แชร์ลงโซเชียลมีเดีย

พร้อมบุกปราสาทจอมมารกันรึยังพวกเรา!!!

เกริ่นนำ.

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ.. เป็นที่สุดของที่สุดของที่สุดของความคลาสสิค ของสาย RPG.. สุดในทุกๆด้าน ทั้งภาพที่สวยสดใสระดับ 10 คะแนนเต็ม.. กราฟิกในทุกๆส่วน สวยหยดแบบที่สุดของเครื่อง Super Famicom จะรังสรรค์ออกมาได้.. เสียงดนตรีที่ไพเราะนุ่มละมุน ประดุจเสียงพิณจากสวรรค์.. ลายเส้นตัวละครและมอนสเตอร์จาก อ.โทริยามะ อากิระ สุดหล่อ ที่วาดอะไรก็ดูเท่ห์ดูน่ารักน่าเล่นน่าอ่านไปหมด.. เนื้อเรื่องยาวเหยียดให้เล่นกันจนเต็มอิ่ม.. ระบบแทคติคอัตโนมัติของเพื่อนร่วมทีม ระบบอาชีพที่ซับซ้อนหลากหลายมากขึ้น.. เป็นยอดเกมคลาสสิคอีกหนึ่งเกมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง.. ครับ… 👍

คำเตือน999

บทสรุป.

เริ่มต้นเกมส์.. เราจะตั้งแคมป์กองไฟอยู่ในป่ากับเพื่อนๆใกล้กับปราสาทของจอมปีศาจ “มุโด้”.. ไม่นานนัก เพื่อนชายร่างใหญ่ของเราจะกลับมาจากการลาดตระเวณ เค้าบอกว่าทุกอย่างโอเค ทางสะดวก พร้อมบุก.. ให้เราดับกองไฟให้เรียบร้อยแล้วตามเพื่อนๆไปทันที.. คุยกับเพื่อนๆอีกครั้ง.. เพื่อนสาวผมทองของเราเธอจะหยิบขลุ่ยขึ้นมาเป่าเพื่อเรียกมังกรสีทอง พาหนะสุดจ๊าบของเราที่จะใช้บุกเข้าโจมตีปราสาทจอมมารในวันนี้..

เมื่อเข้ามาในปราสาทได้ ให้เราเดินนำเพื่อนๆไปซีกซ้ายบนของปราสาททันที.. เดินตามทางไปเรื่อยๆจนถึงห้องบนสุด.. เราจะเจอกับห้องของจอมปีศาจมุโด้.. เราพร้อม เพื่อนๆพร้อม บุกเข้าไปทันที.. แต่เราจะไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย.. มันจะใช้เวทมนตร์ยกเราทุกคนขึ้นเหนือพื้นดิน ทำให้เราหมุนติ้วๆๆ ทำอะไรไม่ได้.. จากนั้นมันจะเสกให้เรากลายเป็นหิน และทำให้ร่างเราระเบิดที่ละคนๆ.. ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง!….. อ้ากกก!!!..

เราจะค่อยๆสะดุ้งตื่นขึ้น(ที่เมืองไลฟ์ค็อต) เมื่อน้องสาวเรามาเรียก.. ให้ตายเถอะ เมื่อกี๊แค่ฝันไปอย่างนั้นเหรอ เหมือนจริงสุดๆเลยนะ.. เธอบอกว่า เธอไปเจอผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านอยากพบกับเราอยากคุยกับเรา.. ออกจากบ้านแล้วไปหาผู้ใหญ่บ้าน (สามารถเซฟเกมส์ได้ที่โบสถ์).. เราจะได้รับมิชชั่นให้ไปหาซื้อมงกุฏเพื่อนำกลับมาประกอบพิธีสำคัญที่หมู่บ้านของเรา.. และเราจะได้ถุงสำหรับเก็บของเพื่อฝากของไปขายมาด้วย(สินค้าโอท็อปของหมู่บ้านเรา พ่อผู้ใหญ่ฝากไปขาย).. ซื้อของให้เรียบร้อย ออกจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้ เมื่อออกจากเขตภูเขาได้ให้ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะพบเมือง “เชียน่า” เมืองนี้จะมีร้านค้าอยู่มากมาย(เป็นเมืองแห่งการค้าขาย เป็นตลาดนัดเปิดท้าย) มีร้านที่ขายแผนที่อยู่ ซึ่งเราสามารถต่อราคาจากราคาเต็ม 2,000G ให้เหลือ 200G ได้.. และทางมุมขวาล่างสุดของเมือง มีพ่อค้าร่างใหญ่แอบเปิดโต๊ะขายไอเท็มพิเศษอยู่ เราสามารถหาซื้อกุญแจผีจากเค้าได้ในราคา 470G ให้ซื้อติดตัวไว้(ถ้ามีเงินพอ แต่ถ้าเงินไม่พอ ค่อยแวะมาซื้อทีหลังได้).. ของที่ผู้ใหญ่บ้านฝากให้มาขายเราสามารถนำไปขายให้กับร้านในเมืองนี้ได้ในราคาต่างๆกัน ดังนั้นให้เราเลือกร้านที่ให้ราคาดีที่สุด(อย่าลืมสำรวจตามถังตามตู้ให้ครบนะครับ เราจะได้ไอเท็มเพิ่มค่าพลังต่างๆเรื่อยๆ เครื่องป้องกันต่างๆด้วย จะได้ไม่เสียของครับ).. ไปทางขวาบนของเมือง จะพบกับบ้านของช่างทำมงกุฏ แต่เค้าจะไม่อยู่ เค้าหายจากบ้านไปสามวันแล้ว และคุณลูกสาวก็เป็นห่วงคุณพ่อมากๆ.. เราต้องไปช่วยตามหาเค้า…..

ขายร้านไหนดีนะ? ของในถุงนี่..

ออกจากเมืองเชียน่าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนิดๆ เราจะได้พบกับ “หลุมยักษ์” ให้เข้าไปสำรวจในนั้น เราจะพบกับช่างทำมงกุฏซึ่งกำลังจะหล่นไปในหลุมยักษ์ ให้เราเข้าไปช่วยเค้า แต่กลายเป็นว่าเราจะตกลงไปซะเอง.. และสุดท้ายเราก็ตกจนได้… เมื่อตกลงมาด้านล่างแล้ว ใกล้ๆกันจะพบกับเมือง “โทรุคก้า” ให้เราเข้าไปในเมือง แต่ตัวเราจะกลายเป็นมนุษย์ล่องหนซึ่งจะไม่มีใครมองเห็นเราได้เลย(แต่นอนพักในโรงแรมได้นะ).. อย่าลืมคุยกับเด็กๆที่ขวาล่างของหมู่บ้าน แล้วลงไปสำรวจในบ่อน้ำ จะมีคนอยู่ในบ่อน้ำด้วย.. สำรวจตามตู้จะได้เม็ดเพิ่มค่าพลัง อย่าพลาด.. ออกจากหมู่บ้านไปทางทิศเหนือเราจะพบกระท่อมเล็กๆอยู่ เข้าไปจะพบบ่อน้ำที่จะนำเราสู่ไปโลกด้านบนได้.. เมื่อกลับมาได้แล้วให้ไปยังเมือง “เชียน่า” อีกครั้ง.. ไปที่บ้านของช่างทำมงกุฏขวาบน.. เค้าจะดีใจมากที่เห็นเรายังปลอดภัย และจะให้ “มงกุฏวิญญาณ” ที่เพิ่งทำเสร็จเป็นการตอบแทนแก่เราฟรีๆเลย…..

กลับไปยังหมู่บ้าน “ไลฟ์คอต” ของเรา.. เราจะมาถึงตอนช่วงโพล้เพล้ย่ำค่ำพอดี ผู้ใหญ่บ้านจะรอเราอยู่แล้ว แกจะรีบเดินมาหาเราเลย แกจะดีใจและชื่นชมเราแบบสุดๆ นำมงกุฏมอบให้ผู้ใหญ่บ้านแล้วกลับบ้านของเราไปนอนพักผ่อนซักครู่.. ตอนกลางคืนเมื่อถึงเวลาเริ่มงานพิธีบวงสรวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกปักขุนเขาและหมู่บ้าน จะมีคนมาเรียกเรา.. “ทาเนีย” น้องสาวของเราจะได้รับหน้าที่เป็นร่างทรงอยู่ในพิธีศักดิ์สิทธินี้ด้วย เมื่อพิธีเริ่ม บาทหลวงร่ายคาถา.. วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ปรากฏออกมา พุ่งเป้ามาที่เรา และบอกให้เรารับรู้ถึงชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ที่เราต้องเผชิญ เกี่ยวกับความมืดที่จะครอบงำโลก เรามีพลังที่จะช่วยทุกคนได้.. จากนั้นจะเป็นงานฉลอง จุดพลุปุ้งๆปั้งๆสวยงาม ชาวบ้านเต้นรอบกองไฟบ้าง นอนดูพลุบ้าง กินเหล้าบ้าง อย่างชื่นมื่น.. ให้คุยกับทุกคน เราจะพบคนแอบดู “ทาเนีย” และ “ลันโด้” พูดคุยกันอยู่.. เค้าจะดึงเราไปฟังด้วย.. ดูเหมือนลันโด้จะขอแต่งงานกับทาเนียน้องเรา(เพิ่งจะ 17 กับ 16.. เด๋วตบฟ่ำ 😆).. แต่น้องสาวเราก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอปฏิเสธไปเพราะยังสับสนกับชีวิตตัวเองอยู่.. ลันโด้บ่นน้อยใจอยู่คนเดียว.. ไปหาผู้ใหญ่บ้าน แล้วเราจะได้รับจดหมายผ่านทางเข้าไปสู่ “ปราสาทเรด็อก” ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านตลาดนัดนั่นเอง.. ออกมาจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นกลับไปนอนที่บ้านของเรา รุ่งเช้าให้เราออกจากหมู่บ้าน จากนั้นมุ่งไปสู่ “ปราสาทเรด็อก” ทันที…..

เมื่อถึงเรด็อก.. เราจะสามารถเข้ามาในเมืองได้แล้ว รวบรวมข่าวสาร และสำรวจในเมืองให้ทั่ว.. เราจะได้ทราบว่าพระราชาเมืองนี้กำลังรวบรวมกำลังคนเพื่อต่อสู้กับจ้าวปีศาจมุโด้ พระองค์ยุ่งและไม่เคยได้พักผ่อนเพื่อดูแลประชาชนของพระองค์.. บนซ้ายของเมืองจะพบคุณป้าทำแหวนตกลงไปในบ่อน้ำ ให้เราอาสาลงไปเก็บมาให้เขา ซึ่งเราต้องปราบมอนสเตอร์ที่เฝ้าอยู่ด้วย อะไรหล่นลงไปมันจะฮุบเป็นของมันหมด.. เอาชนะได้แล้ว เก็บเอาแหวนมาคืนให้คุณป้า คุณป้าจะดีใจมากจะมอบของตอบแทนกลับมาให้เรา เป็นเมล็ดเพิ่มพลังความแข็งแรง สามารถกินได้เลย.. จากนั้นไปคุยกับคุณทหารที่เฝ้าทางเข้าปราสาทด้านบน.. เค้าจะถามเราว่าจะมาสมัครเป็นนักรบเพื่อไปปราบเจ้าปีศาจมุโด้ใช่หรือไม่? เราก็ตอบว่า “ใช่” ไป.. เค้าจะบอกว่าให้มารวมตัวกันที่นี่เมื่อเสียงกระดิ่งดัง.. จากนั้นให้เราไปที่โบสถ์จะพบกับ “ฮัตสัน” ที่มาขอพรพระเดินสวนออกไป.. ออกจากโบสถ์ เดินไปไม่ไกลเสียงระฆังจะดังขึ้น ให้เรากลับไปที่ปราสาทอีกครั้ง เข้าไปด้านใน จะพบกับ “แม่ทัพโซลดี้” ซึ่งกำลังประกาศรายละเอียดต่างๆ เหล่าผู้เข้าร่วมสมัครยืนฟังกันอึงคะนึงมี 😂.. จะมีการทดสอบกันที่หอคอยทางใต้ ให้ทุกคนไปเอาไอเท็มสำคัญบนชั้นบนสุดมา ใครเอามาได้เร็วที่สุด จะได้รับเลือกเป็นนักรบของเรด็อค..

พักผ่อนซื้อไอเท็มให้พร้อมแล้วให้เรามุ่งหน้าไปที่นั่น.. รอบนี้ทหารที่เฝ้าด้านหน้าจะเปิดทางให้เราเข้าหอคอยได้.. ***คำแนะนำที่สำคัญคือ เจอใครไม่ต้องไปคุยกับมัน โดยเฉพาะ “ฮัตสัน” ว่าที่เพื่อนของเรานี่แหละ.. ตอนเล่นรอบแรก ผู้เขียนคุยกับฮัตสัน ฮัตสันจะวิ่งนำหน้าเราไปก่อน แล้วเมื่อเราไปถึงชั้นบนสุด จะกลับกลายเป็นฮัตสันที่จะได้ไอเท็มไปแล้วได้รับเลือก.. ส่วนเราต้องเดินโง่ๆออกมาจากเมือง.. ตลกสิ้นดีเลย.. โมโหขั้นสุดจริงๆ.. ต้องโหลดเซฟใหม่เพื่อเล่นใหม่ เสียเวลามากๆ.. พร้อมกับคำถามที่อยู่ในใจว่าทีมงานจะทำแบบนี้ทำไม?.. แล้วจะสามารถเดินเรื่องต่อได้หรือไม่ หากเราไม่ได้รับเลือก..

ดังนั้น ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ไม่ต้องไปคุยกับฮัตสัน ปล่อยยืนอยู่แบบนั้นแหละ.. ระหว่างทางจะได้สู้กับทหารหนึ่งจุด, เจอห้องที่มีพื้นลูกศรเลื่อนที่ต้องมองให้ดี, เมื่อเจอห้องสามห้องเรียงกันและมีคนยืนอยู่หน้าห้องทั้งสามห้อง ให้ไปห้องขวาสุดก่อน คุยกับชายผมทองในห้องจะได้ “เหรียญทอง” มาครอบครอง สำรวจที่ตู้จะได้ไอเท็ม.. ห้องกลางเป็นกับดักไม่ต้องเข้า.. ไปห้องซ้ายเลย แล้วเดินขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด ปราบบอสหน้าห้องให้ได้(อย่าลืมใช้เวทย์ลดพลังป้องกันศัตรูที่เรามีอัดใส่ซักสองที จะช่วยได้เยอะเลยครับ เราฟันได้ดาเมจเยอะขึ้นมาก).. เมื่อเอาชนะได้ เข้าไปในห้อง เปิดหีบและเก็บไอเท็ม “หลักฐานแห่งจิตใจไม่ย่อท้อ” มา..

กลับไปพบแม่ทัพโซลดี้ที่ปราสาทเรด็อกอีกครั้ง เราจะได้รับแต่งตั้งเป็นทหารแห่งเรด็อก… จากนั้นเมื่อเราเดินออกมานอกเมืองไม่ไกล “ฮัตสัน” จะวิ่งตามเรามาและขอร่วมเดินทางไปกับเราด้วย.. กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเราก็ได้ก่อตั้งขึ้นบัดนี้นั่นเอง 😂… ก่อนจะไปบู๊กันในเควสต์ต่อไป กลับเข้าไปในเมืองแล้วหาอาวุธชุดป้องกันชุดใหญ่ให้เพื่อนของเราใส่ให้เต็มพิกัด จะได้ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันเพิ่มขึ้นมากมายเลยครับ ห้ามละเลยเด็ดขาด..

เมื่อพร้อมสมบูรณ์ดีแล้ว ออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกของปราสาทเรด็อก(ลงใต้มานิดหน่อยแล้วข้ามสะพานไป).. จะพบเวิ้งทะเลทราย และป่าที่มีป้ายเตือนให้ระวังม้าโหดอยู่.. แสดงว่าเรามาถูกที่ละ.. เข้าไปในเวิ้งกลางป่าโลด.. เดินเข้าไปไม่ไกลก็จะได้พบกับม้าขาวขนคอแดงเป็นสง่ายืนกินหญ้าอยู่.. พอเราเข้าไปใกล้ มันจะตกใจแล้วเดินหนีอย่างเร็ว.. ให้เราตามมันไปเรื่อยๆ มันก็จะหนีไปเรื่อยๆ.. เรากับฮัตสันจะพูดคุยตกลงกันว่าจะแยกกันไปคนละทางเพื่อดักมัน.. ก็ตามมันไปเรื่อยๆจนมันไม่มีทางหนี.. สุดท้ายเราก็จะจับมันได้ในที่สุด(ง่ายกว่าที่คิดนะ.. ไหนว่ามันดุไง..).. แล้วจะได้เจ้าม้า “ฟาลชิอ้อน” เป็นพวก…

ให้เรากลับไปใน “ปราสาทเรด็อก” อีกครั้ง.. ทหารเฝ้าหน้าวังจะถามเราว่า “นายคงจะไม่ได้คิดเอาม้าเข้าไปในปราสาทหรอกนะ?” ให้เราตอบว่า “ไม่” (เพราะเราจะเอาเข้า).. เค้าจะตกใจนิดหน่อย แต่ก็จะเปิดให้เราเข้าพร้อมกับบอกว่าเราอย่าสร้างปัญหาล่ะ.. เดินไปหาคุณตาที่ยืนอยู่บนสนามหญ้ากลางปราสาทกับรถม้า.. คุณตาจะบอกว่าม้าสวยมากนะ ขอดูใกล้ๆหน่อยได้ไม๊?.. ก็ให้เราตอบ “ได้” ไป.. คุณตาก็จะเอาม้าไปใส่กับรถพ่วงนั่นเอง.. ในระหว่างนั้นแม่ทัพโซลดี้จะเดินเข้ามา เค้าจะปลื้มมากที่เราจัดการเรื่องม้าดุในป่าได้และแต่งตั้งให้ฮัตสันเป็นทหารอีกคน ฮัตสันเพื่อนของเราจะดีใจมาก แล้วโซลดี้จะพาเราเข้าเฝ้า “พระราชาแห่งเรด็อก”

เมื่อพูดคุยกับพระราชาเสร็จแล้วออกจากเมืองเรด็อก.. ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะพบด่านตรวจมีทหารเฝ้าอยู่สองนาย.. เราจะสามารถผ่านไปได้ ให้เดินทางต่อไปทางทิศตะวันออก จะเจอกับโบสถ์ซึ่งสามารถเซฟได้และนอนพักผ่อนได้ ใครอยากฟาร์มเวลก็ถือว่าสะดวกมากๆที่จะพักแถวนี้ครับ.. เดินทางต่อไปทางตะวันตกเฉียงใต้จะได้พบกับกระท่อมเล็กๆกระท่อมหนึ่ง เข้าไปจะเจอตาลุงตัวเล็กๆแต่งตัวคล้ายชาวไวกิ้ง.. แกจะถามนู่นถามนี่ถึง 4 ครั้ง.. ให้ตอบไปตามนี้ 1.No 2.Yes 3.Yes 4.Yes.. เราจะถามข้อมูลเกี่ยวกับกระจกแห่งรากับแก แต่แกบอกว่า ให้เราช่วยสร้างกระท่อมให้ก่อน แล้วจะยอมตอบคำถาม.. ฮัตสันฉุนหัวฟัดหัวเหวี่ยงถามว่า “เห็นเราเป็นช่างไม้เหรอ?! เจ้าเฒ่าตัวเหม็น!! พวกเราเป็นนักรบแห่งเรด็อกเฟ้ย!!” แล้วฮัตสันก็จะเดินหงุดหงิดออกไปยืนหน้าบ้าน.. ส่วนเรายินดีจะช่วยตาลุงนี่.. แต่หลังจากที่ฮัตสันต้องทนเห็นเรากับตาลุงซึ่งไม่รู้เรื่องงานช่างเอาซะเลยคุยงานกัน.. ฮัตสันจะรู้สึกรำคาญจนยอมเป็นคนลงมือทำให้เอง.. ด้วยความที่เคยเป็นยอดช่างในสมัยเด็กๆ เค้าจึงสร้างห้องเก็บของห้องใหม่ให้คุณลุงจนเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว..

เมื่อสร้างเสร็จแล้วให้เราเข้าไปคุยกับตาลุงอีกครั้งด้านใน.. แกจะลีลานิดหน่อยจนฮัตสันเริ่มหัวร้อนอีกครั้ง จนแกยอมบอกข้อมูลที่คุณปู่ของแกเคยบอกมาอีกทีให้ฟัง.. เกี่ยวกับสถานปฏิบัติธรรมทางตะวันออก ที่ต้องข้ามแม่น้ำไปก่อน…

ออกจากกระท่อมไปทางทิศตะวันออกไม่ไกล.. จะพบพื้นที่ๆเป็นป่า ให้สำรวจที่ราบกลางป่า กด “Yes” เข้าไปจะพบถ้ำสำหรับใช้ข้ามแม่น้ำได้(ระวังมอนสเตอร์เจลสีเขียว.. มันทำให้เราติดพิษได้.. ใครไม่ได้พกยาแก้พิษมา อาจยุ่งได้..) ให้ตลุยจนข้ามแม่น้ำมาได้.. เดินทางไปทางทิศตะวันออกต่อ จะได้พบกับหลุมยักษ์อีกแห่งหนึ่ง ให้เรากระโดดลงไปในหลุมยักษ์นั้นเพื่อลงไปสู่ดินแดนมายา…

เมื่อลงมาจะพบ “วิหารดาม่า” อยู่ใกล้ๆ เข้าไปสำรวจดูจะพบว่าเป็นเพียงซากปรักหักพัง และเราจะพบแผนที่โลกให้เก็บมาติดตัวไว้…..

จากวิหารดาม่า เดินทาง ไปทางทิศตะวันตกจะพบเมือง “ซานมารีโน่” รวบรวมข่าวสารในเมืองจะได้รู้ว่าเจ้าเมืองนิสัยแย่มาก.. และที่นี่มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกัน แต่ทั้งสองไม่อาจจะสมหวังได้เพราะฐานะแตกต่างกันเกินไป ฝ่ายชายเป็นลูกเจ้าเมืองชื่อ “โจเซฟ” ฝ่ายหญิงเป็นสาวรับใช้ในบ้านชื่อ “แซนดี้” ทั้งสองแอบพบกันที่ท่าเรือฝั่งซ้ายของเมือง.. ให้เราตามไปแอบฟัง.. โจเซฟจะสารภาพรัก แซนดี้เองก็ยอมรับว่าเธอก็รักโจเซฟเช่นกัน.. โจเซฟจะขอแต่งงานกับแซนดี้ต่อพ่อ แต่แซนดี้รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ โจเซฟบอกว่ายินดีจะหนีไปกับเธอถ้าพ่อไม่ยอม.. แซนดี้บอกว่า โจเซฟจะต้องสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองในสักวัน จะต้องได้เจอคนที่ดีกว่าเธอแน่..

จากนั้นแซนดี้ก็รีบกลับไปที่บ้านเพื่อทำงานบ้านและเตรียมอาหารให้ “เปโร่” หมาของท่านเจ้าเมือง.. ให้เราตามไปหาแซนดี้ที่บ้านเจ้าเมือง(หลังแรกๆหน้าเมือง มีหมาวิ่งแถวหน้าบ้าน).. คุยกับแซนดี้ที่กำลังคลุกข้าวหมาอยู่ที่เตา.. เธอจะรำพึงรำพันถึงโจเซฟว่าถ้าได้อยู่ข้างๆกันได้จริงก็คงมีความสุขมากๆ.. เมื่อเธอออกไปให้เราตามไปที่ประตู.. แต่ยังไม่ทันที่เราจะออกไป “อามันด้า” นางอิจฉาซึ่งหลงรักโจเซฟอยู่เหมือนกันจะสวนเข้ามา เธอจะใส่ยาพิษลงในหม้อข้าวหมา หวังใส่ร้ายแซนดี้ให้โดนเล่นงาน.. ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ เพราะเมื่อแซนดี้เอาข้าวให้เปโร่กิน เปโร่ก็นอนชักกระแด่วๆต่อหน้าเจ้าเมือง.. เจ้าเมืองนิสัยไม่ดีที่ปกติก็กดขี่แซนดี้อยู่แล้วจึงโกรธมาก เค้าสั่งจับแซนดี้ให้ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินในเมือง(บันไดลงใกล้ๆหน้าบ้านนั่นเอง).. เราเห็นเรารู้ทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้..

ให้เราไปที่โรงจอดเรือซ้ายบนของเมือง.. เข้าไปด้านในห้องพักจะพบกับผู้หญิงผมทองคนหนึ่งซึ่งมองเห็นเรา คุยกันแล้วเธอจะบอกว่าให้ตามออกไปหาเธอนอกเมืองเธอจะรออยู่.. ซึ่งเธอคือ “มิเลยู” สาวนักเวทย์ซึ่งร่ำเรียนวิชามาจากคุณยายของเธอนั่นเอง.. เมื่อออกมานอกเมือง เธอจะพาพวกเราไปที่บ้านของเธอทางตะวันออก.. เธอจะพาเราไปพบกับนักพยากรณ์คุณยายของเธอนั่นเอง.. คุณยายก็จะเห็นเรา และจะเล่าอะไรหลายอย่างให้ฟัง.. คุณยายบอกว่า ถ้าเราอยากมีร่างกายที่ไม่ล่องหนแบบนี้ที่นี่ ต้องไปเอาไอเท็มสำคัญ “หยาดแห่งความฝัน” ในถ้ำทางทิศใต้มา.. คุณยายเองก็อยากได้มันอยู่ด้วยเหมือนกัน..

จากนั้นเราจะได้พักผ่อนที่นี่ 1 คืน.. เมื่อตื่นขึ้นมาให้ไปคุยกับคุณยายอีกครั้ง แล้วแกจะให้ยารักษา “Herb” กับเราสิบชิ้น พร้อมกับได้มิเลยูมาร่วมเดินทางด้วย… พร้อมแล้วให้เราบุกไปยังถ้ำทางทิศใต้ ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ ด้านในสุดจะมีมอนสเตอร์เฝ้าไอเท็มอยู่ ปราบมันให้ได้.. แล้วเดินไปหยิบ “หยาดแห่งความฝัน” มา.. กลับมาหาคุณยาย แล้วแกจะทำให้เราสามารถปรากฏเป็นตัวมองเห็นได้.. มิเลยูชอบพวกเรา และเธออยากมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางผจญภัยกับเราด้วย.. คุณยายบอกว่าตามใจ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ..

ก่อนออกจากบ้านคุณยาย.. คุณยายจะช่วยทำนายอนาคตให้เรา.. พร้อมกับขู่ทิ้งท้ายว่า “ดูแลหลานกูให้ดี.. ไม่งั้นพวกมึงโดนแน่..” 😂..

กลับมาที่เมืองซานมารีโน่อีกครั้ง.. เมื่อไปยังคุกใต้ดิน จะไม่พบกับแซนดี้แล้ว เพราะเธอถูกขายให้กับพ่อค้าพเนจรไปแล้วนั่นเอง.. ไปยังบ้านเจ้าเมืองเพื่อบอกความจริงทั้งหมดให้เค้าฟัง.. เค้าดูเหมือนจะรู้สึกผิดพอสมควรที่เข้าใจแซนดี้ผิดไป.. ให้เราขึ้นไปบอกโจเซฟที่อยู่ชั้น 2 แล้วเขาจะรีบออกเดินทางตามหาแซนดี้ทันทีพร้อมกับขอบคุณเรา.. ให้เราไปที่โรงจอดเรือเพื่อขึ้นเรือ ซึ่งเรือจะพาเราไปสู่ปราสาทเรด็อกแห่งแผ่นดินมายา เมื่อถึงปราสาทเรด็อกแล้ว รวบรวมข่าวสารจะพบว่า ราชาและราชินีหลับไหลเพราะโดนคำสาป และองค์ชายก็หายสาปสูญไป และทหารจะเรียกเราว่า เจ้าชาย เพราะหน้าตาเราเหมือนกับเจ้าชายแห่งเรด็อกมาก การที่เราจะเข้าปราสาทเรด็อกได้ เราต้องซื้อชุดราคา 800G สวมใส่ให้ตัวเอกก่อนจึงจะสามารถเข้าไปได้ ด้านในปราสาทจะพบแม่ทัพ “ทอม” และในห้องพระราชาจะพบ “ราชา” และ “ราชินี” ที่หลับไหลอยู่ เราจะได้พบกับขุนนางชื่อ “เกบัน” ซึ่งเป็นคนไม่ดี เกบันจะทดสอบเราโดยให้ตอบชื่อเจ้าหญิง แต่เราจะตอบผิดแล้วเราจะถูกไล่ออกไปเพราะถูกหาว่าเป็นตัวปลอมมาหลอกลวง…..

ให้ไปทางทิศตะวันตก จะพบหมู่บ้านริมแม่น้ำ ชื่อหมู่บ้าน “อามอล” รวบรวมข่าวสารในเมือง จะพบว่าโรงแรมในเมืองนี้เต็มไม่สามารถพักได้ จากนั้นให้ลองไปที่โบสถ์ดูจะพบกับ “ยายจีน่า”.. คุยด้วยแล้วเขาจะให้เราพักผ่อนที่นี่ ซึ่งพอเรานอนหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาจะพบว่า เราอยู่ที่หมู่บ้านอามอลจริง แต่ไม่เหมือนเดิม.. น้ำตกหลังหมู่บ้านในเมืองกลายเป็นสีเลือดแทน ให้เราไปที่ถ้ำต้นน้ำ จะพบกับ นักรบหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า “จีน่า” และต้นเหตุของน้ำสีเลือดก็มาจากดาบของจีน่านี่เอง.. ให้เราลองสำรวจในถ้ำข้างใน จะพบกับอัศวินชายนามว่า “อิเรีย” กำลังสู้กับมอนสเตอร์อยู่ ให้เราเข้าไปช่วยเค้า แล้วกลับมาพบกับจีน่า แล้วเราจะได้ของมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นกลับไปนอนที่โบสถ์อีกครั้ง แล้วเราจะกลับมาในเวลาปัจจุบันซึ่งเมื่อกี๊คืออดีตนั่นเอง.. แล้วยายจีน่าจะพบของที่เราได้จากยายจีน่าตอนสาวให้มา และปู่อิเรียก็จะเข้ามา เหตุการณ์ทั้งหมดก็จะสิ้นสุดลง แล้วเราจะได้รับ กุญแจแห่งกระจกมา…..

เดินทางไปที่หอคอยกระจกที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเรด็อก ให้ลองสำรวจตามกระจก จะมีทางไปต่อได้ ก็ให้ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะพบกับสาวน้อยคนหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นเหมือนเราในตอนแรก ชื่อว่า “บาบาร่า” ซึ่งเธอจะติดตามเราไปด้วย ที่ยอดหอคอยจะพบห้องที่ลอยอยู่ ให้เราหาลูกแก้วทั้ง 4 ลูกแล้วผลักมันให้พ้นจากกระจกเพื่อให้แตกให้หมด แล้วห้องตรงกลางจะหล่นลงมา ให้เราเข้าไปแล้วเราจะได้ “กระจกแห่งราห์” มา.. ให้เราเอา “หยาดแห่งความฝัน” หยดให้กับบาบาร่า จะทำให้บาบาร่ามองเห็นเป็นปกติและได้บาบาร่ามาเป็นพวกอีกคนด้วย…..

ในตอนนี้เราจะอยู่บนแผ่นดินมายาอยู่ ให้เรากลับไปยังโลกด้านบน โดยกลับไปยังวิหารดาม่าเพื่อกลับขึ้นโลกด้านบน.. แล้วไปยังปราสาทเรด็อก แม่ทัพโซลดี้จะตามเราไปพบพระราชา ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น พระราชากลายเป็นผู้หญิงไป ในวันต่อมาเราจะรู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคือราชินีแห่งเรด็อก ชื่อ “เซร่า” และได้ฟังเรื่องราวตัวจริงของมุโด้ ที่คาดว่าจะเป็นพระราชาแห่งเรด็อกเอง แล้วเซร่าจะขอติดตามเราไปด้วย จากนั้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเรด็อก จะมีด่านตรวจ ผ่านไปจะมีถ้ำสู่ปราสาทมุโด้ ให้บุกเข้าไปเลย เมื่อเข้าไปด้านในสุดจะพบกับมุโด้ ให้เราจัดการซะ เมื่อปราบได้แล้วให้เรากดใช้กระจกแห่งราห์ แล้วมุโด้จะเปลี่ยนกลับเป็นพระราชา ตามที่คาดกันไว้.. แล้วให้เรากลับปราสาทเรด็อก ไปคุยกับขุนนาง แต่จะไม่พบกับราชาและราชินี จากนั้นให้ไป ปราสาทเรด็อกที่อยู่ในแผ่นดินมายา.. เมื่อไปถึงแล้ว เราจะถูกจับขัง แต่สักพักจะได้รับการปล่อยตัว แล้วจะได้พบกับพระราชาแห่งเรด็อก ซึ่งพระราชาจะขอร้องให้เราไปปราบมุโด้ตัวจริง แล้วจะให้ใบผ่านทางมา จากนั้นออกจากเมืองไปทางทิศเหนือ ผ่านด่านตรวจแล้วไปทางทิศเหนืออีกแล้วจะพบกับหมู่บ้าน “เก้นท์” ให้ไปหาผู้เฒ่าของหมู่บ้านที่บ้านทางซ้ายบนเพื่อยืมเรือ แต่จะถูกปฏิเสธ.. ขณะที่จะออกจากบ้านของผู้เฒ่า หลานของผู้เฒ่าชื่อว่า “จาโมโร่” จะสวนเข้ามาพอดี และจาโมโร่จะได้ยินเสียงของเทพเจ้าที่บอกให้นำเรือเทพเจ้าเดินทางไปด้วย เราจึงได้รับเรือเทพเจ้ามาใช้และได้จาโมโร่มาเป็นพวกร่วมเดินทางอีกคน…..

เจ้าปีศาจมุโด้ที่แสนร้ายกาจ

เรือจะล่องไปยังเกาะที่อยู่ของมุโด้ โดยบาบาร่าจะอยู่เฝ้าเรือ ให้บุกเข้าไปเรื่อยๆ จะพบที่พักและจะพักผ่อนกัน.. ซึ่งจะเหมือนกับที่เราเคยฝันไว้เมื่อตอนเริ่มเกมส์ โดยเราจะนั่งมังกรไปยังปราสาทมุโด้.. เมื่อไปถึงตัวมุโด้พวกเราจะกลายเป็นหินเหมือนกับที่ฝันไว้ แล้วเราจะตื่นจากฝันอีกครั้ง.. ทาเนียจะให้เราไปดูกระจกแห่งราห์ที่ตั้งอยู่ แล้วเราจะกลับมาเผชิญหน้ากับมุโด้อีกครั้ง คราวนี้ให้เรากำจัดมันให้ได้ ซึ่งมันจะมี 2 ร่าง เมื่อกำจัดได้แล้วเราจะกลับปราสาทเรด็อกกัน แล้วจะได้รับ “ไม้เท้าสายฟ้า” มา และราชินีจะคุยกับเราเป็นการส่วนตัว…..

ให้กลับมาที่โลกด้านบน ไปยังบริเวณหลุมยักษ์ที่สอง ที่อยู่เหนือวิหารดาม่าโลกล่าง จะพบว่ามีวิหารดาม่าโผล่ขึ้นมา ซึ่งที่นี่เราจะทำการเปลี่ยนอาชีพได้…..

ให้เรานั่งเรือจากเรด็อกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ จะพบแผ่นดิน ให้ขึ้นเดินเท้าไปด้านทิศเหนือจะพบหมู่บ้าน “มอนสโทล” รวบรวมข่าวสารให้ทั่วเมือง ทางบ้านซ้ายบนจะพบกับ “ผู้กล้าอามอส” ไปที่โรงแรมคุยกับเจ้าของ ตอบอันที่ 2 แล้วก็อันที่ 1 จากนั้นเราจะได้พักผ่อน ในตอนกลางคืนจะมีเสียงประหลาดให้ขึ้นไปบนดาดฟ้า จะพบสัตว์ประหลาด เมื่อปราบแล้วจะกลายเป็นอามอสไป.. จากนั้น ให้ออกจากหมู่บ้านโดยที่ไม่ต้องคุยกะอามอส(ตรงนี้ถ้าทำผิดพลาดผิดขั้นตอนเราจะไม่ได้อามอสเป็นเพื่อน) ให้ไปทางทิศเหนือจะพบภูเขา ที่ยอดเขาจะพบต้นอ่อน ให้สำรวจทางซ้ายของต้นอ่อนประมาณ 2 ช่องจะได้ “เมล็ดแห่งสติ” มา ให้นำกลับไปให้อามอส แล้วจะได้เขาเป็นเพื่อนร่วมทางอีกคน…..

เริ่มการเดินทางครั้งใหม่.. ให้ไปที่เมืองซันมาริโน่ แล้วแล่นเรือไปทางทิศเหนือ จนเจอฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นบนแผ่นดินเดินไปนิดจะเจอปราสาท “อาร์คโบลท์” อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งที่นี่กำลังต่อสู้กับพวกปีศาจกันอยู่ เราจะอาสาช่วย โดยจะต้องผ่านการทดสอบก่อนจากทหารที่เฝ้าทาง 2 ครั้ง แล้วเราจะได้เข้าเฝ้าพระราชาแห่งอาร์คโบลท์.. พระราชาจะให้พวกเราไปปราบมอนสเตอร์ที่รุกรานอยู่ในถ้ำนักเดินทาง แล้วเราจะต้องทดสอบฝีมือกับแม่ทัพ “บลาส” ที่ลานฝึกซ้อมทางซ้ายล่างของปราสาท แล้วกลับไปหาพระราชา แล้วจะได้โลงศพสำหรับเก็บหลักฐานมา.. มุ่งหน้าไปสู่ถ้ำนักเดินทาง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บุกเข้าไปในสุดจะพบกับ “เทรี่” จัดการมอนสเตอร์ให้เรียบร้อยแล้ว กลับมาที่ทางออกของถ้ำ ทหารจะนำโลงเรากลับคืนไป.. ให้กลับปราสาทอาร์คโบลท จะสวนกับเทรี่ ที่มารับรางวัลไปแล้ว ให้เราไปคุยกับพระราชาแล้วกลับไปที่ถ้ำนักเดินทาง ซึ่งเราจะสามารถเดินทะลุไปทางทิศเหนือได้แล้ว…..

ออกมาโผล่ทางทิศเหนือจะมีบ้านคนอยู่ ให้ไปทางทิศตะวันตกจะพบกับบันไดประหลาดซึ่งขึ้นแล้วจะไปโผล่โลกด้านบน.. ให้เดินไปทางทิศใต้จะพบถ้ำที่สามารถทะลุภูเขาไปได้ ให้เราเข้าถ้ำจนทะลุไปเจอหมู่บ้าน “คัลคาโด้” ที่นี่จะประสบปัญหาหมู่บ้านแห้งแล้งและหมดหวัง คุยกับชาวเมืองให้ครบทุกคน แล้วเวลาจะเปลี่ยนเป็นตอนค่ำ ให้เราลองแวะไปที่แหลมทางทิศตะวันตก จะเจอเกาะแห่งความสำราญให้เราขึ้นไปเลย.. ให้ไปคุยกับเจ้าของเกาะแล้วเกาะจะเคลื่อนที่ออกไปในทะเล เข้าไปที่อาคารจะเจอผู้คนจากคัลคาโด้มากมาย ให้เราไปดื่มที่เค้าท์เตอร์ แล้วเราจะหลับไป.. เมื่อตื่นมาเราจะถูกมาพายังสถานบูชายันต์ ซึ่งมี จอมปีศาจ “จามีรัส” เป็นผู้ครองอยู่ ให้เรากำจัดจามิรัสให้ได้ แล้วจะปลดปล่อยพวกชาวบ้านได้ และเป็นการปลดปล่อยกษัตริย์ที่สะสมเหรียญด้วย ซึ่งตั้งอยู่โลกด้านบนตรงหลุมยักษ์ทางขวาของเมืองเชียน่า จากนั้นกลับมาเมืองคัลคาโด้ รวบรวมข่าวสารแล้วเราจะได้เกาะนั้นมาเป็นพาหนะทางน้ำ…..

วาร์ปไปหมู่บ้านซันมาริโน่ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบบันไดสู่โลกด้านบน ให้เดินเท้าจากบันไดมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบด่านตรวจ.. ให้เราไปทางทิศใต้ของด่านตรวจ จะพบหมู่บ้าน “ฮอลคอตต้า” และทางตะวันตกจะพบปราสาท “ฮอลสต็อค” ขึ้นไปพบพระราชา “ฮอลเทน” แล้วพระราชาจะวานให้เราพา “เจ้าชายฮอล” ไปยังถ้ำพิธีกรรม แต่เจ้าชายได้หายตัวไป ให้เราตามหาเจ้าชายที่หลบซ่อนอยู่ในถังไม้ชั้น 1 แล้วเราจะพาเจ้าชายไปยังถ้ำพิธีกรรมทางใต้ ก่อนจะไป เจ้าชายฮอลจะหนีไปอีก ให้เราไปตามที่บริเวณใต้ดินของปราสาท จะพบตัว ให้เรามุ่งหน้าไปยังถ้ำพิธีกรรมทางใต้ เมื่อไปถึงเจ้าชายจะหนีไปอีกแล้ว ให้ไปตามหาตัวที่หมู่บ้านฮอลค็อตต้าเมื่อจับตัวได้แล้ว ให้ไปยังถ้ำพิธีกรรมอีกที เมื่อปราบมอนสเตอร์ที่ขวางทางได้ เจ้าชายจะคอยหายตัวไป ให้เราตามหาให้พบเรื่อยๆ เมื่อไปถึงด้านในสุดเจ้าชายจะได้รับ “หลักฐานแห่งการชำระบาป” มา แล้วกลับปราสาทฮอลสต็อค.. ในตอนดึกจะมีการฉลองให้แก่เจ้าชาย ในวันรุ่งขึ้นเราจะได้รับ “กุญแจเวทมนตร์” เป็นการตอบแทน…..

ไม่มีคำว่าแพ้ถ้าเราทุกคนช่วยกัน..

ไปที่กระท่อมทางทิศตะวันออกจากปราสาทฮอลสต็อค ใช้กุญแจเวทมนตร์เปิดเข้าไปด้านในจะมีบ่อน้ำวาร์ปขึ้นไปโลกด้านบน.. จากจุดวาร์ปให้เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะพบเมือง “เคลียร์เบล” ให้รวบรวมข่าวสารแล้วไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบบันไดลงไปยังแผ่นดินมายา ซึ่งพอลงไปแล้วจะพบเมือง เคลียร์เบล ให้เข้าไปหาข่าวสารแล้วไปที่โบสถ์จะพบ สามีภรรยาคู่หนึ่ง ได้มาหาบาทหลวงเรื่องลูกชายที่ตายไป จากนั้นให้เราไปที่บ้านของพวกเขาที่อยู่ขวาบนในเมือง จากนั้นให้ไปที่ภูเขาทางเหนือ จะพบบาทหลวงมาทำพิธีอยู่ในถ้ำ แล้วจะได้ยินเรื่อง “ที่ขุดทองคำ” ให้ปีนหน้าผาขึ้นไปตาหาที่ขุดทองคำให้พบ เมื่อได้มาแล้ว ให้ไปใช้กับหินที่ขวางทางอยู่แล้วจะมีทางไปยอดเขาได้ บนยอดเขาจะมีศิลาอยู่ ให้ใช้ที่ขุดทองเจาะเอาเศษศิลามา แล้วกลับมาที่เมืองเคลียร์เบล นำเศษหินไปให้สามีภรรยาคู่นั้น แล้วเขาจะพาเราไปห้องนอนลูกเขาแล้วเราจะได้พักผ่อน 1 คืน ขณะนอนอยู่เราจะถูกพามาที่โลกด้านบน แล้วเตียงนอนจะลอยไปข้างนอกและพบกับวิญญาณของลูกชาย และจะได้เตียงลอยฟ้านี่เป็นพาหนะเดินทาง…..

ตอนนี้เราจะอยู่บนโลกด้านบนบริเวณเมืองเคลียร์เบล ให้ลองไปทาง ทวีปทางทิศตะวันตกดู จะเจอโบสถ์และตำหนักหมอดู เข้าไปหาข่าวสารและไปที่บ่อน้ำทางทิศเหนือ ด้านในจะมีบ่อน้ำสำหรับไปแผ่นดินมายา ให้สำรวจลงไป แล้วเราจะมาอยู่บนแผ่นดินมายา ให้สำรวจทางจะพบกับปราสาท “โฟน” อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เข้าไปหาพระราชาแต่จะไม่พบ จะเจอแต่ขุนนาง ลองคุยกับเขาดู จะรู้ว่าพระราชาอยู่ที่ห้องใต้ดิน แต่พอไปพบพระราชาจะไม่ยอมให้เข้าพบ กลับไปคุยกับพระราชาที่ห้องข้างบน แล้วพระราชาจะถามหากระจกแห่งราห์ ให้เราเอาให้ดู แล้วพระราชาจะพาเราไปดูเจ้าหญิงที่ถูกจับอยู่ในกระจก เมื่อเราลองใช้กระจกแห่งราห์ดูก็จะไม่มีผลอะไร ให้คุยกับเจ้าหญิง.. กลับมาปรึกษากับพระราชา แล้วไปคุยกับขุนนาง จากนั้นไปที่หอคอยทางทิศเหนือของปราสาท แต่จะพบแค่บ่อน้ำเก่า ให้ลองลงไปคุยกับคนแก่ในนั้น แล้วกลับไปที่โลกด้านบน วาร์ปไปเมืองเคลียร์เบลแล้ว ใช้เตียงลอยฟ้าไปทางเหนือจะเจอทะเลทรายขนาดใหญ่ กลางทะเลจะมีหอคอยอยู่ให้เราเข้าไป จะพบประตูปิดอยู่ให้เราใช้คาถา “อินปัส” จะสามารถเปิดได้.. ลุยขึ้นไปชั้นบนสุดจะพบพ่อมด “มิรัลโก้” ตัวการที่จับเจ้าหญิงไว้ ให้เราจัดการมันซะแล้วกลับไปยังปราสาทโฟนที่แผ่นดินมายา คุยกับพระราชาแล้วจะพากันไปหาเจ้าหญิงที่ห้องใต้ดิน ซึ่งเจ้าหญิงจะหลุดออกมาได้ เราจะได้รับ “กุญแจประตูน้ำ” มา จากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะพบประตูน้ำ ซึ่งเราจะสามารถเปิดผ่านไปได้…..

จากนั้นแล่นเรือเลียบชายฝั่งไปทางทิศตะวันตก แล้วขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ จะเจอหมู่บ้าน “เปสคานี่” เข้าไปหาข่าวสารจะพบว่าหมู่บ้านนี้กำลังเดือดร้อนไปหาปลาไม่ได้เนื่องจากถูกปีศาจรบกวน ให้เราไปตรวจสอบถ้ำหลังหมู่บ้านแต่จะไม่พบอะไร.. ไปที่ถ้ำน้ำทะเลทางทิศเหนือของหมู่บ้านโดยใช้เรือล่องเข้าไป จะพบพวกนางเงือก แต่จะหนีไปกันหมด ให้เรากลับมาที่หมู่บ้านเปสคานี่ ไปที่บ้านพ่อค้าปลา เข้าไปคุยแล้วเขาจะรีบออกจากบ้านไป ให้คุยกับคนชื่อ “โร๊บ” ให้เราตามเค้าไป แล้วจะพบว่า โร๊บออกจากบ้านไปที่ถ้ำหลังหมู่บ้าน ให้ตามไปดูโดยคอยหลบอยู่อย่าให้เขาเห็น เมื่อไปถึงด้านใน โร๊บจะกดสวิตทางลับ ให้เราทำตามเขาเข้าไป จะพบโร๊บอยู่กับนางเงือกชื่อ “ดีเน่” แล้วโร๊บจะขอร้องไม่ให้เรานำเรื่องนี้ไปบอกใคร เราจะอาสาพาดีเน่ไปส่ง จากนั้นก็ให้ไปเอาเรือมาที่ถ้ำทางทิศเหนือซึ่งเชื่อมต่อกับที่ซ่อนลับนี้ จากนั้นให้เราพาดีเน่ไปส่งที่ๆทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากที่นี่ จะมีโขดหินอยู่ให้ไปตรงกลางจะพบเหล่านางเงือก เราจะพาดีเน่ไปส่งให้กับ “ดีน่า” พี่สาวดีเน่ แล้วจะได้รับ “พิณแห่งนางเงือก” ซึ่งเวลาใช้แล้วจะทำให้เรือของเราดำลงไปในน้ำได้….. กลับมาบอกข่าวให้โร๊บทราบ..

ล่องเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะพบโขดหินปิดทาง ให้เราใช้พิณแห่งนางเงือกดำน้ำลอดใต้โขดหินไป แล้วแล่นเรือเลียบชายฝั่งลงมาทางทิศใต้ จนพ้นเขตหุบเขาสูงก็ขึ้นบนบก.. จะเจอหมู่บ้าน “เม้าท์สโนว์” อยู่ในหุบเขาหิมะ เข้าไปในหมู่บ้านจะพบว่าคนในหมู่บ้านเป็นน้ำแข็งกันไปหมด มีบางคนเท่านั้นที่รอดอยู่ ให้ออกจากหมู่บ้านไปถ้ำบริเวณเชิงเขา ที่นั่นจะพบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง เธอจะบอกให้เรากลับไปถามหาคนชื่อ “โกลัน” ที่หมู่บ้านเม้าสโนว์ ให้กลับไปจะพบ ชายแก่ที่ชื่อโกลันอยู่ในห้องใต้ดิน แล้วเราจะพบ “เทรี่” มาตามหาดาบในตำนานที่นี่ด้วย กลับไปหาผู้หญิงที่ถ้ำเชิงเขา แล้วจะทราบว่าเธอคือนางพญาหิมะชื่อ “ยูริน่า” แล้วเธอจะคลายมนตร์แช่แข็งให้กับหมู่บ้าน แล้วเล่าเรื่องราวให้เราฟัง จากนั้นกลับไปที่หมู่บ้านเม้าสโนว์ จะพบว่าผู้คนหายเป็นน้ำแข็งกันแล้ว ให้เราไปพบโกลันอีกครั้ง แล้วไปที่โบสถ์จะพบชายชื่อ “แซม” จะเล่าให้ฟังเรื่องดาบในตำนานที่อยู่ที่ถ้ำภูเขาทางทิศเหนือ ให้เราบุกไปที่ถ้ำทางทิศเหนือกันเลย พอไปถึงเราจะต้องใส่รหัสที่ประตูโดยตอบคำถาม 3 ข้อ ข้อ 1 ตอบ 1 , ข้อ 2 ตอบ 3 , ข้อ 3 ตอบ 2 จะผ่านเข้าไปได้ บุกเข้าไปจะเจอปริศนาให้เราเหยียบสวิตซ์ 4 อันห้ามเดินซ้ำที่เดิม ให้เราเดิน บน, ซ้าย, ขวา, ล่าง ประตูห้องจะเปิด พอเราเข้าไปจะพบดาบในตำนาน “ลามิอัส” แล้วเทรี่จะเข้ามาแย่งไป แต่ดาบได้ขึ้นสนิมหมดแล้ว เทรี่จึงไม่สนใจ แต่เราจะเก็บมาแล้วให้กลับไปพบแซมที่หมู่บ้านเม้าสโนว์ แซมจะแนะนำให้ไปหาช่างตีเหล็ก โดยให้จดหมายผ่านทางมาด้วย…..

สามัคคีคือพลัง!!!

มาเริ่มที่เมืองซันมาริโน่ ล่องเรือเข้าไปในแม่น้ำทางทิศใต้ ซึ่งปากแม่น้ำจะมีสะพานขวางอยู่ ให้ดำน้ำผ่านไป แล้วล่องเรือไปตามแม่น้ำจนพบเมือง “รอนก้า เดเซโอ” อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำ เข้าไปในเมืองและใช้จดหมายผ่านทางที่ได้มาจากแซม รวบรวมข่าวสารภายในเมืองอย่างละเอียด ให้ไปหาชายชื่อ “ฮ็อค” โดยเขาจะอยู่ที่ดาดฟ้าของอาคารข้าง “บันนี่เธียเตอร์” ซึ่งประตูทางเข้าอยู่ด้านข้างของตัวอาคาร(ใต้ราวแขวนเสื้อผ้า) ขึ้นไปคุยกับฮ็อค เขาจะยอมช่วยเราหาข่าวสารของช่างตีดาบ แต่ต้องจ่ายเงิน 2,000 แล้วให้เราลองหาข่าวสารไปเรื่อยๆจะพบฮ็อคที่ปลอมตัวเป็นบาทหลวงอยู่ที่โบสถ์ จากนั้นไปที่บันนี่เธียเตอร์ จะเจอฮ็อคปลอมตัวเป็นบันนี่เกิร์ลที่ห้องแต่งตัว แล้วไปที่ร้านเหล้าหน้าเมืองจะพบฮ็อคปลอมเป็นบาร์เทนเดอร์ แล้วเขาจะให้เราไปพบเขาที่บ้าน ไปที่บ้านของฮ็อคที่อยู่ในบ่อน้ำ แล้วจะได้ข่าวสารของนักตีดาบ ซึ่งคือ “แซลลี่” ที่อาศัยอยู่ที่บ้านด้านขวาบนของเมือง ให้เราไปที่บ้านแซลลี่แต่จะไม่พบเธอ ให้ไปคุยกับฮ็อค จะบอกว่าเธอมักจะไปไหว้สุสานที่ป้อมทางทิศเหนือ ให้เราลองไปที่นั่นดู จะได้พบกับแซลลี่ แต่จะปฏิเสธที่จะตีดาบให้เรา จากนั้นให้เราตามเธอกลับมาที่บ้านคุยกับเธอจนยอมตีดาบให้ โดยจะต้องยืนจ้องตากับเธอก่อน(ให้ยืนเฉยๆ อย่าหันไปทางอื่นสักพัก) ซึ่งจะใช้เวลาในการตีดาบระหว่างนั้ให้เราเดินทางไปที่อื่นกันก่อน…..

จุดหมายต่อไปเราจะต้องออกค้นหาอาวุธในตำนานที่เหลืออีก 3 อย่าง.. ล่องเรือไปที่ทวีปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่นั่นเราจะพบปราสาท “กันดีโน่” อยู่ หาทางไปให้ได้โดยใช้พิณนางเงือกเข้าช่วย ให้รวบรวมข่าวสารในเมืองนี้ให้ทั่ว และลองไปคุยกับพระราชาดู จะได้ข่าวสารเกี่ยวกับโล่ห์ในตำนาน จากนั้นให้เราวาร์ไปเมืองอามอล แล้วดำน้ำไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะพบซากเรืออับปาง ในนี้เราจะพบ “กุญแจประตูคุก” อยู่ จากนั้นลองดำน้ำไปที่ทะเลด้านทิศเหนือของปราสาทกันดีโน่ จะพบบันไดใต้ทะเล เข้าไปข้างในจะพบกับ “จ้าวสมุทรโปไซดอน” เขาจะวานให้เราไปจัดการกับเจ้า “กราคอส “ที่ระรานผู้คนไปทั่ว ให้เราดำน้ำไปทางทิศใต้ของปราสาทโฟน จะพบปราสาทของเจ้ากราคอส ในปราสาทนี้ให้เราหาของสำคัญอย่างนึงคือ “ขวดใส่ทรายแห่งเวลา” ให้พบ.. แล้วไปจัดการกับเข้ากราคอสให้ได้ เมื่อมันตายแล้วจะปลดปล่อยเมือง “กัลเบโร่น่า” ออกมา…..

ล่องเรือจากเมืองอามอล โดยแล่นเรือเลียบฝั่งไปทางทิศตะวันออกไปเรื่อยๆจนพบแม่น้ำที่ตัดกันเป็นสี่แยก จากนั้นขึ้นเหนือไปจะเจอถ้ำ ด้านในเป็นทางวงกต วิธีผ่านคือ จากจุดเริ่มให้เดินขึ้นไปด้านบนจนเจอผนังแล้วเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยจนเจอสี่แยก แล้วเดินลงล่างจะผ่านชั้นแรกไปได้.. พอชั้นต่อมาจะเห็นรูปปั้นปีศาจอยู่ ให้ไปที่รูปปั้นแล้วเดินลงมาจนเจอกำแพง แล้วเดินเลียบกำแพงที่เจอไปเรื่อยๆ และเมื่อเจอกอหญ้าอันแรกให้เราสำรวจ จะมีทางลับลงไปต่อได้ ต่อมาจะพบบันไดวงกตให้ลงบันไดไป 3 ครั้งแล้วขึ้นอีก 2 ครั้ง ก็จะพบทางไปเอา “โล่ห์สฟีด้า” โล่ห์ในตำนานได้…..

กลับไปที่โลกด้านบน ไปทางทิศตะวันตกของเมืองเคลียร์เบล จะพบเมือง “กัลเบโรน่า” ให้นำ “บาบาร่า” เข้ากลุ่มมาในเมืองนี้ด้วย.. ไปหาผู้เฒ่าของหมู่บ้าน แต่จะยังเข้าไปหาไม่ได้ ให้เรานำบาบาร่าไว้ด้านหน้าแล้วกดใช้ “ขวดใส่ทรายแห่งเวลา”.. แล้วจะเข้าไปพบกับผู้เฒ่าได้.. บาบาร่าจะได้รับสุดยอดเวทมนตร์ “มาดันเต้” มา.. จากนั้นผู้เฒ่าจะโดนสายฟ้าผ่าเสียชีวิตไป…..

ให้มาที่แผ่นดินมายา ไปทวีปทางทิศตะวันเฉียงเหนือจะพบ หมู่บ้าน “โทรุคก้า” ที่ๆเราเคยมาครั้งแรกตอนที่ยังมองตัวเราไม่เห็น รวบรวมข่าวสารจากชาวบ้านจะรู้ว่าลูกสาวเศรษฐีในเมืองถูกจับไป ให้เราไปช่วยตรงบ่อน้ำทางเหนือ เมื่อช่วยลูกสาวเศรษฐีไว้ได้แล้ว เราจะได้รับของเป็นการตอบแทน.. จากนั้นให้เราไปทางทิศตะวันออกจากเมืองโทรุคก้า จะพบสถานที่เหมือนกับหมู่บ้านไลฟ์ค็อดของเราด้วย.. เข้าไปรวบรวมข่าวสารแล้วไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านจะพบกับตัวเราอีกร่างหนึ่งอยู่ด้วย เราจะเข้าไปเพื่อรวมเป็นร่างเดียวกันแต่อีกร่างของเราจะหนีไปซะก่อน.. จากนั้นให้ออกตามหาอีกร่างของเราที่ทางลงภูเขา แล้วจะมีเด็กมาบอกว่า หมู่บ้านถูกบุกรุก ให้เรารีบกลับไปจัดการมอนสเตอร์ให้หมดแล้วกลับไปช่วยทาเนียที่บ้านของเรา แล้วเราจะรวมร่างกันได้ ซึ่งตัวเราก็คือเจ้าชายแห่งเรด็อก นั่นเอง….. คุยกับทาเนียแล้วคุยกับชาวเมืองให้ทั่วแล้วกลับไปคุยกับทาเนียอีกครั้ง.. จากนั้นไปที่ปราสาทเรด็อก จะมีทหารมารอรับเรา โดยมีแม่ทัพคนใหม่ “ฟรานโก้” มาต้อนรับ ไปพบกับพระราชาและพระราชินี ตกดึกจะมีการฉลอง เราจะต้องไปสำรวจตามแสงเพื่อระลึกถึงอดีตต่างๆ สุดท้ายที่ห้องพระราชา.. และวันต่อมาเราจะได้รับ “หมวกเซบัส” หมวกแห่งตำนานมาด้วย…..

ล่องเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโทรุคก้า ให้เราดำน้ำจะสามารถลอดเข้าไปได้และจะพบกับสถานที่ประกวดความสวยงาม ให้เราเข้าประกวดการแข่งให้ชนะถึงรอบที่ 3 ให้ได้ แล้วเราจะได้รับ “พรมสวยงาม” มา.. กลับไปที่โลกด้านบนไปเมือง “กัลเบโรน่า” ไปหาผู้เฒ่าที่ชื่อว่า “กัลเบ” ให้พบแล้วท่านจะทำการปลุกเสกพรมของเราให้เป็นพรมเวทมนตร์…..

ล่องเรือไปทางทิศตะวันออกจากปราสาทกัลดีโน่ เพื่อไปยังทวีปทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะมี “ปราสาทเกรส” อยู่ โดยเราต้องใช้เรือและพรมเวทมนตร์ช่วยในการเข้าถึง เมื่อมาถึงแล้วจะพบว่าเป็นแค่ซากปราสาทที่ถูกทำลายเท่านั้น ให้เราสำรวจบ่อน้ำหน้าปราสาท แล้วเราจะไปโผล่ปราสาทเกรสในสภาพปกติ ให้เรารวบรวมข่าวสาร.. สำรวจในปราสาทด้านบนจะพบห้องพิธีกรรมอยู่ ไปที่ห้องครัวเพื่อเอาเครื่องเซ่นไปส่งที่ห้องพิธีกรรม แล้วจะมีการทำพิธีกรรมขึ้นให้เราตามไปดู จะพบว่าพระราชาได้เรียกปีศาจจากต่างแดนมาเพื่อให้ไปกำจัดจอมมาร แต่ปีศาจตนนั้นจะไม่เชื่อฟังแถมสังหารพระราชาด้วย จากนั้นเจ้าปีศาจจะฆ่าผู้คนในปราสาท เราจะหนีออกมาพร้อมกับพวกทหาร โดยแม่ทัพจะนำชุดเกราะไปซ่อนไว้ ให้เราหนีออกจากปราสาท แล้วจะพบว่าตัวเรากลับมาอยู่ปัจจุบันแล้ว จากนั้นให้เราไปที่ๆเป็นห้องฝึกซ้อมทหารที่แม่ทัพได้เอาชุดเกราะมาซ่อน ให้เราสำรวจตรงจุดนั้นจะเป็นทางลับลงไปเอา “ชุดเกราะออลโก้” ในตำนาน..

ให้เรากลับไปเอาดาบ “ลามีอัส” จากแซลลี่ที่เมืองรอนก้าเดเซโอ แล้วไปที่โลกด้านบน ให้ไปที่เมืองเคลียร์เบล แล้วไปทางทิศตะวันออก เราจะเจอหลุมยักษ์อีกแห่ง ต้องใช้พรมเวทมนตร์ในการเข้าถึง ให้ลงไปในหลุมยักษ์ จะพบต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งเดี่ยวๆ ให้เราเข้าไปจะพบวิหารที่มีสวิตซ์เป็นสัญลักษณ์ ให้เราไปเหยียบดังนี้ ด้านบนเป็นดวงอาทิตย์, ด้านซ้ายเป็นสายฟ้า, ด้านขวาเป็นไม้กางเขน, ด้านล่างเป็นรูปหัวใจ แล้วจะมีปราสาทลอยฟ้า “เฮลคราวน์” ลอยมาโจมตีเรา ซึ่งเราต้องสู้กับมัน แล้วเราจะสามารถเข้าไปข้างในได้ บุกเข้าไปด้านในจะพบกับเจ้าของปราสาท “จอมมารดูรัน” แต่จะต้องสู้กับเทรี่ที่โดนควบคุมจิตใจอยู่ก่อน แล้วก็จัดการเจ้าดูรันต่อ.. เมื่อปราบมันได้แล้ว เราจะได้เทรี่ซึ่งเป็นน้องชายพลัดพลากของมิเรยูมาเป็นพวกอีกคน…..

กลับไปโลกด้านบน บริเวณที่พบปราสาทเฮลคราวน์ จะพบว่าเป็นปราสาท “เซนิส”แทน ให้เราไปคุยกับพระราชาเซนิส แล้วไปที่บ่อน้ำในปราสาทโดยลงไป แล้วกลับขึ้นมา จะพบว่าเราอยู่ที่ “หอคอยแห่งอาชาสวรรค์” แล้ว ให้บุกขึ้นไปจนถึงยอดให้ได้ จะพบกับรูปปั้นอาชาสวรรค์ โดยจะต้องจัดการกับมอนสเตอร์ที่มาขัดขวางซะก่อน แล้ว “ฟาลชิอ้อน” ม้าของเราจะได้รับพลังกลายเป็น อาชาสวรรค์มีปีกสามารถบินไปในท้องฟ้าได้ โดยกดใช้ไอเทม “บังเหียนอาชาสวรรค์” แล้วกลับไปหาพระราชาเซนิส จะได้รับพลังให้ไปสู่โลกแห่งความมืดได้ โดยเวลา บินอยู่ให้กดปุ่ม X จะเข้าสู่โลกแห่งความมืดได้…..

มุ่งหน้าไปโลกแห่งความมืด.. เมื่อไปถึงเราจะสูญสิ้นพลังทั้งสิ้น ให้พยายามหนีศัตรูไปยังเมืองแห่งความสิ้นหวัง รวบรวมข่าวสาร คุยกับช่างทำอาวุธที่ห้องใต้ดิน จะได้รับ “ไปป์” ของเขามา ให้ไปทางทิศตะวันตกจะพบบ่อน้ำแร่ ให้ไปเข้าคิวลงบ่อน้ำแร่ โดยคุยกับคุณผู้หญิงที่เคาเตอร์ ให้สังเกตหินที่อยู่กลางบ่อ จะมีช่องที่สามารถเข้าไปได้ ข้างในจะมีทางวาร์ปกลับมายังเกาะทางทิศเหนือของปราสาทกัลดีโน่ ให้บินไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านไลฟ์คอตในแผ่นดินมายา จะพบหมู่บ้าน “แซคสัน” ให้ไปบ้านที่มีสุนัขเฝ้าอยู่ เอาไปป์ให้มันดู แล้วจะเข้าไปในบ้านได้ จะพบกับภรรยาของช่างทำอาวุธ แล้วเราจะได้รับอุปกรณ์ของช่างมา ให้กลับไปที่โลกแห่งความมืด นำอุปกรณ์ช่างไปให้ช่างทำอาวุธ แล้วเขาจะทำของให้กับเราโดยเลือกได้ว่าจะเอาอะไร มี 3 อย่าง หมวก, เกราะ, โล่ห์ เลือกได้อย่างใดอย่างนึง แล้วจะพักผ่อนกัน เมื่อตื่นมาจะเห็นของที่ทำเสร็จแล้ว และพลังของเราก็ได้กลับคืนมาแล้ว…..

ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมี “เมืองแห่งความโลภ” เข้าไปด้านในจะมีเหมืองทองอยู่ที่นี่ ให้ลองไปสำรวจดู จะพบหีบสมบัติให้ลองสำรวจจะเป็นหีบเปล่าและมีข้อความทิ้งไว้ กลับขึ้นไปบนเมือง ไปที่บ้านเศรษฐีมอลกัน ในเมืองที่อยู่ด้านหลังโรงแรม ขึ้นไปชั้น 2 คุยกับเขาแล้วจะต้องเสียเงิน 5,000G ค่าบอกข้อมูล ให้ไปที่ป่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะพบจุดเข้าไปในทะเลสาปกลางป่า ให้คุยกับทุกคนแล้วระดับน้ำจะลดลง ผู้คนจะเข้าแย่งชิงสมบัติกันอย่างบ้าคลั่ง ให้เราลงไปข้างล่างแล้วจะมีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้น คุยกับมันแล้วจะมีคนมาเล่นงานเรา ให้เราล้มเขาซะแล้วเดินออกมา จะมีเสียงลึกลับดังขึ้นแล้วเราจะถูกดึงย้อนมาอยู่ที่ก่อนเหตุการณ์แย่งชิงสมบัติกัน ให้เราวิ่งลงบันไดไปทางขวามือและไปที่หีบก่อน สำรวจพบว่าไม่มีอะไรในนั้น แล้วชาวบ้านจะรู้ว่าไม่มีอะไรในนั้น จึงพากันกลับไปกันหมด จากนั้นให้เราสำรวจที่หีบต่อหลายๆครั้งจนพบทางลับ ข้ามแม่น้ำไปทางเหนือได้…..

เมื่อข้ามแม่น้ำมาแล้วให้เดินไปทางทิศตะวันตก จะเจอบ่อน้ำใช้เป็นที่พักและเซฟได้ มุ่งหน้าไปทางเหนือจะเจอเรือนจำ เข้าไปจะพบยักษ์เฝ้าประตูอยู่เราต้องปราบเขาลง แล้วจะผ่านเข้าไปได้โดยได้รับกุญแจประตูคุกมา ให้เข้าไปข้างในแล้วจะถูกทหารจับเข้าคุก ให้หนีออกมาโดยเดินฝ่าทางเสียพลัง ไปด้านบนจะเจอห้องขังให้ลองคุยกับทหารยามตรงนั้น จะพบว่าเขาคือ “โซลดี้” แม่ทัพจากเรด็อกนั่นเอง แล้วจะได้รับชุดทหารปลอมตัวมา กดใช้เพื่อปลอมเป็นทหาร แล้วหาข่าวสารในเรือนจำนี้ดู ไปคุยกับพ่อค้าที่ขายของแล้วอ้อมไปที่หลังเคาท์เตอร์จะรู้ว่ามีซิสเตอร์แอนนาถูกจับไปด้วย จากนั้นเดินกลับออกมาจะมีการประหารนักโทษ ให้เราเข้าไปขัดขวาง แล้ว “ผู้คุมด็อกม่า” จะเข้ามาสู้กับเรา โดยเราจะถูกมันจับตัวไปขังอีกครั้ง ให้คุยกับทหารที่หลับอยู่แล้วชาวบ้านจะเข้ามาช่วยเรา จากนั้นกลับมาด้านบน จะมีการกบฏกันเกิดขึ้นให้เราบุกขึ้นไปด้านบนจะพบกับ “เจ้าของเรือนจำอาร์คเบอร์” รวมพลังล้มมันซะ แล้วกลับไปที่คุกตรงที่พบโซลดี้ครั้งแรก เราจะเข้าไปช่วย “นักปราชญ์คริมท์” ได้ ซึ่งเขาจะมอบ “ลูกแก้วแห่งความจริง” ให้กับเรามา แล้วจะพักผ่อนกัน ในตอนดึกผู้คนจะถูกสาปเป็นหินและสัตว์กันหมด…..

มุ่งหน้าไปยังแหลมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเรือนจำ กดใช้ลูกแก้วแห่งความจริงแล้วเราจะถูกวาร์ปมาหน้า “ภูเขาทมิฬ” ซึ่งเป็นที่อยู่ของ “จ้าวปีศาจ” สำรวจทางจะพบนักปราชญ์อีกคนนึงก็คือ “นักปราชญ์มาซาล” ซึ่งเป็นพี่ชายของนักปราชญ์คริมท์ ให้เข้าไปสำรวจตัวนักปราชญ์ดู แล้วให้เราย้อนกลับไปหานักปราชญ์คริมท์ แล้วเขาจะมากับเราด้วย ให้กลับไปหานักปราชญ์มาซาล ซึ่งเราจะต้องบุกเข้าไปในจิตใจของเขา โดยกำจัดปีศาจที่อยู่ในจิตใจเขาให้ได้ แล้วเขาจะได้สติ และร่วมมือกับน้องชายทำลายภูเขาทมิฬทำให้ปราสาทจอมมารตกลงมา…..

และในที่สุด การต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็มาถึง.. ให้เราบุกเข้าไปปราสาทจอมมาร.. ตามทางจะมีของดีๆให้เก็บอยู่มากมาย.. ในท้ายสุดเราต้องต่อสู้กับ “จอมมารเดสทามัวร์” ผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าจอมปีศาจทั้ง 4 (มุโด้, จามิรัส, กราคอส, ดูรัน) ในการคิดครอบครองโลกมนุษย์ รวมพลังกำจัดมันลงให้ได้ ซึ่งมันมีด้วยกันอยู่ 3 ร่าง.. เมื่อเอาชนะมันได้แล้ว โลกก็จะกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง………

***************************************************************************

ในขณะดูฉากจบ จะเห็นตอนที่เทรี่บุกไปในน้ำ แล้วมีแสงแวบๆ เมื่อดูฉากจบจนจบแล้วให้ Reset แล้วเลือกเซฟเก่าที่จบไป จากนั้นกลับไปยัง ถ้ำต้นน้ำทางทิศเหนือของเมืองอามอลในโลกด้านบน ไปจุดที่เหมือนกับฉากจบ สำรวจแล้วจะได้ “จิตฮากุเร” มา เพื่อใช้เปลี่ยนอาชีพสุดท้าย…..

ในเกมส์นี้จะมีอาชีพทั้งหมด 18 อาชีพ.. ถ้าเราทำให้เป็นมาสเตอร์ได้หมด แล้วไปที่วิหารดาม่า ที่ห้องล่างที่มีคบเพลิง จะมีไฟลุกโชติช่วง.. ถ้าเราเป็นมาสเตอร์แต่ละอาชีพ เมื่อทำให้ไฟลุกโชติครบ 18 คบเพลิงแล้ว ให้เดินไปด้านบนแล้วจะมีทางลับโผล่ออกมา ลุยเข้าไปในนั้นเราจะพบกับ “หมู่บ้านเดสค็อด” ที่เหมือนกับหมู่บ้านไลฟ์คอดของเรา เมื่อเข้าไปผู้ใหญ่บ้านจะเข้ามาคุยกับเรา แล้วให้เราไปที่บ้านหลังแรก คุยกับผู้หญิงในนั้นจะเป็นการนอน แล้วตื่นมาทุกคนจะกลายเป็นมอนสเตอร์ทั้งหมด จากนั้นไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านจะมีทางลับไปเจอบ่อน้ำ ให้ลงไปและบุกเข้าไปต่อ จนถึงห้องพิธีกรรม เราจะพบกับ จอมปีศาจ “ดาร์คเดรอัม” ที่เคยเจอที่ปราสาทเกรส ซึ่งจะเก่งกาจกว่าเดสทามัวร์มาก และต้องปราบให้ได้ภายในเทิร์นที่กำหนด เมื่อปราบได้แล้ว ดาร์คเดรอัมจะเป็นผู้ช่วยเราจัดการกับ เดสทามัวร์ แล้วจะพบกับฉากจบที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย…..

Dragon Quest 6 : Real World Map

Dragon Quest 6 : Dream World Map

#DragonQuest6 #ดราก้อนเควสท์ภาค6 #บทสรุปDragonQuest6 #บทสรุปดราก้อนเควสท์ภาค6 #บทสรุปเกมส์


แชร์ลงโซเชียลมีเดีย
2 thoughts on “บทสรุป DRAGON QUEST 6 (ดราก้อนเควสท์ภาค6)”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: ชอบบทความ กรุณาส่งลิงก์มาที่นี่แทนนะครับ อย่าก็อปปี้บทความไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด..