เกริ่นนำ.
บทสานต่อแห่งตำนานผู้กล้า.. ไม่ต้องสู้แบบโดดเดี่ยวอีกต่อไป สู้ร่วมกับเพื่อนๆหลากหลายความสามารถ.. แผนที่ใหญ่กว่าเดิม เนื้อเรื่องยาวกว่าเดิม.. ยังคงยืนยันว่าเวอร์ชั่นบน Super Famicom เพอร์เฟ็คลงตัวที่สุดครับ..
เราจะรับบทเป็นเจ้าชาย “อัลเล็น” แห่งอาณาจักร “โลเรเซีย” ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของสายเลือดผู้กล้าโรโต้.. ต้องรวบรวมเพื่อนพี่น้องเพื่อไปปราบจอมมาร “ฮาก้อน” ผู้ออกอาละวาดและสังหารพระราชาแห่งมูนบรู๊ค.. ปล่อยไว้ไม่ได้.. มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคามโลกอย่างรุนแรง.. เราต้องตื้บมัน…..
รวมพลังปราบจอมมารให้สำเร็จ…..
บทสรุป Dragon Quest 2 : ดราก้อนเควสต์ 2
เริ่มต้นเกมกับการเกิดเรื่องที่ปราสาท “มูนบรู๊ค”.. จอมมารฮาก้อนจะพาลูกน้องของมันบุกโจมตี.. พระราชาจะพาเจ้าหญิงไปซ่อนแล้วสู้กับพวกมัน.. ถึงแม้จะใช้เวทย์ได้อย่างเก่งกาจประมาณหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเอาชนะหมาหมู่ได้.. พระราชาพลาด และเสียท่ามันในที่สุด.. ปราสาทถูกทำลายและเผาวอด.. องค์หญิงไม่รู้ชะตากรรม.. ทหารคนนึงที่รอดตาย หอบเอาร่างกายที่ยังพอเดินไหว เดินทางไปบอกข่าวแก่อาณาจักร “โลเรเซีย”.. เค้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระราชาแห่งโลเรเซียฟัง ก่อนจะสิ้นใจตายในที่สุด…..
พระราชาของโลเรเซีย หรือเสด็จพ่อของเรา จะหันมาบอกเราว่า “ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไม๊ลูก?.. ไปตบมันลูกป๋า.. ไปตบมันเดี๋ยวนี้!.. ตอนนี้!..” พร้อมกับเอียงหัวและเม้มปากไปด้วยแบบเล่นใหญ่.. จากนั้นคุณพ่อสุดที่รักของเราก็จะให้เงินติดตัวเรามา 50G อยู่ในหีบ เปิดเอา (น้ำตากุจะไหล.. ภาคแรกได้ 120 ก็จุกละ ภาคนี้พ่อให้ 50.. อย่าว่าแต่ซื้อดาบ กินก๋วยเตี๋ยวไก่มะระก็หมดละเอาจริง..)
เก็บเลเวลซักพัก ซื้ออาวุธชุดเกราะแล้วออกจากปราสาท “โลเรเซีย” ของเรา.. เดินทางไปทางทิศตะวันตก จะเจอกับเมือง “ลิริซ่า” หาข้อมูล พูดคุยกับชาวบ้าน เก็บเลเวลจนพอใจ ซื้ออาวุธและชุดเกราะ.. เรียบร้อยแล้วเดินทางขึ้นเหนือเพื่อไปตามหาเจ้าชาย “เอสการ์” ที่ปราสาท “ซามัลโทเรีย”.. เมื่อถึงปราสาทซามัลโทเรีย ให้ไปคุยกับพระราชา พระราชาจะบอกว่าเจ้าชายเอสการ์ไปท่องเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์ “สปริงอ็อฟเบรเวอรี่” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเกือบสุดแผ่นดิน เป็นน้ำพุร้อนใต้ดิน.. ซื้ออาวุธได้กับพ่อค้าเร่บริเวณหน้าโรงแรม เสร็จแล้วตามไปที่บ่อน้ำพุ.. พอลงไปตามหา เราจะเจอกับคุณตาเฝ้าน้ำพุ แกจะฮีล HP ให้กับเรา พร้อมกับบอกข้อมูลว่าเจ้าชายออกเดินทางไปที่ “โลเรเซีย”(บ้านเรา)แล้ว.. ก็ให้เราออกมา(อยู่กับบ้านก็ดีแล้ว ไม่น่าเดินให้เหนื่อย เอาจริงๆ).. มุ่งหน้ากลับปราสาทโลเรเซียโดยเดินดิ่งลงมาทางใต้เลย มีให้เลือกสองทางคือฝ่าเถาวัลย์พิษกับข้ามสะพาน ให้เราเลือกข้ามสะพาน(หรือใครจะฝ่าก็ตามใจ😆)..
เมื่อถึงโลเรเซีย.. ให้ไปคุยกับเสด็จพ่อของเรา(พระราชา) เสด็จพ่อจะบอกว่าเค้าเองก็ตามหาเราอยู่ แต่ก็ได้ออกไปแล้ว.. หวายๆ สมน้ำหน้า.. ฮื่ยๆ!! อั่ยย่ะ อั่ยย่ะ!!.. (ก่อนจะไปกระทืบจอมมาร ขอกระทืบเพื่อนตัวเองก่อนเลยได้ไม๊..).. เสร็จแล้วให้เราออกเดินทางไปยังเมือง “ลิริซ่า” ทางทิศตะวันตกอีกครั้ง แล้วจะเจอเค้านั่งอยู่ในโรงแรม.. เข้าไปคุยด้วย เค้าจะดีใจมากที่เจอเรา เพราะเค้าก็ตามหาเราอยู่ เสร็จแล้วก็จะเข้าปาร์ตี้ร่วมเดินทางกับเรา…..
พอได้เพื่อนเพิ่ม อะไรก็ง่ายขึ้น เจอมอนส์หลายตัวก็เบาใจขึ้น.. หาอาวุธชุดเกราะดีๆให้เจ้าชายเอสการ์ใส่.. หมอนี่สายเวทย์ จะมีเวทย์ฮีลให้สามารถใช้ได้ด้วย.. ใช้ให้คุ้ม ให้สมกับที่ทำเราเมื่อย 55+..
พร้อมแล้วออกเดินทางไปที่ ถ้ำทะเลสาบ “เลคเคฟ” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกไกลจากปราสาทซามัลโทเรีย.. หรือตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองลิริซ่า.. เลคเคฟจะถูกล้อมรอบด้วยน้ำและมีสะพานสองอัน นั่นเอง.. ลงไปในถ้ำและสำรวจให้ทั่ว ด้านในสุดของถ้ำเราจะได้ไอเท็ม “กุญแจเงิน”.. เก็บเอาไว้ให้ดี..
ออกจากเลคเคฟมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นิดๆ.. จะเจอกับ “ศาลเจ้าซามัลโทเรีย’ ซึ่งมีทางลับสามารถทะลุไป “อุโมงค์ซามัลโทเรีย” ได้.. ถ้าเรามีเจ้าชายเอสการ์มาด้วย ทหารจะเปิดทางให้.. เข้าไป เดินจนทะลุอุโมงค์อีกฝั่ง.. แล้วลงใต้ไปยาวๆ เราจะได้พบกับเมือง “มูนเปต้า” หาข้อมูลสำรวจให้ทั่ว เราจะได้เจอกับร้านปั่นล็อตเตอรี่ด้วย ถ้ากดตรงกันได้สามช่องเราจะได้ไอเท็มเป็นรางวัลแตกต่างกันไป.. แล้วจะมีหมาน้อยตัวหนึ่งที่ถ้าเราไปคุยด้วย เค้าจะตามเราไปทั่วเมืองเลย.. ที่นี่มีชุดเกราะและอาวุธดีๆขายด้วย..
ออกจากมูนเปต้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้พบกับ “ปราสาทมูนบรู๊ค” ที่ถูกทำลายย่อยยับ และมีเถาวัลย์พิษขึ้นปกคลุมทั่วปราสาท.. เมื่อเข้าไปในปราสาทเราจะพบกับวิญญาณของพระราชาแห่งมูนบรู๊ควนเวียนอยู่บริเวณบัลลังก์.. คุยกับพระองค์ แล้วพระองค์จะบอกว่าปราสาทถูกโจมตีและองค์หญิงถูกคำสาปให้กลายเป็นสุนัข หายไปไหนแล้วไม่รู้ พระองค์จะขอให้เราช่วย.. คุยกับวิญญาณทหารในวังจะได้รู้ว่า มี “กระจกแห่งรา” ที่สามารถใช้ถอนคำสาปให้องค์หญิงได้อยู่ทางบึงพิษทางทิศตะวันออก.. จะมีทหารรอดตายหนึ่งนายทางห้องลับซ้ายล่าง ซึ่งเราต้องฝ่าเถาวัลย์พิษไปหน่อย.. เข้าไปคุยกับเค้า เค้าจะขอให้เราช่วยเจ้าหญิงให้ได้ ดูเค้าเป็นห่วงเจ้าหญิงมากๆ แล้วเค้าจะสิ้นใจตายต่อหน้าเรา…..
สุนัขที่เดินตามเราไปทั่วเมืองที่เมืองมูนเปต้านั่นเอง ที่น่าจะเป็นเจ้าหญิงแห่งมูนบรู๊ก.. ให้เรารีบไปที่บึงพิษขนาดเล็กทางตะวันออกของปราสาท.. สำรวจไม่ยากเราก็จะได้ “กระจกแห่งรา” มา.. ได้มาแล้วรีบเดินทางไปหาเจ้าหมาน้อยที่มูนเปต้าอีกครั้ง.. ยืนหันหน้าไปหาเจ้าหมาน้อยแล้วกดใช้กระจกแห่งรา.. องค์หญิง “สะแมนธ่า” จะคืนร่างกลับเป็นสาวงามเช่นเดิม.. เธอจะร่วมเดินทางกับเรา และเธอมีเวทย์ฮีลที่รุนแรงกว่าเอสการ์อีกระดับ..
เมื่อได้เจ้าหญิงเข้ากลุ่มแล้ว ให้พาเธอไปหาวิญญาณพระราชาอีกครั้ง.. วิญญาณพระราชาจะดีใจมาก แต่พระองค์มองไม่เห็น ได้ยินแค่เสียงเท่านั้น.. คุณพ่อคุณลูกบอกรักและบอกลากันด้วยความชื่นมื่นระคนเศร้าใจ.. พระราชาบอกว่า รักองค์หญิงเสมอ และจะเฝ้ามองพระองค์เสมออยู่บนสวรรค์.. ก่อนที่วิญญาณพระราชาจะสู่สุขคติและสลายไป….. (น้ำตาจะแตก ฉ็อตนี้).. เสร็จแล้วไปคุยกับวิญญาณทหารในห้องลับซ้ายล่างอีกครั้ง.. เค้าก็จะดีใจมาก.. เรียกหาองค์หญิง และวิญญาณก็จะสลายไปสู่สุขคติด้วยความสบายใจ หายห่วง เช่นกัน….. ***เหตุการณ์ที่มูนบรู๊คนี้สร้างความสะเทือนใจและเศร้าใจอย่างมาก.. คือขึ้นเลย เอาจริงๆ..
พาองค์หญิงเก็บเลเวลซักพัก.. พอใจแล้วเราก็จะออกเดินทางไปที่ “หอคอยสายลม” กัน.. นอนหลับพักผ่อนซื้อไอเท็มให้เรียบร้อยที่เมือง “มูนเปต้า”.. หอคอยสายลมจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมูนเปต้า แต่เราจะไม่สามารถเดินไปหาตรงๆได้ ต้องเดินอ้อมทวีปกันนิดนึงครับ.. ให้ออกเดินทางไปที่สะพานทางตะวันออกเฉียงเหนือ(ไม่ใช่อันที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นเหนือไปอีกหน่อย).. ข้ามสะพานมา แล้วเดินเลาะชายฝั่งลงไปใต้เรื่อยๆ จนที่สุดแล้วก็จะเลี้ยวเข้าไปเจอหอคอยสายลมในที่สุด.. เข้าไปในหอคอยสายลมแล้วสำรวจให้ทั่วทุกชั้น ไอเท็มสำคัญสองชิ้นที่เราต้องได้ติดมือออกมาคือ “ผ้าคลุมสายลม” กับ “แหวนเติมพลังเวทย์”.. หาได้ครบแล้วก็ออกมาได้ครับ.. ***แหวนเติมพลังเวทย์สามารถใช้เติมพลังเวทย์ได้เรื่อยๆ แจ่มอยู่นะ(แต่มีหมดนะครับ ใช้ระวังด้วย)
กลับมาแวะพักที่เมืองมูนเปต้าเพื่อเพิ่มพลังก่อนออกเดินทาง.. พร้อมแล้วเดินทางไปยัง “ศาลเจ้ามูนบรู๊ค” ซึ่งอยู่ตรงตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทมูนบรู๊ค.. ใช้ข้ามฝั่งมาอีกทวีปได้.. ข้ามมา แล้วเดินขึ้นเหนือ จนเจอ “หอคอยดราก้อนฮอร์น”.. ขึ้นไปชั้นบนสุด ให้พระเอกสวมผ้าคลุมสายลมที่ได้มาจากหอคอยสายลม แล้วกระโดดร่อนลงมา.. เราจะตกข้ามมายังอีกทวีปได้.. เดินขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เราจะเจอกับหมู่บ้านเมืองท่า “ลูเปกาน่า” เข้ามาหาข้อมูลพูดคุย จะมีชาวบ้านบางคนพูดถึงพระเอกภาคหนึ่งและเจ้าหญิงลอร่าด้วย.. ให้เราไปร้านอาวุธก่อน อย่าเพิ่งเดินไปช่วยเด็กทางซ้ายบนนะ ซื้ออาวุธก่อน จะทำให้เราได้เปรียบศัตรู.. มีอาวุธนักเวทย์และเครื่องป้องกันดีๆที่ใส่ได้ทั้งสามคนเลย พลังป้องกันกระโดดเลย แจ่มมาก.. เสร็จแล้วเดินไปช่วยสาวน้อยที่โดนมอนสเตอร์รังแกอยู่สองตัวที่บริเวณซ้ายบนของหมู่บ้าน.. ตื้บมันซะ อย่าให้ได้ห้าว..
พอเราจัดการมันเสร็จ สาวน้อยจะขอบคุณเป็นการใหญ่ และตอบแทนเราด้วยการพาไปพบคุณปู่ ซึ่งคุณปู่เป็นเจ้าของเรือเก่าแก่ของหมู่บ้าน.. ตอนแรกแกก็ดูหวงเรืออยู่ แต่พอเราช่วยหลานแกไว้ แกเลยยกให้เราเลย.. ทีนี้เราก็ออกทะเลได้แล้ว.. แต่ถ้าไม่รีบนัก ก็อย่าเพิ่งไปครับ ไหนๆก็เพิ่งได้อาวุธและชุดเกราะดีๆมา เดินตีมอนส์ฯเก็บเลเวลซักพักก็เป็นการดี ไม่เสียของครับ..
พร้อมแล้วขึ้นเรือ.. ออกเรือขับเลาะแผ่นดินมายังหมู่บ้าน “ซาฮาน” เป็นหมู่บ้านแห่งชาวประมง ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้สุดขอบแผนที่ขวาล่าง.. ขับเลาะแผ่นดินมาจะง่ายที่สุด ถ้าออกทะเลกว้างเลย มองไม่เห็นแผ่นดินเลย จะหลงทางได้นะครับ.. เมื่อถึงซาฮาน พูดคุยกับชาวบ้าน จะพบว่าเหล่าชายฉกรรจ์จะออกไปหาปลาในทะเลกว้างกันหมด ในหมู่บ้านจะมีเพียงผู้หญิง,เด็กน้อย,และคนชราเท่านั้น.. เราจะสังเกตุเห็นหมาน้อยอยู่ตัวหนึ่งยืนอยู่ ไปคุยกับมันแล้วมันจะวิ่งนำหน้าไป เหมือนมันเอาอะไรไปฝังไว้และมันอยากให้เรา ให้เราตามไปสำรวจข้างหน้ามัน เราจะได้ไอเท็ม “กุญแจทอง” ไว้ครอบครอง..
เสร็จแล้วไปยังหมู่บ้าน “เพ็ลพอย” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่บ้านซาฮาน.. (ระหว่างทางจะพบกับเกาะๆหนึ่งที่มีต้นไม้อยู่กลางทะเลทราย อย่าลืมแวะแล้วสำรวจที่ต้นไม้ เราจะได้ “ใบไม้ชุบชีวิต” มาติดตัวไว้ อย่าพลาดที่จะมีติดตัวไว้เสมอ.. ขอได้ครั้งละหนึ่งใบเท่านั้น..).. ที่เพ็ลพอยนี่จะเป็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ใต้ดิน ด้านบนจะมีเพียงชายคนหนึ่งนั่งผิงไฟกับมีหมาตัวหนึ่งเดินอยู่รอบๆเท่านั้น.. ให้เปิดประตูแล้วลงไปในห้องใต้ดิน เราก็จะเจอกับหมู่บ้าน.. ให้เราไปซื้อไอเท็มชิ้นหนึ่งจากร้านขายไอเท็ม(คนขายจะทรงโจรหน่อย).. ไอเท็มชิ้นนี้จะไม่มีทั้งชื่อและราคา.. ซื้อมา.. แล้วเราจะได้ “กุญแจห้องขัง” มาครอบครอง.. สามารถไขห้องขังได้ทั่วโลกละ.. ทีนี้ไปในคุกของหมู่บ้าน เปิดเข้าไปในห้องขังที่มีรอยหลุมอยู่.. เดินทะลุตามรอยนั้นไป จะได้พบกับ “จอมโจรราโกสหรือแฟสฟิงเกอร์” เค้าจะให้ “กุญแจประตูน้ำ” แก่เรา.. เก็บไว้ให้ดี…..
ต่อจากนี้จะเป็นการตามล่าหา “สมบัติแห่งโรโต้” เพื่อเอาไว้ใช้ปราบจอมมาร ..
ใกล้ๆกับหมู่บ้านซาฮาน จะมี “ศาลเจ้าซาฮาน” อยู่ตรงเกาะเล็กๆติดๆกัน ให้เราเข้าไป จะได้เจอกับช่องวาร์ปกลับมายังปราสาทโลเรเซียของเราได้.. วาร์ปกลับไปคุยกับพระราชา(เด็จพ่อ) พระราชาจะคุยกับองค์หญิงสะแมนท่าว่าเสียใจด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับปราสาทมูนบรู๊ค.. แล้วบอกเราว่า กระทืบฮาก้อนเสร็จเมื่อไหร่ค่อยกลับบ้าน ทำยังไม่สำเร็จอย่ามาให้กูเห็นหน้า ประมาณนั้น.. 😂
จากนั้นเปิดประตูในปราสาทที่เคยเข้าไม่ได้ให้หมด.. คุยกับผู้คนที่อยู่ในห้องเหล่านั้น.. เปิดเข้าไปในห้องเก็บสมบัติลับ(ที่มีหีบสมบัติเยอะๆ) กวาดให้เรียบ แล้วเราจะได้ “เหรียญเครื่องรางแห่งโรโต้” เก็บเอาไว้ให้ดีเพราะเดี๋ยวเราจะเอาไปรับ “หมวกแห่งโรโต้” กัน.. จำเป็นต้องมีเหรียญตรานี้ไปยืนยัน…..
เสร็จแล้วเดินเท้าไปยังปราสาท “ซามัลโทเรีย” ของเอสการ์.. เดินเข้าไปในปราสาทจะเห็นคุณตานักเวทย์ท่านหนึ่งยืนเฝ้ากล่องสมบัติอยู่ในห้องที่มีประตูปิดไว้.. เปิดประตูเข้าไปคุยกับแก แล้วเปิดหีบสมบัติ เราจะได้ “โล่ห์แห่งโรโต้” มาไว้ครอบครอง.. ใส่ซะ พลังป้องกันจะกระโดดเลย.. แข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น…..
กลับมาที่ปราสาทโลเรเซีย.. วาร์ปกลับมาที่ศาลเจ้าซาฮาน.. ขึ้นเรือ แล้วล่องเรือเลาะชายฝั่งด้านเหนือของหมู่บ้านเพลพ็อยขึ้นมาทางเหนือเรื่อยๆ เป้าหมายคือจอดเรือระหว่าง “ปราสาทลาดาต้อม” กับ “ปราสาทราชามังกร” บอสภาคแรกนั่นเอง.. เลียบตรงมาแผ่นดินทางตะวันออก ขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ตีโค้งลอดช่องแคบลงมานิดหน่อย เลี้ยวไปทางตะวันตก ไม่ไกลนักก็จะเข้าสู่ช่องแคบที่อยู่ตรงกลางระหว่างปราสาทลาดาต้อมกับปราสาทราชามังกรนั่นเอง.. จอดเรือเทียบทางฝั่งลาดาต้อม หาข้อมูลให้ทั่ว ปราสาทจะเปลี่ยนแปลงไปจากภาคหนึ่งพอสมควร.. จะมีชาวเมืองพูดถึงผู้กล้าภาคหนึ่งและเจ้าหญิงลอร่าด้วย.. เติมเวทย์เติมพลังให้เต็มด้วยคุณตานักเวทย์ที่ห้องขวาล่างเช่นเคย เดี๋ยวเราจะไปบู๊กันที่ปราสาทราชามังกร..
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกจากลาดาต้อม ขึ้นเรือมาเทียบท่าอีกฝั่งเพื่อเข้าปราสาทราชามังกร.. ระวังมอนสเตอร์รอบปราสาทให้ดี ติดพิษง่ายมากๆ.. เข้าปราสาท.. สำรวจให้ทั่ว ไม่ซับซ้อนมาก.. มีสองทางคือไปหา “หลานชายราชามังกร” กับไปเอา “ดาบแห่งโรโต้” ไปทางไหนก่อนก็ได้.. พอได้คุยกับหลานราชามังกร รู้สึกว่าหมอนี่ก็เหม็นหน้าฮาก้อนอยู่พอสมควร อยากให้เราตื้บฮาก้อน บอกข้อมูลสำคัญบางอย่างมาที่จะทำให้เราปราบฮาก้อนได้ ประมาณนั้น.. หลังจากได้ดาบแห่งโรโต้มา(ไปอีกทาง).. ก็ออกจากปราสาทได้…..
ขับเรือเลียบลงใต้ไปที่ถ้ำ “โฮลี่ไชน์”.. เมื่อเข้าไป จะมีพี่ชายท่านหนึ่งรอการปรากฏตัวของผู้กล้าแห่งโรโต้อยู่พอดี.. ถ้าเรามีเหรียญตราแห่งโรโต้มา แกจะเปิดทางให้เราไปหยิบ “หมวกแห่งโรโต้” มาครอบครอง.. จัดการแฮปมาซะ.. 😆 ใส่เลยทันที หล่อเฟี้ยวไม่เบา..
สำหรับ “ชุดเกราะแห่งโรโต้” จะพิเศษหน่อย.. อยู่ลึกอยู่ไกล เดี๋ยวค่อยว่ากัน.. ตอนนี้เราต้องเก็บสัญลักษณ์ทั้ง 5 ที่หลานราชามังกรมันแพล่มบอกเราเอาไว้ว่ามีครบแล้วจะปราบเจ้าฮาก้อนได้ง่ายขึ้นให้ครบก่อน.. ไปเอาชิ้นแรกกันเลย คือ
1.สัญลักษณ์แห่งหยดน้ำ ที่คุกใต้ดินในหมู่บ้าน “มูนเปต้า” … ล่องเรือมาทางตะวันออกไม่ไกลจากถ้ำโฮลี่ไชน์ที่เราเพิ่งได้หมวกมา ก็จะได้พบหมู่บ้านมูนเปต้าที่เราพบองค์หญิงในร่างสุนัขนั่นเอง.. จุดที่พบองค์หญิงนั่นแหละ จะมีคุกใต้ดินที่มีกุญแจทองล็อคไว้.. ไขซะ แล้วลงไปตบเจ้าเกรมลินสองตนในคุก เสร็จแล้วสำรวจที่บนขวาของห้องครับ ก็จะได้รับสัญลักษณ์แห่งหยดน้ำ.. ง่ายๆแบบนี้เลย..
2.สัญลักษณ์แห่งดวงดาว ที่หอคอย “Lookout Tower” เป็นหอคอยเดี่ยวๆอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวทางทิศใต้ของทวีป “Alef Guard” หรือทวีปของภาค 1 นั่นเอง.. ถ้าออกเดินทางจากมูนเปต้าก็จะเป็นตะวันตกเฉียงใต้นิดหน่อยครับ.. เมื่อเข้าไปจะมีทหารเฝ้าอยู่หน้าหอคอยหนึ่งนาย… ขอบอกเลยว่า มึนใช้ได้เลยทีเดียว.. ท้าทายสมองในการจดจำเส้นทางขั้นสุด มีทั้งทางไปเอาหีบสมบัติและไปตีบอส.. ใครไม่อยากพลาดของก็ต้องเดินให้ทั่ว ก็ต้องจดจำให้ดีครับ บันไดขึ้นลงเยอะมากๆ ทางคล้ายเขาวงกตเบาๆเลย.. ระวังจะตกจากขอบระเบียงลงไปชั้นล่างด้วยนะครับ มีจุดหวาดเสียวหลายจุดทีเดียว.. เมื่อไปถูกทาง จะเจอประตูไม้อันใหญ่.. ก็เข้าไปโลด.. เดินต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับเจ้าเกรมลินสีชมพูตัวหนึ่ง ที่พอเห็นเรามันก็จะวิ่งหนีเข้ากำแพงไป.. ให้จำจุดที่มันทะลุเข้ากำแพงไปให้ดี แล้วตามมันเข้าไป.. พอเข้าไปปุ๊บ จะเจอกับผู้เฒ่านายหนึ่ง อาสานำทางให้เรา.. ก็เดินตามไปจนสุดทาง.. พ่อเฒ่าก็จะเผยโฉยที่แท้จริง เป็นเกรมลินสี่ตัว มันจะบอกว่า “พวกเอ็งโดนหลอกแว้วว!! ที่นี่จะเป็นหลุมศพของพวกเอ็ง!!”.. ให้เราตอบกลับไปว่า “หราาา..”.. แล้วกระทืบมันให้เละ.. 😆 เมื่อเอาชนะได้ เราก็จะได้สัญลักษณ์รูปดวงดาวมาครอบครองสำเร็จ..
3.สัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์.. แว๊นซ์เรือกลับมายังบริเวณหมู่บ้านซาฮานอีกครั้ง(ไกลทีเดียว).. ไปที่เกาะเล็กๆที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะที่เราเก็บใบไม้ชุบชีวิตได้เรื่อยๆนั่นแหละครับ อยู่ใกล้ๆกันเลย.. บนเกาะจะมีศาลเจ้า “เฟรมไชน์” อยู่.. เข้าไปจะเป็นจุดวาร์ป เมื่อเข้าวาร์ปจะไปโผล่ที่ๆมีจุดวาร์ปสามอันอีกที(เราจะอยู่ตรงกลาง).. ให้เดินออกมาทางขวาบนสุดแล้วสำรวจ เราก็จะได้สัญลักษณ์ดวงอาทิตย์มาครอบครอง ง่ายๆแบบนี้เลย..
4.สัญลักษณ์รูปพระจันทร์.. จากศาลเจ้า “เฟรมไชน์” ดิ่งเรือขึ้นเหนือไป.. จะได้พบกับทวีปของอาณาจักร “เดลกอนดาร์” ต้องล่องเรือเข้าทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ถึงจะเข้าได้นะครับ.. เพราะเกาะถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงทั้งหมด.. เข้าทางซอกเขาเล็กๆทางฝั่งตะวันตก.. ล่องตามแม่น้ำเข้าไปจนสุด ก็จะขึ้นบกได้.. ตรงดิ่งเข้าไปในปราสาท เราจะได้รับรู้ว่าพระราชาของที่นี่ชอบรับชมการต่อสู้มากๆ.. เมื่อเข้าไปในโซนแรกซ้ายมือ จะได้พบพระราชาทันที แกจะบอกว่าแกชอบชมการต่อสู้มากๆ เราสนใจที่จะร่วมสนุกหรือไม่?.. ก็ให้เราตอบไปว่า OK.. แล้วเดินลงไปตรงกลางลานประลอง เจ้าเสือร้ายในกรงก็จะถูกปล่อยออกมาเพื่อสู้กับเรา.. ไม่ยากครับ สบายๆ.. เมื่อเอาชนะเจ้าเสือได้ พระราชาจะพอใจมาก และจะมอบสัญลักษณ์แห่งพระจันทร์ให้เราเป็นรางวัล.. เย่!..
ก่อนออกจากที่นี่ อย่าลืมไปเปิดกรงขังทหารซ้ายบนเพื่อพูดคุย เค้าจะบอกอะไรดีๆกับเรา แล้ววิ่งออกไป.. ให้เข้าไปในกรงขังแล้วสำรวจที่ช่องขวาบน จะได้เท็ม “สเตร้นจ์ซี้ด” เมล็ดเพิ่มความแข็งแรง.. อยากให้ใครตีแรงขึ้น ก็เอาให้คนนั้นกินได้เลยครับ..
เสร็จแล้วออกมาตรงทางเดิน.. เดินตีโค้งไปตามทาง.. ที่สุดทางจะมีจุดวาร์ป ก็วาร์ปไป เปิดประตูออกไปคุยกับคุณตาด้านขวา แกจะให้ข้อมูลสำคัญบางอย่าง แล้ววาร์ปกลับมา.. เดินมาขวาล่างสุด แล้วใช้กุญแจไขพื้นที่ดำๆ เราจะทะลุออกมาโผล่ในร้านขายอาวุธ.. จะมีกล่องสมบัติอยู่สองกล่อง เก็บให้หมด.. เราจะได้ชุดเกราะ “อาร์เมอร์อ็อฟไกอา” มาครอบครอง.. แจ่มแจ๋ว และห้ามพลาด.. เสร็จแล้วก็พักผ่อนซื้อของตามอัธยาศัย.. ครับผม..
ต่อไปเราจะไปเอา “ไม้เท้าสายฟ้า” ให้เจ้าหญิงสะแมนท่าของเรา ที่ปราสาท “โรเลเซีย” ของพระเอกนี่เอง.. ขับเรือตรงขึ้นเหนือจาก “เดลกอนดาร์”.. จอดหน้าปราสาทโรเลเซียของเรา พักผ่อนในโรงแรมให้เรียบร้อย แล้วไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อซักหนึ่งที เอาฤกษ์เอาชัย.. เสร็จแล้วลงมาไปที่คุกใต้ดินทางด้านขวาของปราสาท.. ที่ห้องขังแรก เจ้านักโทษจะรีบวิ่งมาถามเราว่าเรามีกุญแจไขห้องขังแล้วหรือยัง ถ้ามีแล้วช่วยไขให้มันทีแล้วมันจะบอกข้อมูลดีๆให้.. ก็ไขให้มันครับ แล้วมันจะบอกข้อมูลดีๆกับเรา.. เสร็จแล้วไปห้องถัดไป เราจะได้พบกับ “นักบวชปีศาจ” เป็นบอสในเควสท์นี้นั่นเอง.. เมื่อคุยกับมัน มันก็จะแพล่มใส่เรานู่นนี่เกี่ยวกับฮาร์ก้อน เสร็จแล้วก็จะบวกกัน.. ตบให้ลงครับ.. โหดใช้ได้ทีเดียว เวทย์ของมันโจมตีโดนทุกคน และแรงมากๆด้วย.. เมื่อเอาชนะมันได้ เคาก็จะได้ครอบครอง “ไม้เท้าสายฟ้า” ดังใจต้องการ.. ก่อนออกไป อย่าลืมสำรวจพื้นที่ด้านหน้าเจ้านักบวชปีศาจ จะได้ “อจิลิตี้ซี้ด” มาครอบครอง.. เป็นเม็ดเพิ่มพลังความรวดเร็ว.. อยากให้ใครเร็วแบบดิจิตอลดิจิตอลก็ให้คนนั้นทานไปครับ..
ต่อไปเราจะไปสร้าง “ชุดคลุมหยาดฝน” กันนะครับ.. อันดับแรกต้องไปเอา “ด้ายหยาดฝน” ที่หอคอยดราก้อนฮอร์นฝั่งทิศเหนือหรือฝั่งหมู่บ้านลูเปกาน่านั่นเองครับ.. ขึ้นไปชั้น 3 เดินมาทางซ้ายสองช่องเดินขึ้นหนึ่งช่อง กดสำรวจ เราก็จะได้รับด้ายหยาดฝนมาครอบครองครับ.. เสร็จแล้วกลับไปที่หมู่บ้าน “ซาฮาน” อีกครั้ง.. ไปที่โบสถ์ที่มีพื้นดินเป็นพิษด้านบนของหมู่บ้าน เดินฝ่าพื้นพิษไปเก็บของที่ห้องทางซ้าย(ค่อยๆไป หยุดเติมพลังด้วยระหว่างทาง เดี๋ยวจะพลาดตายนะ ถ้าไม่ระวัง).. ห้องซ้ายเราจะได้รับ “เครื่องทอผ้าวิเศษในตำนาน” มาครอบครองครับ.. เสร็จแล้วมาเก็บที่ห้องขวาบ้าง จะได้รับ “แหวนเติมพลังเวทย์” อีกหนึ่งวงครับ.. ครบแล้วออกมา…
ทีนี้เราจะไปสั่งตัดชุดคลุมหยาดฝนสุดจ๊าบกัน.. ล่องเรือมาทางตะวันตก มาบริเวณเมือง “เพลพอย” ที่มีผู้ชายเฝ้าหน้าหมู่บ้านหนึ่งคนกับหมาหนึ่งตัวนั่นแหละ.. แต่ไม่ต้องลงจากเรือ แค่ให้ตั้งหลักตรงนี้ แล้วขับเรือเลียบแผ่นดินไปเรื่อยๆยาวๆ(แผ่นดินจะอยู่ด้านบนเรานะครับ).. ขับเลียบมาเรื่อยๆ จะพบกับปากแม่น้ำซึ่งเป็นทางเข้าคลองสายยาวไปในแผ่นดิน คลองแรกผ่านไปก่อน คลองที่สองนี่แหละ เข้าไปโลด..
ล่องเรือเข้าไปจนสุดทาง จะมีท่าเทียบได้สองฝั่งคือขวากับซ้าย ให้เราเทียบทางซ้ายนะครับ.. ลงจากเรือสู่แผ่นดิน แล้วเดินโค้งตีอ้อมมาทางตะวันออก(ไกลใช้ได้อยู่).. แล้วเราจะได้พบกับหมู่บ้าน “Tepa : เทป้า”.. เมื่อเข้าไปพูดคุยหาข้อมูล จะได้ทราบว่า ที่นี่มียอดฝีมือนักทอผ้าในตำนานอยู่หนึ่งท่าน เค้าคือพ่อเฒ่า “ดอน มาโฮเน่” นั่นเอง.. บ้านของแกจะอยู่ด้านบนของร้านขายอาวุธนั่นเอง ประตูล็อคกุญแจสีทองเอาไว้.. เข้าไป แล้วลงไปชั้นใต้ดิน ก็จะได้พบพ่อเฒ่าดอนกับเครื่องทอผ้าคู่ใจของแก.. ถ้าของเรามีครบ แกก็ยินดีทำให้ทันที แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย..
เราไม่ต้องรอแกครับ แกทำนานจริง.. กลับมาที่เรือ ออกเดินทางสู่หมู่บ้าน “เบลานูล” ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้(เพื่อไปเซฟแล้วรีเซ็ต ไม่งั้นพ่อเฒ่าดอนทอผ้าไม่เสร็จซักที).. เมื่อเข้าสู่หมู่บ้านเบลานูล คุยกับชาวบ้านเราจะได้ข้อมูลอะไรดีๆเยอะแยะเลย เกี่ยวกับไอเท็มและทางไปหาฮาก้อนต่างๆ.. มาพักที่โรงแรมหนึ่งคืน พอตื่นเช้ามาเอสการ์เพื่อนรักเราจะไม่สบาย ขยับตัวไม่ได้ นอนแหง่กอยู่บนเตียง.. เค้าจะบอกไม่ต้องห่วงเค้า ไปก่อนได้เลย.. ให้เราบอกเค้าว่า “หุบปาก!” แล้วเอาไอเท็ม “ใบไม้ชุบชีวิต” ที่เราได้มาจากต้นไม้บนเกาะทราย โบ๊ะหน้าไปหนึ่งที.. 😂 เอสการ์ก็จะหายป่วย หลุดพ้นจากคำสาปทันที(อย่าอู้ๆ ช่วยกันทำมาหากิน)..
จากนั้นให้ไปเซฟกับคุณตาฤาษีที่บ้านซ้ายบนสุด.. เซฟเสร็จแล้วกดรีเซ็ตเกม.. เข้าเซฟที่เพิ่งเซฟไป.. แล้วกลับไปหาพ่อเฒ่าดอนมาโฮเน่นักทอผ้าที่เมืองเทป้าอีกครั้ง.. แกก็จะทอผ้าเสร็จพอดี.. เราก็จะได้ชุดคลุมมหาเทพให้สแมนธ่าได้ใส่เพื่อเพิ่มพลังป้องได้อย่างดีเยี่ยม.. พ่อเฒ่าดอนภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนช่วยเรา..
หลังจากนั้นเดินมาขวาบนของหมู่บ้าน.. จะเห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินอยู่นอกหมู่บ้าน ค่อยๆเดินเลียบกำแพงไปหามัน แล้วเดินไปซ้ายบน ก็จะได้พบกับประตูระบายน้ำของหมู่บ้าน เอาไว้ปรับระดับน้ำ.. ก็เดินเข้าไปแล้วเอา “กุญแจประตูน้ำ” ที่เรามีสอดใส่เข้าไป😆.. น้ำจะระบายออกมา จนเกินเส้นทางเดินเรือใหม่ สามารถเดินทางไป “ฟูลมูนทาวเวอร์” ได้แล้ว..
กลับไปที่เรือแล้วแว๊นซ์กลับมาเข้ายังคลองเข้าแผ่นดินรูแรก.. ขับเรือไปตามทางจนถึงหอคอย “ฟูลมูนทาวเวอร์”.. ท้าทายอีกแล้ว.. เดินให้ทั่ว จำให้แม่น ไม่อย่างนั้นอาจพลาดไอเท็มดีๆไป.. ชั้นบนสุดเราจะได้ “แหวนเติมพลังเวทย์” อีกหนึ่งวง.. เดินย้อนลงมาผ่านประตูยักษ์จนถึงชั้นล่างสุด เราก็จะได้เจอคุณตากับกล่องสมบัติ.. ภายในกล่องนั่นแหละคือไอเท็มที่เรามาตามหา.. “Moon Fragment” หรือชิ้นส่วนของดวงจันทร์นั่นเอง.. เป็นของขลังที่เดี๋ยวเราจะต้องใช้งาน..
ล่องเรือมาที่ถ้ำลาวากลางทะเล “Sea Cave” จะอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาท “เดลกอนดาร์” ที่เราเคยสู้กับเสือ.. อยู่กลางทะเล เราจะเข้าไม่ได้ในตอนแรก ให้ไปจอดด้านหน้าแล้วใช้ไอเท็ม “Moon Fragment” ที่เราเพิ่งได้มานั่นแหละ ชูขึ้นฟ้า แล้วสิ่งกีดขวางจะจมลงไปหายไป เราก็เข้าถ้ำได้แล้วครับทีนี้..
ที่นี่เป็นถ้ำลาวาที่สวยงาม บันไดเยอะมาก หีบสมบัติก็เยอะพอสมควร มึนใช้ได้เลยล่ะ.. อย่าลืมร่ายเวทย์ของเอสการ์เคลือบฝ่าเท้าก่อนลุยลาวา ไม่งั้นเดินกันสนุกเท้าติดไฟกันเลยทีเดียว.. สำรวจให้ทั่ว.. บันไดที่ไปหาบอส อยู่ในห้องที่มีลาวาเยอะๆกว้างๆ มีบันไดเป็นหย่อมๆเต็มไปหมด.. ขอใบ้ให้ว่า เป็นบันได “ลง” ซ้ายสุดติดกำแพงครับ.. ไม่เกินความสามารถผู้กล้าอย่างเราๆท่านๆแน่นอน..
เมื่อลงไปก็เป็นห้องบอสเลยครับ.. จะว่าบอสก็ไม่เชิง แค่มอนส์นักเวทย์ทั่วไปที่เราเคยบวก ไม่ได้เก่งมาก.. พอเอาชนะตัวแรกอีกตัวก็จะวิ่งมาช่วย ก็จัดการให้หมดครับ.. แล้วเดินไปหยิบเทวรูปสีทอง “อายอ็อฟมัลร็อท” มาครอบครองได้เลย.. จากนั้นก็ออกมาได้ครับ.. จะใช้เวทย์วาร์ปออก หรือจะเดินตีมอนส์ออกมาก็ตามสะดวกครัช..
ต่อไปเราจะไปเอา “สัญลักษณ์รูปหัวใจ” กันที่ถ้ำถนนสู่ “รอนดาร์เกีย” นั่นเอง.. เดินทางไปยังหมู่บ้าน “เบลานูล” ทางซ้ายล่างของแผนที่โลกอีกครั้ง(หมู่บ้านที่เอสการ์ไม่สบาย).. ไปที่จุดวาร์ปด้านหลังบาทหลวง เมื่อวาร์ปไปโผล่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่มีสปริงพิษล้อมรอบ บันไดซ้ายบนขึ้นไปคุยกับคุณตา, ที่พื้นขวาบนมีเม็ดเพิ่มพลัง สำรวจดู, และที่กำแพงสีดำด้านล่าง ช่องที่ตรงกับจุดวาร์ปสามารถออกมาด้านนอกได้.. ก็ออกมา.. แล้วเดินไปทางทิศตะวันตกไม่ไกล ก็จะได้พบกับบึงพิษ.. เดินไปตรงกลางบึงพิษ หันหน้าขึ้นทางเหนือ แล้วกดใช้เทวรูปสีทอง.. แผ่นดินจะสนั่นหวั่นไหว เกิดภูเขาปากถ้ำยักษ์ โผล่ขึ้นมา.. ซึ่งมันก็คือ “ถ้ำแห่งถนนสู่รอนดาร์เกีย” นั่นเอง..
เข้าไปโลด.. สิ่งแรกที่เราจะเอาก็คือ “สัญลักษณ์รูปหัวใจ” นั่นเอง.. เดินไปทางขวาสุดใกล้ๆกำแพง เดินรูดไปมาแถวๆนั้น เราจะเหยียบเข้ากับหลุม ทะลุร่วงพรวดลงไปชั้นล่าง.. ตกไปใกล้ๆหีบสมบัติ พอเปิดดู ก็ได้รับไอเท็ม “สัญลักษณ์รูปหัวใจ” ทันที.. งงๆง่ายๆกันแบบนี้เลย.. เจ็บหลังหน่อยแต่จบเร็ว.. เจ็บแต่จบ.. 😂
จริงๆในถ้ำนี้มี ชุดเกราะโรโต้, ดาบสายฟ้า, โล่ห์ฮาเดส, อยู่ด้วย.. ถ้าอยากได้เลยก็ เดินให้ทั่วทุกหลืบไป.. แต่ถ้าอยู่ในอารมณ์ขี้เกียจ ยังไม่มีอารมณ์บู๊ ไปเอาของก่อนดีกว่า.. ก็ออกจากถ้ำได้เลยครับ เดี๋ยวเราจะเอาสัญลักษณ์ทั้ง 5 ไปรวมกันสร้าง “เครื่องรางแห่งรูบิส” กันก่อน.. เดี๋ยวค่อยกลับมาเก็บของก็ได้ครับ…
เดินทางไปยังศาลเจ้าแห่งวิญญาณ “สปิริตไชน์” อยู่ทางทิศเหนือเยื้องมาทางตะวันตกนิดๆของปราสาทเดลกอนดาร์(ที่เราสู้กับเสือ).. เป็นศาลเจ้าเล็กๆบล็อกเดียวกลางทะเล.. เข้าไปแล้วลงไปชั้นล่างสุด เดินไปอยู่ตรงกลางแท่นพิธี เปลวไฟทั้งสี่จะลุกโชนขึ้น เสียงปริศนาจะถามดังว่าเราเป็นใคร.. เค้าคือวิญญาณแห่ง “รูบิส” Rubiss ผู้ให้คำมั่นว่า จะช่วยปกปักเป็นพลังให้ลูกหลานแห่งยอดผู้กล้า “โรโต้”.. เมื่อเค้ารู้ว่า พวกเราคือลูกหลานผู้สืบสายเลือดแห่งโรโต้จริงๆ เค้าจะมอบ “เครื่องรางแห่งรูบิส” ให้เราพกติดตัวเอาไว้.. เอาออกมาดมได้เวลาเวียนหัว 😂 ทุ้ย!.. จะบ้ารึไง! เครื่องราง ไม่ใช่ยาดม!.. จบภาระกิจที่นี่ ออกมาได้ครัชกระผล..
*** ต่อไปนี้ จะเป็นโค้งสุดท้ายของเกมแล้วนะครับ .. ติดใจตรงไหน ข้องใจตรงไหน ไปท่องเที่ยวให้ทั่วทั้งโลก ให้เรียบร้อย.. อยากฟาร์มเลเวลตรงไหน ดันเจี้ยนไหนยังไปไม่ทั่ว.. ไปทะลวงให้หมด.. เพราะเดี๋ยวเราจะไปตบลาสบอสกันแล้วครับ…..
พร้อมแล้วกลับไปที่หมู่บ้าน “เบลานูล” อีกครั้ง.. สำหรับใครที่รีบจบ มีเกมอื่นรอเล่นอยู่ ก็เดินทะลุถ้ำ ไปสู้กับฮาก้อนได้เลย.. แต่ใครที่ยังรู้สึกว่า ยังมีความสุขกับการอยู่ในโลกของดราก้อนเควสต์ภาคสองนี้อยู่.. อยากเล่นต่ออีกสักพัก แถมในถ้ำก็มีมอนสเตอร์น่าสนใจให้สู้ให้ฟาร์มเวลแบบตึงๆได้อยู่ ก็แนะนำให้สำรวจถ้ำให้ทั่ว แบบทะลุปรุโปร่งไปเลยครับ.. เก็บของให้ครบ โดยเฉพาะ “ไลท์นิ่งซอร์ด” ดาบสายฟ้า ที่พระเอกใช้แล้วโจมตีได้รุนแรงมากๆ ห้ามพลาด.. แต่ทางไปเอาจะซับซ้อนหน่อย ดังนั้นแนะนำให้ใช้แผนที่ภายในถ้ำด้านล่างนี้ควบคู่ไปด้วย จะดีที่สุดครับ.. เพราะหลุมเยอะมาก บันไดเยอะมาก มี “เขาวงกต” เดินวนอยู่กับที่อีกส่วนหนึ่ง.. ดูแมพไปด้วยก็จะสบายใจยิ่งขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้นครับ…
เมื่อพอใจแล้วกับการสำรวจถ้ำ.. ก็ทะลุออกมาด้วยบันไดขวาบนสุดของถ้ำชั้นบนสุดได้เลยครับ..
เมื่อทะลุออกมาจะเป็นโซนหิมะขาวโพลน.. มอนสเตอร์จะโหดขึ้นอีกระดับ เพลินไปอีก.. เดินไปขวาบนจะได้พบกับศาลเจ้าสุดท้ายที่เราจะใช้เป็นที่พึ่งในการเซฟ, รักษาตัว, และวาร์ปกลับหมู่บ้านเบลานูล.. ปักหลักแถวนี้ครับ ฟาร์มให้สะใจที่สุด.. พร้อมแล้วเติมพลังให้เต็ม เซฟให้เรียบร้อย.. ออกเดินทางสู่การปราบจอมมาร “ฮาร์ก้อน” ไอ้ตัวแสบที่เป็นต้นเหตุของเรื่องน่าเศร้ามากมาย..
ออกเดินทางฝ่าหิมะไปทางทิศตะวันตก.. ถึงทางแยกให้เลือกทางเหนือที่เป็นป่า เพราะภูเขาด้านล่างจะวนกลับไปที่เดิม.. เดินตีโค้งตวัดมาทางทิศใต้นิดหน่อย ขึ้นเหนืออีกนิด.. เราก็จะได้พบกับปราสาทของเจ้าฮาก้อน ตั้งตระหง่านเหลืองอ๋อยอยู่ 😂.. เข้าไปโลด.. ตบให้กลิ้งให้หมด..
เมื่อเข้ามาในปราสาท.. มันจะเหมือนกับปราสาทโรเลเซียของเราอย่างมาก(สามารถนอนพักในโรงแรมได้ด้วย).. แต่จริงๆแล้ว เป็นแค่เวทย์บังตาเท่านั้น.. กดใช้ไอเท็ม “เครื่องรางแห่งรูบิส” ปราสาทแท้จริงจึงเผมโฉม.. มีวิญญาณเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด.. บางตัวก็ไม่สู้ บางตัวก็สู้.. เดินไปที่หลังบัลลังก์ตรงช่องที่สอง หันหน้าขึ้นเหนือ.. กดไขกุญแจ ก็จะไปต่อได้.. เมื่อทะลุมาห้องนี้ จะมีทางไปเอาอาวุธต้องสาปสองชิ้นซ้ายขวาได้.. แต่แนะนำว่า ไม่ต้องไปเอาไม่ต้องไปใช้มันหรอกครับ.. ยุ่งซะเปล่าๆ.. ใส่แล้วจะไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ต้องให้บาทหลวงถอดให้เท่านั้น.. ตีแรงขึ้นก็จริง พลังป้องกันสูงขึ้นก็จริง แต่เวลาสู้กับบอส ดูเหมือนเราจะไม่สามารถขยับได้ในหลายๆจังหวะ หลายๆเทิร์น.. มันเป็นเกราะมาร ดาบมาร โล่ห์มาร เวลาใส่เสียงก็ดังแบบแปลกๆไม่ค่อยดี.. อย่าใส่ดีกว่า(แต่จะลองก็ได้ครับ ถ้าไม่ขี้เกียจเดินไปถอดไกล)..
พร้อมแล้วไปยืนตรงกลางสัญลักษณ์กางเขน กดใช้ไอเท็ม “อายอ็อฟมัลร็อท” หรือเทวรูปสีทอง.. เราก็จะวาร์ปไปที่ชั้นสองครับ.. เดินไปเรื่อยๆจะเจอกับมอนส์ดักอยู่สองสามตัว โหดใช้ได้ ให้ค่า EXP สูงมากๆด้วย.. เมื่อถึงชั้นบนสุด เราก็จะได้พบเจ้าฮาก้อนนั่งรออยู่ที่บัลลังก์นั่นเอง.. พร้อมแล้วก็เข้าไปบวกได้เลยครับ.. ไม่ยากไม่ง่าย…
เมื่อเอาชนะจอมมาร “ฮาก้อน” ได้.. ห้ามลืมเด็ดขาดที่จะเติม HP และ MP ให้เต็มครบเรียบร้อยทั้งสามคน(อย่าเพิ่งขยับตัว).. เพราะเมื่อเราขยับตัวพยายามจะเดินออกมา.. ไฟจะลุกโชนล้อมเรา พื้นจะถล่ม.. และเจ้าอสูรร้าย “มัลร็อท” ที่เจ้าฮาก้อนมันอันเชิญมาตบเราจะปรากฏตัวขึ้น.. มันคือบอสใหญ่ตัวสุดท้ายที่แท้จริง.. เอามันให้ลงครับ….. ***เทคนิคการเอาชนะเจ้ามัลร็อทที่สำคัญคือ ให้สะแมนธ่าใช้เวทย์ “Defend” คอยลดพลังป้องกันของมันเสมอ และให้เอสการ์ใช้เวทย์ “Increase” คอยเพิ่มพลังป้องกันให้พวกเราเสมอเมื่อถูกมันลด.. มันจะง่วนอยู่กับการใช้เวทย์เพิ่มๆลดๆพลังป้องกันนี่แหละ.. ทำให้เรามีช่องว่างที่จะฟันมันได้เรื่อยๆ.. ตามนั้นครับ.. ฮีลให้ทัน ฟันให้แรง.. เอาชนะมันให้ได้…
เมื่อเอาชนะมันได้.. ก็ใช้เวทย์วาร์ปของเอสการ์วาร์ปกลับมาที่ศาลเจ้าหิมะได้เลย(จุดเซฟสุดท้าย).. ทุกคนจะดีใจมากและขอบคุณเรา.. กลับมาที่เบลานูลก็เช่นกัน ทุกคนขอบคุณเราและดีใจมากๆ ยกย่องเราเป็นฮีโร่ที่แท้ทรู.. ล่องเรือกลับปราสาทโรเลเซียของเรา(ปราสาทจะเงียบกริบ เพราะทุกคนขึ้นไปรอเราที่ด้านบนแล้ว)..
เดินขึ้นไปที่ห้องพระราชาหรือเสด็จพ่อของเรา.. ทุกคนรออยู่ที่นี่อย่างให้เกียรติ.. เสด็จพ่อจะกล่าวชื่นชมเราและ, เอสการ์, สแมนธ่า อย่างเป็นทางการ.. เราจะได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระราชาแห่งโรเลเซียต่อจากเสด็จพ่อทันทีในพิธีเฉลิมฉลองนี้เลย.. ชื่นมื่น จุดพลุปุ้งๆปั้งๆ สุขสรรค์นิรันดร….. 🌹♥️