุดท้ายเราก็ตกจนได้… เมื่อตกลงมาด้านล่างแล้ว ใกล้ๆกันจะพบกับเมือง “โทรุคก้า” ให้เราเข้าไปในเมือง แต่ตัวเราจะกลายเป็นมนุษย์ล่องหนซึ่งจะไม่มีใครมองเห็นเราได้เลย(แต่นอนพักในโรงแรมได้นะ).. อย่าลืมคุยกับเด็กๆที่ขวาล่างของหมู่บ้าน แล้วลงไปสำรวจในบ่อน้ำ จะมีคนอยู่ในบ่อน้ำด้วย.. สำรวจตามตู้จะได้เม็ดเพิ่มค่าพลัง อย่าพลาด.. ออกจากหมู่บ้านไปทางทิศเหนือเราจะพบกระท่อมเล็กๆอยู่ เข้าไปจะพบบ่อน้ำที่จะนำเราสู่ไปโลกด้านบนได้.. เมื่อกลับมาได้แล้วให้ไปยังเมือง “เชียน่า” อีกครั้ง.. ไปที่บ้านของช่างทำมงกุฏขวาบน.. เค้าจะดีใจมากที่เห็นเรายังปลอดภัย และจะให้ “มงกุฏวิญญาณ” ที่เพิ่งทำเสร็จเป็นการตอบแทนแก่เราฟรีๆเลย…..

กลับไปยังหมู่บ้าน “ไลฟ์คอต” ของเรา.. เราจะมาถึงตอนช่วงโพล้เพล้ย่ำค่ำพอดี ผู้ใหญ่บ้านจะรอเราอยู่แล้ว แกจะรีบเดินมาหาเราเลย แกจะดีใจและชื่นชมเราแบบสุดๆ นำมงกุฏมอบให้ผู้ใหญ่บ้านแล้วกลับบ้านของเราไปนอนพักผ่อนซักครู่.. ตอนกลางคืนเมื่อถึงเวลาเริ่มงานพิธีบวงสรวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกปักขุนเขาและหมู่บ้าน จะมีคนมาเรียกเรา.. “ทาเนีย” น้องสาวของเราจะได้รับหน้าที่เป็นร่างทรงอยู่ในพิธีศักดิ์สิทธินี้ด้วย เมื่อพิธีเริ่ม บาทหลวงร่ายคาถา.. วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ปรากฏออกมา พุ่งเป้ามาที่เรา และบอกให้เรารับรู้ถึงชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ที่เราต้องเผชิญ เกี่ยวกับความมืดที่จะครอบงำโลก เรามีพลังที่จะช่วยทุกคนได้.. จากนั้นจะเป็นงานฉลอง จุดพลุปุ้งๆปั้งๆสวยงาม ชาวบ้านเต้นรอบกองไฟบ้าง นอนดูพลุบ้าง กินเหล้าบ้าง อย่างชื่นมื่น.. ให้คุยกับทุกคน เราจะพบคนแอบดู “ทาเนีย” และ “ลันโด้” พูดคุยกันอยู่.. เค้าจะดึงเราไปฟังด้วย.. ดูเหมือนลันโด้จะขอแต่งงานกับทาเนียน้องเรา(เพิ่งจะ 17 กับ 16.. เด๋วตบฟ่ำ 😆).. แต่น้องสาวเราก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอปฏิเสธไปเพราะยังสับสนกับชีวิตตัวเองอยู่.. ลันโด้บ่นน้อยใจอยู่คนเดียว.. ไปหาผู้ใหญ่บ้าน แล้วเราจะได้รับจดหมายผ่านทางเข้าไปสู่ “ปราสาทเรด็อก” ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านตลาดนัดนั่นเอง.. ออกมาจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นกลับไปนอนที่บ้านของเรา รุ่งเช้าให้เราออกจากหมู่บ้าน จากนั้นมุ่งไปสู่ “ปราสาทเรด็อก” ทันที…..

เมื่อถึงเรด็อก.. เราจะสามารถเข้ามาในเมืองได้แล้ว รวบรวมข่าวสาร และสำรวจในเมืองให้ทั่ว.. เราจะได้ทราบว่าพระราชาเมืองนี้กำลังรวบรวมกำลังคนเพื่อต่อสู้กับจ้าวปีศาจมุโด้ พระองค์ยุ่งและไม่เคยได้พักผ่อนเพื่อดูแลประชาชนของพระองค์.. บนซ้ายของเมืองจะพบคุณป้าทำแหวนตกลงไปในบ่อน้ำ ให้เราอาสาลงไปเก็บมาให้เขา ซึ่งเราต้องปราบมอนสเตอร์ที่เฝ้าอยู่ด้วย อะไรหล่นลงไปมันจะฮุบเป็นของมันหมด.. เอาชนะได้แล้ว เก็บเอาแหวนมาคืนให้คุณป้า คุณป้าจะดีใจมากจะมอบของตอบแทนกลับมาให้เรา เป็นเมล็ดเพิ่มพลังความแข็งแรง สามารถกินได้เลย.. จากนั้นไปคุยกับคุณทหารที่เฝ้าทางเข้าปราสาทด้านบน.. เค้าจะถามเราว่าจะมาสมัครเป็นนักรบเพื่อไปปราบเจ้าปีศาจมุโด้ใช่หรือไม่? เราก็ตอบว่า “ใช่” ไป.. เค้าจะบอกว่าให้มารวมตัวกันที่นี่เมื่อเสียงกระดิ่งดัง.. จากนั้นให้เราไปที่โบสถ์จะพบกับ “ฮัตสัน” ที่มาขอพรพระเดินสวนออกไป.. ออกจากโบสถ์ เดินไปไม่ไกลเสียงระฆังจะดังขึ้น ให้เรากลับไปที่ปราสาทอีกครั้ง เข้าไปด้านใน จะพบกับ “แม่ทัพโซลดี้” ซึ่งกำลังประกาศรายละเอียดต่างๆ เหล่าผู้เข้าร่วมสมัครยืนฟังกันอึงคะนึงมี 😂.. จะมีการทดสอบกันที่หอคอยทางใต้ ให้ทุกคนไปเอาไอเท็มสำคัญบนชั้นบนสุดมา ใครเอามาได้เร็วที่สุด จะได้รับเลือกเป็นนักรบของเรด็อค..

พักผ่อนซื้อไอเท็มให้พร้อมแล้วให้เรามุ่งหน้าไปที่นั่น.. รอบนี้ทหารที่เฝ้าด้านหน้าจะเปิดทางให้เราเข้าหอคอยได้.. ***คำแนะนำที่สำคัญคือ เจอใครไม่ต้องไปคุยกับมัน โดยเฉพาะ “ฮัตสัน” ว่าที่เพื่อนของเรานี่แหละ.. ตอนเล่นรอบแรก ผู้เขียนคุยกับฮัตสัน ฮัตสันจะวิ่งนำหน้าเราไปก่อน แล้วเมื่อเราไปถึงชั้นบนสุด จะกลับกลายเป็นฮัตสันที่จะได้ไอเท็มไปแล้วได้รับเลือก.. ส่วนเราต้องเดินโง่ๆออกมาจากเมือง.. ตลกสิ้นดีเลย.. โมโหขั้นสุดจริงๆ.. ต้องโหลดเซฟใหม่เพื่อเล่นใหม่ เสียเวลามากๆ.. พร้อมกับคำถามที่อยู่ในใจว่าทีมงานจะทำแบบนี้ทำไม?.. แล้วจะสามารถเดินเรื่องต่อได้หรือไม่ หากเราไม่ได้รับเลือก..

ดังนั้น ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ไม่ต้องไปคุยกับฮัตสัน ปล่อยยืนอยู่แบบนั้นแหละ.. ระหว่างทางจะได้สู้กับทหารหนึ่งจุด, เจอห้องที่มีพื้นลูกศรเลื่อนที่ต้องมองให้ดี, เมื่อเจอห้องสามห้องเรียงกันและมีคนยืนอยู่หน้าห้องทั้งสามห้อง ให้ไปห้องขวาสุดก่อน คุยกับชายผมทองในห้องจะได้ “เหรียญทอง” มาครอบครอง สำรวจที่ตู้จะได้ไอเท็ม.. ห้องกลางเป็นกับดักไม่ต้องเข้า.. ไปห้องซ้ายเลย แล้วเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด ปราบบอสหน้าห้องให้ได้(อย่าลืมใช้เวทย์ลดพลังป้องกันศัตรูที่เรามีอัดใส่ซักสองที จะช่วยได้เยอะเลยครับ เราฟันได้ดาเมจเยอะขึ้นมาก).. เมื่อเอาชนะได้ เข้าไปในห้อง เปิดหีบและเก็บไอเท็ม “หลักฐานแห่งจิตใจไม่ย่อท้อ” มา..

กลับไปพบแม่ทัพโซลดี้ที่ปราสาทเรด็อกอีกครั้ง เราจะได้รับแต่งตั้งเป็นทหารแห่งเรด็อก… จากนั้นเมื่อเราเดินออกมานอกเมืองไม่ไกล “ฮัตสัน” จะวิ่งตามเรามาและขอร่วมเดินทางไปกับเราด้วย.. กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเราก็ได้ก่อตั้งขึ้นบัดนี้นั่นเอง 😂… ก่อนจะไปบู๊กันในเควสต์ต่อไป กลับเข้าไปในเมืองแล้วหาอาวุธชุดป้องกันชุดใหญ่ให้เพื่อนของเราใส่ให้เต็มพิกัด จะได้ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันเพิ่มขึ้นมากมายเลยครับ ห้ามละเลยเด็ดขาด..

เมื่อพร้อมสมบูรณ์ดีแล้ว ออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกของปราสาทเรด็อก(ลงใต้มานิดหน่อยแล้วข้ามสะพานไป).. จะพบเวิ้งทะเลทราย และป่าที่มีป้ายเตือนให้ระวังม้าโหดอยู่.. แสดงว่าเรามาถูกที่ละ.. เข้าไปในเวิ้งกลางป่าโลด.. เดินเข้าไปไม่ไกลก็จะได้พบกับม้าขาวขนคอแดงเป็นสง่ายืนกินหญ้าอยู่.. พอเราเข้าไปใกล้ มันจะตกใจแล้วเดินหนีอย่างเร็ว.. ให้เราตามมันไปเรื่อยๆ มันก็จะหนีไปเรื่อยๆ.. เรากับฮัตสันจะพูดคุยตกลงกันว่าจะแยกกันไปคนละทางเพื่อดักมัน.. ก็ตามมันไปเรื่อยๆจนมันไม่มีทางหนี.. สุดท้ายเราก็จะจับมันได้ในที่สุด(ง่ายกว่าที่คิดนะ.. ไหนว่ามันดุไง..).. แล้วจะได้เจ้าม้า “ฟาลชิอ้อน” เป็นพวก…

ให้เรากลับไปใน “ปราสาทเรด็อก” อีกครั้ง.. ทหารเฝ้าหน้าวังจะถามเราว่า “นายคงจะไม่ได้คิดเอาม้าเข้าไปในปราสาทหรอกนะ?” ให้เราตอบว่า “ไม่” (เพราะเราจะเอาเข้า).. เค้าจะตกใจนิดหน่อย แต่ก็จะเปิดให้เราเข้าพร้อมกับบอกว่าเราอย่าสร้างปัญหาล่ะ.. เดินไปหาคุณตาที่ยืนอยู่บนสนามหญ้ากลางปราสาทกับรถม้า.. คุณตาจะบอกว่าม้าสวยมากนะ ขอดูใกล้ๆหน่อยได้ไม๊?.. ก็ให้เราตอบ “ได้” ไป.. คุณตาก็จะเอาม้าไปใส่กับรถพ่วงนั่นเอง.. ในระหว่างนั้นแม่ทัพโซลดี้จะเดินเข้ามา เค้าจะปลื้มมากที่เราจัดการเรื่องม้าดุในป่าได้และแต่งตั้งให้ฮัตสันเป็นทหารอีกคน ฮัตสันเพื่อนของเราจะดีใจมาก แล้วโซลดี้จะพาเราเข้าเฝ้า “พระราชาแห่งเรด็อก”

เมื่อพูดคุยกับพระราชาเสร็จแล้วออกจากเมืองเรด็อก.. ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะพบด่านตรวจมีทหารเฝ้าอยู่สองนาย.. เราจะสามารถผ่านไปได้ ให้เดินทางต่อไปทางทิศตะวันออก จะเจอกับโบสถ์ซึ่งสามารถเซฟได้และนอนพักผ่อนได้ ใครอยากฟาร์มเวลก็ถือว่าสะดวกมากๆที่จะพักแถวนี้ครับ.. เดินทางต่อไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะได้พบกับกระท่อมเล็กๆกระท่อมหนึ่ง เข้าไปจะเจอตาลุงตัวเล็กๆแต่งตัวคล้ายชาวไวกิ้ง.. แกจะถามนู่นถามนี่ถึง 4 ครั้ง.. ให้ตอบไปตามนี้ 1.No 2.Yes 3.Yes 4.Yes.. เราจะถามข้อมูลเกี่ยวกับกระจกแห่งรากับแก แต่แกบอกว่า ให้เราช่วยสร้างกระท่อมให้ก่อน แล้วจะยอมตอบคำถาม.. ฮัตสันฉุนหัวฟัดหัวเหวี่ยงถามว่า “เห็นเราเป็นช่างไม้เหรอ?! เจ้าเฒ่าตัวเหม็น!! พวกเราเป็นนักรบแห่งเรด็อกเฟ้ย!!” แล้วฮัตสันก็จะเดินหงุดหงิดออกไปยืนหน้าบ้าน.. ส่วนเรายินดีจะช่วยตาลุงนี่.. แต่หลังจากที่ฮัตสันต้องทนเห็นเรากับตาลุงซึ่งไม่รู้เรื่องงานช่างเอาซะเลยคุยงานกัน.. ฮัตสันจะรู้สึกรำคาญจนยอมเป็นคนลงมือทำให้เอง.. ด้วยความที่เคยเป็นยอดช่างในสมัยเด็กๆ เค้าจึงสร้างห้องเก็บของห้องใหม่ให้คุณลุงจนเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว..

เมื่อสร้างเสร็จแล้วให้เราเข้าไปคุยกับตาลุงอีกครั้งด้านใน.. แกจะลีลานิดหน่อยจนฮัตสันเริ่มหัวร้อนอีกครั้ง จนแกยอมบอกข้อมูลที่คุณปู่ของแกเคยบอกมาอีกทีให้ฟัง.. เกี่ยวกับสถานปฏิบัติธรรมทางตะวันออก ที่ต้องข้ามแม่น้ำไปก่อน…

ออกจากกระท่อมไปทางทิศตะวันออกไม่ไกล.. จะพบพื้นที่ๆเป็นป่า ให้สำรวจที่ราบกลางป่า กด “Yes” เข้าไปจะพบถ้ำสำหรับใช้ข้ามแม่น้ำได้(ระวังมอนสเตอร์เจลสีเขียว.. มันทำให้เราติดพิษได้.. ใครไม่ได้พกยาแก้พิษมา อาจยุ่งได้..) ให้ตลุยจนข้ามแม่น้ำมาได้.. เดินทางไปทางทิศตะวันออกต่อ จะได้พบกับหลุมยักษ์อีกแห่งหนึ่ง ให้เรากระโดดลงไปในหลุมยักษ์นั้นเพื่อลงไปสู่ดินแดนมายา…

เมื่อลงมาจะพบ “วิหารดาม่า” อยู่ใกล้ๆ เข้าไปสำรวจดูจะพบว่าเป็นเพียงซากปรักหักพัง และเราจะพบแผนที่โลกให้เก็บมาติดตัวไว้…..

จากวิหารดาม่า เดินทาง ไปทางทิศตะวันตกจะพบเมือง “ซานมารีโน่” รวบรวมข่าวสารในเมืองจะได้รู้ว่าเจ้าเมืองนิสัยแย่มาก.. และที่นี่มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกัน แต่ทั้งสองไม่อาจจะสมหวังได้เพราะฐานะแตกต่างกันเกินไป ฝ่ายชายเป็นลูกเจ้าเมืองชื่อ “โจเซฟ” ฝ่ายหญิงเป็นสาวรับใช้ในบ้านชื่อ “แซนดี้” ทั้งสองแอบพบกันที่ท่าเรือฝั่งซ้ายของเมือง.. ให้เราตามไปแอบฟัง.. โจเซฟจะสารภาพรัก แซนดี้เองก็ยอมรับว่าเธอก็รักโจเซฟเช่นกัน.. โจเซฟจะขอแต่งงานกับแซนดี้ต่อพ่อ แต่แซนดี้รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ โจเซฟบอกว่ายินดีจะหนีไปกับเธอถ้าพ่อไม่ยอม.. แซนดี้บอกว่า โจเซฟจะต้องสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองในสักวัน จะต้องได้เจอคนที่ดีกว่าเธอแน่..

จากนั้นแซนดี้ก็รีบกลับไปที่บ้านเพื่อทำงานบ้านและเตรียมอาหารให้ “เปโร่” หมาของท่านเจ้าเมือง.. ให้เราตามไปหาแซนดี้ที่บ้านเจ้าเมือง(หลังแรกๆหน้าเมือง มีหมาวิ่งแถวหน้าบ้าน).. คุยกับแซนดี้ที่กำลังคลุกข้าวหมาอยู่ที่เตา.. เธอจะรำพึงรำพันถึงโจเซฟว่าถ้าได้อยู่ข้างๆกันได้จริงก็คงมีความสุขมากๆ.. เมื่อเธอออกไปให้เราตามไปที่ประตู.. แต่ยังไม่ทันที่เราจะออกไป “อามันด้า” นางอิจฉาซึ่งหลงรักโจเซฟอยู่เหมือนกันจะสวนเข้ามา เธอจะใส่ยาพิษลงในหม้อข้าวหมา หวังใส่ร้ายแซนดี้ให้โดนเล่นงาน.. ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะเมื่อแซนดี้เอาข้าวให้เปโร่กิน เปโร่ก็นอนชักกระแด่วๆต่อหน้าเจ้าเมือง.. เจ้าเมืองนิสัยไม่ดีที่ปกติก็กดขี่แซนดี้อยู่แล้วจึงโกรธมาก เค้าสั่งจับแซนดี้ให้ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินในเมือง(บันไดลงใกล้ๆหน้าบ้านนั่นเอง).. เราเห็นเรารู้ทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้..

ให้เราไปที่โรงจอดเรือซ้ายบนของเมือง.. เข้าไปด้านในห้องพักจะพบกับผู้หญิงผมทองคนหนึ่งซึ่งมองเห็นเรา คุยกันแล้วเธอจะบอกว่าให้ตามออกไปหาเธอนอกเมืองเธอจะรออยู่.. ซึ่งเธอคือ “มิเลยู” สาวนักเวทย์ซึ่งร่ำเรียนวิชามาจากคุณยายของเธอนั่นเอง.. เมื่อออกมานอกเมือง เธอจะพาพวกเราไปที่บ้านของเธอทางตะวันออก.. เธอจะพาเราไปพบกับนักพยากรณ์คุณยายของเธอนั่นเอง.. คุณยายก็จะเห็นเรา และจะเล่าอะไรหลายอย่างให้ฟัง.. คุณยายบอกว่า ถ้าเราอยากมีร่างกายที่ไม่ล่องหนแบบนี้ที่นี่ ต้องไปเอาไอเท็มสำคัญ “หยาดแห่งความฝัน” ในถ้ำทางทิศใต้มา.. คุณยายเองก็อยากได้มันอยู่ด้วยเหมือนกัน..

จากนั้นเราจะได้พักผ่อนที่นี่ 1 คืน.. เมื่อตื่นขึ้นมาให้ไปคุยกับคุณยายอีกครั้ง แล้วแกจะให้ยารักษา “Herb” กับเราสิบชิ้น พร้อมกับได้มิเลยูมาร่วมเดินทางด้วย… พร้อมแล้วให้เราบุกไปยังถ้ำทางทิศใต้ ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ ด้านในสุดจะมีมอนสเตอร์เฝ้าไอเท็มอยู่ ปราบมันให้ได้.. แล้วเดินไปหยิบ “หยาดแห่งความฝัน” มา.. กลับมาหาคุณยาย แล้วแกจะทำให้เราสามารถปรากฏเป็นตัวมองเห็นได้.. มิเลยูชอบพวกเรา และเธออยากมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางผจญภัยกับเราด้วย.. คุณยายบอกว่าตามใจ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ..

ก่อนออกจากบ้านคุณยาย.. คุณยายจะช่วยทำนายอนาคตให้เรา.. พร้อมกับขู่ทิ้งท้ายว่า “ดูแลหลานกูให้ดี.. ไม่งั้นพวกมึงโดนแน่..” 😂..

กลับมาที่เมืองซานมารีโน่อีกครั้ง.. เมื่อไปยังคุกใต้ดิน จะไม่พบกับแซนดี้แล้ว เพราะเธอถูกขายให้กับพ่อค้าพเนจรไปแล้วนั่นเอง.. ไปยังบ้านเจ้าเมืองเพื่อบอกความจริงทั้งหมดให้เค้าฟัง.. เค้าดูเหมือนจะรู้สึกผิดพอสมควรที่เข้าใจแซนดี้ผิดไป.. ให้เราขึ้นไปบอกโจเซฟที่อยู่ชั้น 2 แล้วเขาจะรีบออกเดินทางตามหาแซนดี้ทันทีพร้อมกับขอบคุณเรา.. ให้เราไปที่โรงจอดเรือเพื่อขึ้นเรือ ซึ่งเรือจะพาเราไปสู่ปราสาทเรด็อกแห่งแผ่นดินมายา เมื่อถึงปราสาทเรด็อกแล้ว รวบรวมข่าวสารจากชาวบ้านจะพบว่า พระราชาและราชินีหลับไหลเพราะโดนคำสาป และองค์ชายก็หายสาปสูญไป.. ทหารยามหน้าปราสาทจะยังไม่ยอมให้เาผ่านเข้าไปด้านใน เราต้องไปซื้อชุดราคา 800G ที่ร้านชุดเกราะมาสวมใส่ก่อน แล้วกลับมาคุยกับทหารยามอีกครั้ง.. เค้าจะตกใจมาก เพราะเราดูเหมือนเจ้าชายแห่งเรด็อกที่หายตัวไปมากๆ.. เค้าจะถามเราว่าเราใช่เจ้าชายหรือไม่?.. ให้เราตอบว่า “ใช่” ไปครับ.. เค้าก็จะยอมหลีกทางให้เราเข้าไปได้…

ด้านในปราสาทเราจะได้พบกับแม่ทัพ “ทอม” ผู้ภักดีก่อนใคร.. เค้าจะดีใจมาก และบอกให้เราไปแสดงตัวให้ทุกคนได้รู้ว่าเรากลับมาแล้วและปลอดภัยดี.. จังหวะนี้ให้เราเดินพูดคุยให้ทั่วปราสาทครับ.. บริเวณขวาบนของปราสาท(ทางไปห้องพระราชาและพระราชินี) เราจะได้พบกับทหารยามอีกคนที่ไม่ยอมให้เราผ่านทางเพราะ “เกบัน” สั่งเอาไว้.. ให้เราไปคุยกับทุกคนให้ทั่วปราสาทก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกับทหารยามอีกครั้ง.. รอบนี้ท่านแม่ทัพทอมจะมาโวยวายให้เราแทน จนในที่สุดทหารยามก็จะหลีกทางให้…

และในห้องพระราชาจะพบ “ราชา” และ “ราชินี” ที่หลับไหลอยู่ ไม่นานเจ้าขุนนางชื่อ “เกบัน” จะกลับมาพอดี เกบันจะไม่เชื่อว่าเราเป็นเจ้าชายและทดสอบเราโดยให้ตอบชื่อเจ้าหญิงซึ่งเป็นน้องสาวของเราที่เสียชีวิตเพราะไข้ตอนที่ยังเด็ก.. แต่สุดท้าย ไม่ว่าเราจะตอบชื่อไหนก็ผิดอยู่ดี แล้วเราจะถูกไล่ออกไปเพราะถูกหาว่าเป็นตัวปลอมมาหลอกลวง…

ให้เราออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะพบหมู่บ้านริมแม่น้ำ ชื่อหมู่บ้าน “อามอร์” (ทางผ่านจะได้พบถ้ำๆหนึ่งที่มีคุณตาอยู่ด้านใน).. เข้าไปในเมือง จะได้ยินเสียงน้ำตกซู่ซ่าอยู่ตลอด.. รวบรวมข่าวสารในเมือง จะพบว่าที่นี่เป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำอันยอดเยี่ยมบริสุทธิ์ โรงแรมในเมืองนี้เต็มและไม่สามารถนอนพักได้ จากนั้นให้ไปที่โบสถ์ คุยกับบาทหลวง ท่านจะบอกให้เราไปพักในห้องใต้โบสถ์ และเราจะได้พบกับคุณยาย “จีน่า”.. คุยด้วยแล้วเราจะใด้พักผ่อนที่นี่ ซึ่งพอเรานอนหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาจะพบว่า บางอย่างเปลี่ยนไป ชาวบ้านพูดแปลกๆ.. เมื่อออกมาคุยกับชาวบ้านได้สักพัก น้ำตกหลังหมู่บ้านและแม่น้ำในเมืองกลายเป็นสีแดงเลือด.. ให้เราออกจากหมู่บ้านไปที่ถ้ำต้นน้ำด้านบน เข้าไปเราจะได้พบกับนักรบหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า “จีน่า” และต้นเหตุของน้ำสีเลือดก็มาจากดาบของจีน่านี่เอง.. ให้เราเข้าไปสำรวจด้านในถ้ำ.. สำรวจให้ทั่วครับ เก็บของให้หมด.. จะมีการขี่ท่อนซุงเพื่อไปเก็บหีบสมบัติด้วย.. กล่องสมบัติตรงกลางน้ำ ใช้ท่อนซุงด้านบนสุดเลยนะครับ…

เข้าไปจนสุดจะพบกับอัศวินชายนามว่า “อิเรีย” กำลังสู้กับมอนสเตอร์อยู่ ให้เราเข้าไปช่วยเค้าสู้.. ปราบมันลงให้ได้.. ระวังเวทย์ที่ทำให้เราสับสนให้ดี อันตรายทีเดียว… เมื่อเอาชนะได้แล้ว อัศวินหนุ่มจะขอเดินทางออกมาพร้อมกับเราด้วย.. กลับออกมาพบกับจีน่า จีน่าจะดีใจมากที่เห็นอิเรียยังมีชีวิตอยู่(เธอนึกว่าอิเรียตายแล้ว).. จีน่าจะยกดาบขึ้นจากน้ำ แม่น้ำก็จะหายเป็นสีแดงและกลับเป็นสีธรรมชาติตามเดิม.. อัศวินหนุ่มอิเรียจะให้ไอเท็ม “แหวนจ้าวความเร็ว” แก่เราเพื่อเป็นการตอบแทน เสร็จแล้วก็จะพาจีน่าไปผจญภัยที่อื่นต่อ.. จากนั้นกลับไปนอนที่โบสถ์ในหมู่บ้านอามอร์อีกครั้ง.. แล้วเราจะกลับมาในเวลาปัจจุบันซึ่งเมื่อกี๊ก็คืออดีตนั่นเอง.. แล้วคุณยายจีน่าจะพบของที่เราได้จากยายจีน่าตอนสาวให้มา และปู่อิเรียก็จะเข้ามา เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะสิ้นสุดลง แล้วเราจะได้รับ กุญแจแห่งกระจกมา…..

เดินทางไปที่ “หอคอยกระจก” ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเรด็อก ให้สำรวจที่กระจกบานที่สี่ซ้ายสุดจะมีทางไปต่อได้.. ขึ้นไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราจะพบกับสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งตัวโปร่งใสมองไม่เห็นเหมือนเราในตอนแรก เธอชื่อว่า “บาบาร่า” ซึ่งเธอจะขอติดตามเราไปด้วย เดินต่อไปเราจะได้พบกับ “สวิทช์สีเหลือง” ให้เราสับสวิทช์ลงครับ.. มันเป็นสวิทช์เปิดประตูเข้าหอคอยซีกซ้าย ห้ามลืมกดเด็ดขาด.. เราจะได้พบกับลูกแก้วสีม่วงวางอยู่หน้ากระจก 2 ลูกจาก 2 ห้องในฝั่งขวานี้.. ให้เราเข็นลูกแก้วให้พ้นจากกระจก(เข็นกลับมาทางบันได).. ลูกแก้วจะแตกออก สายพลังที่ยึดห้องเก็บกระจกแห่งราห์ จะขาดออก หายไป.. จัดการที่ฝั่งขวาเรียบร้อย ก็จะโดดลงไปตรงร่องที่กำแพง เพื่อลงไปด้านล่าง.. จากนั้น ไปจัดการหอคอยฝั่งซ้ายบ้าง.. ลูกแก้ว 2 ลูกจาก 2 ห้องเช่นกัน.. เมื่อทำสำเร็จ ห้องเก็บกระจกจะหล่นลงมาด้านล่าง.. เราก็กระโดดลงมาอีกเช่นเคยครับ.. เข้าห้องกลาง.. เก็บ “กระจกแห่งราห์” มา.. แล้วเอา “หยาดแห่งความฝัน” หยดให้กับบาบาร่า จะทำให้บาบาร่ามองเห็นเป็นปกติและได้บาบาร่ามาเป็นพวกอีกคนด้วย…..

ตอนนี้เราจะยังอยู่บนแผ่นดินมายาอยู่ ให้เรากลับไปยังโลกด้านบน โดยกลับไปยัง “วิหารดาร์ม่า” (สามารถวาร์ปไปได้โดยใช้เวทย์มนตร์) ลงไปชั้นล่างจะพบบ่อ.. สำรวจลงไปในบ่อ เราก็จะวาร์ปกลับไปยังโลกด้านบนครับ.. จากนั้นไปยังปราสาทเรด็อก แม่ทัพโซลดี้จะพาเราไปพบพระราชา(ถามอะไรมาก็ตอบ Yes ไปให้หมดครับ).. ตอนกลางคืน แม่ทัพโซลดี้จะเอากระจกส่องใส่พระราชาแล้วพระราชาจะกลายเป็นผู้หญิงไป ในวันต่อมาเราจะรู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคือราชินีแห่งเรด็อก ชื่อ “เซร่า” และได้ฟังเรื่องราวตัวจริงของมุโด้ ที่คาดว่าจะเป็นพระราชาแห่งเรด็อกเอง แล้วเซร่าจะขอติดตามเราไปด้วย.. จากนั้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเรด็อก จะมีด่านตรวจ ผ่านไปจะมีถ้ำสู่ปราสาทมุโด้ ให้บุกเข้าไป สำรวจให้ทั่ว เก็บของให้หมด..

เดินหาทางไปเรื่อยๆ.. มีขึ้นลงบันได.. จนในที่สุดเราจะได้พบกับห้องๆนึงที่มีหลายทางหลายส่วนให้ไป.. สามห้องบนที่มีสวิทช์สีเหลืองที่พื้นถูกล็อคไว้.. ให้มาที่ห้องมืดขวาล่างก่อน.. (หรือไปห้องซ้ายล่างแล้วแกล้งตกหลุมลงไปห้องข้างล่างก็ได้..) ที่นี่คือห้องล่างสุด มีสวิทช์สีเหลืองให้เหยียบที่พื้นสองอัน เหยียบให้หมด.. มันเป็นสวิทช์เปิดประตูห้องที่ล็อคไว้นั่นแหละ.. เหยียบแล้วไปขึ้นบันไดขวาล่าง ก็จะขึ้นมาห้องที่มีให้ไปหลายที่อีกครั้ง แต่รอบนี้สามารถเข้าไปเหยียบสวิทช์ในห้องที่ล็อคไว้ได้แล้ว.. เหยียบให้หมด จะเป็นการเปิดช่องแสงเพื่อให้ห้องมืดซ้ายล่างพอมองเห็นบ้าง.. สำรวจให้ทั่ว เก็บของให้หมดครับ มีพื้นที่มืดจนเกือบมองไม่เห็นเหลืออยู่นะ เดินระวังด้วย.. เมื่อเข้าไปด้านในสุดก็จะพบกับเจ้ามุโด้ยืนรออยู่(โหดใช้ได้ทีเดียว).. จัดการซะ.. ฮีลให้ทันฟันให้แรง.. มันชอบอัพพลังป้องกันให้ตัวเอง อย่าลืมคอยใช้เวทย์ลดพลังป้องกันของมันลงด้วย ไม่งั้นตายยากเลยล่ะ…

เมื่อปราบมันได้แล้วให้เรากดใช้กระจกแห่งราห์ แล้วเจ้ามุโด้จะเปลี่ยนกลับกลายเป็นพระราชา ตามที่คาดกันไว้.. แล้วให้เรากลับปราสาทเรด็อก เข้าไปคุยกับขุนนางเกบัน แต่จะไม่พบกับราชาและราชินี(มีคำถามอะไรมาก็ตอบ Yes ไปครับ).. เราจะนอนหนึ่งคืน ตื่นมาจะยืนหน้ากระดานคุยกับเกบันอีกครั้ง.. จากนั้นให้เราเดินทางไป ปราสาทเรด็อกที่อยู่ในแผ่นดินมายาใต้พิภพอีกครั้ง.. เมื่อไปถึง เราจะถูกจับขังในคุก แต่สักพักไม่นานก็จะได้รับการปล่อยตัว แล้วจะได้พบกับพระราชาและราชินีแห่งเรด็อกแผ่นอินมายา.. ซึ่งพระราชาจะขอร้องให้เราไปปราบมุโด้ตัวจริง แล้วจะให้ใบผ่านทางมา.. จากนั้นออกจากเมืองไปทางทิศเหนือ ผ่านด่านตรวจแล้วไปทางทิศเหนืออีกแล้วจะพบกับหมู่บ้าน “เก้นท์” ให้ไปหาผู้เฒ่าของหมู่บ้านที่บ้านทางซ้ายบนเพื่อยืมเรือ แต่จะถูกปฏิเสธ.. ขณะที่จะออกจากบ้านของผู้เฒ่า หลานของผู้เฒ่าชื่อว่า “จาโมโร่” จะสวนเข้ามาพอดี และจาโมโร่จะได้ยินเสียงของเทพเจ้าที่บอกให้นำเรือเทพเจ้าเดินทางไปด้วย เราจึงได้รับเรือเทพเจ้ามาใช้และได้จาโมโร่มาเป็นพวกร่วมเดินทางอีกคน…

เจ้าปีศาจมุโด้ที่แสนร้ายกาจ

เรือจะล่องไปยังเกาะที่อยู่ของมุโด้โดยอัตโนมัติ บาบาร่าจะอยู่เฝ้าเรือไม่ได้ไปกับเรา.. เราจะต้องผ่านโซนถ้ำลาวาให้ได้ก่อน จึงจะเข้าส่วนปราสาทได้.. จริงๆแล้วทางไป(บันไดไป)จะอยู่ขวาบนใกล้ๆทางเข้าถ้ำนั่นเอง เดินฝ่าลาวาไปหน่อย.. แต่ถ้าอยากสำรวจถ้ำก็ไปให้ทั่วก่อนได้ครับ แล้วค่อยกลับมาตรงบันไดไปนี้…

เมื่ิอออกจากโซนถ้ำลาวาได้ จะพบโซนถ้ำน้ำ สำรวจให้ทั่วก็มีของให้เก็บและพบโครงกระดูกคนด้วย.. สำรวจทั่วแล้วเดินทะลุออกไป ก็จะได้พบกับเขตป่า(ที่เราเคยนอนพักในฝันตอนต้นเรื่อง).. เราก็จะพักกันที่นี่เพื่อเก็บแรงครับ.. แล้วเราก็จะนั่งมังกรไปยังปราสาทมุโด้เหมือนในฝันเช่นเดียวกัน.. ในห้องโถงใหญ่ เราจะได้พบร่างของฮานเพื่อนเรายืนแข็งเป็นก้อนหินอยู่.. สำรวจก็จะกลายเป็นปกติ.. เมื่อเดินทางต่อจนไปถึงตัวมุโด้พวกเราจะถูกเวทย์ตัวลอย กลายเป็นหิน และระเบิด เหมือนกับที่เคยฝันไว้ แล้วเราจะตื่นจากฝันอีกครั้ง.. ทาเนียจะให้เราไปดูกระจกแห่งราห์ที่ตั้งอยู่ แล้วเราจะกลับมาเผชิญหน้ากับมุโด้อีกครั้ง คราวนี้ให้เรากำจัดมันให้ได้ ซึ่งมันจะมี 2 ร่าง.. ร่างที่สองโหดใช้ได้ที่เดียว.. เอาให้ลง… เมื่อกำจัดได้แล้วเราจะกลับปราสาทเรด็อกกัน พระราชาและพระราชินีจะอยู่พร้อมหน้า.. แล้วเราจะได้รับ “ไม้เท้าสายฟ้า” มา…..

ให้เราออกจากปราสาทและวาร์ปไปที่วิหารดาร์ม่า จากนั้นล่งบ่อด้านล่างเพื่อกลับไปยังโลกด้านบน ขึ้นไปแล้วจะพบว่ามีวิหารดาร์ม่าที่สมบูรณ์แล้ว.. ซึ่งเราสามารถจะทำการเปลี่ยนอาชีพกับพระราชาได้แล้วในตอนนี้.. ก็เลือกเปลี่ยนอาชีพตามความเหมาะสมครับ…

กลับมาแผ่นดินมายาด้านล่าง.. ให้เรานั่งเรือจากเรด็อกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ(หรือทางทิศเหนือของเกาะภูเขาไฟลาวาของมุโด้นั่นเอง).. จะพบแผ่นดิน ให้ขึ้นเดินเท้าไปด้านทิศเหนือจะพบหมู่บ้าน “มอนสโทล” รวบรวมข่าวสารให้ทั่วเมือง ไปบ้านซ้ายบนจะพบกับ “ผู้กล้าอามอส” นอนเป็นผักอยู่บนเตียง ไปที่โรงแรมคุยกับเจ้าของร้าน ตอบอันที่ 2 ก่อนแล้วค่อยตอบอันที่ 1 จากนั้นเราจะได้พักผ่อน ในตอนกลางคืนจะมีเสียงประหลาดอาละวาดข้างนอก ให้เราขึ้นไปบนดาดฟ้า จะพบสัตว์ประหลาดไคจูอาลวาดอยู่.. ด้วยความเก๋าและโหดสัสของเรา ให้เรากระโดดลงไปตบเกรียนมัน.. โจมตีแรงใช้ได้ทีเดียว ระวังด้วย.. เมื่อปราบแล้วสัตว์ประหลาดจะคืนร่างเป็นผู้กล้าอามอสไป.. จากนั้น ให้ออกจากหมู่บ้านโดยที่ “ไม่ต้องไปคุยกะอามอส” (ตรงนี้ถ้าทำผิดพลาดผิดขั้นตอนเราจะไม่ได้อามอสเป็นเพื่อน) ให้ไปทางทิศเหนือจะพบภูเขา ที่ยอดเขาจะพบต้นไม้อ่อน ให้สำรวจทางซ้ายของต้นไม้อ่อนประมาณ 2 ช่องจะได้ “เมล็ดแห่งสติ” มา.. ให้นำกลับไปให้อามอส แล้วเค้าจะสามารถคุมสติได้.. แล้วเราจะได้เขาเป็นเพื่อนร่วมทางอีกคน….. ***อามอสมีความสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจได้ระหว่างการต่อสู้.. อารมณ์คล้ายๆมนุษย์หมาป่าเลยทีเดียว.. แต่เราจะควบคุมเค้าไม่ได้นะครับ เค้าจะอยู่ในหมวดบ้าคลั่งและทุบแหลกนั่นเอง

เริ่มการเดินทางอีกครั้ง.. ให้ไปตั้งต้นที่เมือง “ซานมาริโน่” เดินไปขึ้นเรือทางฝั่งตะวันตกแล้วแล่นเรือไปแผ่นดินทางทิศเหนือ(จะยังเป็นแผ่นดินลับแลในแม็พอยู่ เพราะเรายังไม่เคยไป).. จนเจอฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ขึ้นไปบนแผ่นดิน เดินไปทางขวาบนนิดหน่อยก็จะเจอปราสาท “อาร์คโบลท์” ซึ่งที่นี่กำลังมีปัญหาในการต่อสู้กับพวกปีศาจกันอยู่.. ให้เราเดินเข้าไปคุยกับพระราชาให้ได้(จัดทีมให้ดี แนะนำอย่างยิ่งเลยว่า ควรมีนักเวทย์ที่สามารถชุบชีวิตติดไปด้วยหนึ่งคน.. เพราะการทดสอบโหดใช้ได้ทีเลยเดียว..) ระหว่างทางจะพบการทดสอบจากทหารยามถึง 2 ด่าน.. ด่านแรกคนเดียว ด่านที่สองสองคน.. ฝีมือโหดใชเได้อยู่ เอาให้ลงครับ… เมื่อถึงท้องพระโรง ให้คุยกับพระราชาและพระราชินี(และทุกคน) ปิดท้ายมาคุยกับแม่ทัพผมทองที่ยืนแอ็คอยู่.. แกจะขอทดสอบฝีมือของเราที่ห้องฝึก แล้วแกจะเดินนำไปก่อน..

ให้ตามไปตบแกให้ฟ่ำที่ห้องฝึกบนกำแพงด้านซ้ายของปราสาท.. เอาชนะแกได้แล้ว กลับมาที่ท้องพระโรงคุยกับพระราชา แล้วท่านจะให้พวกเราไปปราบมอนสเตอร์ที่รุกรานอยู่ในถ้ำนักเดินทาง แล้วจะได้โลงศพสำหรับเก็บหลักฐานมา.. มุ่งหน้าไปสู่ถ้ำนักเดินทาง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.. เข้าไปในถ้ำแล้วสำรวจเก็บของให้หมดทุกซอกหลืบ(ระวังมอนสเตอร์ กิ้งก่าคาเมล่อนสีเขียวให้ดี มันมีท่าเลียที่ทำให้เราติดสถานะ “สตั๊นท์” ไม่สามารถขยับตัวได้.. สร้างปัญหาทีเดียวครับ..) บุกเข้าไปในสุดจะได้พบกับหนุ่ม “เทรี่” สุดเท่ห์ที่กำลังจะใส่เดี่ยวกับมอนสเตอร์อยู่.. ให้เราไปสำรวจที่เจ้ามอนสเตอร์ การต่อสู้ใส่เดี่ยวของเทรี่ก็จะเริ่มขึ้น.. พี่ไม่สนใคร พี่ลุยเดี่ยวด้วยความเฟี้ยวฟ้าว และสามารถปราบมอนสเตอร์ได้ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ.. เราทำได้แค่ยืนเหวอ ดูเทรี่เก็บวิญญาณมอนส์เข้าหีบ..

กลับออกมาคุยกับทหาร คุยกับทุกคน นักเดินทางสองคนที่โต๊ะจะออกเดินทางต่อ.. ให้กลับไปที่ปราสาทอาร์คโบลท์ จะสวนกับเทรี่ ที่มารับรางวัลไปแล้ว ให้เราไปคุยกับพระราชาแล้วกลับไปที่ถ้ำนักเดินทาง(ไม่ต้องเข้าไปทางที่เราเข้าไปเจอบอสหรือมอนส์ฯ ไปทางขวาได้เลย).. ซึ่งเราจะสามารถเดินทะลุไปทางทิศตะวันออกได้แล้ว…..

เมื่อออกมาโผล่ทางทิศตะวันออกได้แล้ว เดินขึ้นไปทางเหนือเยื้องตะวันออกนิดหน่อย จะมีบ้านคนอยู่สามหลัง มีโรงแรมให้พักได้ด้วยถ้าอยากเก็บเลเวล,, ให้เดินทางไปทางทิศตะวันตกข้ามแนวเขาไป จะได้พบกับบันไดมหัศจรรย์ซึ่งสามารถพาเราไปยังโลกด้านบนได้ทันที.. ขึ้นไปครับ ไปโผล่โลกด้านบนที่ไหนก็ไม่รู้.. ให้เดินไปทางทิศใต้จะพบถ้ำที่สามารถทะลุภูเขาไปได้ ให้เราเข้าถ้ำจนทะลุไปเจอหมู่บ้าน “คัลคาโด้” ที่นี่จะประสบปัญหาหมู่บ้านแห้งแล้งและหมดหวัง ต้องคุยกับชาวเมืองให้ครบทุกคน แล้วเวลาจะเปลี่ยนเป็นตอนมืด.. ให้เราออกจากหมู่บ้าน แล้วเดินไปที่แหลมทางทิศตะวันตก จะเจอกับเกาะลอยน้ำให้เราขึ้นไป.. ไปคุยกับอีเจ้ากัปตันที่ขับเกาะอยู่แล้วเกาะจะเคลื่อนที่ออกไปในทะเล.. เข้าไปที่อาคารด้านบน จะเจอกับผู้คนจากคัลคาโด้มากมาย ให้เราไปคุยกับบาร์เทนเดอร์ที่เค้าท์เตอร์ แล้วเราจะดริ๊งค์จนหลับไป..

เมื่อตื่นมาเราจะถูกปิศาจกระทืบอยู่ มันจะพาเราไปยังสถานที่บูชายันต์ของลูกพี่มัน.. ซึ่งก็คือจอมปีศาจ “จามีรัส”.. ตามสเต็ป ให้เราจัดการจามิรัสให้ได้ แล้วจะปลดปล่อยพวกชาวบ้านและวิญญาณจากคำสาปได้.. และเป็นการปลดปล่อยกษัตริย์ที่สะสมเหรียญด้วย(ซึ่งตั้งอยู่โลกด้านบนตรงหลุมยักษ์ทางขวาของเมืองเชียน่า) จากนั้นกลับมาขึ้นแผ่นดินลอยน้ำ คุยกับคนขับพวงมาลัย คุยกับบ๋อยที่เค้าท์เตอร์ เพื่อกลับมาที่เมือง “คัลคาโด้”.. เมื่อแผ่นดินเทียบท่า เราก็สามารถขับมันได้ด้วยตัวเองแล้วนะครับ.. ไปคุยกับชาวบ้านที่เมือง ซื้ออาวุธชุดป้องกันดีๆที่ร้านขวาบนให้เรียบร้อย แล้วออกมาขับแผ่นดินล่องลงมาทางใต้…

เราจะได้พบกับ “วิหารดาร์ม่า” นั่นเอง.. ลงบ่อน้ำเพื่อวาร์ปไปที่โลกมายาอีกครั้ง..

วาร์ปไปตั้งหลักที่หมู่บ้าน “ซานมาริโน่” ล่องเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านหมู่เกาะเปกาซัสทาวเวอร์ไป(ดูในแผนที่).. จะพบแผ่นดินที่มีบันไดสู่โลกด้านบนอีกหนึ่งจุด(แต่ไม่ต้องขึ้น).. ให้เดินเท้าจากบันไดเลียบมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบด่านตรวจ.. ให้เราผ่านด่านตรวจแล้วลงใต้ จะพบหมู่บ้าน “ฮอลคอตต้า” และทางทิศตะวันตกจะพบปราสาท “ฮอลสต็อค” ขึ้นไปพบพระราชาแล้วพระราชาจะวานให้เราพา “เจ้าชายฮอล” ไปยังถ้ำพิธีกรรมทางทิศใต้.. เสนาบดีจะวิ่งไปตามเจ้าชายแต่จะหาไม่เจอ ให้เราตามหาเจ้าชายซึ่งจะหลบซ่อนอยู่ในห้องเก็บถังไม้ที่ชั้น1(ห้องที่มี 6 ถัง เจ้าชายจะอยู่ที่ถังขวาล่าง) สำรวจที่ถังแล้วเจ้าชายน้อยจะปรากฏตัว.. เมื่อเดินออกมแต่ยังไม่ทันพ้นประตู เจ้าชายจะหนีไปหลบอีก ให้เราไปตามที่บริเวณใต้ดินของปราสาท(มีบันไดลง และมีทางโผล่ออกไปที่ชั้นหน้าผาดินด้านหน้า(เจ้าชายอยู่ตรงนั้นแหละ) เมื่อได้ตัวให้เรามุ่งหน้าเดินทางไปยังถ้ำพิธีกรรมทางใต้.. เมื่อไปถึงเจ้าชายจะหนีไปอีก รอบนี้ให้ไปตามหาตัวที่หมู่บ้าน “ฮอลค็อตต้า” ที่บ้านซ้ายบน ยืนเนียนอยู่เลย.. เมื่อจับตัวได้แล้ว ให้ไปยังถ้ำพิธีกรรมอีกที เมื่อปราบมอนสเตอร์ที่ขวางทางได้ เจ้าชายจะคอยหายตัวไปอีกสองรอบ(อยู่ในถ้ำนั่นแหละ เดินออกมาหา(เป็นเควสต์ที่น่าหงุดหงิดมากๆ).. ให้เราตามหาให้พบเรื่อยๆ เมื่อไปถึงด้านในสุดเจ้าชายจะได้เข้าพิธีกรรมอาบน้ำตก.. เสร็จแล้วกลับไปที่ปราสาทฮอลสต็อค.. ในตอนดึกจะมีการเฉลิมฉลองให้แก่เจ้าชาย.. ในวันรุ่งขึ้นไปคุยกับพระราชาแล้วเราจะได้รับ “กุญแจเวทมนตร์” เป็นการตอบแทน…

ไปที่กระท่อมทางทิศตะวันออกจากปราสาทฮอลสต็อค ใช้กุญแจเวทมนตร์เปิดเข้าไปด้านในจะมีบ่อน้ำวาร์ปขึ้นไปโลกด้านบน.. จากจุดวาร์ปให้เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบเมือง “เคลียร์เบล” ให้รวบรวมข่าวสารแล้วไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบบันไดลงไปยังแผ่นดินมายา ซึ่งพอลงไปแล้วไปทางตะวันออกเฉียงเหนือก็จะพบเมือง “เคลียร์เบล” เช่นกัน.. ให้เข้าไปหาข่าวสารแล้วไปที่โบสถ์จะพบ สามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้มาหาบาทหลวงเรื่องลูกชายที่ตายไป จากนั้นให้เราไปที่บ้านของพวกเขาที่อยู่ขวาบนในเมืองคุยกับพวกเค้าแล้วให้ไปที่ภูเขาทางทิศเหนือ.. จะพบบาทหลวงมาทำพิธีอยู่ในถ้ำ แล้วจะได้ยินเรื่อง “ที่ขุดทองคำ” ให้ปีนหน้าผาขึ้นไปด้วยแนวหินฝั่งซ้ายของปากถ้ำ(รังวังตกด้วย ถ้าเลยแนวจะตก).. เราจะได้พบทางไปต่อแต่จะมีหินขวางทางอยู่ ก็ออกมาแล้วปีนต่อไป.. ทางไปเอาที่ขุดจะเป็นประตูเดี่ยวๆอยู่กลางหน้าผา มีที่เหยียบนิดเดียว.. เราต้องยืนบนโขดหินเหนือมันแล้วทิ้งตัวลงมาให้ตรงหินเล็กๆนั่น(ตอนที่เราหล่นลงมาให้กดขึ้นด้วย ไม่งั้นหล่นทะลุลงมาข้างล่าง).. เมื่อได้ขุดทองคำมาแล้ว ให้นำไปใช้กับหินที่ขวางทางอยู่ตรงถ้ำที่มีทางไปต่อ.. เราจะสามารถไปยอดเขาได้(หลังจากทุบหินจะได้พบกับมอนสเตอร์ที่โหดยิ่งขึ้น ระวังไว้ให้ดี).. บนยอดเขาจะมีศิลาอยู่ ให้ใช้ที่ขุดทองคำเจาะเอาเศษศิลามา แล้วกลับมาที่เมืองเคลียร์เบล นำเศษหินไปให้สามีภรรยาคู่นั้น แล้วเขาจะพาเราไปห้องนอนลูกเขาแล้วเราจะได้พักผ่อน 1 คืน.. ขณะนอนอยู่เราจะถูกวาร์ปพามาที่โลกด้านบน แล้วเตียงนอนจะลอยทะลุมิติไปข้างนอกและได้พบกับวิญญาณของลูกชายของพวกเค้า.. เราจะแว๊นซ์เตียงโฉบหัวชาวบ้านเค้าไปทั่วจนเป็นที่เลื่องลือ.. และสุดท้ายก็จะได้เตียงลอยฟ้านี่เป็นพาหนะเดินทาง(โคตรจ๊าบ😆)…..

ตอนนี้เราจะอยู่บนโลกด้านบนบริเวณเมืองเคลียร์เบล ให้ไปทวีปทางทิศตะวันตกจะเจอโบสถ์และตำหนักหมอดู เข้าไปถามไถ่นู่นนี่แล้วแว๊นซ์เตียงข้ามทะเลไปที่บ่อน้ำทางทิศเหนือ.. ด้านในจะมีบ่อน้ำสำหรับไปแผ่นดินมายา ให้ลงไปสำรวจ แล้วเราจะมาอยู่บนแผ่นดินมายา ให้สำรวจทางจะพบกับปราสาท “โฟน” อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้.. เข้าไปที่ท้องพระโรงพระราชาแต่จะไม่พบ จะเจอแต่ขุนนาง คุยกับขุนนางเราจะรู้ว่าพระราชาอยู่ที่ห้องใต้ดิน.. ให้เราตามไปห้องใต้ดิน(มีบันไดลง สังเกตุดีๆ).. ที่ห้องกลางพระราชาจะเดินสวนออกมาพอดี เมื่อพระราชาออกมา ทหารก็จะขวางทางเข้าเอาไว้.. ให้กลับไปคุยกับพระราชาที่ท้องพระโรงข้างบน แล้วพระราชาจะถามหากระจกแห่งราห์ ให้เราเอาให้ดู.. แล้วพระราชาจะพาเราไปดูเจ้าหญิงที่ถูกจับอยู่ในกระจกในห้องใต้ดิน.. ให้ใช้กระจกแห่งราห์ต่อหน้าองค์หญิงก็จะไม่มีผลอะไร คุยกับเจ้าหญิงพระองค์ก็ทำได้เพียงเคาะกระจกเท่านั้น.. พระราชาจะวิ่งผลุนผลันออกมาเพราะรับไม่ได้…

กลับมาปรึกษากับพระราชาที่ท้องพระโรง คุยกับขุนนาง จากนั้นออกเดินทางไปที่หอคอยทางทิศเหนือของปราสาท(อ้อมมาทางขวา ข้ามแนวเขาไป).. แต่จะพบแค่บ่อน้ำเก่า ให้ลงไปคุยกับคนแก่ในนั้น ออกมา แล้วกลับไปที่โลกด้านบน.. วาร์ปไปเมืองเคลียร์เบลแล้วใช้เตียงลอยฟ้าไปทางทิศเหนือพอสมควร จะเจอกับทะเลทรายขนาดใหญ่.. ช่วงกลางทะเลทรายค่อนมาทางหญ้า จะพบหอคอยอยู่ ให้เราเข้าไป.. จะประตูเวทย์ปิดอยู่ให้เราใช้คาถา “อินปัส” หรือ “อินเด็นติฟาย” ของพระเอก จะสามารถเปิดได้.. ลุยขึ้นไปชั้นบนสุดจะพบพ่อมด “มิรัลโก้” ตัวการที่จับเจ้าหญิงไว้ ให้เราจัดการมันซะแล้วกลับไปยังปราสาทโฟนที่แผ่นดินมายา คุยกับพระราชาแล้วจะพากันไปหาเจ้าหญิงที่ห้องใต้ดิน ซึ่งเจ้าหญิงจะหลุดออกมาได้ เราจะได้รับ “กุญแจประตูน้ำ” มา…

จากนั้นวาร์ปกลับไปตั้งหลักที่เมือง “ซานมาริโน่” อีกครั้ง.. พักผ่อนนอนหลับ จัดการไอเท็มให้เรียบร้อย.. พร้อมแล้วออกเดินทางสู่ “ประตูน้ำใหญ่” ที่มีหน้าตาคล้ายสะพานใหญ่ๆกั้นระหว่างแม่น้ำนั่นเอง.. มันจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเวิ้งน้ำทะเลตรงกลางแม็พนั่นเอง.. ล่องเรือข้ามทวีปมาเลย..

เมื่อทะลุประตูน้ำมาได้แล้ว แล่นเรือเลียบชายฝั่งไปทางทิศตะวันตก แล้วขึ้นเหนือ จะเจอหมู่บ้าน “เปสคานี่” ซึ่งอยู่ทวีปทางตะวันตกของปราสาทโฟนพอดีนั่นเอง(ระนาบเดียวกับปราสาทโฟนเลยหมู่บ้าน).. เข้าไปหาข่าวสาร คุยกับชาวบ้านทุกคน เล่นกับแมวหน้าถ้ำด้วยนิดนึง เพราะเราเป็นทาสแมว😆.. เสร็จแล้วออกจากหมู่บ้านแล้วไปที่ถ้ำน้ำทะเลทางทิศเหนือของหมู่บ้านโดยใช้เรือล่องเข้าไป.. จะพบนางเงือกหนึ่งนาง แต่เธอจะหนีเราทันทีเมื่อเห็นเรา ตามเข้าไปด้านในก็หนีไปอีก.. ให้เรากลับมาที่หมู่บ้านเปสคานี่ ไปที่บ้านพ่อค้าปลาซ้ายบน เข้าไปคุยกับพ่อค้าชุดเขียวแล้วเขาจะรีบออกจากบ้านไป ให้เราวิ่งตามไป.. แกจะวิ่งไปคุยกับคนชื่อ “โร๊บ” ที่บ้านขวาล่างของหมู่บ้าน(รูปร่างล่ำๆ แต่งตัวเหมือนคนขายอาวุธ).. เข้าไปในบ้านขวาล่าง คุยกับพ่อค้าชุดเขียวก่อน แล้วแกก็จะวิ่งกลับบ้านไป.. เสร็จแล้วไปคุยกับโร๊บแล้วออกจากบ้านมาครับ..

โร๊บจะตามออกมาแล้วเดินไปที่ไหนซักที่.. ให้เราแอบตามเค้าไป อย่าให้เค้าเห็นเราเด็ดขาด(หาเหลี่ยมดีๆ ถ้าเค้าเห็นเรา เค้าจะหยุดแล้วกลับบ้านทันที ทุกอย่างต้องเริ่มใหม่หมด).. โร๊บแอบไปที่ถ้ำหลังหมู่บ้าน ให้ตามไปดูโดยคอยหลบให้ดี อย่าให้เขาเห็นเด็ดขาด.. เมื่อไปถึงด้านใน เราจะเห็นโร๊บจะกดสวิตทางลับเพื่อเปิดประตูลับ.. ให้เราทำตามเขาแล้วเดินตามเข้าไป.. จะพบโร๊บอยู่กับนางเงือกชื่อ “ดีเน่” แล้วโร๊บจะตกใจขอร้องไม่ให้เรานำเรื่องนี้ไปบอกใคร คุยกับเค้าให้ตอบ “No” ก่อนแล้วค่อยตอบ “Yes”.. เราจะอาสาพาดีเน่ไปส่ง จากนั้นก็ให้ไปเอาเรือมาที่ถ้ำทางทิศเหนือซึ่งเชื่อมต่อกับที่ซ่อนลับนี้.. กดสำรวจหินแท่งกลาง ดีเน่ก็จะว่ายออกมาหาเรา เธอจะจุ๊บขอบคุณโร๊บด้วยหนึ่งที.. จากนั้นให้เราพาดีเน่ไปส่งที่เวิ้งทะเลใหญ่ด้านในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไกลๆจากที่นี่.. จะมีกลุ่มโขดหินอยู่(ดูในรูปข้างล่าง)ให้ไปตรงกลางจะพบเหล่านางเงือก ตอนแรกจะตกใจกันหมด แต่พอเห็นดีเน่มากับเราด้วย “ดีน่า” พี่สาวดีเน่ จึงหยุดชะงักรอพูดคุยกับเรา.. เธอจะให้ “พิณแห่งนางเงือก” เป็นรางวัลแก่เราที่พาน้องสาวเธอมาส่ง.. ซึ่งเวลาใช้แล้วจะทำให้เรือของเราดำลงไปในน้ำได้.. วาร์ปกลับมาบอกข่าวให้โร๊บทราบ.. อย่าลืม ซื้ออาวุธชุดป้องกันและไอเท็มให้เรียบร้อย…

ล่องเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเวิ้งทะเลตรงกลาง.. จะพบโขดหินโสโครกกระหยอมกระแหยมปิดทาง.. ให้เราใช้พิณแห่งนางเงือกดำน้ำลอดใต้โขดหินไปโผล่อีกฟากแผ่นดิน(เวลาจะขึ้นกดเหมือนจอดเตียงเหาะ).. แล้วแล่นเรือเลียบชายฝั่งลงมาทางทิศใต้ จนพ้นเขตหุบเขาสูงก็ขึ้นบนบก.. เดินมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ จะเจอซอกเขาหิมะ และหมู่บ้าน “เม้าท์สโนว์” อยู่ในหุบเขาหิมะ เข้าไปในหมู่บ้านจะพบว่าคนในหมู่บ้านเป็นน้ำแข็งกันไปหมด มีบางคนเท่านั้นที่รอดอยู่ได้(ในโรงแรมชั้นสองมีนักรบรอดอยู่ คุยกับเค้าเพื่อนอนพักผ่อนได้).. คุยกับทุกคนในหมู่บ้านให้ครบ โดยเฉพาะคุณตาบ้านขวาบน.. ให้ออกจากหมู่บ้านไปถ้ำบริเวณเชิงเขา(ไม่ใช่บนสุด).. ที่นั่นจะมีพื้นน้ำแข็ง ที่ต้องสไลด์ตัวไปและเปลี่ยนทิศทางได้เฉพาะตอนแตะกำแพงหรือเสาได้เท่านั้น.. ดังนั้น เล็งเหลี่ยมดีๆ(กว่าจะได้คุย).. พบผู้หญิงอยู่คนหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ตรงกลาง เธอจะบอกให้เรากลับไปถามหาคนชื่อ “โกลัน” ที่หมู่บ้านเม้าสโนว์(คุณตาคนที่ผู้เขียนบอกนั่นเอง).. ให้กลับไปบ้านขวาบนจะพบ ชายแก่ที่ชื่อโกลันอยู่ในห้องใต้ดิน แล้วเราจะพบ “เทรี่” ที่มาตามหาดาบในตำนานที่นี่ด้วย.. คุยกับคุณตาแล้วกลับไปหาผู้หญิงที่ถ้ำเชิงเขา.. เธอจะเผยร่างแท้จริงคือนางพญาหิมะชื่อ “ยูริน่า” นั่นเอง.. เธอจะคลายมนตร์แช่แข็งให้กับหมู่บ้าน แล้วเล่าเรื่องราวให้เราฟัง จากนั้นกลับไปที่หมู่บ้านเม้าสโนว์ จะพบว่าผู้คนหายเป็นน้ำแข็งกันแล้ว ให้เราไปพบโกลันอีกครั้ง.. แล้วไปที่โบสถ์จะพบชายชื่อ “แซม” จะเล่าให้ฟังเรื่องดาบในตำนานที่อยู่ที่ถ้ำภูเขาทางทิศเหนือ ให้เราบุกไปที่ถ้ำทางทิศเหนือกันเลย(ถ้ำยอดบนสุด).. พอไปถึงเราจะต้องใส่รหัสที่ประตูโดยตอบคำถาม 3 ข้อ ข้อ 1 ตอบ 1 , ข้อ 2 ตอบ 3 , ข้อ 3 ตอบ 2 ก็จะสามารถเปิดประตูผ่านเข้าไปได้.. บุกเข้าไปจะเจอปริศนาให้เราเหยียบสวิตซ์ 4 อันบนพื้นน้ำแข็ง.. เล็งให้ดี เหยียบแล้วแตก ห้ามเดินซ้ำที่เดิม.. ให้เราเดินเหยียบปุ่ม บน, ซ้าย, ขวา, ล่าง ประตูห้องจะเปิด พอเราเข้าไปจะพบดาบในตำนาน “ลามิอัส” แล้วเทรี่จะเข้ามาแย่ง แต่ดาบได้ขึ้นสนิมหมดแล้ว เทรี่จึงไม่สนใจ แต่เราจะเก็บมาแล้วให้กลับไปพบแซมที่หมู่บ้านเม้าสโนว์ แซมจะแนะนำให้ไปหาช่างตีเหล็ก โดยให้ “จดหมายผ่านทาง” มาด้วย…..

วาร์ปไปเริ่มที่เมืองซันมาริโน่อีกครั้ง.. ล่องเรือเข้าไปในแม่น้ำทางทิศใต้ ซึ่งปากแม่น้ำจะมีสะพานขวางอยู่ ให้ดำน้ำผ่านไป.. แล้วล่องเรือไปตามแม่น้ำตะวันออกเฉียงเหนือจนพบเมือง “รอนก้า เดเซโอ” อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำ.. ถ้าไม่มีจดหมายผ่านมา ทหารยามหน้าเมืองจะไล่เราทันที.. แต่ถ้ามีก็เข้าได้.. รวบรวมข่าวสารภายในเมืองอย่างละเอียด ให้ไปหาชายชื่อ “ฮ็อค” หัวยุ่งๆ หน้าเหมือนมนุษย์ยุคหิน 😆 เขาจะอยู่ที่ดาดฟ้าของอาคารข้างขวาของ “บันนี่เธียเตอร์” ซึ่งประตูทางเข้าอยู่ด้านข้างของตัวอาคาร(ใต้ราวแขวนเสื้อผ้า).. จะมีสาวบันนี่ยืนขวางบันไดอยู่ เมื่อเราคุยกับเธอ เธอจะพาเราไปปู้ยี่ปู้ยำหนึ่งแมทช์แล้วปล่อยออกมา.. 😂 ขึ้นไปคุยกับฮ็อคบนดาดฟ้า.. เขาจะยอมช่วยเราหาข่าวสารของช่างตีดาบ แต่ลีลานิดหน่อย(ไม่รู้เป็นซ่งติงอะไร).. เค้าจะวิ่งหนีไปปลอมเป็นบาทหลวงในโบสถ์.. ตามไปตบให้หมวกหลุด.. จากนั้นจะหนีไปที่ปลอมตัวเป็นบันนี่เกิร์ลที่ห้องแต่งตัวด้านหลังในคลับ “บันนี่เธียเตอร์”.. เมื่อเราตามไปในห้อง เค้าจะตกใจแล้ววิ่งออกมา.. แล้วไปปลอมตัวเป็นบาร์เทนเดอร์ทางซ้ายของเมือง.. ให้เราเดินอ้อมไปคุยกับเค้าในเค้าท์เตอร์.. เมื่อเค้าถามคำถามให้ตอบ No, No, และ Yes เค้าก็จะเผยตัวจริง.. แล้วเขาจะให้เราไปพบเขาที่บ้าน ไปที่บ้านของฮ็อคที่อยู่ในบ่อน้ำ แล้วเราจะได้รับข่าวสารของนักตีดาบชื่อ “แซลลี่” ที่อาศัยอยู่ที่บ้านด้านขวาบนของเมือง ให้เราไปที่บ้านแซลลี่แต่จะไม่พบเธอ ให้ไปคุยกับฮ็อคอีกครั้ง.. เค้าจะบอกว่าเธอมักจะไปไหว้สุสานที่ศาลเจ้าทางทิศเหนือ ให้เราลองไปที่นั่นดู.. เมื่อไป เราก็จะได้พบกับแซลลี่ แต่เธอจะปฏิเสธที่จะตีดาบให้เราแล้ววิ่งหนีไป.. จากนั้นให้เราตามเธอกลับมาที่บ้านเธอขวาบน.. คุยกับเธอจนยอมตีดาบให้ โดยจะต้องยืนจ้องตากับเธอก่อนแป๊บนึง(ให้ยืนเฉยๆ อย่าหันไปทางอื่นสักพัก) ซึ่งจะใช้เวลาในการตีดาบระหว่างนั้ให้เราเดินทางไปที่อื่นกันก่อน…

จุดหมายต่อไปเราจะต้องออกค้นหาอาวุธในตำนานที่เหลืออีก 3 อย่าง.. ล่องเรือไปที่ทวีปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สุดของแผนที่โลก.. ที่นั่นเราจะพบปราสาท “กันดีโน่” อยู่.. หาทางมุดไปให้ได้โดยใช้พิณนางเงือกเพื่อดำน้ำเข้าช่วย.. ให้รวบรวมข่าวสารและสำรวจในเมืองและปราสาทนี้ให้ทั่ว.. เสร็จแล้วไปคุยกับพระราชา เราจะได้ข่าวสารเกี่ยวกับโล่ห์ในตำนาน.. จากนั้นให้เราวาร์ไปเมืองอามอล แล้วดำน้ำไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบซากเรืออับปาง.. ในนี้เราจะพบ “กุญแจประตูคุก” อยู่ จากนั้นลองดำน้ำไปที่ทะเลด้านทิศเหนือของปราสาทกันดีโน่.. จะพบบันไดใต้ทะเล เข้าไปข้างในจะพบกับ “จ้าวสมุทรโปไซดอน” เขาจะวานให้เราไปจัดการกับเจ้า “กราคอส” ที่ระรานผู้คนไปทั่ว.. ให้เราดำน้ำไปทางทิศใต้ของปราสาทโฟน จะพบปราสาทของเจ้ากราคอส ในปราสาทนี้ให้เราหาของสำคัญอย่างนึงคือ “ขวดใส่ทรายแห่งเวลา” ให้พบ.. แล้วไปจัดการกับเข้ากราคอสให้ได้ เมื่อมันตายแล้วจะปลดปล่อยเมือง “กัลเบโร่น่า” ออกมา…

วาร์ปไปตั้งหลักที่เมือง “อามอล” ล่องเรือจากเมืองอามอลลงมาทางใต้ แล้วเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกไม่ไกล จะได้พบแม่น้ำที่ตัดกันเป็นสี่แยก(ขวาล่างเป็นบ่อน้ำ) ให้เราขึ้นไปทางเหนือจะเจอถ้ำ(เป็นถ้ำที่ต้องมาทางน้ำเท่านั้น).. ด้านในเถ้ำป็นทางเขาวงกต.. วิธีผ่านคือ จากจุดเริ่มให้เดินขึ้นไปด้านบนจนเจอผนังแล้วเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยจนเจอสี่แยก จากนั้นเดินลงล่างจะผ่านชั้นแรกไปได้.. พอชั้นต่อมาจะเห็นรูปปั้นมังกรปีศาจอยู่ ให้ไปที่หน้ารูปปั้นแล้วเดินลงมาจนเชนกับกำแพง กำแพงก้อนนี้จะมีลักษณะคล้ายบันได.. เดินมาทางขวาแล้วอ้อมลงไปอีกฝั่งของกำแพง.. ตรงซอกแรกนั่นแหละ สำรวจแล้วจะมีบันไดทางลับลงไปต่อได้(ดูในภาพประกอบ)… ต่อมาจะพบบันไดวงกตให้ลงบันไดไป 3 ครั้งแล้วขึ้นอีก 2 ครั้ง ก็จะพบทางไปเอา “โล่ห์สฟีด้า” โล่ห์ในตำนานได้…..

กลับไปที่โลกด้านบน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง “เคลียร์เบล” จะพบเมือง “กัลเบโรน่า” อยู่กลางทะเล.. ให้นำ “บาบาร่า” เข้ากลุ่มมาในเมืองนี้ด้วย(ใช้คำสั่งจัดเรียงแถว Lineup ในเมนู เพื่อเรียงตัวละคร).. เราต้องไปหาแม่เฒ่าของหมู่บ้าน.. ให้เราลงบันไดที่อยู่ตรงกลางระหว่างร้านอาวุธและร้านชุดป้องกัน.. เดินไปขึ้นบันไดด้านบน.. เราจะได้พบกับห้องที่มีประกายวิ้งๆหน้าห้อง.. ยืนตรงนั้น แล้วกดใช้ “ขวดใส่ทรายแห่งเวลา” ที่เราเพิ่งได้มา.. แล้วจึงจะเข้าไปพบกับแม่เฒ่าได้(ไม่งั้นจะเดินวนอยู่แบบนั้น).. บาบาร่าจะได้รับสุดยอดเวทมนตร์ “มาดันเต้” มา.. จากนั้นแม่เฒ่าจะโดนสายฟ้าผ่าเสียชีวิตไป(อ้าว.. อิหยังว่ะ.. 😆)…

ให้มาที่แผ่นดินมายา ไปทวีปทางทิศตะวันเฉียงเหนือจะพบ หมู่บ้าน “โทรุคก้า” ที่ๆเราเคยมาครั้งแรกตอนที่ยังมองตัวเราไม่เห็น รวบรวมข่าวสารจากชาวบ้านจะรู้ว่าลูกสาวเศรษฐีในเมือง(บ้านขวาบน)ถูกจับไป.. ให้เราไปช่วยตรงบ้านเดี่ยวที่มีบ่อน้ำทางทิศเหนือ.. เมื่อช่วยลูกสาวเศรษฐีไว้ได้แล้ว เราจะได้รับของรางวัลจากเศรษฐีเป็นการตอบแทน.. จากนั้นให้เราข้ามทวีปไปทางทิศตะวันออกจากเมืองโทรุคก้า.. จะพบสถานที่เหมือนกับหมู่บ้าน “ไลฟ์ค็อด” ของเราด้วย.. ตอนขึ้นเขาไปเราจะได้เห็นตัวเราเองยืนคุยกับชาวบ้านอยู่.. ตามไปที่หมู่บ้าน เข้าไปรวบรวมข่าวสาร คุยกับน้องสาวเราที่บ้าน.. แล้วไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน คุยกับผู้ใหญ่บ้าน.. กลับมาคุยกับน้องสาว แล้วกลับไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านอีกที เราจะได้พบกับตัวเราอีกร่างหนึ่งอยู่ด้วย.. เมื่อเราเข้าไปคุยกับตัวเราอีกคน จะมีอาการเหมือนจะรวมเป็นร่างเดียวกัน เป็ฯแสงแว้บๆ แต่อีกร่างของเราจะตกใจและหนีไปซะก่อน.. ให้เราตามออกมา บริเวณที่ทางลงภูเขาที่สามารถสไลด์ลื่นลงไปด้านล่างได้ทางซีกขวาของหุบเขา.. เข้าไปในถ้ำที่มีกล่องสมบัติสองกล่องอยู่.. เราจะได้พบกับเราอีกคนมายืนแอบอยู่ที่นี่.. เมื่อเข้าไปคุยด้วย จะมีเด็กมาบอกว่าหมู่บ้านถูกปีศาจโจมตี.. ให้เรารีบวิ่งตามไปกลับไปจัดการปีศาจให้หมด กลับไปช่วยทาเนียน้องสาวเราที่บ้านของเรา.. แล้วเราจะรวมร่างกันได้… ซึ่งตัวเราก็คือเจ้าชายแห่งเรด็อก นั่นเอง….. คุยกับทาเนียแล้วคุยกับชาวเมืองให้ทั่วแล้วกลับไปคุยกับทาเนียอีกครั้ง.. จากนั้นไปที่ปราสาทเรด็อก จะมีทหารมารอรับเรา โดยมีแม่ทัพคนใหม่ “ฟรานโก้” มาต้อนรับ ไปพบกับพระราชาและพระราชินี ตกดึกจะมีการฉลอง เราจะต้องไปสำรวจตามแสงเพื่อระลึกถึงอดีตต่างๆ สุดท้ายที่ห้องพระราชา.. และวันต่อมาเราจะได้รับ “หมวกเซบัส” หมวกแห่งตำนานมาด้วย…..

ล่องเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโทรุคก้า ให้เราดำน้ำจะสามารถลอดเข้าไปได้และจะพบกับสถานที่ประกวดความสวยงาม ให้เราเข้าประกวดการแข่งให้ชนะถึงรอบที่ 3 ให้ได้ แล้วเราจะได้รับ “พรมสวยงาม” มา.. กลับไปที่โลกด้านบนไปเมือง “กัลเบโรน่า” ไปหาผู้เฒ่าที่ชื่อว่า “กัลเบ” ให้พบแล้วท่านจะทำการปลุกเสกพรมของเราให้เป็นพรมเวทมนตร์…..

ล่องเรือไปทางทิศตะวันออกจากปราสาทกัลดีโน่ เพื่อไปยังทวีปทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะมี “ปราสาทเกรส” อยู่ โดยเราต้องใช้เรือและพรมเวทมนตร์ช่วยในการเข้าถึง เมื่อมาถึงแล้วจะพบว่าเป็นแค่ซากปราสาทที่ถูกทำลายเท่านั้น ให้เราสำรวจบ่อน้ำหน้าปราสาท แล้วเราจะไปโผล่ปราสาทเกรสในสภาพปกติ ให้เรารวบรวมข่าวสาร.. สำรวจในปราสาทด้านบนจะพบห้องพิธีกรรมอยู่ ไปที่ห้องครัวเพื่อเอาเครื่องเซ่นไปส่งที่ห้องพิธีกรรม แล้วจะมีการทำพิธีกรรมขึ้นให้เราตามไปดู จะพบว่าพระราชาได้เรียกปีศาจจากต่างแดนมาเพื่อให้ไปกำจัดจอมมาร แต่ปีศาจตนนั้นจะไม่เชื่อฟังแถมสังหารพระราชาด้วย จากนั้นเจ้าปีศาจจะฆ่าผู้คนในปราสาท เราจะหนีออกมาพร้อมกับพวกทหาร โดยแม่ทัพจะนำชุดเกราะไปซ่อนไว้ ให้เราหนีออกจากปราสาท แล้วจะพบว่าตัวเรากลับมาอยู่ปัจจุบันแล้ว จากนั้นให้เราไปที่ๆเป็นห้องฝึกซ้อมทหารที่แม่ทัพได้เอาชุดเกราะมาซ่อน ให้เราสำรวจตรงจุดนั้นจะเป็นทางลับลงไปเอา “ชุดเกราะออลโก้” ในตำนาน..

ให้เรากลับไปเอาดาบ “ลามีอัส” จากแซลลี่ที่เมืองรอนก้าเดเซโอ แล้วไปที่โลกด้านบน ให้ไปที่เมืองเคลียร์เบล แล้วไปทางทิศตะวันออก เราจะเจอหลุมยักษ์อีกแห่ง ต้องใช้พรมเวทมนตร์ในการเข้าถึง ให้ลงไปในหลุมยักษ์ จะพบต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งเดี่ยวๆ ให้เราเข้าไปจะพบวิหารที่มีสวิตซ์เป็นสัญลักษณ์ ให้เราไปเหยียบดังนี้ ด้านบนเป็นดวงอาทิตย์, ด้านซ้ายเป็นสายฟ้า, ด้านขวาเป็นไม้กางเขน, ด้านล่างเป็นรูปหัวใจ แล้วจะมีปราสาทลอยฟ้า “เฮลคราวน์” ลอยมาโจมตีเรา ซึ่งเราต้องสู้กับมัน แล้วเราจะสามารถเข้าไปข้างในได้ บุกเข้าไปด้านในจะพบกับเจ้าของปราสาท “จอมมารดูรัน” แต่จะต้องสู้กับเทรี่ที่โดนควบคุมจิตใจอยู่ก่อน แล้วก็จัดการเจ้าดูรันต่อ.. เมื่อปราบมันได้แล้ว เราจะได้เทรี่ซึ่งเป็นน้องชายพลัดพลากของมิเรยูมาเป็นพวกอีกคน…..

กลับไปโลกด้านบน บริเวณที่พบปราสาทเฮลคราวน์ จะพบว่าเป็นปราสาท “เซนิส”แทน ให้เราไปคุยกับพระราชาเซนิส แล้วไปที่บ่อน้ำในปราสาทโดยลงไป แล้วกลับขึ้นมา จะพบว่าเราอยู่ที่ “หอคอยแห่งอาชาสวรรค์” แล้ว ให้บุกขึ้นไปจนถึงยอดให้ได้ จะพบกับรูปปั้นอาชาสวรรค์ โดยจะต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่มาขัดขวางซะก่อน แล้ว “ฟาลชิอ้อน” ม้าของเราจะได้รับพลังกลายเป็น อาชาสวรรค์มีปีกสามารถบินไปในท้องฟ้าได้ โดยกดใช้ไอเทม “บังเหียนอาชาสวรรค์” แล้วกลับไปหาพระราชาเซนิส จะได้รับพลังให้ไปสู่โลกแห่งความมืดได้ โดยเวลา บินอยู่ให้กดปุ่ม X จะเข้าสู่โลกแห่งความมืดได้…..

มุ่งหน้าไปโลกแห่งความมืด.. เมื่อไปถึงเราจะสูญสิ้นพลังทั้งสิ้น ให้พยายามหนีศัตรูไปยังเมืองแห่งความสิ้นหวัง รวบรวมข่าวสาร คุยกับช่างทำอาวุธที่ห้องใต้ดิน จะได้รับ “ไปป์” ของเขามา ให้ไปทางทิศตะวันตกจะพบบ่อน้ำแร่ ให้ไปเข้าคิวลงบ่อน้ำแร่ โดยคุยกับคุณผู้หญิงที่เคาเตอร์ ให้สังเกตหินที่อยู่กลางบ่อ จะมีช่องที่สามารถเข้าไปได้ ข้างในจะมีทางวาร์ปกลับมายังเกาะทางทิศเหนือของปราสาทกัลดีโน่ ให้บินไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านไลฟ์คอตในแผ่นดินมายา จะพบหมู่บ้าน “แซคสัน” ให้ไปบ้านที่มีสุนัขเฝ้าอยู่ เอาไปป์ให้มันดู แล้วจะเข้าไปในบ้านได้ จะพบกับภรรยาของช่างทำอาวุธ แล้วเราจะได้รับอุปกรณ์ของช่างมา ให้กลับไปที่โลกแห่งความมืด นำอุปกรณ์ช่างไปให้ช่างทำอาวุธ แล้วเขาจะทำของให้กับเราโดยเลือกได้ว่าจะเอาอะไร มี 3 อย่าง หมวก, เกราะ, โล่ห์ เลือกได้อย่างใดอย่างนึง แล้วจะพักผ่อนกัน เมื่อตื่นมาจะเห็นของที่ทำเสร็จแล้ว และพลังของเราก็ได้กลับคืนมาแล้ว…..

ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมี “เมืองแห่งความโลภ” เข้าไปด้านในจะมีเหมืองทองอยู่ที่นี่ ให้ลองไปสำรวจดู จะพบหีบสมบัติให้ลองสำรวจจะเป็นหีบเปล่าและมีข้อความทิ้งไว้ กลับขึ้นไปบนเมือง ไปที่บ้านเศรษฐีมอลกัน ในเมืองที่อยู่ด้านหลังโรงแรม ขึ้นไปชั้น 2 คุยกับเขาแล้วจะต้องเสียเงิน 5,000G ค่าบอกข้อมูล ให้ไปที่ป่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะพบจุดเข้าไปในทะเลสาปกลางป่า ให้คุยกับทุกคนแล้วระดับน้ำจะลดลง ผู้คนจะเข้าแย่งชิงสมบัติกันอย่างบ้าคลั่ง ให้เราลงไปข้างล่างแล้วจะมีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้น คุยกับมันแล้วจะมีคนมาเล่นงานเรา ให้เราล้มเขาซะแล้วเดินออกมา จะมีเสียงลึกลับดังขึ้นแล้วเราจะถูกดึงย้อนมาอยู่ที่ก่อนเหตุการณ์แย่งชิงสมบัติกัน ให้เราวิ่งลงบันไดไปทางขวามือและไปที่หีบก่อน สำรวจพบว่าไม่มีอะไรในนั้น แล้วชาวบ้านจะรู้ว่าไม่มีอะไรในนั้น จึงพากันกลับไปกันหมด จากนั้นให้เราสำรวจที่หีบต่อหลายๆครั้งจนพบทางลับ ข้ามแม่น้ำไปทางเหนือได้…..

เมื่อข้ามแม่น้ำมาแล้วให้เดินไปทางทิศตะวันตก จะเจอบ่อน้ำใช้เป็นที่พักและเซฟได้ มุ่งหน้าไปทางเหนือจะเจอเรือนจำ เข้าไปจะพบยักษ์เฝ้าประตูอยู่เราต้องปราบเขาลง แล้วจะผ่านเข้าไปได้โดยได้รับกุญแจประตูคุกมา ให้เข้าไปข้างในแล้วจะถูกทหารจับเข้าคุก ให้หนีออกมาโดยเดินฝ่าทางเสียพลัง ไปด้านบนจะเจอห้องขังให้ลองคุยกับทหารยามตรงนั้น จะพบว่าเขาคือ “โซลดี้” แม่ทัพจากเรด็อกนั่นเอง แล้วจะได้รับชุดทหารปลอมตัวมา กดใช้เพื่อปลอมเป็นทหาร แล้วหาข่าวสารในเรือนจำนี้ดู ไปคุยกับพ่อค้าที่ขายของแล้วอ้อมไปที่หลังเคาท์เตอร์จะรู้ว่ามีซิสเตอร์แอนนาถูกจับไปด้วย จากนั้นเดินกลับออกมาจะมีการประหารนักโทษ ให้เราเข้าไปขัดขวาง แล้ว “ผู้คุมด็อกม่า” จะเข้ามาสู้กับเรา โดยเราจะถูกมันจับตัวไปขังอีกครั้ง ให้คุยกับทหารที่หลับอยู่แล้วชาวบ้านจะเข้ามาช่วยเรา จากนั้นกลับมาด้านบน จะมีการกบฏกันเกิดขึ้นให้เราบุกขึ้นไปด้านบนจะพบกับ “เจ้าของเรือนจำอาร์คเบอร์” รวมพลังล้มมันซะ แล้วกลับไปที่คุกตรงที่พบโซลดี้ครั้งแรก เราจะเข้าไปช่วย “นักปราชญ์คริมท์” ได้ ซึ่งเขาจะมอบ “ลูกแก้วแห่งความจริง” ให้กับเรามา แล้วจะพักผ่อนกัน ในตอนดึกผู้คนจะถูกสาปเป็นหินและสัตว์กันหมด…..

มุ่งหน้าไปยังแหลมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเรือนจำ กดใช้ลูกแก้วแห่งความจริงแล้วเราจะถูกวาร์ปมาหน้า “ภูเขาทมิฬ” ซึ่งเป็นที่อยู่ของ “จ้าวปีศาจ” สำรวจทางจะพบนักปราชญ์อีกคนนึงก็คือ “นักปราชญ์มาซาล” ซึ่งเป็นพี่ชายของนักปราชญ์คริมท์ ให้เข้าไปสำรวจตัวนักปราชญ์ดู แล้วให้เราย้อนกลับไปหานักปราชญ์คริมท์ แล้วเขาจะมากับเราด้วย ให้กลับไปหานักปราชญ์มาซาล ซึ่งเราจะต้องบุกเข้าไปในจิตใจของเขา โดยกำจัดปีศาจที่อยู่ในจิตใจเขาให้ได้ แล้วเขาจะได้สติ และร่วมมือกับน้องชายทำลายภูเขาทมิฬทำให้ปราสาทจอมมารตกลงมา…..

และในที่สุด การต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็มาถึง.. ให้เราบุกเข้าไปปราสาทจอมมาร.. ตามทางจะมีของดีๆให้เก็บอยู่มากมาย.. ในท้ายสุดเราต้องต่อสู้กับ “จอมมารเดสทามัวร์” ผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าจอมปีศาจทั้ง 4 (มุโด้, จามิรัส, กราคอส, ดูรัน) ในการคิดครอบครองโลกมนุษย์ รวมพลังกำจัดมันลงให้ได้ ซึ่งมันมีด้วยกันอยู่ 3 ร่าง.. เมื่อเอาชนะมันได้แล้ว โลกก็จะกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง………

***************************************************************************

ในขณะดูฉากจบ จะเห็นตอนที่เทรี่บุกไปในน้ำ แล้วมีแสงแวบๆ เมื่อดูฉากจบจนจบแล้วให้ Reset แล้วเลือกเซฟเก่าที่จบไป จากนั้นกลับไปยัง ถ้ำต้นน้ำทางทิศเหนือของเมืองอามอลในโลกด้านบน ไปจุดที่เหมือนกับฉากจบ สำรวจแล้วจะได้ “จิตฮากุเร” มา เพื่อใช้เปลี่ยนอาชีพสุดท้าย…..

ในเกมส์นี้จะมีอาชีพทั้งหมด 18 อาชีพ.. ถ้าเราทำให้เป็นมาสเตอร์ได้หมด แล้วไปที่วิหารดาม่า ที่ห้องล่างที่มีคบเพลิง จะมีไฟลุกโชติช่วง.. ถ้าเราเป็นมาสเตอร์แต่ละอาชีพ เมื่อทำให้ไฟลุกโชติครบ 18 คบเพลิงแล้ว ให้เดินไปด้านบนแล้วจะมีทางลับโผล่ออกมา ลุยเข้าไปในนั้นเราจะพบกับ “หมู่บ้านเดสค็อด” ที่เหมือนกับหมู่บ้านไลฟ์คอดของเรา เมื่อเข้าไปผู้ใหญ่บ้านจะเข้ามาคุยกับเรา แล้วให้เราไปที่บ้านหลังแรก คุยกับผู้หญิงในนั้นจะเป็นการนอน แล้วตื่นมาทุกคนจะกลายเป็นมอนสเตอร์ทั้งหมด จากนั้นไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านจะมีทางลับไปเจอบ่อน้ำ ให้ลงไปและบุกเข้าไปต่อ จนถึงห้องพิธีกรรม เราจะพบกับ จอมปีศาจ “ดาร์คเดรอัม” ที่เคยเจอที่ปราสาทเกรส ซึ่งจะเก่งกาจกว่าเดสทามัวร์มาก และต้องปราบให้ได้ภายในเทิร์นที่กำหนด เมื่อปราบได้แล้ว ดาร์คเดรอัมจะเป็นผู้ช่วยเราจัดการกับ เดสทามัวร์ แล้วจะพบกับฉากจบที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย…..

Dragon Quest 6 : Real World Map

Dragon Quest 6 : Dream World Map

#DragonQuest6 #ดราก้อนเควสท์ภาค6 #บทสรุปDragonQuest6 #บทสรุปดราก้อนเควสท์ภาค6 #บทสรุปเกมส์


แชร์ลงโซเชียลมีเดีย
2 thoughts on “บทสรุป DRAGON QUEST 6 (ดราก้อนเควสท์ภาค6)”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: ชอบบทความ กรุณาส่งลิงก์มาที่นี่แทนนะครับ อย่าก็อปปี้บทความไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด..