เกริ่นนำ.
อีกหนึ่งสุดยอดเพชรเม็ดเอกแห่งยุค 90 เกมอาร์พีจีระดับตำนาน ขึ้นหิ้ง ที่ใครที่ได้ชื่อว่าเป็นเกมเมอร์ผู้หลงไหลในวิดีโอเกมอย่างแท้จริงจะต้องเคยเล่น หรือต้องเล่น เท่านั้น.. พลาดคือเสียของเลย.. “Chrono Trigger : โครโน่ ทริคเกอร์” การผจญภัยข้ามการเวลาที่จะพาคุณไปพบกับยุคสมัยต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่หรือแต่ละยุค.. ดีไซน์ตัวละครโดย อ.โทริยามะ อากิระ ผู้สร้างการ์ตูนระดับตำนานอย่าง Dragon Ball ที่ไม่ว่าจะไปออกแบบหรือวาดให้เกมไหน แค่ได้เห็นตัวการ์ตูน แค่ได้เห็นปกเกมหรือโปสเตอร์ ความสนุกก็นำหน้าไปก่อนแล้ว 50% (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน น่ารักน่าเล่นไปหมด).. ตัวเกมถูกออกแบบและสร้างโดยยอดฝีมือจากทั้งทีมไฟนอลแฟนตาซีและดราก้อนเควสต์ ผสมผสานออกมาเป็น RPG ที่ให้กลิ่นแปลกใหม่.. การสู้กับมอนสเตอร์บนพื้นที่ทันที(ไม่ตัดเข้าฉากรบแบบ FF หรือ DQ) มีกลิ่นความเป็นแอ็คชั่นอาร์พีจีเพิ่มเข้ามา เพราะสามารถรอจังหวะให้ศัตรูเดินมาอยู่ใกล้ๆกันและใช้ท่าไม้ตายเพื่อโจมตีให้โดนทั้งกลุ่มได้ เป็นต้น.. แต่ยังคงใช้การเลือกคำสั่งอยู่ ไม่ได้เคลื่อนไหวอิสระแบบแอคชั่นซะทีเดียว.. เสียงดนตรีไพเราะเสนาะหูแทบทุกฉาก(มีวางขายเป็นเรื่องเป็นราว).. กราฟิกที่เรียกได้ว่า สวยงามและจัดเต็มเท่าที่พ.ศ.นั้นจะทำได้.. เวลาเห็นใครเปิดเล่นในร้านเกมนี่ เท่ห์มากๆ สวยมากๆเลยครับ..
ต้องเล่นเท่านั้นครับ.. ไม่ควรพลาด.. ถ้าจะเล่นก็แนะนำเวอร์ชั่นบน Super Famicom และ PlayStation1 เป็นหลักครับ.. ตัวรีเมก HD ที่ลงบน Android และ iOS มีข้อดีคือ มีภาษาไทยให้อ่าน แต่ข้อเสียคืออินเตอร์เฟซสวยงามและลงตัวไม่เท่าต้นฉบับ อีกทั้งยังบังคับใช้ฟิลเตอร์กราฟิกแบบ “ละลายเม็ดพิเซล” อีกด้วย(คงพยายามทำให้มันดู HD ขึ้น แต่ผู้เขียนไม่ชอบภาพแบบนั้นเท่าไหร่ บนอีมูเลเตอร์ก็สามารถทำได้ ก็ยังไม่ค่อยทำ ชอบภาพแบบเห็นพิกเซลชัดๆมากกว่า.. ตั้งค่าก็ไม่ได้ด้วยนะครับ..).. ก็เลือกตามความสะดวกและพอใจครับ บางท่านอาจชอบก็ได้..
สนุกสนานไปกับการ์ตูนดีๆเรื่องนึงที่ อ.โทริฯ เป็นคนวาด โดยที่เราสวมบทเป็นพระเอกตลอดการเดินทาง.. ต้องมีอะไรดีๆแน่นอนครับ….. 🙂
บทสรุป.
เริ่มต้นเกม.. เราจะอยู่ในปี A.D.1000 วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของเมืองเรา.. มีเทศกาลที่ลานคนเมือง จุดพลุปุ้งๆปั้งๆ อากาศแจ่มใส.. แต่ตัวเรานั้นไซร้ “หลับอยู่” นั่นเอง..
เสด็จแม่จะทิ้งหม้อแกงที่กำลังเดือดอยู่ในครัวขึ้นมาปลุกเราที่ห้องนอน.. “ตื่นได้แล้วลูก.. ไปซื้อตะไคร้ให้แม่หน่อยลูก ตะไคร้หมดลูก..”.. นั่น!.. (อันนี้แม่โครโน่หรือแม่ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจ..).. แม่จะเปิดหน้าต่างให้แสงสาดเข้ามาโดนเรา โดยไม่ถามสุขภาพเราซักคำ.. ก่อนที่แม่จะลงไปพร้อมกับแมวน้อย ทิ้งเราซึ่งเป็นแวมไพร์นอนดึกให้ตะเกียกตะกายลุกจากเตียงโดยลำพัง.. “ย้าฮู้!!” ดีดตัวลุกจากเตียงอย่างมีพลัง.. สำรวจให้ทั่วห้อง แล้วเดินลงมา.. แม่จะยืนดักคุยกับเราตรงบันได “อย่าลืมซื้อซีอิ๊วขาวมาด้วยนะลูก”.. นั่น!.. มีเพิ่มอีก.. แต่เจ๊ก็ยังไม่ได้ให้ตังค์ ให้เราเดินตามไปคุยซ้ำอีกรอบเพื่อกรรโชกทรัพย์.. แล้วเธอก็จะให้ตังค์เรามา.. กอดแมวน้อยหนึ่งทีแล้วออกจากบ้าน.. เริ่มต้นการผจญภัย….. 🙂
ออกจากบ้าน.. เดินขึ้นไปทางทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่งานเทศกาลใหญ่ที่กำลังคึกคักกันเลยทีเดียวเชียว.. เมื่อเข้าไปในงานก็ สดใสซาบซ่ากันเลย.. มีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก.. ก็เต็มที่เลยครับ สำรวจให้หมด เล่นเกมให้ครบทุกซุ้ม.. เกมตีกระดิ่ง, เกมแข่งกินน้ำอัดลม, พนันการวิ่งแข่งของเด็กๆ, บ้านผีสิง, เต้นคนป่าจูราสสิค, สู้กับหุ่นยนต์, ฯลฯ
หลายเกมจะให้ Silver Point กับเราด้วย(สู้กับหุ่นยนต์จะได้เยอะที่สุดคือ 15 SP เมื่อได้เยอะๆสามารถเอาไปแลกเป็นเงินจริงๆที่ซุ้มนึงได้ด้วย.. ถ้าไม่รีบ เก็บเงินเยอะๆไปซื้อดาบที่แพงที่สุดในงานได้เลยทีเดียว..)..
ที่โซนแรกด้านหน้า เมื่อเราคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงน้ำพุ เธอจะบ่นถึงสิ่งประดิษฐ์ที่แสนอันตรายของ “ลุคก้า” และคุณพ่อให้เราฟังด้วย.. เมื่อสำรวจโซนแรกเสร็จแล้ว ก็เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง.. เราก็จะได้พบกับ “หัวใจของเรา” เป็นครั้งแรก.. “มาร์ล” หรือองค์หญิงนาเดียที่ปลอมตัวมานั่นเอง..
มาร์ลแอบหนีออกมาเที่ยว เธอจะเดินลุกลี้ลุกลนอยู่บริเวณ “ระฆังของลีเน่” นั่นเอง.. เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ เธอจะเดินมาชนใส่เราโครมใหญ่ จนกระเด็นน็อคพื้นทั้งคู่.. “สร้อยคอ” แสนรักของเธอจะกระเด็นหลุดไปขวาบน.. เธอจะขอโทษเราและรีบหาทันที แต่เธอจะหาไม่เจอ ก็ให้เราไปเก็บสร้อยคอมาคืนเธอ.. มาร์ลจะดีใจมากๆ ขอบคุณเรา และขอไปกับเราขอให้เราพาเที่ยวงานที.. 🙂 จัดไป ชุดใหญ่..
จุดที่น่าสนใจที่สุดในงานคือ ทางซ้ายของโซนสองนี้เอง.. จะมีคุณลุงที่รับแลกเหรียญซิลเวอร์พ้อยท์เป็นเงินจริง จะมีอาหารของคุณลุงถุงสีชมพู ซึ่งเราสามารถกินแล้ว HP/MP เต็มได้.. ถัดไปก็จะเป็นเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ที่ชอบร้องเพลง ถ้าเราสามารถชนะเค้าได้ก็จะได้ถึง 15 SP อย่างที่บอก.. ยิ่งได้มาร์ลมาร่วมกลุ่มแล้วยิ่งสะดวกเลยครับ.. วิ่งวนไปมาซักพักก็รวยแล้วครับ.. อิอิ..
เมื่อเราไปคุยกับผู้ชายสองคนที่เป็นการ์ดที่ยืนขวางทางไปโซนที่สามอยู่ เค้าจะบอกว่ายังไม่พร้อมให้เข้า.. ก็ให้วิ่งกลับไปคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงน้ำพุในโซนที่หนึ่งอีกครั้ง เธอก็จะพูดขึ้นมาว่าพื้นที่โซนสามน่าจะพร้อมแล้ว เราก็สามารถไปเข้าโซนที่สามได้แล้วครับ.. แต่ก่อนจะไป อย่าลืมแวะซื้อดาบที่คุณลุงเต๊นท์นึงก่อนด้วย จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ได้อย่างดีเลยเชียว(เครื่องป้องกันด้วยก็ดี แต่คนละเต๊นท์นะ).. ลุงขายดาบจะสนใจสร้อยคอของมาร์ลด้วย เค้าให้เราช่วยกล่อมให้มาร์ลขาย เราก็ตอบ “ไม่” ไปครับ..
พร้อมแล้วเดินทางไปเข้าโซนสามตรงจุดที่เคยมีการ์ดยืนปิดอยู่สองคน.. พอเข้ามาก็นะ.. เพื่อนรักเรา “ลุคก้า” กับคุณพ่อนั่นเอง.. กำลังจัดแสดง “เครื่องวาร์ปย้ายมวลสาร” อยู่.. กำลังหาหนูทดลองอยู่พอดี.. เข้าไปคุยกับลุคก้า เธอจะบ่นว่าไม่มีใครกล้าทดลองเลย ช่วยหน่อยสิ(ทำไมหวยมาลงที่เราฟร้ะ 😂).. มาร์ลเชียร์เต็มที่ให้เราลอง.. จัดให้ตามคำขอ.. เราจะขึ้นไปยืนบนเครื่องวาร์ปทางซ้าย เมื่อเดินเครื่องเราก็จะวาร์ปมาทางขวา รู้สึกเสียวตูดนิดหน่อยแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี.. มาร์ลชอบใจมากและขอลองเองบ้าง เธอดูมีความสุขสุดๆในวันนี้..
แต่เมื่อมาร์ลขึ้นไปยืนบนเครื่องแล้วเดินเครื่อง.. กลับเกิดปฏิกิริยาแปลกๆขึ้นกับสร้อยคอของเธอ มีสายฟ้าแลบแปล้บปล้าบและเกิดประตูมิติขึ้น มันดูดมาร์ลหายเข้าไปพร้อมกับความตกตะลึงของทุกคน เหลือไว้เพียงสร้อยคอของมาร์ลที่พื้นเครื่องเท่านั้น..
เราทุกคนจะปรึกษากันถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น.. ลุคก้ามั่นใจว่าน่าจะเป็นเพราะสร้อยคอของมาร์ลแน่นอนที่เป็นตัวแปรสำคัญให้เกิดเรื่องนี้.. โครโน่ไม่รอช้า รีบคว้าสร้อยคอมาไว้กับตัวแล้วไปยืนบนเครื่องทันที บอกลุคก้าให้เดินเครื่องอีกครั้ง เค้าจะรีบไปช่วยมาร์ลกลับมา.. เมื่อเดินเครื่อง ก็สมใจปราถนา โครโน่ถูกดูดเข้าไปในประตูมิติแบบเดียวกับมาร์ลจริงๆ.. ลุคก้าบอกว่าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด..
เราจะวาร์ปมาโผล่ที่ป่าสดใสแห่งหนึ่ง.. เดินหาทางออกมาทางทิศใต้(มอนส์ก็น่ารักๆไม่เก่งมาก เรื่อยๆชิวๆครับ).. เมื่อโผล่ออกจากป่ามา กลับกลายเป็นว่า ป่านี้คือพื้นที่จัดงานในอดีตเมื่อสี่ร้อยกว่าปีที่แล้วนั่นเอง.. ตอนนี้เราอยู่ในปี A.D.600.. แผนที่โลกก็คุ้นตา แต่ก็มีบางอย่างแตกต่างออกไป..
เดินลงมาหาข้อมูลละแวกหมู่บ้าน.. เราจะได้รับรู้ข้อมูลเรื่องการหายตัวไปของราชินี “ลีเน่”.. ได้รู้ข้อมูลเรื่องการต่อสู้กับจอมมารที่ยังไม่จบ.. ได้เห็นการสร้างระฆังแห่ง “ลีเน่” ที่ยังทำไม่เสร็จด้วยซ้ำ.. ให้ตายเถอะ มหัศจรรย์พันธุ์ลึกจริงๆ ยังกะแบ็คทูเดอะฟิวเจอร์.. แต่ยังไงก็ตาม มาร์ลสำคัญที่สุด ต้องหามาร์ลให้เจอก่อน.. มีคนพูดถึงว่าพบราชินีในป่าแล้วพากลับไปที่วังด้วย บางทีที่วังอาจมีเบาะแสอะไร.. มีคนพูดถึงว่าที่โบสถ์ทางตะวันตกมีอะไรแปลกๆด้วย.. ต้องแวะซักหน่อยก่อนไปวัง..
พักผ่อนให้พร้อมแล้วออกเดินทาง.. ไปทางตะวันตกไม่ไกลจะได้พบกับโบสถ์ แวะเข้าไปสำรวจหน่อย จะได้พบกับกลุ่มแม่ชีที่พูดอะไรแปลกๆ.. ออกมาแล้วขึ้นเหนือ เข้าป่าเพื่อฝ่าไปวัง.. มอนสเตอร์ก็สบายๆอยู่ครับ ชิลๆ แต่จะมีอยู่ตัวนึงที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ พุ่มไม้จะสั่นๆเมื่อเข้าไปสำรวจมันจะกระโดดออกมา ตัวสีขาวเทาอ้วนๆ มันวิ่งหนีไปและทำไอเท็ม “Shelter” หล่นไว้เสมอ.. ไอเท็มชิ้นนี้เป็นประโยชน์มากๆ คือเติม HP/MP เต็มได้ที่จุดเซฟ.. จำพิกัดที่มันโผล่เอาไว้ และเดินเข้าออกป่าเพื่อเก็บซ้ำหลายๆอันเลย.. พอใจแล้วก็เดินทางต่อ.. เมื่อทะลุป่าก็จะเจอมหาราชวังทันที.. เข้าไปโลด..
ในตอนแรกทหารจะไม่ให้เราเข้า และปากดีใส่เราต่างๆนาๆ.. จนราชินีลีเน่เดินมาบอกว่าเราเป็นเพื่อนของเธอ ให้เข้าไปได้ พวกทหารถึงจะหยุดปากดีและทำดีกับเรา.. เกิดอาการงงนิดหน่อยที่ทำไมราชินีหน้าเหมือนมาร์ลเป๊ะเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ..
เดินสำรวจวังให้ทั่ว เราจะได้รับรู้ข้อมูลมากมาย.. ไปที่ห้องครัวสามารถนั่งกินอาหารได้.. หัวหน้าห้องครัวเป็นคนปากร้ายและใจร้อน เค้ากับหัวหน้าอัศวินไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่ มีการปะทะคารมณ์กันนิดหน่อย.. สำรวจทั่วแล้วให้เข้าไปหาราชินีลีเน่ที่ห้องส่วนตัว..
เมื่อเข้ามาอยู่กันสองคน ราชินีจึงได้เฉลยว่าจริงๆแล้วเธอก็คือมาร์ลนั่นแหละ.. เธอดีใจที่โครโน่ตามมาช่วยเธอ และมั่นใจว่าเราจะต้องตามมาแน่.. ในขณะที่กำลังคุยกันนั่นเอง ก็เกิดอาการปะหลาดกับมาร์ล ตัวเธอเรืองแสง ร้องว่าเจ็บและให้โครโน่ช่วยด้วยก่อนที่เธอจะสลายไป.. อะไรกันอีกเนี่ย!?.. โครโน่คว้าเธอไว้ไม่ทัน..
เดินออกมา เราจะได้พบกับ “ลุคก้า” ที่ตามมาอย่างเร็วด้วยอาการหอบรับประทาน.. เธออธิบายทุกอย่างให้ฟัง.. อันดับแรกคือ มาร์ลคือองค์หญิงนาเดียปลอมตัวมา(โครโน่ตกใจนิดหน่อย).. และองค์หญิงนาเดียก็เป็นลูกหลานของราชินีลีเน่นั่นเอง(ถึงได้มีหน้าตาคล้ายกัน).. ที่มาร์ลสลายไป ก็น่าจะเป็นเพราะตอนนี้ราชินีลีเน่กำลังอยู่ในอันตราย และทางวังกลับคิดว่าเจอตัวพระนางแล้ว(คิดว่ามาร์ลเป็นราชินีลีเน่).. เมื่อไม่มีใครไปช่วย ราชินีลีเน่ก็อาจตายหรือไม่ได้กลับมา ประวัติศาสตร์ก็จะเปลี่ยน มาร์ลก็จะไม่มีตัวตน เธอจึงสลายไป.. ดังนั้นถ้าอยากให้ทุกอย่างกลับเข้าร่องรอยเดิม เราต้องเป็นคนไปช่วยราชินีลีเน่ด้วยตัวพวกเราเองนี่แหละ.. ด้วยเหตุนี้กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเรา(อีกละ 😂)จึงได้ถือกำเนิดขึ้นนั่นเอง!!.. เองๆๆๆ..
ออกจากวัง มุ่งหน้าไปที่โบสถ์ประหลาดนั่นอีกครั้ง.. ออกจากป่าแล้วไปทางตะวันตกจึ๋งนึงนั่นเอง.. รอบนี้เมื่อคุยกับแม่ชี พวกหล่อนจะกลายร่างคืนเป็นร่างปีศาจที่แท้จริง.. เป็นปีศาจทั้งหมดเลย ปราบให้หมด.. เมื่อปราบหมดแล้ว อัศวิน “Frog” สุดหล่อจะปรากฏตัว.. เค้ามาเพื่อช่วยราชินีลีเน่ เค้าจะถามเราว่าจะไปด้วยหรือไม่ ถ้าเราจะไปด้วย เราก็จะได้เค้าร่วมกลุ่มเพิ่มอีกหนึ่งคน.. ท่าพิเศษของฟร็อกจะเป็นประโยชน์มากๆตั้งแต่ท่าแรกเลยคือ “Slarp” เป็นท่าเลียที่จั๊กกระเดียมหน่อย แต่สามารถเพิ่ม HP ให้ทุกคนได้ในขณะที่อยู่ระหว่างการต่อสู้เลยทีเดียว.. เสร็จแล้วสำรวจที่เปียโนซ้ายบน.. เมื่อเรากดสำรวจที่เปียโน ประตูลับเพื่อเข้า “รังปีศาจ” ก็จะปรากฏ(ทางขวาบน).. เข้าไปโลด…..
ขอบอกเลยว่า.. ภายในรังปีศาจหลังโบสถ์นี้ คือจุดฟาร์มเลเวลและเงินอันยอดเยี่ยม.. ถ้าไม่รีบ วนเข้าวนออกหลายๆรอบได้เลยครับ รวยแน่นอน.. สำรวจให้ทั่ว.. ในตอนแรกประตูที่จะไปต่อในโซนที่สองจะปิดอยู่ เป็นเพียงกำแพงที่มีกระดาษแปะอยู่หนึ่งใบเท่านั้น เราต้องไปกฏปุ่มกลไกหัวกะโหลกก่อนเพื่อเข้าไปในห้องบนกลางที่มีเปียโน หาไม่ยากครับ อยู่ในห้องใดห้องหนึ่งนั่นแหละ.. พอเข้าไปได้ ปราบมอนส์ฯให้หมด แล้วก็ไปสำรวจที่เปียโน ประตูลับเพื่อเดินทางต่อก็จะปรากฏ.. เมื่อประตูแสดง ก็เข้าไปต่อโซนสองได้เลยครับ.. สำรวจให้ทั่วเช่นกัน.. เราจะเจอจุดเซฟทั้งหมดสองจุด.. จุดที่สองคือก่อนถึงห้องบอสนั่นเอง..
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ บุกห้องบอสได้เลยครับ.. เมื่อเข้ามา เราจะได้พบกับราชินีลีเน่และเสนาบดีตัวปลอมอยู่สมปราถนา.. เจ้าเสนาบดีตัวปลอมจะเผยร่างที่แท้จริง กลายเป็นเจ้าปีศาจอ้วนเหลือง “ยาคูร่า” บอสตัวแรก.. จัดการให้ลงครับ ไม่ยากไม่ง่าย.. จัดท่าไม้ตายทั้งหมดที่มียัดใส่รัวๆ.. เดี๋ยวก็เรียบร้อยครับ..
เมื่อปราบมันได้สำเร็จ เราก็จะช่วยเสนาบดีตัวจริงที่ถูกมัดไว้ในหีบออกมา.. ราชินีลีเน่ดีใจและขอบคุณพวกเรามาก พวกเราทุกคนจะกลับมาที่วัง.. พระราชาดีใจมากที่ราชินีลีเน่ปลอดภัย.. ฟร็อกจะรู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถพิทักษ์ราชินีให้ปลอดภัยได้ตั้งแต่แรก เค้าจะเนรเทศตัวเองเพื่อเป็นการลงโทษ ออกจากอาณาจักร.. คุยกับทุกคนและวิ่งกลับไปในจุดที่มาร์ลสลายไปอีกครั้ง.. มาร์ลคนสวยก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิมที่เดิมอีกครั้ง..
ออกมาพูดคุยร่ำลาทุกคน หรือคุยให้ทั่วปราสาทเลยก็ดีครับ(จะเจอฟร็อกอีกครั้งที่หน้าปราสาท).. แล้วเดินทางกลับมายังจุดวาร์ปในป่าที่เราโผล่มา.. ตอนนี้ลุคก้าสามารถค็อนโทรลประตูมิติได้ประมาณหนึ่งแล้ว มาร์ลทึ่งในความเก่งของลุคก้ามากๆ.. เข้าประตูมิติเพื่อกลับมายังเวลาปกติของเราครับ..
เราจะกลับมายังงานฉลองครบรอบ 1,000ปี ในช่วงเวลาของเราเหมือนเดิม(น้ำตาจะไหล).. ออกจากงานไปแวะหาแม่แป้บนึง แม่จะแซวว่าปกติไม่เคยเห็นไปกับสาวไหนเลยนะนอกจากลุคก้า แล้วแม่สาวน่ารักคนนี้เป็นใครจ๊ะ.. คุยกับแม่เสร็จก็พามาร์ลไปนอนบนห้องนอนเราหนึ่งคืน สองต่อสอง.. แฮร่!!.. (นิสัยจริงมาอีกละ).. HP/MP เต็ม.. พร้อมแล้วเดินทางพาองค์หญิงไปส่งยังปราสาทซึ่งเป็นบ้านของเธอนั่นเอง..
เมื่อถึงปราสาทราชวัง.. เจ้าเสนาบดีเฒ่า จะปรักปรำเราว่าเป็นคนลักพาตัวองค์หญิง และมีประสงค์ร้ายต่อองค์หญิงนาเดียและราชวงศ์ สั่งให้ทหารจับกุมเราโดยไม่ฟังเสียงขององค์หญิงเลย.. เราจะถูกจับมาเป็นจำเลยที่ศาล.. (ตรงนี้น่ารักดีนะครับ บรรยากาศและกราฟิกสวยงามดี ให้ความรู้สึกแปลกๆและตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน.. ให้ความรู้เล็กๆเรื่องขั้นตอนการถกเถียงและเบิกพยานในศาลด้วย..).. โครโน่จะถูกซักและปรักปรำอย่างหนักจากเจ้าเสนาฯเฒ่า.. ที่ฮาคือ พยานที่เบิกมาแต่ละคนเป็นคนที่อยู่ในงานเทศกาลทั้งนั้นเลย.. เช่น คุณลุงที่ให้เรากินห่อข้าวสีชมพูของแก(เพิ่ม HP/MP แล้วไปสู้กับหุ่นยนต์) ก็มากับเค้าด้วย.. บอกว่าเราขโมยอาหารแก แหม่..น่าทุบจริงๆ ก็ลุงให้ผมกินเอง.. สุดท้ายการลงคะแนนเสียงให้ลูกขุน ก็สรุปว่าเราเป็นคนร้ายอยู่ดี..
เราจะถูกลากมาที่คุก พวกมันจะทำไม่ดีกับเราเลย ปิดท้ายด้วยการเอาด้ามปืนฟาดจนเราสลบ.. เราจะมาฟื้นอีกทีในห้องขังอันแสนมืดและเย็น.. มีจุดเซฟให้ ก็เซฟซะหน่อยครับ เพื่อความปลอดภัย.. วิธีออกจากที่นี่คือ เคาะลูกกรงจนผู้คุมรำคาญแล้วเปิดเข้ามา(หวังตื้บเรา).. เมื่อเปิดประตูก็ เรียบร้อยครับ จัดการซะเลย.. ทีนี้ก็สะดวกโยธิน.. สำรวจให้ทั่วทั้งคุกครับ มีทางไปหลายทาง มีสมบัติให้เก็บมากมาย.. ศัตรูที่มีโล่ห์ป้องกัน รอจังหวะให้มันเปิดโล่ห์แหลมหน้าออกมาก่อนค่อยฟันมันนะครับ.. จะมีห้องนึงที่มีนักโทษถูกล็อคตัวไว้ที่เครื่องตัดหัว ช่วยเค้าแล้วเค้าจะบอกที่อยู่บ้านเค้า ว่างๆให้เราแวะไปหาได้.. จะมีห้องหนึ่งที่กำแพงแตก ให้เราปีนออกไปแล้วไต่กำแพงลงมาเก็บของดีได้ครับ..
สำรวจไปจนสุดทาง.. เราจะได้เจอกับโต๊ะผู้คุม.. ลุคก้าก็จะมาช่วยเราพอดี.. ตื้บผู้คุมแล้วจะมีกระดาษโน้ตหล่นลงมา.. เมื่ออ่าน จะเป็นเอกสารบอกรายละเอียด “รถถังมังกรเหล็ก” อาวุธใหม่ของอาณาจักร.. บอกว่าจุดสำคัญอยู่ที่ส่วนหัว เพราะสามารถใช้ฮีลส่วนอื่นๆได้ทั้งตัว.. ขอบใจมาก.. 🙂 สำรวจที่ตัวผู้คุมจะได้ “Shelter” ถึง 5 ชิ้นเลยทีเดียว.. เตะซ้ำที่ชายโครงอีกทีก่อนไป (กูอำมหิตกว่าที่มึงคิดเยอะ 😂 )..
หาทางไปต่อเรื่อย.. จะมีห้องที่มีรูที่พื้น สามารถลงไปเก็บของได้.. ไปต่อจะได้เจอกับสะพานยาวแบบตอนที่เรามาทีแรก.. สุดสะพานเราจะได้เจอกับรถถังมังกรเหล็กที่เจ้าเสนาฯเฒ่าหวังเอามาฆ่าเรา.. อย่ากระนั้นเลย.. ระบายความแค้นทั้งหมดที่เรามีใส่เจ้ามังกรเหล็กนี่แหละ.. ย้ากกก!!.. (ทำลายหัวก่อนที่แรก ไม่งั้นมันจะฮีลได้เรื่อยๆ).. โถมทุกกระบวนท่าที่เรามีใส่มัน.. ไม่นานก็เรียบร้อยครับ.. แต่ก็ต้องระวังอยู่เหมือนกัน คอยฮีลให้ทันด้วย เพราะมันโจมตีแรงอยู่เหมือนกัน..
เมื่อเอาชนะได้.. รถถังมังกรเหล็กจะระเบิดตูมใหญ่ จนเจ้าเสนาฯและทหารที่มาด้วยต้องต่อแขนต่อขากันเพื่อรั้งกันไว้ไม่ให้ตก(อย่างฮา).. ให้เราวิ่งเหยียบหลังพวกมันแหละข้ามไป.. สนุกจังเลย.. อิอิ..
เมื่อวิ่งมาใกล้ถึงหน้าปราสาท จะได้เจอกับองค์หญิงนาเดียหรือมาร์ลอีกครั้งในชุดเจ้าหญิง.. เธอไม่โอเคกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้มากๆ จนมีปากเสียงกับคุณพ่อหรือพระราชานั่นเอง.. เธอจะไม่ทนอีกต่อไป.. องค์หญิงจะเป็นคนสลัดชุดออกและพาเราหนีออกมาด้วยตัวเอง(กากั๋นจริงๆแฟนเรานี่).. ทหารจะตามเรามาเป็นโขยงจนถึงในป่า.. ให้เราวิ่งไปจนถึงจุดวาร์ปทางด้านขวา.. มันจะเป็นทางตัน แล้วเราไม่มีทางเลือกแล้ว.. เจ้าเสนาฯและทหารจะปิดทางไว้หมด.. จึงเหลือทางเดียวคือ กระโดดเข้าจุดวาร์ปเท่านั้น.. ซึ่งลุคก้าเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการคอนโทรลมันเท่าไหร่ จึงบอกไม่ได้ว่าจะไปโผล่ที่ไหนนะ.. แต่ถึงกระนั้น มันก็เหลือทางเดียวแล้วจริงๆที่จะหนีจากพวกนี้ได้.. เราทั้งสามคนจึงตัดสินใจกระโดดเข้าจุดวาร์ป วาร์ปหายตัวไปต่อหน้าต่อตาเจ้าเสนาฯเฒ่าและเหล่าทหารทั้งหลายนั่นเอง.. พวกนั้นอึ้งอ้าปากค้างกันไปหมดว่าเราหายไปไหนและหายไปได้อย่างไร…..
เราจะไปโผล่ที่ๆหนึ่ง.. ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเสื่อมโทรมไปนิด แต่ก็มีวัสดุและสถานที่ที่ดูมีเทคโนโลยีสูงและล้ำหน้ากว่าที่บ้านเรามากๆ.. เมื่อออกมาจะพบกับซากเมือง ที่เสื่อมโทรม เหมือนเกิดปัญหาอะไรซักอย่าง.. สถานที่ๆเราอยู่มีชื่อว่า “บังเกอร์โดม”.. ให้เราเดินทางลงมาทางใต้ จะได้พบกับ “ทรานโดม” ซึ่งที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง.. แต่ทุกคนอยู่ในสภาพที่หิวโหยและสิ้นหวังมากๆ.. มีเครื่อง “เอเนอตรอน” ให้นอนพักได้ฟรี HP/MP เต็ม แต่ไม่ช่วยให้อิ่มท้องได้นะ(ชาวบ้านเค้าว่าแบบนั้น).. คุยกับทุกคนให้ทั่ว เราจะได้ข้อมูลหลายอย่าง.. ออกมาแล้วเดินทางขึ้นทางเหนือบ้าง.. เราได้ข้อมูลว่าทางตะวันออกมี “อารีสโดม” อยู่ ที่นั่นน่าจะมีอาหาร แต่เราต้องผ่าน “Site 16 : ไซต์สิบหก” ไปก่อน.. ที่ไซต์สิบหกนี้ ดูคล้ายที่ทิ้งขยะเศษเหล็กขนาดใหญ่ เสื่อมโทรมและสกปรก มีหนูร้ายเต็มไปหมด.. คำแนะนำในการเดินทางผ่านที่นี่คือ “อย่าให้หนูโดนตัว” ดีที่สุด.. เพราะมันเป็นหนูขี้ขโมยที่จะฉกไอเท็มเราทันทีนั่นเอง ถึงแม้จะเป็นแค่โพชั่น แต่ถ้าโดนบ่อยๆตลอดทางก็น่าเสียดายเหมือนกันนะ.. ดังนั้น จ้องจังหวะเคลื่อนไหวของมันดีๆ แล้วพุ่งตัวออกไปในทางที่เราต้องการ…..
ในไซต์16จะมีมอนสเตอร์จำพวก “ผี” อยู่ด้วย.. ตัวจะออกสีม่วงๆ.. เราจะไม่สามารถโจมตีมันด้วยดาบหรือกระสุนธรรมดาได้.. ต้องใช้ท่าประเภทธาตุ ดินน้ำลมไฟ โจมตีพวกมัน.. ที่มีตอนนี้ก็คือท่า ดาบลมของพระเอก, และท่าปืนไฟของลุคก้านั่นเอง.. ดังนั้นคอยดู MP ให้ดี อย่าให้หมด ไม่งั้นอาจลำบากได้เลย..
ทะลุไซต์16ออกมา.. ก็จะพบกับโดม “อาร์ริส” ทันทีทางขวามือ.. เมื่อเข้าไปจะพบกับกลุ่มคนจำนวนมากกว่าที่ทรานโดมอีก มีผู้นำเป็นคุณตา “โดแอน” คุยกับทุกคนเราจะได้รู้ว่า ที่ใต้ดินของที่นี่มีห้องเก็บอาหารอยู่ แต่เข้าไปเอาไม่ได้ มีคนพยายามเข้าไปเอาแต่ก็ไม่กลับมาอีกเลย.. มีน้องคนนึงที่ซ้ายสุด ขายไอเท็มด้วย ซื้อไอเท็มให้แน่นได้เลยครับ Potion นี่ เรารวยพอที่จะซื้อ 99 อันได้แล้วนะครับตอนนี้.. พกไว้ให้แน่น เราก็จะสบายใจครับ ไม่ว่าจะเกิดอีเว้นท์อะไรที่เราไม่คาดฝันขึ้น.. มีเครื่องเอเนอตรอนให้นอนพัก มีจุดเซฟให้..
ก่อนจะไปต่อตรงนี้ ผู้เขียนแนะนำให้พาพวกเราไปเดินเก็บเลเวลให้แกร่งสุดๆ(เท่าที่จะทำได้ตอนนี้)ก่อน จะเป็นการดีครับ.. เพราะบอสใต้ดินของที่อารีสโดมนี่ เอาเรื่องทีเดียว มีลูกน้องด้วย.. สามารถออกไปเก็บเลเวลได้ที่ “Site 16” ที่เราเพิ่งผ่านมา หรือที่ท่อน้ำโสโครก ทางตะวันออกก็ได้.. ถ้าให้แนะนำ แนะนำเป็นท่อน้ำโสโครกดีกว่าครับ เพราะมอนสเตอร์ให้ Exp เยอะกว่า(ถึงแม้มันจะร้ายพอตัวก็ตาม).. ในท่อน้ำโสโครกนี้ จะมีเหตุการณ์นิดหน่อย จะมีเจ้ากบน้อยวิ่งซนพูดนั่นพูดนี่ให้เราได้ยิน จะมี “พรายน้ำ” จำนวนมาก ซึ่งพวกมันจะโจมตีแรงใช้ได้ แต่ก็ไหวอยู่.. มีทางลับให้ไปกดสวิทช์เพื่อไปต่อ.. จริงๆมันสามารถทะลุไปยัง “ยอดเขาแห่งความตาย” ได้.. แต่อย่าเพิ่งไป.. เพราะบอสปลายท่อนี้ โหดใช้ได้เลย.. ถึงมันจะดูติ๊งต๊องบ้าง แต่มันฟาดเราแรงมาก มันจะฟาดเราแบบที่เดอะฮัล์คฟาดโลกิในภาพยนตร์ดิอเว็นเจอร์1เลยทีเดียว.. แรงมากจนเราตายได้ในครั้งเดียวเลย.. อย่าเพิ่งไปบวกกับมันเพราะตอนนี้เราแค่มาเก็บเลเวลเท่านั้น.. ดังนั้น ให้เดินเก็บเลเวลและหยุดแค่ห้องลับที่เราต้องลอดห้องสีดำไปเพื่อกดสวิทช์ แค่นั้นพอ แล้วกลับออกมา แล้วเข้าไปใหม่(เพื่อโหลดมอนสเตอร์ชุดใหม่).. จนเรารู้สึกว่าโอเคละ พอใจแล้ว.. ก็ให้กลับไปเดินเรื่องต่อที่ “อารีสโดม”.. สังเกตุดีๆบริเวณใต้เท้าของคุณตา “โดแอน” จะมีทางลงไปข้างล่าง โดยมีบันไดปีนโผล่ขึ้นมานิดหน่อย..
เซฟหนึ่งที.. แล้วเดินลงไปครับ.. ก่อนลงไป พ่อเฒ่าจะตกใจนิดหน่อยว่าจะลงไปจริงๆหรือ.. เราก็จะยืนยันว่า แน่นอน….. ลงมาจะได้เจอกับห้องแรกที่มีแผงควบคุมอยู่ แต่เรายังทำอะไรมันไม่ได้.. ให้เดินไปต่อที่ประตูทางซ้าย.. จะได้พบกับโซน “ขื่อเหล็ก” พาดกันไปมา ให้เราเสียวตูดเล่น.. เดินไปเรื่อยๆจะได้พบกับ “รูปปั้นหนู” ที่น่าสงสัย พร้อมกับโน้ตอะไรนิดหน่อย.. เดินต่อจะพบทางออกด้านบน.. เราจะมาโผล่ที่ห้องซึ่งมีเสียงสัญญาณเตือนแปลกๆ.. และก่อนที่เราจะทะลุผ่านห้องนั่นเอง เราก็จะได้พบกับ เจ้าหุ่นเฝ้ายามสุดโหด ห้อยลงมาจากเพดาน ซึ่งมันจะมีลูกน้องให้ใช้งานด้วยซ้ายขวา….. เรียกว่า โหดใช้ได้ทีเดียว.. เกมยาวครับบอกเลย.. คำแนะนำในการปราบมันก็คือ ให้เราปราบลูกน้องซ้ายขวาของมันก่อน แล้วค่อยโจมตีตรงกลาง(หรือที่ตัวมัน).. เพราะถ้าเราโจมตีตรงกลางตอนที่มันยังมีบริวารอยู่ มันจะใช้ท่าสามเหลี่ยมสังหาร ซึ่งโดนทุกๆคนพร้อมกันในทีเดียวเลย.. ไม่ดีแน่นอน.. ดังนั้นอย่างที่บอก คือจัดการลูกน้องมันก่อน.. บางท่าก็เข้าบางท่าก็ไม่เข้า ดังนั้นจดจำให้ดีครับว่าท่าไหนโจมตีเข้าบ้าง การโจมตีของเราจะได้ไม่ต้องสูญเปล่า.. คอยเติมพลังให้ทันให้ดี.. สู้ไปเรื่อยๆซักพักก็จะเสร็จเราครับ…..
เมื่อผ่านมันได้.. จะได้พบกับห้องๆหนึ่ง และศพของผู้กล้าที่เสียสละลงมาหาอาหารให้ทุกๆคน แต่เค้าไม่รอด(หดหู่มาก).. เค้าได้ทิ้งโน้ตเอาไว้ พร้อมกับเมล็ดพืชหนึ่งเมล็ด.. ในโน้ตเขียนว่า เจ้ารูปปั้นหนูนั่น มันไม่ใช่รูปปั้นธรรมดา มันเก็บความลับของโดมนี้เอาไว้.. ก็ให้เราออกมาตรงห้องขื่อ เราก็จะได้พบกับเจ้าหนูผีนั่นรออยู่เลย.. เข้าไปคุยกับมันแล้วมันจะวิ่งหนี.. ไล่จับมันให้ได้….. เมื่อจับมันได้ เราจะได้วิธีเปิดทางลับเพื่อไปต่อที่ห้องแรกที่แผงคอนโทรลนั่นเอง.. (ถ้าเป็นเครื่องคอนโซลก็คือ กด L กับ R ค้างไว้แล้วกด A แต่ถ้าเป็นบนAndroidหรือiOSก็ให้กด สีน้ำเงิน, เหลือง, และแดง นั่นเอง.. ไปที่ห้องแรก สำรวจที่แผงคอนโทรลแล้วกดตามนั้นครับ.. แล้วประตูทางขวาจะเปิดออก.. ออกไปเซฟก่อนซักหน่อยแล้วกลับมา เข้าไปครับ…..
ตะลุยให้ทั่ว เก็บของให้หมดครับ.. เมื่อเข้าไปด้านในสุด เราจะได้พบกับห้อง “ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์” นั่นเอง.. ลุคก้าจะกดใช้อย่างช่ำชอง จนได้รู้ข้อมูลว่า ทางทิศตะวันออกของที่นี่มีโดมที่สำคัญมากๆอยู่ นั่นคือ “โปรโตโดม” ซึ่งเราต้องไป.. และ “มาร์ล” ก็เผลอไปกดปุ่มๆหนึ่ง ซึ่งแสดงบันทึกประวัติศาสตร์การเกิดภัยพิบัติทำลายโลกของเจ้า “ลาวอส” เอาไว้ในปี A.D.1999 และตอนนี้คือปี A.D.2300 นั่นเอง.. มาร์ลรับไม่ได้อย่างมากที่นี่คืออนาคตของโลกของเราจริงๆ.. แต่ความหวังก็ฉายแสงขึ้นมา เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้นี่นา เหมือนกับที่โครโน่เคยทำ.. เราทุกคนจึงตกลงกันว่า พวกเราจะเปลี่ยนแปลงมัน.. แต่อันดับแรก เราต้องหาทางกลับช่วงเวลาของเราก่อน..
กลับออกมา.. แล้วปีนขึ้นไปคุยกับคุณตา “โดแอน” อีกครั้ง.. เราจะมอบเมล็ดพืชให้คุณตา เพื่อเพาะปลูกต่อไป.. คุณตาจะให้ “กุญแจเจ็ทไบค์” สุดจ๊าบของแกที่แกเคยแว๊นซ์ตอนวัยรุ่น แต่ตอนนี้มันจอดอยู่ที่ “Site 32” ที่เรากำลังจะผ่านไปนั่นเอง.. ทุกๆคนจะกลับมามีความหวังอีกครั้ง…..
ซื้อไอเท็มให้แน่น พักผ่อนนอนหลับให้เต็มอิ่ม.. ออกจากโดมแล้วขึ้นเหนือ.. เราจะได้พบกับเส้นทางแห่งซากเหล็กซากขยะอีกครั้ง มันคือ “Site 32 : ไซท์สามสิบสอง” นั่นเอง.. เข้าไปปุ๊บเราจะได้พบกับเจ็ทไบท์สุดจ๊าบ “ไชน์นี่แอ็คเซล” ของพ่อเฒ่าโดแอนจอดรออยู่ทันที.. แต่มันใหม่เหลือเกิน ต้องมีอะไรแน่ๆ ใหม่เกินไป.. เมื่อเดินเข้าไปสำรวจที่เจ็ทไบค์ เราจะถูกกลุ่มหุ่นยนต์นักเลงเจ้าถิ่นเข้าล้อมทันที(นั่นไง ว่าละ).. แต่ก่อนที่เราจะโดนพวกมันรุม หัวหน้าของพวกมันจะปรากฏตัว.. เค้าคือ “จอห์นนี่” จอมเก๋าสายแว๊นซ์ที่คุมที่นี่อยู่.. หมอนี่ไม่ใช่นักเลงสายโจรที่ชอบปล้นหรือทำร้ายร่างกาย แต่หมอนี่เป็นสายแว๊นซ์ รักการแข่งขันความเร็วมากที่สุด.. เราหลงเข้ามาแบบนี้ แถมมีท่าทางสนใจเจ็ทไบก์แบบนี้ ก็เข้าทางเค้าเลย.. จอห์นนี่จะใจกว้างถึงขั้นให้เราใช้เจ็ทไบก์คันนี้ได้ แต่ต้องแข่งกับเค้า ชนะเค้าให้ได้ แล้วเค้าจะให้ออกจากที่นี่.. มันสิครับ รออะไร…..
รับปากแข่งรถกับเค้า.. ในการแข่งขันจะมี “เทอร์โบบูทส์” ให้ 3 ครั้ง.. คำแนะนำคือ ไม่ต้องใช้เลยระหว่างทาง เพราะจะแซงกันไปแซงกันมาอยู่ดี ถึงใช้เทอร์โบ เจ้าจอห์นนี่ก็จะแซงกลับหน้าตาเฉย.. เก็บไว้ใช้ในจังหวะเกือบถึงเส้นชัยสามครั้งติดเลยครับ.. จ้องไอค่อนด้านบนให้ดี(ที่แสดงระยะระหว่างตัวเรากับเส้นชัย) พอใกล้ถึงเส้นชัย ในจังหวะที่เราเหวี่ยงขึ้นข้างหน้า ให้ใช้จังหวะนั้นแหละ กดเทอร์โบบูทส์ติดๆกันไปเลยครับ.. แน่นอนที่สุด.. กดใช้ระหว่างทาง เสียเปล่าจริงๆ…..
เมื่อเราเอาชนะเค้าได้ เค้าจะบ่นๆนิดหน่อย และจะบอกว่ามาแข่งให้เค้าแก้มือได้ตลอดนะ.. เมื่อถึงปลายทาง อย่าเพิ่งเดินทางต่อ ให้เดินย้อนกลับมาเพื่อสำรวจและเก็บของให้ทั่วก่อนครับ(บางคนลืมนะ) เสียดายของครับ ได้เก็บเลเวลไปในตัวด้วย..
เรียบร้อยแล้วเดินทางต่อ ออกมาจาก Site32.. ไปทางตะวันออก เราจะได้พบกับ “โรงงานร้าง” ที่ยังไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เพราะมี “เลเซอร์” ขวางอยู่.. เราไม่มีพาสเวิร์ดเพื่อปิดมันที่คอมฯ.. ให้ออกมาแล้วเดินมาทางใต้ก่อน เราจะได้พบกับ “โปรโตโดม” ในที่สุด.. เมื่อเข้าไปด้านใน ห้องแรกเราจะได้พบเครื่องพักผ่อน “เอเนอตรอน” ก่อนเลย.. ก็นอนพักซะครับ HP/MP เต็ม.. เดินทางต่อเข้ามาด้านในอีกนิด เราจะได้พบกับซากหุ่นกระป๋อง นอนแน่นิ่งอยู่.. ลุคก้าเห็นแล้วถูกชะตา เลยขอเวลาเพื่อนๆดูอาการมันซักนิดนึง.. ดูไปดูมาก็ซ่อมซะเสร็จเรียบร้อยเลย.. เจ้าหุ่นกระป๋องฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าเค้าชื่อ “R-66Y(อาร์หกสิบหกวาย)” ด้วยความสุภาพ พร้อมกับขอบคุณ “มาดามลุคก้า” ที่ช่วยซ่อมแซมเค้า 😂..
มาร์ลจะตั้งชื่อให้เค้าใหม่ว่า “Robo : โรโบ้” ส่วนลุคก้าบอกว่า หยุดพูดจาสุภาพได้แล้วเพราะทำให้รู้สึกหงุดหงิดมาก และเรียกว่าลุคก้าเฉยๆก็พอ ไม่ต้องมีมาดาม.. โรโบ้รีบทำตามอย่างเร็ว..
เมื่อเดินขึ้นไปสำรวจที่แผงคอนโทรลต่างๆ เราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะไม่มีไฟฟ้า.. โรโบ้จะบอกว่า เครื่องปั่นไฟอยู่ที่โรงงานทางเหนือ ต้องไปเปิดสวิทช์ที่นั่น และเค้ามีพาสเวิร์ดที่จะผ่านเข้าไปได้.. ดังนั้นเราต้องพาโรโบ้ให้นำทางเพื่อเข้าที่นั่นๆเอง แต่ต้องมีคนเฝ้าที่นี่คนนึง เราต้องเลือกว่าจะให้เฝ้าระหว่าง “มาร์ล” กับ “ลุคก้า”.. เลือกได้แล้วออกมา แล้วเดินทางขึ้นเหนือไปยังโรงงานร้างอีกครั้ง…..
เข้ามาในโรงงานรอบนี้ เมื่อไปสำรวจที่แผงควบคุม โรโบ้จะโชว์เทพโดยการปลดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างง่ายดาย เลเซอร์กั้นทางจะหายไปทันที(เก่งมากเจ้าหนู).. ก่อนจะลุย ขอบอกนิดนึงว่า ความสามารถพิเศษของโรโบ้ในขณะสู้รบ(เทคนิค) สามารถฮีลให้เพื่อนได้ด้วย และท่าใช้คอมโบคู่กับเพื่อนเช่นมาร์ล จะสามารถเติมพลังให้เพื่อนได้ทั้งกลุ่มในทีเดียวเลย 100+ HP ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆครับ..
เมื่อเลเซอร์หายไป เราสามารถผ่านไปได้.. ในห้องนี้จะมีสองลิฟท์ซ้ายและขวา.. ลิฟท์ซ้ายเป็นโซน “แล็บ” ศูนย์วิจัยและพัฒนา ส่วนลิฟท์ขวาเป็นโซน “โรงงาน” ผลิตหุ่นยนต์.. ให้ไปลิฟท์ขวาเข้าโซนโรงงานก่อนครับ เข้าไปโลด..
เข้ามาในโซนโรงงานปุ๊บ.. อย่าเพิ่งเป็นลมหงายท้องไปซะก่อนล่ะครับ เพราะดูเผินๆแล้วซับซ้อนมาก สมองระเบิดแน่ๆ.. จริงๆแล้วไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นครับ มีแค่ “ชั้นล่าง” และ “นั่งร้าน” หรือชั้นบนแค่เท่านั้น.. เริ่มจากง่ายๆก่อน ห้องซ้ายบนใกล้ๆประตูทางเข้านั่นเอง เป็นห้องเล็กๆที่จะไม่ตัดฉากเมื่อเราเข้าไป เดินไปในสุดแล้วหันมาทางขวาจะมีกล่องสมบัติให้เก็บของอยู่ เก็บมาครับ.. ออกจากห้องเล็กๆนั้น เราจะเห็นบันได(ปีนลง) ได้สามอัน(จริงๆก็เห็นตั้งแต่ก่อนเข้าแล้วล่ะ) บันไดซ้ายสุดจริงๆก็คือทางไปเอารหัสลับ แต่ยังไปไม่ได้เพราะมีถังเหล็กขวางทางอยู่.. บันไดอันที่สองหรือตรงกลาง ลงไปได้ ลงไปแล้ววิ่งไปซ้ายสุด จะมีกล่องสมบัติให้เก็บ เก็บมาแล้วกลับขึ้นไปข้างบนเหมือนเดิมครับ.. แล้วไปบันไดอันที่สามหรือบันไดขวาสุด ปีนลงมา วิ่งลงใต้มาเลยครับ เลี้ยวซ้ายนิดนึง จะได้พบกับห้องเล็กๆห้องนึงซึ่งสามารถขึ้นไปยืนบนสายพานได้ ก็ให้เราขึ้นไปยืนบนสายพานแล้ววิ่งไปชนหุ่นยนต์ซักตัวหนึ่ง(วิ่งซ้ายได้อย่างเดียว ไปทางขวาไม่ได้).. เมื่อเราชนหุ่นยนต์ เจ้าเครนคีมหนีบจะหนีบเราไปไว้บนสายพานเส้นบน เราจะไหลไปตามสายพานเรื่อยๆ เมื่อผ่านห้องต่างๆเราก็จะได้สู้กับหุ่นยนต์ที่อยู่ในห้องนั้นๆไปเรื่อยๆ.. จนเราไหลมาอยู่ที่สายพานเส้นล่าง.. เมื่ออยู่สายพานเส้นล่าง เราจะสามารถแวะได้เป็นจุดๆ.. จุดแรกสำคัญที่สุด เพราะสามารถปีนขึ้นไปห้องคอนโทรลเครนคีมหนีบได้.. แวะแล้วเข้าไป ห้องนี้เราจะได้พบแก๊งค์หุ่นแมลงปีกแข็ง Bug หนึ่งแก๊งค์ 4 ตัว จัดการซะ.. (ตรงนี้เป็นจุดเก็บเลเวลที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุดนะครับ เพราะการโหลดมอนสเตอร์ทำได้ง่ายมากๆ แค่ออกจากห้องและเข้าห้องมาใหม่เท่านั้น ตรงประตู.. และสามารถใช้ท่าดาบพายุหมุน Cyclone ของโครโน่ กวาดได้ทีเดียวจบเลย).. ปีนบันไดขึ้นไป เราจะไปโผล่นั่งร้านชั้นบน เพื่อวิ่งไปห้องคอนโทรนเครนได้เลย.. วิ่งไปทางเหนือจะพบห้องสองห้องซ้ายขวา.. ห้องซ้ายคือ “ห้องคอนโทรลคีมหนีบ” ห้องขวาคือ “วิธีควบคุมเครน” ไปที่ห้องขวาก่อน สำรวจที่แผงคอนโทรลแล้วจะได้วิธีกดเครนมา.. ก็มาที่ห้องซ้ายบ้าง จุดซ้ายล่างในห้องคือจุดควบคุม ก็โผล่หน้าออกมาแล้วกดคอนโทรลคีมหนีบให้หนีบถังไปทิ้งทั้งสองใบ ไม่ให้มันขวางทาง.. เสร็จแล้วออกมาจากห้องคอนโทรล วิ่งไปทางซ้าย จะเจอบันไดลง ปีนลงมาแล้วไปทางซ้ายนิดหน่อย จะได้พบกับห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ห้องนั้นแหละคือห้องเก็บรหัสลับความปลอดภัยสูงสุด เข้าไปแล้วกดแผงควบคุม เราจะได้รหัสมา ก็จดไว้ครับแล้วออกมา.. วิ่งมาทางขวาสุด จะสามารถปีนขึ้นมาที่ลิฟท์ทางออกของส่วนโรงงานได้เลย.. ออกได้เลยครับ เรียบร้อยแล้วในส่วนนี้..
ต่อไปไปที่ลิฟท์ฝั่งซ้ายหรือฝั่งแล็บกันบ้าง.. ฝั่งนี้จะมีหลายชั้นและลงได้ทั้งทางลิฟท์และทางบันได.. ลงมาชั้นแรก จะได้พบกับจุดเซฟ(ถ้าลงไปอีกชั้นจะเจอเลเซอร์กั้นทางอยู่).. เดินขึ้นไปทางเหนือจะได้พบกับห้องคอนโทรล สำรวจที่แผงคอนโทรลจะปรากฏบันไดปีนลงที่ขวาล่างของห้อง.. ปีนลงไป วิ่งไปตามทาง จะตีโค้งมาจนถึงจุดที่เคยมีเลเซอร์กั้นอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ก็เข้าไปในห้องด้านบน.. เก็บสมบัติและสำรวจที่แผงคอนโทรล จะเกิดบันไดปีนลงที่ซ้ายล่างอีก.. ลงไป.. ถึงชั้นใหม่วิ่งมาขวาและขึ้นเหนือยาวๆ(เป็นทางยาว).. เก็บสมบัติสำรวจแผงคอนโทรล มันจะให้ใส่รหัสลับที่เราได้มาจากโซนโรงงาน ก็ใส่ไปครับ(ตามที่เราจดมา).. จะปรากฏประตูทางขวาขึ้น ก็เข้าไปครับ.. วิ่งขึ้นเหนือไปอีกครั้ง สำรวจที่สวิทช์ตรงกลาง จะมีเสียงหวอเตือนภัยดังขึ้น.. เราต้องรีบออกจากที่นี่ทันที แต่ลิฟท์จะไม่สามารถใช้ได้แล้ว เราก็ปีนกลับไปทางบันไดปีนที่เรามานั่นแหละครับ..
เมื่อถึงห้องโถงที่น่าสงสัยห้องหนึ่ง(ที่เราผ่านตอนขามา).. จะมีอยู่หุ่นยนต์รุ่นเดียวกับโรโบ้ถูกปล่อยออกมาจากโรงเก็บเพื่อขวางทางเรา.. โรโบ้จะดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนๆรุ่นเดียวกันอีก แต่เมื่อวิ่งเข้าไปคุยกลับโดนชกจนกระเด็น หุ่นยนต์พวกนั้นจะบอกว่า โรโบ้คือหุ่นยนต์บกพร่องที่เป็นความเสื่อมเสียของกลุ่ม และต้องถูกกำจัดไปพร้อมกับผู้บุกรุก.. กลุ่มหุ่นยนต์พวกนั้นจะรุมทำร้ายโรโบ้อย่างหนักโดยที่โรโบ้ไม่ได้คิดตอบโต้เลย โรโบ้จะพังยับ พวกมันจะโยนซากของโรโบ้ลงไปในช่องๆหนึ่ง แล้วหันกลับมาหาเรา.. มาร์ลโกรธมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าจะจัดการให้หมด.. จัดไปครับ.. ตามคำสั่งเมีย 😂.. โหมกระหน่ำทุกเพลงดาบที่เรามี เพื่อว่าที่ภรรยาของเรา.. ย้ากก!!.. อย่าลืมคอยเติมพลังให้ดี เพราะตัวหลังสุดมันจะสามารถระเบิดตัวเองได้ HP ลดพอสมควรเลยทีเดียว..
เมื่อเอาชนะพวกหุ่นโฉดพวกนี้ได้.. มาร์ลจะพยายามมองหาโรโบ้ในช่องที่ถูกทิ้งลงไป เธอจะมองเห็นโรโบ้ติดคาอยู่.. เราจะช่วยกันเอาโรโบ้ออกมา และช่วยกันลากโรโบ้ข้ามเมืองเพื่อมาให้ลุคก้าซ่อมเลยทีเดียว.. เมื่อมาถึงโปรโตรโดมก็เหนื่อยกันแทบสลบ ลุคก้าจะซ่อมให้อย่างตั้งใจ…..
ในระหว่างที่ซ่อม โรโบ้จะถามคำถามมากมาย.. ถามว่าเรากำลังจะช่วยโลกงั้นหรือ? ลุคก้าตอบว่าก็ตั้งใจไว้แบบนั้น แต่ก็ไม่รู้จะทำได้แค่ไหนนะ.. ลุคก้าถามโรโบ้ว่าอยากทำอะไรต่อไปจากนี้.. เป็นคำถามที่ทำให้โรโบ้อึ้งเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีใครถามเค้าแบบนี้เลย….. เมื่อซ่อมเสร็จ ทุกคนดีใจมากที่ได้เห็นโรโบ้ที่สมบูรณ์อีกครั้ง โรโบ้กล่าวขอบคุณและบอกว่า ตนเองรู้แล้วว่าอยากจะทำอะไรต่อไป.. นั่นคือ ขอติดตามไปกับเราด้วยเพื่อช่วยโลกนั่นเอง.. ว่าแล้วพวกเราก็สามารถเข้าไปด้านในเพื่อเปิดประตูมิติได้แล้ว.. พวกเราจึงเดินทางต่อทันที โดยมีโรโบ้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางเพิ่มอีกหนึ่งคน…..
เราจะมาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้.. เมื่อเดินไปด้านหน้าอีกนิด เราจะได้พบพื้นที่เล็กๆที่ดูคล้ายสวนธารณะกลางดึก มีจุดเซฟ จุดฮีล อ่างกระพริบ และคุณลุงโฮมเลสยืนหลับขี้มูกโป่งอยู่ตรงเสาไฟ.. อันดับแรกฮีลและเซฟก่อนเลยครับ.. แล้วไปคุยกับคุณลุง.. ฟองขี้มูกแกจะแตกดังเป๊าะ!..
แกจะบอกเราว่า.. ที่นี่คือพื้นที่สุดเขตแห่งเวลานั่นเอง.. ใครที่เดินทางข้ามเวลาเกินสามคนพร้อมกันขึ้นไป จะมาเกยเข้ากับที่นี่แหละ.. ถ้าอยากเดินทางอย่างปกติปลอดภัย ต้องไปทีละสามคนเท่านั้น.. เราจึงต้องเลือกให้เพื่อนเราอยู่ที่นี่ก่อนหนึ่งคนครับ.. และแกจะเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับอ่างกระพริบทางหลังขวานั่น….. จุดที่เราโผล่มาก็คือช่วงเวลาต่างๆ นั่นเอง..
อันดับแรกให้เอาโรโบ้ออกก่อนครับ(จัดการได้ในเมนู).. เพราะเรากำลังจะไปเรียนเวทย์กัน ซึ่งโรโบ้เป็นหุ่นยนต์ ไม่สามารถเรียนได้.. พร้อมแล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลังคุณลุง ถ้าเปิดได้ก็เข้าไปเลย แต่ถ้าเปิดไม่ได้ก็ กลับมาคุยกับคุณลุงอีกรอบ ก็จะเปิดได้ครับ.. พอเข้าไปในประตู เราจะได้พบกับ “สเป็คกิโอ้” เจ้าแห่งเวทย์มนตร์.. เค้าจะถามนั่นถามนี่เรา เราก็ตอบไป.. เค้าจะมีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความแข็งแกร่งของเรา.. เค้าชอบเรา เค้าชอบพลังที่ออกมาจากตัวพวกเรา และเค้าจะช่วยสอนเวทย์มนตร์ให้.. แต่ต้องแลกกับการที่เราวิ่งวนตามเข็มนาฬิกาเลาะรั้วเริ่มจากตรงประตู 3 รอบ(ห้ามโกง และวิ่งเลยไปหน่อยก็ดี).. วิ่งครบสามรอบแล้วกลับไปคุยกับสเป็คกิโอ้อีกที เค้าจะดึงพลังเวทย์ออกมาจากตัวของเราทุกคน.. โครโน่จะได้เวทย์สายฟ้า มาร์ลจะได้เวทย์น้ำแข็ง ลุคก้าจะได้เวทย์ไฟ.. จากนั้นเค้าจะให้เราลองสู้กับเค้า.. ก็ใส่เต็มไปเลย เอาให้ชนะ.. เสร็จแล้วออกมาครับ(อย่าลืมเซฟด้วย)…..
ต่อไป เราจะไปผจญภัยกันต่อ.. เริ่มต้นที่ยุคของเรา A.D.1000 ที่ช่องวาร์ปอันบน.. เมื่อเข้าไป เราจะวาร์ปมาโผล่ที่ทวีปของมอนสเตอร์(ไม่ใช่ทวีปมนุษย์หมู่บ้านของเรา).. เราจะมาโผล่ในตู้เสื้อผ้าของมอนสเตอร์ครอบครัวหนึ่ง ในหมู่บ้าน “เมดิน่า”.. โชคดีที่พวกเค้าเป็นมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างมีอารยธรรมและใจดี.. คุยกับพวกเค้า เราจะได้รู้ว่ามอนสเตอร์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มความคิดใหญ่ๆ คือ 1.รักสงบ และอยากใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข เช่นเดียวกับมนุษย์ ไม่ได้เคียดแค้นอะไรเพราะเรื่องสงครามมันนานมากแล้ว กับ 2.แค้นเต็มพิกัด เกลียดมนุษย์ และรอคอยผู้นำเพื่อกลับมายิ่งใหญ่กันอีกครั้ง.. เค้าจะเตือนให้เราระวังตัวด้วย ในการเดินทางไปที่ต่างๆในทวีปนี้.. เค้าจะบอกว่ามีคุณลุงแปลกๆอยู่ทางตะวันตก บางทีอาจช่วยอะไรเราได้..
ออกมาจากบ้านพวกเค้าแล้วสำรวจให้ทั่วบริเวณเมือง.. ที่ลานกลางเมือง เราจะได้พบกับกลุ่มมอนสเตอร์ที่กำลังเต้นรำทำพิธีบูชารูปปั้นจอมปีศาจที่พวกเค้าหวังให้กลับมานำทัพปีศาจอีกครั้ง.. เมื่อไปที่ร้านค้า เค้าจะเหม็นหน้าเรา ไม่ขายของให้เรา.. ก็ให้เราตื้บเค้าซักนิดนึง แล้วเค้าจะยอมขายให้(ต้องให้ลงไม้ลงมือ) แต่ราคาก็โหดร้ายมากๆ รับได้ก็ซื้อ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อครับ(เค้าว่างั้น).. ไปสำรวจที่จตุรัสทางเหนือ จะได้พบพื้นที่โดมสามเหลี่ยมเรืองแสงประหลาดอยู่..
สำรวจเขตเมืองทั่วแล้วก็ออกมา แล้วเดินทางไปที่เขตป่าและถ้ำทางตะวันตกบ้าง.. หน้าถ้ำเราจะได้เจอบ้านพักของใครบางคน.. เมื่อเข้าไป เราจะได้พบกับคุณลุงพ่อค้าขายดาบที่งานเทศกาล 1,000 ปีที่บ้านเรานั่นเอง.. คุยกับแกก็จะสามารถซื้ออาวุธเครื่องป้องกันดีๆได้อีก.. ซื้อให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมา.. ขึ้นเหนือเพื่อเข้าถ้ำ “เฮ็คกรานเคฟ”..
ตะลุยถ้ำเข้าไป เก็บสมบัติ ปราบมอนส์ฯให้หมด(มอนส์ส่วนใหญ่ในถ้ำจะแพ้เวทย์นะ).. เข้าไปถึงด้านในสุดจะพบจุดเซฟ(ก็เซฟซักหน่อย)และเจ้าปีศาจ “เฮ็คกราน” ร้ายกาจใช้ได้ทีเดียว ตบให้ลง.. เมื่อเอาชนะได้ ก่อนตายมันจะคำรามโหดพร้อมกับบอกว่าถ้าจอมปีศาจยังอยู่ ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน!!!..
เดินต่ออีกนิดจะได้พบกับ บ่อน้ำวนเล็กๆ.. กระโดดลงไป เราจะไปโผล่ที่น้ำวนชายทะเลข้างบ้านลุคก้านั่นเอง..
ดีใจจังที่มาโผล่แถวนี้.. แวะบ้านลุคก้าก่อนเลยครับ.. คุยกับคุณแม่ลุคก้าที่ชั้นบนขวา คุณพ่อทาบันจะเอาผลไม้มาให้คุณแม่ แสดงถึงความเป็นห่วงและความรักที่มีให้คุณแม่.. เดินตามลงมาคุยกับทาบันที่ชั้นล่าง.. ทาบันจะมอบเครื่องป้องกันอันยอดเยี่ยมที่เค้าซุ่มทำให้ลูกสาวที่รักลุคก้า.. ใส่ซะ แจ่มมากเลย.. และให้ไอเท็มเพิ่มความแข็งแกร่งแก่เราหนึ่งเม็ด ก็ให้คนที่เราอยากให้แข็งแรงที่สุดกินครับ.. เรียบร้อยแล้วออกมา วิ่งกลับเมืองของเรา ไปหาคุณแม่โครโน่ที่บ้าน.. ทันทีที่เราโผล่หน้าเข้าไป แม่จะดีใจมากเพราะเป็นห่วงเราสุดๆว่าหายไปไหนมา แถมได้ยินเรื่องเราจะถูกประหารที่วังอีก.. พอเห็นหน้าเราก็โล่งอกและบอกว่าอย่าทำให้แม่เป็นห่วงแบบนี้สิ..
ออกจากบ้านโครโน่แล้วตรงไปที่จุดวาร์ปในงานเทศกาล(ตรงจุดโชว์เครื่องย้ายมวลสารของลุคก้า).. กระโดดเข้าจุดวาร์ป เราจะมาโผล่ที่สวนสาธารณะปลายทางแห่งกาลเวลาอีกครั้ง.. รอบนี้จะมีช่องวาร์ปเพิ่มขึ้นอีกสองช่อง เป็น 5 ช่อง.. ไปที่ช่องซ้ายบนเพื่อไปยังยุคอัศวิน A.D.600 อีกครั้ง..
เมื่อมาถึงยุคอัศวินแล้ว.. ออกจากป่าแล้ววิ่งไปที่สะพานทางทิศใต้ของราชวัง.. เมื่อเข้าไปในเขตสะพาน เราจะได้พบกับกองกำลังทหารจากกัวร์เดีย ตั้งกองกันอยู่เพื่อต้านทัพมอนสเตอร์.. แต่เสบียงใกล้หมดเต็มที.. ทุกคนกังวลเรื่องเสบียงกันอย่างมาก.. ให้เราออกมาและไปที่ราชวัง ทะลุป่าไปเช่นเดิม.. คุยกับทหารและผู้คน เราจะได้ยินเรื่องการมาถึงของผู้กล้าที่มาพร้อมสัญลักษณ์ในตำนาน.. ขึ้นไปคุยกับพระราชาที่ห้องบรรทม พระราชาจะบาดเจ็บอยู่บนเตียงโดยมีราชินีลีเน่เฝ้าอาการอยู่.. คุยกับทุกคนให้หมดแล้วลงมาที่ห้องครัวขวาล่าง.. คุยกับทุกคนในครัวและพ่อครัวหัวร้อน.. เราจะได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว พ่อครัวและหัวหน้าอัศวินที่ไม่ค่อยถูกกันเป็นพี่น้องกัน และจริงๆเค้าเป็นห่วงน้องชายมาก(ถึงจะทำปากแข็งก็เถอะ).. คุยเสร็จแล้วให้เดินออกมา พ่อครัวจะวิ่งตามมา และฝากอาหารให้น้องชายของเค้าและกองทหารด้วย.. ก่อนจะกลับเข้าไปในครัว เค้าจะฝากให้เราช่วยน้องเค้าให้กลับมาอย่างปลอดภัยด้วย..
จากนั้นให้เราออกจากวังและวิ่งกลับมาที่สะพานอีกครั้ง.. ก่อนเข้าไปในเขตสะพาน เซฟก่อนซักหนึ่งที(เดี๋ยวต้องบู๊).. เข้าไป เอาอาหารให้หัวหน้าอัศวิน.. เสร็จแล้วเราก็ไปช่วยทหารบู๊บนสะพานได้เลย เพราะพวกเค้าเริ่มไม่ไหวแล้ว.. เราจะได้พบกับหนึ่งในขุนพลปิศาจคนสำคัญ เจ้า “อ๊อซซี่”.. มันจะบัญชาการรบอยู่ เรียกมอนสเตอร์มาจัดการเรา (ปราบมอนส์ชุดแรกได้แล้ว วิ่งกลับไปคุยกับหัวหน้าอัศวิน เค้าจะให้หมวกทองคำกับเรามา เพิ่มพลังป้องกันได้ดี).. สู้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันจะเรียกเจ้า “Zombor” มาจัดการเรา.. ตบให้ลง แล้วเราจะสามารถผ่านสะพานนี้ได้ครับ..
เมื่อข้ามสะพานผ่านมา จะได้พบกับหมู่บ้านโดริโน่ สำรวจพูดคุยให้ทั่ว.. จะได้เห็นพ่อเฒ่าโดริโน่จ้างให้หนุ่มโทมะไปตามหา “หอยทากสายรุ้ง” มา เพื่อสร้างชุดเกราะป้องกันเวทย์.. ซื้อของนอนหลับแล้วออกมา.. ไปทางขวาล่างนิดหน่อยจะได้พบกับบ้านพักของ “ฟิโอน่า” มีกล่องสมบัติให้เก็บ และเธอจะบอกข้อมูลบางอย่างกับเรา.. เสร็จแล้วออกมา เดินขึ้นเหนือแค่นิดเดียว ก็จะพบกับหุบเขา “เดนาโดโร่” มีอมอนสเตอร์ประจำถิ่นที่แสบมากๆอย่างเจ้านินจาอีกาอยู่ ระวังมันด้วย.. พลังป้องกันไม่เยอะ แต่ชอบขว้างหินใส่เราตอนเราเดินทาง.. มีมอนส์เตอร์ถือค้อนที่จะแพ้ธาตุเวทย์แตกต่างกันไป.. เมื่อเข้าไป จะพบกับเด็กชายแต่งชุดคล้ายผู้กล้าบอกให้เราหนีไป แถวนี้อันตราย.. ก็ไม่ต้องไปฟัง เราดื้อ.. ไปเรื่อยๆไปให้สุดทาง.. อย่าลืมซอกซอนชอนไชไปให้ทั่ว เพราะมีทางลับ หรือซอกบังตาให้เข้าไปเก็บหีบสมบัติได้เยอะมาก.. ถ้าไม่อยากพลาดของ สำรวจให้ดี.. วิวน้ำตกสวยงามมีให้ดู..
เข้าไปจนสุดทาง จะได้พบกับดาบ “มาซะมุเนะ” ปักอยู่.. และจะได้พบกับสองภูติน้อย “มาซา” กับ “มุเนะ” ออกมาปกป้องดาบ.. ตอนแรกเค้าคิดว่าเราเป็นพวกโลภมาก อยากได้อำนาจอยากได้ทรัพย์สิน.. เค้าจะกลายร่างมาสู้กับเรา.. เมื่อเราเอาชนะได้ เค้าจะรวมร่างกัน กลายเป็นปีศาจอ้วนล่ำบึ้กมหาปลัย.. เอาชนะให้ได้อีกครั้ง(เอาเรื่องทีเดียว).. เค้าจะสัมผัสได้ถึงพลังที่ดีของเรา เค้าจะยอมรับเรา และมอบดาบมาซามุเนะที่ยังชำรุดอยู่ให้กับเรา..
ออกจากหุบเขา แล้วเดินทางลงมาทางทิศใต้ สู่หมู่บ้าน “เพอเร่” คุยกับผู้คนในโรงเตี๊ยมจะได้ยินคนพูดถึงอัศวินกบน่าเกลียดเคยมากินเหล้าที่นี่(น่าจะเป็นฟร็อกเพื่อนเราแหละนะ).. คุยกับผู้คนในหมู่บ้าน จะได้ยินว่า ผู้กล้าที่ผู้คนกล่าวขวัญถึง คือเด็กในหมู่บ้านนี้นี่เอง.. ปิดท้ายให้ไปที่บ้านขวาล่าง.. ที่นี่คือบ้านของ “ทาท่า” เด็กน้อยจอมซนที่แต่งตัวคล้ายผู้กล้าที่เราได้เจอตอนเข้าไปในหุบเขา “เดนาโดโร่” นั่นเอง..
เมื่อคุยกับเค้า เค้าจะสารภาพว่า เค้าไม่ได้เป็นผู้กล้าตัวจริงหรอก.. เค้าได้ตราผู้กล้านี้มาจากร้านเหล้าที่มีอัศวินกบคนหนึ่งทำตกเอาไว้.. แต่เค้าเริ่มเครียดกับแรงกดดันที่ผู้คนมีกับเค้าแล้ว เค้าไม่เอาแล้ว เค้าจึงมอบตราผู้กล้านั้นให้กับเรา..
ออกจากหมู่บ้านเพอเร่ เดินทางไปทางทิศตะวันตก(นิดเดียว) จะพบกับ “ป่าต้องสาป”.. เข้าไปโลด.. เป็นป่าเล็กๆ ไม่ใหญ่.. เดินไปจนสุดทาง จะได้พบกับพุ่มไม่ดุ๊กดิ๊กสีเขียวน่าสงสัย.. สามารถมุดเข้าไปได้ทางด้านบน.. มุดเข้าไปโลด.. จะได้พบกับห้องสวีทสุดจ๊าบกลางป่า และห้องนี้ก็คือบ้านพักของ “ฟร็อก” อัศวินกบเพื่อนเรานั่นเอง.. สำรวจให้ทั่ว ฟร็อกจะปรากฏตัว เค้าจะอยู่ในภาวะเซ็งชีวิตเซ็งตัวเอง ท้อแท้ ด้อยค่า.. เค้าจะบอกว่า จะสู้กับมากัส ต้องใช้ดาบมาซามุเนะเท่านั้น แต่ดาบพังไปแล้ว.. เมื่อฟร็อกเดินไปทางซีกขวาของห้อง ให้เราเดินไปสำรวจที่อ่างเก็บของที่มีประกายแว้บๆ.. เราจะได้พบกับส่วนด้ามของดาบมาซามุเนะนั่นเอง.. โรโบ้จะทำการสแกนตัวอักษรบนด้ามดาบ แล้วจัดเรียงใหม่.. จะได้เป็นชื่อของคุณลุงขายดาบที่งานเทศกาล.. อ้าว ได้เรื่อง.. หรือว่าแกจะเป็นคนทำดาบนี้!?.. คุยกับฟร็อกอีกทีแล้วออกมาครับ..
กลับไปที่จุดวาร์ปในหุบเขาทรูซ(จุดที่โครโน่วาร์ปมาช่วยมาร์ล).. เราจะมาโผล่ที่สุดเขตกาลเวลาอีกครั้ง เข้าจุดวาร์ปเพื่อไปโผล่ที่หมู่บ้านเมดิน่าในปี A.D.1000(ในตู้เสื้อผ้ามอนสเตอร์รักสงบ).. ออกจากหมู่บ้าน ไปกระท่อมคุณลุงขายดาบซ้ายล่างอีกครั้ง.. แกจะตกกะใจอย่างแรง ว่าเราไปเอาด้ามดาบมาซามุเนะมาจากที่ไหน(ดูเหมือนจะมีความหลัง) กลุ่มเราจะถามว่า ซ่อมให้ได้หรือไม่?.. แกบอกว่าได้ แต่ต้องใช้ “หินสีแดง” ที่พิเศษมากๆก่อน เป็นหินที่มีอายุมากๆๆๆจนที่เราคิดไม่ถึงเลยล่ะ….. จะรออะไรล่ะจ๊ะ.. จุดวาร์ป 65,000,000 ปีก็มีอยู่.. แจ้นไปอย่างเร็วเลยครับ..
กลับมาวาร์ปที่ตู้เสื้อผ้า.. พอมาที่สุดเขตกาลเวลา ก็ไปที่จุดวาร์ปสู่ยุคหกสิบห้าล้านปีก่อนได้เลยครับ.. ถึงเวลาตลุยยุคจูราสสิกพาร์คกันแล้วครับ.. หาอะไรรัดไข่ไว้ให้พร้อม.. 😂
ตะลุยโลกล้านปี!!
เพราะอะไรน่ะเหรอ?.. เพราะเราจะมาโผล่ที่กลางอากาศ ตรงหน้าผาเลยครับ.. ถ้าไม่หาอะไรรัดไข่เอาไว้ ไส้เลื่อนทะลุกางเกงแน่นอน 😂 .. สูงซะ….. พอถึงพื้นก็มีคนรอรับแขกเลยทันที.. มนุษย์โบราณพันธุ์ผสมไดโนเสาร์ จะรุมทึ้งเรา.. จัดการซะ(ชอบมากๆเลยยืนติดกันเป็นกลุ่มแบบนี้ หวานเจี๊ยบ).. แต่เมื่อจัดการกลุ่มแรกเสร็จแล้ว มันจะพาพวกมาเพิ่มอีก และก่อนที่เราจะโดนรุมกินโต๊ะนั่นเอง จะปรากฏสาวผมทองสุดโหดในชุดหนังสัตว์สีเทามาช่วยเราไว้.. เธอจะไล่ฟัดจนเจ้าพวกนั้นกระเจิดกระเจิงไปหมด..
หลังจากจัดการศัตรูหมดแล้ว เธอจะมาสำรวจพวกเรา และเธอจะชอบโครโน่มากๆเพราะโครโน่เก่งและแข็งแรง(ชอบจนมาร์ลหึงเลยทีเดียว อิอิ).. แต่เธอก็จะบอกว่าเธอชอบทุกคนด้วย เราจะบอกว่าเรามาตามหาหินสีแดง เธอบอกที่บ้านเธอมีหินเยอะมาก เชิญเราทุกคนไปกินและเต้นรำที่หมู่บ้านของเธอ ให้ตามเธอมาได้เลย.. และเธอชื่อ “ไอย์ล่า : Ayla” นั่นเอง…..
ออกจากหุบเขาแล้วไปที่หมู่บ้าน “อีโอกา” ทางขวาบน.. หมู่บ้านนี้จะมีไอย์ล่าเป็นหัวหน้าใหญ่ของเผ่า(โคตรเก๋า).. คุยกับทุกกระท่อมเพื่อเก็บข้อมูล.. กระท่อมของไอย์ล่าจะอยู่บนซ้าย.. กระท่อมบนขวาจะมีคุณลุงรับแลกของและคนขายไอเท็ม.. ข้างๆคุณลุงจะมีคนบอกว่าเอาอะไรมาแลกเป็นอะไรได้บ้าง จำไว้ให้ดี เดี๋ยวเราจะไปล่ากัน(แนะนำให้แลกให้ได้ทุกชิ้น เพื่อความจ๊าบ 😂.. อารมณ์เหมือนสะสมสติ๊กเกอร์ดราก้อนบอลไปแลกของเล่นในยุค ’90 😂.. ฟิลนั้น..)..
คุยกับไอย์ล่า เธอจะบอกว่าจัดงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ไปกินกันดีกว่า.. เธอจะพาเรามาแนะนำกับทุกคนในหมู่บ้านเพื่อให้รู้จักกัน ไปคุยกับมาร์ลเธอจะเดินไปเม้าท์กับไอย์ล่าและชวนเราเต้นรำ.. อย่ารอช้า ใส่ให้ยับ เต้นให้เด็กมันดู 😂.. ชาวเผ่าจะอ้าปากหวอเพราะอึ้งในสเต็ปของเรา.. เสร็จแล้วเดินมาคุยกับไอย์ล่า เธอจะเล่าให้ฟังเกี่ยวสงครามกับ “เรปไทล์” มันแกร่งมากๆ และมันต้องการโค่นทุกหมู่บ้านละแวกนี้ทั้งหมด.. สุดท้ายเธอจะหยิบหินสีแดงออกมาโชว์เรา เธอให้เรา แต่มีข้อแม้ว่า ต้องกินเหล้าชนะเธอให้ได้ก่อน.. รออะไรล่ะครับ โธ่เอ๊ย.. ท้าใครไม่ท้า มาท้าสิงห์เชี่ยงชุนอย่างเรา….. วัดกันตัวๆ แก้วไม่ต้อง กาละมังไปเล้ย!.. กดรัวๆจนเราชนะเธอในที่สุดครับ.. เสร็จโก๋.. สลบทั้งคู่..
รู้สึกตัวเช้ามา เราจะตกเป็นของไอย์ล่าไป 30 รอบในคืนนั้น.. 😂 เราจะตื่นมากลางลานเลี้ยงช่วงสายๆ มีรอยเท้าประหลาดรอบตัว(ไม่มีใครเรียกตูไปนอนในเต๊นท์เลยเหร่อ.. ไอเผ่านี้มันใจดำจังฟร้ะ 😂 ปล่อยนอนกลางดินงี้เลยเหร่อ..).. กุญแจข้ามเวลาของเราจะหายไป.. ให้เรารีบไปหาไอย์ล่าซึ่งกำลังกรนลั่นเต๊นท์อยู่เลยทีเดียว เขย่าให้เจ๊ตื่นให้ได้.. พอไอย์ล่าตื่น เธอจะเข้าร่วมกลุ่มกับเรา พร้อมบู๊ทันที..
ออกจากหมู่บ้านมาขวาบน จะพบกับป่า “จุดล่าสัตว์” เป็นป่าดงดิบ ร้อนชื้น มีฝนตกสลับเป็นระยะ.. ตอนฝนตก จะมีมอนสเตอร์ชื่อ “Nu” ออกมา ตัวอ้วนๆกลมๆตาโตๆ.. มันจะออกมาตามมุม ซ้ายบน ขวาบน ขวาล่างด้วย(แต่ขวาล่างต้องปีนเถาวัลย์ขึ้นไปนะครับ).. มันจะให้ของเยอะมาก เป็นกระตั้ก.. ไอเท็มที่ห้ามพลาดในป่านี้คือ “Third Eye : เติ้ดอาย” ดวงตาที่สาม.. เพิ่มค่าพลังหลบหลีกแบบดิจิตอลขึ้นสองเท่า.. อยากให้ใครพริ้วเป็นพิเศษใส่ให้คนนั้น.. นะจ๊ะ.. (ผู้เขียนได้มาจากตัวขวาบนนะครับ)
ออกมาจากจุดล่าสัตว์ ไปซ้ายบนบ้าง(ใกล้ๆกันเลย).. จะเป็นรังของพวก “Dactly”.. เข้าไปโลด.. ตบให้คว่ำให้หมด.. เป็นโซนหุบเขาและหน้าผา.. หาที่ปีนขึ้นไปให้ถึงบนสุด.. จะได้เจอหีบสมบัติที่มีไอเท็มชุดเกราะ “Mesozoic Mail : เมโสโซอิคเมล” ชุดเกราะที่ทำจากกระดูกของไดโนเสาร์พันธุ์โดราเอโมโนอิคอ็อฟติมัสไพรม์.. ทุ้ย!.. ไปเรื่อย.. 😂 เป็นไอเท็มสำคัญ ห้ามพลาด.. ได้แล้วออกมา.. ปีนลงระวังด้วย เดี๋ยวลื่นหัวฟาด อัมพาตแดกอีก.. 😂..
ออกมาแล้ว เดินลงมาทางทิศใต้ยาวๆ ทะลุลานกินเลี้ยงลงมาด้านล่าง จนเจอกับ “ป่าวงกต”.. เข้าไปในป่า เราจะได้พบกับเจ้า “คิโนะ” หนุ่มชาวเผ่าเดียวกับไอย์ล่า สรุปแล้วคือ คิโนะนี่เองที่ขโมยกุญแจแห่งการข้ามเวลาของเรามา เพราะมันหึงไอย์ล่า ไอย์ล่าเลยทุบไปที(มีดราม่า มีสารภาพรัก 😂).. ไอย์ล่าบอกว่าจริงๆเธอก็ชอบคิโนะ และไม่อยากให้ทำเรื่องไม่ดีแบบนี้.. คิโนะจึงขอโทษพวกเราแล้วบอกว่า เผ่า “เรปไทล์” ชิงกุญแจไปแล้ว.. ไอย์ล่าบอกให้คิโนะกลับไปที่หมู่บ้านก่อน.. ส่วนพวกเราต้องไปชิงกุญแจต่อครับ เดินทางต่อจนทะลุป่า(อย่าลืมเก็บสมบัติระหว่างทางด้วย กล่องสมบัติจะมีสีคล้ายดอกไม้นะ)..
เมื่อทะลุป่า จะได้พบกับรังของเผ่าเรปไทล์.. เข้าไปครับ ลงรูไปเรื่อยๆ.. ระวังตอนใกล้ๆห้องบอส จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่มีบันได้ให้ปีนขึ้น และมีรูอยู่หนึ่งรู อย่าลงไปเชียว ไปโผล่ห้องแรกเลยอิดอก 😂 โคตรเสียเวลา.. เดินเลยไปเลยครับ จนเจอจุดเซพ.. นั่นก็หมายความว่า ถึงห้องบอสแล้วครับ.. เซพหนึ่งทีครับ แล้วลุย!..
เข้าไปเราจะได้พบกับเจ้า “อซาล่า” หัวหน้าใหญ่ของเผ่าเรปไทล์.. เจ้านี่ คำพูดคำจาของมันไม่ธรรมดา มันเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ดูฉลาดกว่าไอย์ล่าด้วยซ้ำ.. มันสงสัยว่าเราไปเอาของเทคโนโลยีสูงแบบนี้มาจากไหนและใช้ทำอะไร.. เมื่อเราไม่ตอบ มันจะเรียกเจ้า “นิซเบล” ไทเซราท็อปร่างยักษ์ ซิกแพ็คแน่น ออกมากระทืบเรา.. บอกคำเดียวเลยว่า HP ของมันเยอะมากๆ เยอะที่สุดเท่าที่เคยสู้มาเลยครับ(มีร่วง บอกเลย).. พลังป้องกันก็โหด.. วิธีการเล่นงานมันก็คือ ให้เราโจมตีเปิดด้วยเวทย์ “สายฟ้า” หรือท่าสายฟ้า แรงช็อคจะทำให้พลังป้องกันของมันลดลง.. จึงโจมตีท่าอื่นตามหลังครับ แล้วเราจะได้ดาเมจที่โหดยิ่งขึ้นครับ..
เมื่อเราเอาชนะมันได้ มันจะคืนกุญแจให้แล้ววิ่งหนีไป แต่มันก็อาฆาตทิ้งท้ายไว้..
กลับมาที่บ้านของไอย์ล่า.. ไอย์ล่าจะบอกว่า สนุกมากๆเลยที่ได้ผจญภัยกับพวกเรา ว่างๆให้เราแวะมาอีกนะ.. เพราะเรากำลังจะกลับกันแล้วครับ.. ได้หินสีแดงมาแล้ว เราจะกลับไปซ่อมดาบมาซามุเนะกัน.. บอกลาไอย์ล่ากับคิโนะและออกเดินทางไปยังหน้าผาที่เราวาร์ปมาที่นี่ครับ..
ปีนหน้าผาขึ้นไปจนถึงบนสุด จนเห็นจุดวาร์ป.. เดินไปอยู่ด้านบนจุดวาร์ปและหันลงมา จะมีเมนูให้เลือก.. ก็เลือก “เข้าจุดวาร์ป” ครับ…..
เมื่อไปโผล่ที่สุดเขตกาลเวลา ก็ไปที่ช่องวาร์ปเพื่อไปที่ตู้เสื้อผ้าหมู่บ้านเมดิน่าในปี A.D.1,000 ไปหาลุงเมชิเออร์ช่างตีดาบที่กระท่อมทางทิศตะวันตก.. แกจะตกใจมากที่เราไปเอาหินสีแดงมาได้.. แล้วแกจะซ่อมดาบให้เราจนเสร็จ.. เมื่อได้ดาบมาแล้ว ให้วาร์ปกลับไปยังปี A.D.600 วิ่งยาวๆไปหาฟร็อกในป่าต้องสาปที่เดิม.. ฟร็อกจะตกใจมากที่ได้เห็นดาบ “มาซามุเนะ” ที่สมบูรณ์อีกครั้งขนาดนี้..
ฟร็อกจะบอกให้เราพักที่นี่ก่อนหนึ่งคืน เค้าขอคิดอะไรนิดหน่อย ขอตัดสินใจก่อน.. คืนนั้นฟร็อกจะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่เค้าจะกลายเป็นกบ.. เค้ามีชื่อว่า “เกลน” เป็นหนุ่มน้อยรุ่นน้องคนสนิทของอัศวิน “ไซรัส” เค้ามาต่อสู้กับจอมมาร “มากัส” ที่หน้าผาแห่งหนึ่ง.. ในขณะที่ไซรัสรู้แล้วว่าไม่รอดแน่ๆ จึงบอกให้เกลนหนีไป แต่เกลนก็ไม่หนี เมื่อไซรัสตาย มากัสได้สาปให้เกลนกลายเป็นครึ่งคนครึ่งกบตามคำยุแยงของเจ้า “ออสซี่”.. เค้าพลัดตกจากหน้าผาลงมาด้านล่าง ปางตาย และได้เก็บตราของผู้กล้าเอาไว้กับตัว.. เวลาผ่านไป 10 ปีจนถึงวันนี้…..
รุ่งเช้าฟร็อกจะตัดสินใจเข้าร่วมเดินทางกับเรา เพื่อต่อสู้กับโชคชะตา ไม่หนีอีกแล้ว.. เมื่อตกลงกันได้ดังนั้น ให้พาฟร็อกไปยัง “ถ้ำแห่งเวทย์มนตร์” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของกระท่อมของฟีโอน่าได้เลย(ใกล้ๆกัน)..
เมื่อมาถึงแล้วเข้าไปด้านใน.. เราจะได้พบเพียงแค่หน้าผาสูงใหญ่เพียงเท่านั้น.. ฟร็อกจะเดินไปที่หน้าผา แล้วนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกครั้ง.. ไซรัสเป็นรุ่นพี่ที่อบอุ่น และคอยดูแลปกป้องเค้ามาตลอดตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย.. ในวันที่เค้าถูกรังแก ในวันที่เค้าอ่อนแอ จะมีไซรัสคอยอยู่ข้างๆเสมอ.. จนถึงวัยหนุ่มเต็มตัว ไซรัสตัดสินใจเข้ากองทัพเป็นอัศวิน.. เค้าถามฟร็อกว่าจะเป็นด้วยกันไม๊.. ฟร็อกหรือ “เกลน” มีฝีมือดาบที่เก่งกาจและยอดเยี่ยมยิ่งกว่าไซรัสซะอีก.. แต่เค้าก็ปฏิเสธ และยอมรับว่าตัวเค้าเองขี้กลัวเกินไป เป็นอัศวินที่ดีไม่ได้แน่นอน.. (เก่งกว่าไซรัสอีกนะ ทำเป็นเล่น ยอดอัศวินไซรัสเป็นคนพูดเองอีกด้วย.. ไม่ธรรมดานะ เพื่อนเรานี่..)
การสูญเสียไซรัส.. ความเจ็บปวดที่เก็บเอาไว้ตลอดมา.. เผาผลาญออกมาเป็นพลังใจให้อัศวินกบลุกขึ้นสู้อีกครั้ง.. “ขอดาบมาซามุเนะให้ข้าที”.. ฟร็อกหันมาพูดกับโครโน่.. โครโน่ปักดาบให้เพื่อนรักบนพื้นดิน.. อัศวินกบสูดหายใจลึกก่อนประกาศก้อง..
“ชื่อของข้าคือ เกลน!!! นานมาแล้วที่ข้าแบกรับความหวังและความฝันของไซรัสเอาไว้! และตอนนี้ข้าก็ยังรับมาซามุเนะมาอีกด้วย!.. นับจากนี้ ข้าขอรับมันมาเป็นของข้าเอง! ข้าจะกำจัดราชาปีศาจมากัส และทวงเกียรติของเราคืนมา!!!!!”
อัศวินกบก้มจับด้ามดาบทั้งสองมือ.. เปลวสายฟ้าสาดเป็นสายเป็นประกายรอบตัว ผืนแผ่นดินสนั่นหวั่นไหว.. ดาบที่ชักออกมาส่องแสงสว่างไสวเจิดจ้า.. พลังคอสโม่ของเกลนพุ่งถึงขีดสุด เค้ากระโดดเหวี่ยงดาบในตำนาน ผ่าหน้าผาใหญ่จนแหวกออกเป็นสองฝั่ง มองเห็นทางเข้าถ้ำแห่งเวทย์มนตร์ที่ถูกผนึกไว้ชัดเจน…. ครืนน.. ปิดท้ายด้วยท่าโพสที่เท่ห์โคตรๆเลย เพื่อนฟร็อกเรา.. 🙂 ได้ใจ..
เมื่อทางเข้าถ้ำเวทย์มนตร์เปิดแล้ว.. ใจเย็นครับ อย่าเพิ่งเข้าไป.. ก่อนไปบู๊ในรังปีศาจ ไปอัพเวทย์ให้ฟร็อกสุดหล่อก่อนครับ.. เพราะทางค่อนข้างไกลใช้ได้ทีเดียว.. มีเวทย์ติดตัวไว้ ใช้เวทย์เป็น ยังไงก็ได้เปรียบมากขึ้น.. วิธีก็คือ พาฟร็อกวาร์ปไปหาสเป็คกิโอ้ที่สุดเขตกาลเวลาครับ ไปคุยกับสเป็คกิโอ้ เค้าก็จะดึงเวทย์ประจำตัวของฟร็อกออกมาให้ ซึ่งก็คือเวทย์ “น้ำ” นั่นเองครับ.. เซฟให้เรียบร้อย แล้วกลับมาที่ถ้ำเวทย์มนตร์อีกครั้ง..
เป็นถ้ำที่ไม่กว้างมากครับ.. มีค้างคาวกับเจ้าหนูเป็นฝูง.. เจ้าค้างคาวโจมตีทางกายภาพได้แต่เจ้าหนูต้องใช้ท่าที่เป็น “ธาตุ” หรือเป็น “เวทย์”.. (จริงๆเป็นอะไรที่แจ่มทีเดียวนะ เพราะเจ้าหนูชอบยืนกันเป็นฝูงเป็นกลุ่ม ใช้ท่าดาบลมที่พุ่งเป็นแนวยาวของโครโน่ทีเดียวก็ตายทั้งฝูงแล้วครับ หวานเจี๊ยบเลย..).. เมื่อถึงทางออกถ้ำ จะพบกับทหารที่นอนเดี้ยงอยู่.. คุยกับเค้าเค้าจะเตือนว่าให้ระวังมอนสเตอร์ชื่อ “Jugglers” ในวังปีศาจให้ดี(ตัวสีเหลือง มีผ้าคลุม).. ถ้าเราโจมตีมันทางกายภาพ มันก็จะอัพพลังป้องกันกายภาพ ถ้าเราโจมตีมันด้วยเวทย์มนตร์ มันก็จะอัพพลังป้องกันเวทย์ นั่นเอง.. สรุปก็คือ เราต้องสลับโจมตีมันนั่นเอง..
ออกจากถ้ำ เราก็จะทะลุมายัง ซ่องปีศาจนั่นเอง.. เดินเข้าไปได้เลย.. เป็นปราสาทใหญ่ ฟิลปราสาทแดร็กคูล่าดีๆนี่เอง(เอาแส้มาซิ).. บรรยากาศสยึ๋มกึ๋ยใช้ได้ทีเดียว…..
เข้ามาในปราสาท.. เดินขึ้นบันไดไปจะมีทางแยกสองทาง ซ้าย ขวา.. สำรวจให้ทั่ว ฝั่งซ้ายจะมีวิญาณเด็กๆและผู้คนที่เราไม่รู้จัก ส่วนฝั่งขวาจะมีแต่คนที่เรารู้จัก(เฮ้ย มาอยู่ที่นี่กันได้ไง?).. ออกมาก็จะเจอกับจุดวิ้งๆคล้ายจุดเซฟตรงกลาง.. เมื่อเดินไปสำรวจ เจ้า “ออสซี่” หนึ่งในเสนาฯปีศาจคนสำคัญออกมาต้อนรับเรา.. มันจะปากดีสารพัด และมันจะเรียกลูกน้องมารุมจัดการเรา.. จัดการเสร็จแล้ว ก็ไปสำรวจที่ซีกซ้ายและขวาอีกรอบ.. แต่รอบนี้ วิญญาณเหล่านั้นจะกลายเป็นปีศาจมาโจมตีเรา.. สุดทางฝั่งซ้ายจะได้พบกับ “สแลช” หนึ่งในขุนพลปีศาจยอดฝีมือของมากัส โดดเด่นเรื่องความรวดเร็ว ปราบให้ได้ แล้วเราจะได้ดาบสีม่วงดำ “สแลชเชอร์” ที่แสนเตะตาตั้งแต่เห็นครั้งแรกมาครอบครอง..
มาฝั่งขวาอีกรอบบ้าง.. เช่นเดียวกัน ทุกคนจะกลายเป็นปีศาจมากระทืบเราทั้งหมด.. สุดทางจะได้เจอกับปีศาจนักเวทย์ “ฟลี”.. เก่งเวทย์.. เป็นเพศชายแต่มีรูปกายภายนอกเป็นหญิง.. เหนื่อยใช้ได้เลยสู้กับฟลี.. เราสามารถใช้ไอเท็มเพื่อลดดาเมจจากเวทย์ 1/3 ที่เพิ่งได้มา ให้คนที่เราเห็นว่าสำคัญที่สุดในทีมได้ครับ..
เมื่อปราบได้แล้ว กลับมาตรงกลางอีกครั้ง จะไปต่อได้.. เจ้าออสซี่จะมาปากดีใส่อีกเช่นเคย ให้ตามมันไป.. เราจะได้พบกับโซน “ใบมีด”.. ก็กะจังหวะให้ดี วิ่งผ่านตอนมันยกขึ้นไป.. จนถึงตัวเจ้าออสซี่ มันก็จะหนีไปอีก.. ตามไป จะเจอกับโซน “บันได”.. ก็ขึ้นไปเรื่อยๆครับ.. ผ่านโซนบันไดจะเจอกับโซน “ห้องหลุม”.. เราจะตกหลุมเป็นว่าเล่น แต่ไม่ต้องตกใจ ตกลงมาเราจะเจอจุดเซฟทั้งสี่ทิศ.. แต่ไม่ใช่จุดเซฟแท้ทั้งหมด มีจุดเซฟแท้แค่อันเดียว ที่เหลือคือจุดเซฟปลอม(เป็นมอนส์ฯโจมตีเรา) และจุดวาร์ปกลับขึ้นไปข้างบน.. เราจะตกหลายรอบมากกว่าจะถึงตัวมัน..
พอเราถึงตัวมัน มันจะหอบแฮ่กๆ เพราะเหนื่อยทั้งวิ่งหนี เหนื่อยทั้งโยกกับดักใส่เรา(โถ.. ไอปัญญาอ่อน.. ลูกน้องมึงเยอะแยะ.. ไอต๊อง.. 😂)..
ตามไปเรื่อยๆเรื่อยๆ จนสุดทาง.. มันจะนั่งรอเราอยู่ตรงบัลลังก์.. มันจะไม่หนีละ มันจะสู้ละทีนี้.. เมื่อเริ่มการต่อสู้ มันจะเสกน้ำแข็งมาหุ้มตัวมัน.. ในการต่อสู้ ให้เราเล็งไปที่กลไกรอบตัวมัน ซ้ายมาขวาจนหมด(โจมตีที่มันไม่มีประโยชน์ มันสวนตลอด).. เมื่อเราทำลายกลไกจนหมด หลุมตรงกลางจะเปิดออก แล้วมันจะหล่นลงไปทั้งเกราะน้ำแข็งนั่นแหละ.. ร้องเสียงหลงเลยทีเดียว.. (โถ.. ไอต๊อง.. 😂)
เมื่อปราบเจ้าเบื๊อก “ออสซี่” ได้.. จะปรากฏจุดวิ้งๆสองจุดซ้ายและขวา.. จุดวิ้งฝั่งขวาคือ “จุดเซฟ” จุดวิ้งฝั่งซ้ายคือ “จุดวาร์ป” ไปหาบอสใหญ่ นั่นเองครับ….. ถึงตรงนี้ ผู้เขียนอยากจะบอกว่า เป็นจุดฟาร์มเลเวลได้อย่างดีทั้งข้างหน้า๊ยบและข้างหลัง.. ถอยไปข้างล่าง(ห้องที่เคยผ่านมาแล้ว) เราจะเจอมอนส์ฯ สองกลุ่มหลังสุดที่ให้ Exp ถึง 500+(ต่อกลุ่ม) เข้าหนึ่งรอบ ได้แน่ๆ 1,000+(ไม่ต้องเดินจนสุดห้อง เพราะกลุ่มอื่นๆให้น้อยลงไปเรื่อยๆ).. แต่เลือกเส้นนี้ จะต้องเจ็บตัวนิดหน่อย เพราะมีเจ้าตัวเหลืองที่เก่งพอควร แต่ก็คุ้มอยู่.. แต่ถ้าอยากได้แบบหวานเจี๊ยบ ให้เข้าจุดวิ้งวาร์ปทางซ้าย.. จะเจอบันไดยาวก่อนถึงห้องบอส.. วิ่งไปจนสุดทาง ไม่ต้องเบรก จะมีฝูงค้างคาวบินตามเราเป็นโขยง เป็นก้อน หวานเจี๊ยบ.. ให้ใช้ท่า “Cyclone” ของโครโน่ ปั่นทีเดียวจบ หวานๆเลยครับ 384Exp แทบไม่เจ็บตัวเลย.. ถ้าว่าง ก็วิ่งเข้าวิ่งออกหลายๆรอบครับ สบายๆเลย…..
เมื่อได้เลเวลเพียงพอกับที่ต้องการแล้ว ก็อย่าลืมเซฟด้วยครับ หนึ่งทีที่จุดเซฟ.. พร้อมแล้วก็เดินเข้าห้องบอสได้เลยครับ.. จะมืดตึ้บเลย และเราจะได้ยินเสียงสวดคาถาบางอย่างงึมงัมระงม.. เมื่อเดินต่อ ไฟสีขาวม่วงข้างทางจุดติดขึ้นตามก้นเราไปเลยครับ(ตื่นเต้นดีจุม).. เมื่อถึงปลายทาง เราจะได้พบกับจอมปีศาจ “มากัส” สมใจปราถนา.. เค้ากำลังทำพิธีอัญเชิญลาวอสอยู่.. ฟร็อกชักดาบมาซามุเนะออกมา พร้อมบวกสุดๆ.. คุยกันไม่นาน ก็เปิดกันเลยครับ.. บิ๊กบอสแห่งปราสาทแดร็กคูล่า..
วิธีจัดการ “มากัส” ก็คือ.. ให้ฟร็อกใช้ดาบมาซามุเนะเปิด(มากัสแพ้ดาบมาซามุเนะ โดนมาซามุเนะฟัน พลังป้องกันจะลด), จากนั้นให้โครโน่โจมตี, และให้เพื่อนคนสุดท้ายคอยฮีลให้ทุกคน(ถ้าฮีลเต็มแล้วก็เปลี่ยนเป็นโจมตีแทน).. แบบนี้วนไปเรื่อยๆ.. แต่มีข้อระวังนิดนึงคือ มากัสจะคอยร่ายเวทย์ “ดูดซับพลังงานทั้งหมด ยกเว้นธาตุ (…)” อยู่ตลอด.. เราต้องใช้ธาตุที่มันยกเว้นนั่นแหละ โจมตีมัน.. ถ้าใช้ธาตุอื่นจะกลายเป็นเติมพลังให้มันนะครับ.. สู้ไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่.. ฮีลให้ทัน ฟันให้แรง..
เมื่อเอาชนะมากัสได้.. “ลาวอส” ทำท่าจะตื่นขึ้นมา แผ่นดินสะเทือน ประตูมิติเปิดออก.. มากัสบอกว่า เค้าไม่ได้เป็นคนสร้างมัน แต่แค่อัญเชิญเท่านั้น!! เจ้าพวกโง่!!!.. ว่าแล้ว ประตูมิติก็ดูดเราทุกคนเข้าไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปโผล่ที่ไหน..
สุดท้ายเราจะมาโผล่ที่ยุค 65ล้านปีของไอย์ล่า.. ไอย์ล่าเจอเราสลบอยู่บนยอดเขา แล้วลากเรากลับมาที่กระท่อม.. เมื่อพวกเราได้สติ จะถามว่าเห็นผู้ชายหน้าซีดๆ(มากัส)ด้วยรึเปล่า ซึ่งก็ไม่มีใครเห็น.. จะมีคนวิ่งมาบอกว่าหมู่บ้าน “ลาลูบ้า” เกิดไฟไหม้ และถูกโจมตี.. ให้เราออกมา.. แต่ก่อนไปหมู่บ้านลาลูบ้า อย่าลืมแวะหาคุณลุงแลกอาวุธที่เต๊นท์ขวาบนก่อน เพราะมีอาวุธใหม่มาเพียบเลยครับ..
ได้อาวุธใหม่ครบเซ็ทแล้วก็ไปที่หมู่บ้านลาลูบาทางซ้ายบนได้เลย(เป็นกระท่อมเดี่ยวกลางป่ารกใกล้ๆนั่นเอง).. เมื่อเข้าไป จะเห็นหมู่บ้านถูกไฟไหม้ราบ คุยกับทุกคนจะได้รู้ว่าหมู่บ้านถูกโจมตีโดยเหล่าเรปไทล์นั่นเอง ตัวประกันถูกจับไปบางส่วนรวมทั้งคิโนะด้วย.. และพ่อเฒ่าหัวหน้าหมู่บ้านก็โทษว่าเป็นเพราะไอย์ล่านั่นแหละ ที่ไปมีเรื่องกับเหล่าเรปไทล์จนพวกมันตามมา.. ไอย์ล่ารู้สึกเสียใจ แต่ก็ยืนยันว่ายังไงก็ต้องสู้ แพ้คือตาย ชนะคืออยู่ เป็นกฏอยู่แล้ว(กล้าหาญได้ใจจริง แม่เสือสาว)..
ไอย์ล่าขอไอเท็มสำคัญจากพ่อเฒ่าแล้ววิ่งผลุนผลันออกไป.. ให้เราตามไอย์ล่าไปที่ “รังของแดคไทล์” ขวาบน(จำได้ไม๊?.. ที่ๆเราเคยปีนขึ้นไปเอาชุดเกราะล้านปีไงครัช..).. ปีนขึ้นไปบนชั้นบนสุด.. ไอย์ล่าจะเรียกพาหนะสุดจ๊าบของยุคนี้มา นั่นคือ “เทราโนโดราเอโมโนเจ็ต” นั่นเอง!.. ทุ้ย! 😂 (ชื่อคล้ายๆชุดเกราะคราวก่อนเลยนะ)..
ในขณะที่เธอกำลังจะขึ้น พวกเราจะเรียกเธอไว้.. ไอย์ล่าตกใจที่พวกเราตามมา พวกเราบอกจะไปด้วย จะปล่อยให้ไอย์ล่าอันตรายคนเดียวไม่ได้.. ถึงแม้จะห้ามในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอม ไอย์ล่าซึ้งใจมากและเรียก “”เทราโนโดราเอโมโนเจ็ต” มาอีกสองคัน เผื่อพวกเราด้วย….. ฮี่ๆๆ ทางของเรา.. ขี่มังกรมาเยอะแล้ว.. วันนี้ขอแว๊นซ์ไดโนเสาร์มั่งล่ะโว้ย!!.. 😂
แว๊นซ์ลงใต้มายังปราสาทกลางแม็กม่านั่นแหละครับ จอดหน้าปราสาทเลย.. มันคือ “รังของ Tyranno” นั่นเอง.. บุกเข้ามาด้านใน เราจะพบกับทางเข้าซึ่งเป็นกะโหลกของไทแรนโนซอรัสซ้ายขวา.. อันซ้ายยังเข้าไม่ได้ มาอันขวาก่อน.. เราจะเจอกับเชลยที่ถูกจับมา(เอาไว้กิน) ช่วยพวกเค้าออกมาจากห้องขัง โดยกดปุ่มเปิดประตู.. ไปต่อจะพบกับ “คิโนะ” ที่ถูกขังอยู่.. ไอย์ล่าจะช่วยคิโนะออกมาโดยการทำลายประตูห้องขัง(แข็งแรงจัดๆ).. คิโนะจะอาสาพาไปอีกทาง ก็ให้เราตามคิโนะไป.. ทีนี้เราจะสามารถไปทางซีกซ้ายได้แล้วครับ..
ไปตามทางเรื่อยๆ เราจะเจอกับห้องๆหนึ่งที่ค่อนข้างมืดๆหน่อย มีกล่องสมบัติอยู่ทั่วห้อง(กล่องหน้าตาคล้ายไข่ไดโนเสาร์) แต่เราจะไม่สามารถเดินชิวไปหยิบได้ง่ายๆเพราะจะมีจุดวาร์ปบนพื้นที่เรามองไม่เห็น วาร์ปไปวาร์ปมาให้เรางง.. วิธีการก็คือ จำเอาไว้ว่าเหยียบตรงไหนแล้วไปโผล่ตรงไหน แค่นั้นครับ.. ก็เก็บให้ครบทุกกล่อง มีของดีอยู่ด้วยนะ คือ “เกราะหัวไทเซอราท็อป” เพิ่มพลังป้องกัน.. พยายามมาทางขึ้นไปชั้นต่อไปซ้ายบนให้ได้..
พอทะลุออกมา จะเป็นชั้นลอยเอ๊าท์ดอร์อีกครั้ง ประตูตรงกลางจะปิดเข้าไม่ได้ ให้ไปประตูขวา เข้าไปจะเจอกับกลไกที่พื้น อันขวาเปิดทางไปต่อ อันซ้ายมีมอนส์ฯออกมา.. เหยียบแม่งให้หมดอะ 😂.. เสร็จแล้วเข้าไปกดสวิทช์ตรงกลางเพื่อเปิดปั๊กกะตู.. ทีนี้ประตูตรงกลางก็สามารถไปได้แล้ว ก็ออกมาแล้วเข้าประตูตรงกลางครับ..
เข้ามาปุ๊บ ก็จะได้เจอกับไอเบื๊อก “นิซเบล” ไทเซราท็อปบ้ากล้ามที่เราตบไปคราวก่อน ยืนเบ่งกล้ามโชว์จั๊กกะแร้เหม็นเขียวของมันอยู่.. อย่าไปสนใจ เอามืออุดจมูกแล้วเดินลอดจั๊กกะแร้อันแสนน่ารังเกียจของมันไป 😂.. เจอจุดเซฟก็เซฟและเติมพลังให้เรียบร้อยครับ.. ในขณะที่เรากำลังจะผ่านห้องนั้นไปนั่นเอง เจ้านิซเบลก็เบรกเราไว้ แล้วบอกเราว่า คิดว่ามันมันจะง่ายอย่างนั้นเลยรึ ต้องผ่านข้าไปก่อน!!!.. (รู้ตั้งแต่แรกแล้ว.. คงไม่มายืนส่งกลิ่นเหม็นเขียวเฉยๆหรอก..)..
จัดการซะครับ.. วิธีจัดการนิซเบลก็คือ ให้โครโน่เปิดด้วยเวทย์ “สายฟ้า” เบาๆก็พอ(มันแพ้สายฟ้า) แล้วพลังป้องกันมันจะลด.. จากนั้นก็ให้ไอย์ล่ากระทืบโดยท่าที่โหดที่สุดเท่าที่มี ให้เพื่อนอีกคนคอยฮีลสลับโจมตี ไปเรื่อยๆครับ.. สักพักก็เรียบร้อย.. เป็นปุ๋ย…..
เดินทางต่อ ก็จะได้พบกับชั้นลอยอีก.. ตรงกลางยังไปไม่ได้ ต้องไปกดสวิทช์ที่ห้องขวาก่อน.. ไปที่ห้องขวา จะเจอตุ่มเหยียบที่พื้นสามตุ่ม.. ตุ่มซ้ายพื้นจะเป็นหลุมซ้ายขวา ตุ่มขวาจะมีมังกรเขียวหล่นลงมาสู้กับเรา(เหยียบซ้ายเสร็จมาเหยียบขวาโคตรฮา เพราะมันหล่นลงไปในหลุมเลย ไม่ทันสู้.. 😂 ).. แต่จะให้ดีไม่ต้องเหยียบเลย เหยียบตุ่มกลางตุ่มเดียวพอ เพราะฝั่งซ้ายมีจุดเซฟอยู่ เราต้องเดินไปเซฟด้วยไง.. เซฟซะนะครับ เพราะเรากำลังจะได้เจอบอสใหญ่ของปราสาทนี้แล้ว..
ออกมาแล้วเข้าประตูกลาง.. เราจะได้พบกับหัวหน้าของเผ่าเรปไทล์ “อซาล่า” นั่นเอง.. มันจะปากดีแป๊บนึงก่อนวิ่งออกไปทางประตูหลัง.. ให้เราตามไป.. สุดทางเราจะได้เจอกับเจ้า “แบล็คไทแรนโน”.. แก๊ซซ!! แก๊ซซ!!.. (เสียงร้อง) 😂..
แน่นอน คงไม่ต้องถามว่ามันพามาทำไม มันพามากระทืบเราแน่นอน.. จัดให้เค้าไปครับ.. อซาล่าจะยืนอยู่บนหัวไหล่ ให้จัดการมันก่อน เพราะมันจะคอยบัฟให้เจ้าแบล็คและยกเรา”ขึ้น”แล้วปล่อยลงมากระแทก น่ารำคาญ.. จัดการอซาล่าได้ ทีนี้ก็ถนัดมือขึ้นเยอะ.. สู้กับเจ้ายักษ์นี่ ก็ตามสเต็ปครับ เปิดด้วยสายฟ้า แล้วก็ใส่ให้ยับ..
เมื่อเอาชนะ “อซาล่า” กับ “แบล็คไทแรนโน” ได้.. ดนตรีเศร้าก็มา.. อซาล่าคลานหมดสภาพอยู่กับพื้น.. บ่นน้อยใจโชคชะตา ว่าสวรรค์เลือกเข้าข้างลิงไม่มีขนพวกนี้มากกว่าไดโนเสาร์งั้นหรือ?.. ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า จริงๆแล้วการต่อสู้ครั้งนี้มันไม่มีใครผิดใครถูก แค่สู้เพื่อดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อเท่านั้นเอง..
ในระหว่างนั้นเอง “ลาวอส” หรืออุกกาบาตขนาดใหญ่ก็ได้พุ่งตรงมายังโลก.. คิโนะขับเทราโนเจ็ตฯมาช่วยเราทุกคนพอดี.. ไอย์ล่าพยายามจะช่วยอซาล่าให้ไปด้วยกัน.. แต่อซาล่าก็ไม่ได้พยายามลุกขึ้น.. คำสั่งลาสุดท้ายของอซาล่าที่มีให้ไอย์ล่าก็คือ….. “ดู.. ดูแลโลกนี้ ต่อไปแทนเค้าด้วย..”.. (หล่อซะงั้น.. อยู่ดีๆก็หล่อซะงั้น..).. แล้วอุกกาบาตก็ “ตูมมมม..ม..!!..”.. กลายเป็นหลุมกว้างและลึก 2 ซ.ม. 😂.. ทุ้ย.. หลุมน่าจะใหญ่กว่านี้นะที่จริง..
เมื่อบังคับตัวละครได้ ให้เดินเข้าไปในหลุมครับ.. จะพบกับจุดวาร์ปกาลเวลาธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะความไม่เสถียรของสะมะนะกึ๋ยและสะมะนะแก๋ว(เป็นธาตุพิเศษที่สายวิทย์คณิตเท่านั้นที่จะเข้าใจ 😂).. ก็ให้เข้าไปครับ.. แล้วเราจะไปโผล่ในปี B.C.12,000 หรือหนึ่งหมื่นสองพันปีก่อนอารยธรรมนั่นเอง..
ในยุค B.C.12,000 ปีนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 เลเยอร์แผ่นดิน.. คือแผ่นดินบนพื้นโลกที่เป็น “ยุคน้ำแข็ง” และแผ่นดินที่ลอยฟ้าอยู่ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์.. เราจะโผล่ออกมาจากถ้ำเล็กๆถ้ำหนึ่ง เดินออกมาจะพบกับโลกน้ำแข็งหนาวเหน็บ พายุหิมะรุนแรงตลอดเวลา.. เดินมาขวาล่างใกล้ๆนั่นเอง ก็จะได้พบกับ “สกายเวย์” จุดวาร์ปขึ้นแผ่นดินลอยฟ้า เข้าไปครับ.. เราจะไปโผล่บนเกาะลอยฟ้าเล็กๆเกาะหนึ่ง.. โว่ว..สวยหยด หญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าเมฆขาวนวล ช่างต่างจากข้างล่างยิ่งนัก ดูเหมือนจะมีเกาะอื่นๆอีกด้วย.. ชมวิวชื่นใจแล้วให้เดินเข้า “เมืองแห่งความฝันเอนฮาซ่า” ซึ่งอยู่ใกล้ๆนั่นเอง.. เข้าไปคุยกับทุกๆคน.. ดูเหมือนที่นี่เค้าจะสนุกกับการนอนฝัน อารมณ์เหมือนโลกเสมือนในเดอะแมททริก อะไรประมาณนั้น.. เราจะได้ข้อมูลเรื่องเรือเหาะและเมืองอื่นๆ ได้ข้อมูลเรื่องราชินีและประวัติบางส่วนของที่นี่.. มีหนังสือที่เปิดแล้วมีพลังธาตุต่างๆออกมาอีกด้วย ให้เปิดเรียง น้ำ, ลม, และไฟ ประตูทางลับจะเปิดออก(ซ้ายบนของไฟ) เข้าไปจะพบกับชาว Nu ยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วตอบ “ใช่” เค้าจะแยกร่างเป็น 6 ร่างเพื่อสู้กับเรา เอาชนะเค้าให้ได้ แล้วเค้าจะให้ยาเรามาสองเม็ด คือ ยาเพิ่มพลังเวทย์ถาวร1เม็ด, ยาเพิ่มสปีดความเร็วถาวร1เม็ด.. ที่สำคัญ เราจะได้เจอเด็กน้อยที่พูดเป็นลางไม่ดีถึงกลุ่มเราซักเท่าไหร่ และเด็กน้อยคนนี้จริงแล้วก็คือ “มากัส” ในวัยเด็กนั่นเอง.. คุยกับทุกคนแล้วออกมา เข้าจุดวาร์ปด้านบนเราจะลงมาแผ่นดินด้านล่างอีก เดินไปซ้ายบนจะมีแท่นวาร์ปสกายเวย์อยู่อีก เข้าไปก็จะมาโผล่ที่แผ่นดินด้านบนอีกเกาะหนึ่ง เกาะนี้จะใหญ่กว่าเดิมมาก มีน้ำตก มีภูเขา สวยงาม.. เดินข้ามสะพานมาทางซีกซ้าย จะได้เจอถ้ำเพื่อขึ้นไปยัง “พระราชวังแห่งอาณาจักรซีล” แต่อย่าเพิ่งไป เลยมาอีกนิดจะได้พบกับ “คาร์จา” เมืองแห่งเวทย์มนตร์ เข้าไปครับ.. คุยกับทุกๆคนจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก ว่าเกาะทางใต้มี “ศิลาตะวัน” ซึ่งใช้ทำอาวุธชุดเกราะได้ แต่พระราชินีสั่งห้ามไม่ให้ไปใช้แล้ว.. มีชาว “นู” ตัวอ้วนๆกลมๆขายของและบอกว่า จริงๆเค้ามีชุดเกราะแพล็ทตินั่มขายด้วยแต่ต้องได้รับอนุญาตจากราชินีก่อนถึงจะขายได้.. จะมีหนังสือสามเล่มกระจายกันวางอยู่ เปิดแล้วจะมีธาตุ น้ำ, ลม, และไฟ(เรียงตามนี้) ออกมา.. เมื่อเปิดค้างไว้ทั้งสามเล่ม จะมีประตูลับเปิดขึ้นใกล้ๆกับเล่มที่มีไฟออกมา(ทางขวา).. เข้าไปจะได้พบกับมอนส์ตัวน้อยยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเราจะได้ไอเท็ม “Black Gemstone” มาครอบครอง.. เป็นเครื่องประดับ เมื่อสวมใส่แล้วจะสามารถใช้ท่าประสานสามคน “Eternal Darkness” ได้ในภายหลัง..
ไปสำรวจที่ห้องด้านบนทั้งสองห้อง จะได้รับรู้เรื่อง “วังสมุทร” และข้อมูลสำคัญบางส่วนเพิ่มอีก.. จะมีคนบอกว่ามี “ผู้หยั่งรู้” มาที่วังอีกด้วย.. คุยกับทุกคนแล้วออกมา.. ไปที่จอด “ปักษาทมิฬ” ทางซ้าย.. เมื่อเข้าไปคุยกับคนเฝ้าเครื่องบิน จะมีคนโผล่มาเช็คเราว่าเราเป็นใครมาจากไหน.. เค้าชื่อ “ดาลตัน” เป็นหนึ่งในขุนพลของราชินี.. ตอนแรกนึกว่าจะตื้บเรา แต่ก็เปล่า เค้าบอกว่าเรานี่สินะที่จะโผล่มาขัดขวางตามที่เจ้าผู้หยั่งรู้แปลกหน้านั่นทำนายเอาไว้.. เสร็จแล้วก็เดินจากไป..
เรียบร้อยแล้วออกมา เดินไปที่ถ้ำ วาร์ปขึ้นดอยไปเรื่อยๆ จนถึงบนสุด ก็คือ “พระราชวังแห่งอาณาจักรซีล” นั่นเอง.. คุยกับทุกคนให้ทั่วจะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆในอาณาจักรมากมาย แม่นางซ้ายล่างถูกราชินีบังคับให้เอาต้นกล้าแห่งชีวิตไปเผาทิ้ง เธอจะถามเราว่าควรทำหรือไม่ ก็ให้บอกไปว่า “ไม่” แล้วเธอจะแอบเก็บต้นกล้านี้ไว้.. ที่ห้องซ้ายบนเป็นห้องเก็บเครื่องจักร “แมมม่อน” ใช้ดูดพลังจากลาวอสขึ้นมาใช้(ฟังดูงี่เง่าชอบกล).. เราจะได้ข้อมูลว่าลุง “เมชิเออร์” ช่างตีดาบสุดจ๊าบเป็นผู้รู้กูรูแห่งชีวิตของอนาจักรนี้ แต่ขัดแย้งกับราชินีจึงหายตัวไป.. ได้รู้ว่าพระราชินีทำตัวแปลกๆไปหลังจากเริ่มใช้พลังของลาวอส….. ไปที่ห้องขวาบนจะเป็นห้อง “บรรทม” (แยกเป็นสองห้อง).. เมื่อเข้าห้องทางขวา จะได้พบกับ องค์หญิง “ชาล่า” เฮดชาล่า 😂.. และองค์ชายน้อย “เจนัส” ยืนคุยกันอยู่ถึงลางร้ายที่จะเกิดขึ้น.. องค์หญิงเป็นคนที่มีพลังเวทย์สูงที่สุดในอาณาจักร และเธอไม่ค่อยโอเคหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่ราชินีหรือท่านแม่กำลังทำอยู่เท่าไหร่..
ในระหว่างนั้นเอง จะมีนางสนมวิ่งมาเชิญองค์หญิงชาล่าให้ไปเฝ้าราชินี องค์หญิงก็จะออกไป ถึงแม้จะแปลกใจที่ไม่คุ้นหน้าเราแต่เธอก็ไม่มีเวลาคุยด้วย.. ให้ตามเธอไปที่ห้องกลางบน.. ชาล่าจะใช้สร้อยคอของเธอ(ซึ่งเหมือนกับของมาร์ลมากๆ)เพื่อเปิดประตู.. แต่พอเราวิ่งตามไปทำบ้าง กลับไม่สามารถเปิดได้.. คุยกับนางสนมหน้าประตู พวกเธอจะบอกว่า เคยเห็นองค์หญิงไปชาร์จแบตให้สร้อยคอที่เครื่องแมมม่อน.. อ้าว รอไรล่ะครับ ไปที่เครื่องแมมม่อนห้องซ้ายทันที.. กดทีแผงควบคุม เจ้าเครื่องแมมม่อนจะชาร์จพลังให้กับสร้อยคอของเราจนเต็ม สีแดงแจ๊งแว๊ง..
วิ่งกลับมาที่ประตูเวทย์มนตร์ที่ห้องกลางอีกครั้ง.. กระทืบพื้นสามครั้งเป็นเคล็ดแล้วเปิดประตู.. รอบนี้เราจะสามารถเปิดประตูได้สมใจปราถนา เย่!.. เมื่อเข้าไปจะได้พบกับ ราชินี, ดาลตั้น, ผู้หยั่งรู้ปริศนา, และองค์หญิงชาล่า.. ราชินีถามทันทีว่าพวกมึงเป็นใคร?! มาเฮ็ดอิหยังแถวนี่?!.. อยากตายบ่?!!!..
เจ้าผู้หยั่งรู้จะใส่ไฟทันที บอกว่าพวกเรานี่แหละคือตัวอัปปรีย์ที่จะมาทำทุกอย่างพัง.. ราชินีไม่รอช้า สั่งดาลตันให้จัดการเราทันที ดาลตันจะส่งโปเกม่อน “โกเลม” มาจัดการเรา.. ตีโหดซะขนาดนี้ อย่าไปใช้ไอเท็มให้เปลืองเลย สู้เท่าที่สู้ได้ก็พอ แพ้ก็ไม่เป็นไรครับ.. พอเราร่วงหมด เราจะถูกจับไปขังในคุกสุดล้ำ หมุนติ้วๆๆอยู่บนอากาศ..
องค์หญิงชาล่าจะมาช่วยเรา แต่จนแล้วจนรอดเจ้าผู้หยั่งรู้ก็ตามมาเห็นจนได้.. องค์หญิงจะขอร้องว่าอย่าทำร้ายหรือฆ่าพวกเรา เจ้าผู้หยั่งรู้มันจึงขอแลกเปลี่ยน ไม่ฆ่าก็ได้ แต่ต้องส่งมันกลับไปยังที่ของมันแล้วอย่าให้มันกลับมาอีก.. ว่าแล้วมันก็ให้เราพาไปจุดวาร์ปที่เราเข้ามา หลังจากถีบเราลงประตู มันก็บังคับให้องค์หญิงชาล่าร่ายเวทย์ล็อคประตูเอาไว้.. แม้ไม่อยากทำ แต่เธอก็จำใจต้องทำ เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา.. เราจะกลับมายังยุค B.C.65,000 อีกครั้ง..
มาร์ลจะนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เรามีสร้อยคอเวทย์ที่สามารถเปิดผนึกประตูและกล่องที่สะกดด้วยเวทย์ได้แล้ว และในโลกอนาคตปี A.D.2300 ก็มีอยู่หลายจุดที่เธอเห็น บางทีมันอาจจะเป็นเบาะแสสำคัญเรื่องปราบลาวอสก็ได้.. คิดได้ดังนั้น พวกเราจึงตกลงจะไปที่นั่นกัน.. เดินลงมาขวาล่าง จะพบกับเทราโนเจ็ตของเราจอดรออยู่.. กระโดดควบแล้วแว๊นซ์กลับไปที่หุบเขาที่เราโผล่วาร์ปมาที่นี่ครั้งแรก.. วิ่งขึ้นไปชั้นบนสุด กระโดดเข้าจุดวาร์ปเผื่อกลับมายังจุดสิ้นสุดแห่งเวลา.. เข้าจุดวาร์ปไปยังปี A.D.2300 อีกครั้ง..
เมื่อวาร์ปมาที่ปี A.D.2300 เราจะอยู่ในโปรโตโดม.. ออกมาแล้วไปซ้ายบน เดินทางข้ามไซต์32มาทะลุอีกฝั่ง(จะเดินก็ได้ หรือจะแข่งรถกับจอห์นนี่ก็ได้).. ทะลุแล้วให้มาขวาล่าง เข้า “ท่อระบายน้ำ” โสโครก กดประตูกลไกต่างๆจนทะลุมาอีกฝั่ง.. ก่อนจะถึงทางออก เราจะได้พบกับเจ้า “ลุคเอาต์” กำลังฟ้องเจ้า “ครอวลีย์” อยู่พอดี.. พอมันคุยกันเสร็จก็เข้าบวกได้เลยครับ.. มาถึงตอนนี้ เราแข็งแกร่งพอสมควรแล้ว สามารถฆ่ามันตายได้ไม่ยาก แต่ก็อย่าประมาทไป มันสามารถจับเราฟาดได้รุนแรงเหมือนเดิม มันสามารถฆ่าเราได้ด้วยท่าฟาดที่รุนแรงนั้น.. จัดการเรียบร้อยแล้วออกมาครับ..
เดินทางลงใต้เพื่อไปยัง Keeper’s Dome หรือโดมของผู้ดูแล.. เมื่อเข้ามา เราจะได้พบกับชาว Nu คนหนึ่งยืนหลับ เข้าไปคุยด้วยก็จะหลับต่อซะงั้น.. ก็เดินต่อ ลอดข้างขึ้นไปทางเหนือครับ(ไม่ใช่ชั้นบนนะ ชั้นล่างนี่แหละ).. จะพบกับประตูเวทย์ ก็ใช้สร้อยคอเปิดประตูได้ทันทีครับรอบนี้.. เมื่อเข้าไปในห้อง เราจะได้พบกับ “ข้อความแสง” หล่นเป็นสะเก็ดเรียงรายไปตามพื้น.. เป็นข้อความจาก “เบลธาซาร์” กูรูแห่งเหตุผลจากอาณาจักรซีล.. เค้าวิจัยลาวอสและเฝ้าดูอยู่ตลอด เค้าจะอธิบายว่าลาวอสเป็นเหมือนปรสิตขนาดใหญ่ที่ใช้โลกเป็นโฮสต์ ฝังตัวอยู่ในยอดเขาแห่งความตายใกล้ๆนั่นเอง.. แต่เค้าแก่ชราลงเรื่อยๆ จนไม่ไหวแล้ว เค้าจึงได้ฝากสุดยอดสิ่งประดิษฐ์เอาไว้ เพื่อให้เราใช้ปราบมัน.. ฝากพวกเราด้วย.. ประมาณนั้น…..
เมื่อถึงประตูก็เปิดได้เลยครับ.. เข้าไปเราจะพบกับสุดยอดนวัตกรรมที่เบลธาซาร์ได้ฝากเอาไว้ “ยานเจาะเวลามหาปลัย Eporch” นั่นเอง.. เดินไปบนสุดของห้อง พวกเราจะพูดคุยกันนิดหน่อยด้วยความทึ่ง.. เสร็จแล้วเดินลงมาตรงทางออก ชาวNuจะเดินเข็นลังเข้ามา.. รอบนี้เค้าจะคุยกับเรา บอกว่าเค้าคือเบลธาซาร์ที่ได้ถ่ายทอดความทรงจำเอาไว้ที่เจ้านี่(เย้ดด อย่างล้ำ.. ประมาณว่า ถ้าสมองเป็นฮาร์ดดิสก์ที่มีระบบปฏิบัติการณ์อยู่.. เค้าโคลนนิ่งสมองตัวเองใส่ไว้ที่เจ้านี่นั่นเอง.. สามารถพูดคุยได้เหมือนคุยกับเค้าเองเลย.. โว่ว ล้ำเกิ๊นน.. เกมจากปี 199x จริงป่าวนี่.. อิอิ..).. เค้าจะอธิบายการใช้งานยานลำนี้.. แตะที่แผงควบคุมแล้วเลือกปีที่จะไป.. ประมาณนั้นครับ..
ก็กดขึ้นยานโดยสำรวจที่เบาะด้านหลังเจ้าNuขี้เซาได้เลย.. พอขึ้นยานเสร็จ จะมีแผงเลือกเวลาขึ้นมา ก็เลือกได้เลยครับ ไปจุดสิ้นสุดของกาลเวลาก่อนเลยที่แรก ไปคุยกับคุณลุง ฮีลที่อ่างฮีล และเซฟไว้ก่อนเลยเน้นๆ ณ จุดนี้.. ทีนี้ก็เป็นเวลา “เก็บของ” และ “เปิดกล่อง” ที่มีผนึกเวทย์ตามที่ต่างๆให้หนำใจครับ.. หลักการคือ เก็บจากช่วงเวลาที่ใหม่กว่าไปเก่ากว่า นะครับ.. A.D.2300 ไล่ไปจนถึง B.C.65,000,000 ประมาณนั้น.. เพราะบางกล่องเป็นกล่องเดียวกัน ไปเก็บช่วงเวลาเก่าก่อน พอไปเก็บช่วงเวลาใหม่กว่า มันก็จะไม่มีอะไรแล้ว.. ตามหลักของฟิสิกซ์กลศาสตร์ควอนตั้มหมาหั่มมาฮั่มครับ.. 😂
เมื่อซนจนพอใจแล้ว.. หรือขี้เกียจจะซน อยากเดินเรื่องต่อเลยมากกว่า ก็มาเดินทางต่อกันเลยครับ..
แว๊นซ์ยานเหาะ “Eporch” ของเราไปที่ช่วงเวลา B.C.12,000 หรือยุคโบราณนั่นเอง.. เราจะมาโผล่ที่หน้าถ้ำจุดวาร์ปเก่าของเราที่โดนชาล่าล็อคไว้นั่นเอง.. เดินทางมาทางทิศตะวันตกไม่ไกล เราจะได้พบกับ “ถ้ำเทอร่า” เมื่อเข้าไป เราจะได้พบกับชุมชนชาวบ้าน “อัลเก็ตตี้” ที่ถูกเนรเทศแยกตัวออกมาจากชาวเกาะลอยฟ้าหรือชาว “ซีล” นั่นเอง.. เป็นชนชั้นแรงงานทาส เป็นชาวบ้านที่ไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้..ให้เราสำรวจให้ทั่วทั้งหมู่บ้านทั้งถ้ำ คุยกับทุกคน ทุกห้อง เราจะได้ข้อมูลอีกมากมายเลยทีเดียว.. เราจะได้รู้ว่าองค์หญิงชาล่าให้เกียรติผู้คนที่นี่ไม่ต่างจากชาวซีล เพราะจิตใจที่ดีงามของเธอ.. จะได้รู้ว่าราชินีเพี้ยนไปเพราะการดูดพลังของลาวอสมาใช้นั่นเอง….. ที่ร้านขายอาวุธมีอาวุธและเครื่องป้องกันดีๆขายเยอะทีเดียวครับ ห้ามพลาดทีเดียว..
ปีนขึ้นและปีนลงมาทางซีกซ้ายจะได้พบกับจุดเซฟ.. ก็เซฟซะครับ แล้วเดินทางต่อ ไปอีกไม่ไกลก็จะได้พบกับฝูงบอสทั้งสามตัวคือ เจ้าอิ๊มพ์เขียวเป็นหัวหน้า ควายธนูไฟและควายธนูน้ำแข็ง เป็นลูกน้อง.. แสบใช้ได้เลยทีเดียวครับ.. ใช้เวทย์ที่ตรงข้ามกับธาตุมันโจมตีมัน.. จัดการให้เรียบร้อยทั้งหมดครับ… แล้วเราจะสามารถปีนขึ้นโซ่ยักษ์เพื่อขึ้นไปยังเกาะลอยฟ้าได้.. ขึ้นไปบู๊ซะให้ราบครับ เก็บของให้หมด.. ไปจนสุดทางจะได้พบกับก้อนน้ำแข็งยักษ์ และบอส “Giga gaia”.. ตบให้ลง แล้วเราจะได้พบกับคุณลุงเมลชิเออร์ช่างตีดาบในตำนาน แกจะงงนิดหน่อยที่เรารู้จักแก แล้วแกจะบอกรายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น.. สุดท้ายพวกเราทั้งหมดจะรีบหนีกลับมาที่หมู่บ้านอัลเก็ทตี้อีกครั้ง เกาะลอยฟ้าจะขาดออกจากโซ่ และหล่นลงมา…
เราจะคุยกับคุณลุง “เมลชิเออร์”.. องค์หญิงชาล่าจะปรากฏตัวพร้อมนายน้อยเจนัส.. เธอจะเล่าแผนการณ์ของเสด็จแม่ให้ทุกคนฟัง เธอต้องการให้พวกเราช่วยหยุดแม่ของเธอ.. ในขณะคุยกันนั่นเอง เจ้าดาลตั้นก็ตามมา มันมาตามองค์หญิงกลับไปทำพิธีนั่นเอง.. มันจะเก๋ามาก ต่อยท้ององค์หญิง ยิงพลังใส่เมลชิเออร์ และตบเจนัสซะกระเด็น(เดี๋ยวมึงเจอกุแน่).. ก่อนที่มันจะพาองค์หญิงไปในที่สุด..
คุยกับคุณลุงเมลชิเออร์อีกครั้ง เราจะตกลงว่าจะช่วยกันหยุดแผนอันตรายนี่จากองค์ราชินี คุณลุงจะปลื้มเรามาก(เราจะได้ “รูบี้ไนท์” จากแกด้วย เพื่อใช้ทำลายเครื่องจักรแมมมอล).. ทีนี้เราจะไปปราบดาลตั้นกันที่พระราชวังลอยฟ้าที่เราเคยไปกันครับ…..
ออกจากหมู่บ้านอัลเก็ทตี้มาทางซีกขวาบ้าง จะได้พบกับสกายเวย์เพื่อขึ้นไปยังพระราชวังลอยฟ้านั่นเอง ขึ้นไปครับ.. เดินทางไปตามทางเรื่อยๆอย่างที่เราเคยไป.. ห้ามลืมแวะที่เมือง “คาจาร์” ด้วย(ที่อยู่ตีนเขาใกล้โรงเก็บเครื่องบิน).. เข้าไปแล้วไปฮีลฟรีที่จุดฮีลขวาล่าง.. เสร็จแล้วเดินไปคุยกับชาวนูที่เค้าท์เตอร์ขายของ เค้าจะถามเราว่าจี้ที่เรามีนั่นใช่ขององค์หญิงชาล่าหรือไม่ ให้เราตอบว่า “ไม่” แล้วเค้าจะขายของให้เราตามปกติ ซึ่งจะมีทั้งอาวุธและเครื่องป้องกันดีๆหลายชิ้นเลยครับ ซื้อให้ฉ่ำ แล้วออกมา.. เดินทางต่อขึ้นเขาไปยังพระราชวัง มุ่งหน้าไปที่ห้องใหญ่ของราชินี.. เราจะได้พบกับเจ้า “ดาลตั้น” ที่กำลังหงุดหงิดว่ามันไม่ได้ไปพระราชวังใต้สมุทรกับเค้าด้วย ต้องมาเฝ้าที่นี่.. ก็บวกกันเลยครับ รอมานานละ..
ดาลตั้นจะใช้เวทย์ทำให้พลังพวกเราลดลงครึ่งนึงอยู่ตลอด.. คอยฮีลให้ทันและตีมันไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่ครับ.. พอมันแพ้เรา จุดวาร์ปสู่พระราชวังใต้สมุทรจะปรากฏ.. วิ่งออกมาเซฟก่อนหนึ่งทีแล้วเข้าไปครับ…
เมื่อเราวาร์ปมาถึงพระราชวังใต้สมุทร เดินลงมานิดหน่อยเราก็จะได้เจอจุดเซฟอีกหนึ่งจุด(ซึ่งดีมากๆเลยครับ.. เพราะเดี๋ยวเราจะปักหลักฟาร์มเลเวลกันซักหน่อย.. ).. องค์ราชินีจะกำลังทำพิธีอยู่ เธอจะบอกให้องค์หญิงชาล่าเพิ่มพลังให้เครื่องจักรแมมม่อนแบบเต็มพิกัด องค์หญิงก็ทำให้แบบไม่เต็มใจนักจนตัวเธอเองล้มทรุดลง ผู้หยั่งรู้ทำท่าเหมือนเป็นห่วงเธอ..
เดินลงมาจะพบกับ Mune ยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเค้าจะแว้บหายไป.. เดินทะลุลงมา จะได้พบกับห้องโถงใหญ่ที่มีอาวุธและสมบัติซ่อนอยู่เต็มไปหมด.. สูดหายใจลึกๆ ตั้งสติก่อนครับ มีหลายห้องทีเดียว.. อันดับแรก เก็บของในห้องโถงใหญ่นี้ให้หมดก่อน.. ขอแนะนำเรื่องมอนส์ประจำถิ่นที่เหมือนลูกกะตาบินได้ มันจะมีสองสี คือสีฟ้ากับสีเหลืองส้ม สีฟ้าจะแพ้เวทย์น้ำกับน้ำแข็ง สีเหลืองส้มจะแพ้เวทย์ไฟและแสงเลเซอร์ คำเตือนคือ “ห้ามใช้เวทย์อื่นกับมัน” ต้องใช้เวทย์ที่มันแพ้เท่านั้น ไม่งั้นมันจะเค้าท์เตอร์เราจนเจ็บทั้งกลุ่ม..
เมื่อเก็บห้องโถงใหญ่จนครบหมดแล้ว ก็ไล่เก็บห้องเล็กๆด้านข้างให้หมด เริ่มจาก ขวาบน, ขวาล่าง, ซ้ายล่าง, ซ้ายบน, (ห้องบนและกลางจะทะลุหากันได้) จะได้ไม่งง.. ห้องขวาล่างกับซ้ายล่างจะเชื่อมกัน มีกลไกให้เหยียบนิดหน่อย ก็ลองสังเกตุดูครับ.. ไอเท็มที่เก็บได้ยากที่สุดคือ “Demon Hit หรือ Demon Slayer” ดาบของฟร็อก.. อยู่ที่ห้องซ้ายล่าง ต้องเดินเลียบกำแพงทางซ้ายลงมา ตีโค้งเดินมาได้ถึงกลางห้อง จะสังเกตุมีห้องสมบัติเล็กๆอยู่ คลำตรงแถวกำแพงจะสามารถทะลุเข้าไปในห้องได้ ก็เก็บออกมาครับ.. ของดีของแรร์…
สำหรับใครที่ไม่รีบ อยากจะแนะนำให้เก็บเลเวลที่ห้องซ้ายกลาง(ทะลุซ้ายบนได้).. ในห้องนี้จะมีมอนสเตอร์ 3 ตัว ตัวกลางใช้เวทย์ให้เราความจำเสื่อมได้ ใช้คาถาไม่ได้ ส่วนตัวริมเป็นลูกกะตาบินได้สีฟ้า 2 ตัวซึ่งแพ้เวทย์น้ำและน้ำแข็งนั่นเอง.. สเต็ปก็คือ ให้ใครซักคนฟันเจ้าตัวกลางแรงๆและให้ใครอีกคนใช้เวทย์น้ำหรือน้ำแข็งแบบโดนทุกตัว แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ จะได้สามเด้งคือ 1.ไอเท็ม Lapis ที่เพิ่ม HP 200 ได้ทั้งกลุ่ม ไม่ต้องไปซื้อให้เสียเงิน 2.ค่าประสบการณ์ Exp 790 คะแนนทุกคน 3.เงินสด 1,050 บาท วิธีโหลดมอนส์ชุดใหม่ก็แค่เข้าห้องออกห้องแค่นั้นเองครับ.. ใครไม่รีบก็ฟาร์มยาวๆไปเลยครับ มีแต่ได้กับได้จริงๆ.. แต่ก็อย่าลืมวิ่งไปเซฟห้องด้านบนเป็นระยะด้วยนะครับ ห้ามลืมเด็ดขาด…
เมื่อเรียบร้อยในส่วนของห้องเก็บสมบัตินี้แล้ว ก็ให้เดินลงมาเพื่อไปห้องต่อไป ห้องนี้จะเป็นห้องเล็กๆที่ทะลุออกมาก็เป็นเหมือนชานบ้านเล็กๆยื่นออกมา.. ไปต่อ ลงบันไดไปเรื่อยๆ มอนส์ที่ถือไม้กระบองควงไว้บนหัว จะสามารถเค้าท์เตอร์สวนเราได้ในทุกๆการโจมตี.. ดังนั้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ ฆ่ามันให้ได้ภายในดาบเดียว อย่าใช้เวทย์กลุ่มโจมตี ไม่งั้นมันมีกี่ตัวมันก็สวนเราเละเลย.. ระวังรูปปั้นบางตัวสามารถพ่นไฟใส่เราได้.. ลงมาเรื่อยๆ สุดท้ายจะได้พบกับ “มาสะ” คุยกับเค้าแล้วเค้าจะวาร์ปหายไป.. แล้วภาพจะตัดไปที่ราชินีที่กำลังทำพิธีอยู่.. แม้จะมีคนเตือนว่าอันตราย แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะให้องค์หญิงชาล่าเพิ่มพลังให้เครื่องจักรแมมม่อนเข้าไปอีก..
เมื่อบังคับตัวละครได้อีกครั้ง ให้เดินลงบันไดต่อมาอีก จะได้พบกับ “ลิฟท์” ขนาดใหญ่.. ปราบมอนส์ให้เรียบร้อยแล้วกดที่สวิทช์ที่มีแสงแวววาว ลิฟท์จะเริ่มทำงาน เดินเครื่องเพื่อลงไปด้านล่าง.. ระหว่างนี้เราต้องสู้กับมอนส์ไปเรื่อยๆ.. เมื่อลิฟท์หยุด เดินไปที่ห้องด้านบน.. เมื่อเราโผล่เข้าห้องมา จะเจอสวิทช์ที่พื้น รอให้เราเหยียบอยู่ อย่าเพิ่งเหยียบ ไปกดสวิทช์ที่ห้องบนซ้ายกับห้องบนขวาก่อน.. แล้วกลับมาเหยียบ.. เส้นทางตรงกลางจะปรากฏขึ้น ก็เดินขึ้นไปเพื่อเข้าห้องถัดไป..
เราจะได้พบกับจุดเซฟและหีบสมบัติ.. เก็บสมบัติและเซฟซะครับ เพราะเรากำลังจะได้บวกบอสแล้วนั่นเอง.. พร้อมแล้วก็ลุยห้องต่อไปได้เลย เราจะได้พบกับเจ้าดาลตั้นอีกครั้ง มันจะเรียกบอส “โกเลมซิสเตอร์” มาสู้กับเรา.. เป็นบอสคู่ ตบให้ลง.. (วิธีจัดการคือ ฮีลสองคนและโจมตีหนึ่งคน.. เพราะมันจะโจมตีโดยทุ่มลูกเหล็กใส่เราหนึ่งตัวพลังลดครึ่งหนึ่งและอีกตัวจะยิงบอลพลังใส่เราซ้ำอีก ฮีลคนเดียวมันจะไม่ทัน.. ฮีลให้ทันฟันให้แรงไปเรื่อยๆ..).. เมื่อเอาชนะโกเลมซิสเตอร์ได้ เจ้าดาลตั้นจะออกมาอีกครั้งและมันจะสัมผัสพลังของลาวอสได้..
เดินทางต่อไปห้องถัดไป.. เราจะได้พบกับชาวนูยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเค้าจะรีบกระโดดหนีไป เพราะว่าลาวอสจะตื่นขึ้นแล้วนั่นเอง.. เดินต่อไปอีกนิดจะพบกับพื้นที่ทำพิธีของราชินี.. องค์หญิงชาล่าจะเริ่มไม่ไหว เธอทรุดลงกับพื้น แต่ราชินีก็จะยังไม่หยุด เธอปลุกลาวอสจนสำเร็จ เราจะสู้ลาวอสไม่ได้เลย(ร่วงทันที) จอมมารมากัสที่อยู่ในคราบผู้หยั่งรู้จะเปิดเผยตัวตนว่าเค้ามาเพื่อกำจัดลาวอส.. ราชินีไม่สน สั่งลาวอสเล่นงานทันที สุดท้ายแม้แต่มากัสก็ไม่ไหวอยู่ดี.. โครโน่กัดฟันลุกขึ้นมาในขณะที่ลาวอสกำลังจะดูดกลืนทุกคนนั่นเอง.. แต่สุดท้าย โครโน่ก็ต้องตาย และสลายไปเพราะลำแสงที่ลาวอสยิงออกมานั่นเอง…
ทุกอย่างเกินจะควบคุม.. ราชินีเหมือนคนบ้า.. องค์หญิงชาล่าใช้พลังวาร์ปส่งพวกเราทุกคนไปที่ปลอดภัยก่อนวังจะถล่ม.. พลังของลาวอสระเบิดออก สร้างความวายป่วงให้ทั่วแผ่นดิน.. นครลอยฟ้าถูกทำลาย แผ่นดินแยกออก ร่วงหล่นลงพื้นดิน…
เราจะรู้สึกตัวอีกครั้งในบ้านหลบภัยของคุณตาคนหนึ่ง แกจะเดินเอาสร้อยคอของโครโน่มาให้ และบอกว่ายานอีพอร์ชของเราปลอดภัยดี.. เราต้องจัดทีมใหม่อีกครั้งโดยไม่มีโครโน่…
มุ่งสู่การคืนชีพให้เพื่อนรัก.
เมื่อจัดทีมใหม่เรียบร้อยแล้ว.. ซื้อของ พูดคุย หาข้อมูลให้ครบทุกเต๊นท์.. เซฟให้เรียบร้อยแล้วเดินทางไปยังป่าทางซ้ายบน(ใกล้ๆนั่นเอง)..
เข้าไปแล้ว คุยกับทุกคน เดินขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ.. ตอนนี้เราจะพบว่า ชาวฟ้าผู้สูงส่งและชาวดินผู้ต่ำต้อย อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างเห็นอกเห็นใจกันแล้ว.. ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะกันอีกต่อไป(เป็นเรื่องน่ายินดีในเรื่องร้ายๆนะ 😊👍)..
เมื่อเดินขึ้นไปบนสุด เราจะได้พบกับคุณตาท่านหนึ่ง เมื่อเราคุยกับคุณตา คุณตาจะถามเราว่า “อาการดีขึ้นแล้วหรือ?”.. ยังไม่ทันที่เราจะได้ตอบ ไอ้เปรต“ดาลตั้น”ผู้มักใหญ่ใฝ่สูง พร้อมทหารของมัน ก็บุกพื้นที่ทันที.. เหล่าทหารของมันโชว์ลวดลายความถ่อยและบอกให้ทุกคนคุกเข่าเพื่อทำความเคารพพระราชาองค์ใหม่ของมัน.. ซึ่งนั่นก็หมายถึงเจ้าดาลตั้นนั่นเอง..
ดาลตั้นตั้งตนเป็นผู้นำคนใหม่.. มันจะยึดยานเจาะเวลา “อีพอร์ช” ของเรา.. และมันจะใช้พลังเวทย์ซัดใส่เรา จับเราขังไว้ เพราะกลัวว่าเราจะปลุกระดมผู้คนและก่อกบฏ…
เมื่อรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา.. เราจะอยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง มีจุดเซฟหนึ่งจุด ก็เซฟไว้ครับ กันเหนียว.. ไอเท็ม, ชุดเกราะ, และเงินของเราทั้งหมด จะถูกมันยึดไว้ทั้งหมด ไม่เหลือซักบาทเดียว.. แต่พวกเราก็ไม่คิดยอมแพ้ พร้อมลุยต่อทันที… เมื่อเราปีนขึ้นไปทางบันไดขวาบนของห้อง เราจะได้รู้ว่า เราถูกขังอยู่ในยานไฮเทค “ปักษาทมิฬ” ที่เราเคยเห็นมันจอดอยู่ที่นครลอยฟ้านั่นเอง… กลับเข้ามาในห้อง ตอนนี้มีทางให้เราไปได้ 2 ทาง คือ “ช่องแอร์ซ้ายบน” และ “ประตูขวาล่าง” นั่นเอง.. ผู้เขียนแนะนำให้ไปประตูขวาล่างก่อน เพราะช่องแอร์ค่อนข้างซับซ้อนและมืดมากๆ อาจงงจนไปต่อไม่ถูก.. เอาจุดใกล้ๆชัวร์ๆก่อนดีกว่า…
เคาะประตู.. แล้วยามจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น.. จะมีช้อยจ์ขึ้นมาให้เราเลือก ก็ให้เราเลือก “แกล้งป่วย” ไปครับ.. พอยามเข้ามา เราก็จะทุบยามจนสลบ(มุกคลาสสิค ที่ยามไม่เคยรู้ทัน 😂).. ออกจากห้อง จะพบว่า ในพื้นที่นี้มีห้องอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง และ “สายพาน” เพื่อไปยังพื้นที่อื่น.. ไปที่ห้องซ้ายมือถัดจากเราก่อน จัดการศัตรู(จะมีไอย์ล่าแค่คนเดียวที่โจมตีได้ เพราะอีกสองคนไม่มีอาวุธ.. ไอย์ล่าใช้ร่างกายเป็นอาวุธ..).. รีบจัดการศัตรูให้เร็วที่สุดด้วยคำสั่งโจมตีธรรมดาของไอย์ล่านี่แหละ เพราะเร็วที่สุด ไม่ต้องเยิ่นเย้อ อย่าลืมว่าเราไม่มีไอเท็มเติมพลังเลยนะ.. อย่าให้ไอย์ล่าตายเด็ดขาด…
เมื่อเปิดกล่องสมบัติ เราจะได้ “เงินทั้งหมด” ของเรากลับมา.. ต่อไปไปที่ห้องขวาบนก่อน(อย่าเพิ่งไปซ้ายบน).. ห้องนี้จะมีศัตรูที่เป็น “หุ่นยามรักษาการณ์” กลมๆลอยอยู่.. ไม่ควรใช้โจมตีธรรมดา เพราะอาจแรงไม่พอและทำให้การต่อสู้เยิ่นเย้อ ทำให้ไอย์ล่าเป็นอันตรายได้.. ดังนั้นให้ใช้ท่าพิเศษในเทคนิค “ยกทุ่ม” โจมตีแทน.. แรงกว่าหลายเท่า ทีเดียวจบๆ.. เปิดหีบสมบัติ จะได้อาวุธชุดเกราะของเพื่อนเราหนึ่งคนคืนมา.. ทีนี้ก็มีคนช่วยสู้เพิ่มอีกหนึ่งคน…
ต่อไปเข้าห้องซ้ายบน(จากห้องขังเรา).. ห้องนี้มีหุ่นยามหนึ่งตัว และบันไดลิงยาวขึ้นไป.. จัดการเจ้าหุ่น และสูดยาดมหนึ่งที.. เพราะคุณกำลังจะเจอกับ “ความมึน” ที่มึนได้โล่ห์จริงๆ…
เมื่อปีนขึ้นไปจนถึงบนสุด.. เราจะมาโผล่ในช่องแอร์อันมืดตึ้บนั่นเอง.. ช่องแอร์นี้จะเชื่อมกับหลายห้องหลายพื้นที่.. บันไดสามารถปีนขึ้นลงได้ และช่องเหล็กสามารถส่องดูข้างล่างได้.. คำแนะนำก็คือ ไปให้ทั่ว ให้ครบทุกห้องนั่นเอง.. เพื่อเอาชุดเกราะเพื่อนเราและไอเท็มคืนนั่นเอง… ภาระกิจสำรวจยานปักษาทมิฬนี้ ต้องใช้ความจำให้หัวสมองเรานิดนึงครับ เขียนแผนที่ขึ้นมาในสมองของเรา และไปให้ทั่ว.. บอกเลยว่า “มึนแน่นอน” 😂 แต่ก็ท้าทายดีครับ… ลุย…..
เก็บให้ครบทั้ง เงิน, อาวุธชุดเกราะของทุกคน, และ ไอเท็มทั้งหมดของเรา.. ที่ช่องเหล็กกลางล่างสุดของช่องแอร์ เมื่อเราส่องลงไป เราจะเห็นเจ้าดาลตั้นสั่งให้ลูกน้องของมันยำยานอีพอร์ชของเราอยู่.. มันจะแพล่มว่ายานลำนี้จะเป็นราชรถสุดชิคเพื่อเพิ่มบารมีให้มัน(ฝันไปเถอะ)..
เมื่อหาห้องที่ในกล่องสมบัติมีไอเท็มทั้งหมดของเราเจอ.. ให้ปีนขึ้นบันไดซ้ายบนของห้อง เราจะมาโผล่ที่ปีกซ้ายของปักษาทมิฬ.. ลมจะแรงมากจนเรายืนนิ่งๆไม่ได้.. บนนี้จะมีหุ่นยามรักษาการณ์อีกรุ่น ซึ่งมันสามารถใช้ท่าที่ทำให้เราไม่สามารถใช้เทคนิคพิเศษและใช้ไอเท็มได้.. ลำบากหน่อย แต่เมื่อกำจัดได้ จะได้ค่าประสบการณ์ถึง 1,500 แต้มเลยทีเดียว.. ดังนั้น เก็บให้หมดครับ…
เรียบร้อยแล้วไปที่ไอพ่นซ้ายล่างสุดของปีกนี้.. สำรวจที่ไอพ่น จะเกิดเหตุการณ์บางอย่าง เราจะรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังมา.. มันคือเจ้า “โกเลม” ลูกน้องดาลตั้นนั่นเอง.. จัดการมันให้ได้… เมื่อเราเอาชนะมันได้ เจ้าโกเลมจะแสดงความรู้สึกที่แท้จริง.. คือมันไม่ได้อยากขึ้นมาตรงนี้เลย เพราะมันกลัวความสูง 😂 (แต๋วแตกกันเลยทีเดียว.. แอ๊บโหดอยู่ตั้งนาน..)..
จากนั้นเจ้าดาลตั้นจะอัพเกรดยานอีพอร์ชเสร็จพอดี.. มันจะเปิดประตูเพื่อเอายานออกไปแว๊นซ์.. เราจะเห็นพอดี เราจะรีบวิ่งตามไปดู.. เจ้าดาลตั้นก็ไม่รอช้า สาดกระสุนใส่เราทันที.. ซึ่งนั่นก็ทำให้กลุ่มของเราหัวร้อนขึ้นมาพอสมควร.. “แกจะต้องได้รับบทเรียน ดาลตั้น !!”…
เราจะกระโดดด้วยความเท่ห์ขึ้นไปยืนประจัญหน้ากับมันบนยานอีพอร์ช.. ที่เหลือคงไม่ต้องบอก.. กระทืบให้ยับ 😂… เมื่อเราเอาชนะดาลตั้นได้ ดาลตั้นจะพยายามอัญเชิญเจ้าโกเลมมาช่วยสู้อีกครั้ง.. แต่เรื่องอะไรมันจะมา ขนาดยานลำใหญ่ๆ มันยังกลัวความสูงซะแต๋วแตก.. นี่ยานลำเล็กนิดเดียว คงจะมาหรอก 😂… เมื่อลูกน้องไม่มา เจ้าดาลตั้นก็เลยต้องยอมแพ้ไปโดยปริยาย มันจะหายตัวไป.. ส่วนพวกเรา ก็จะได้ยานอีพอร์ชสุดรักกลับมาครอบครองอีกครั้ง พร้อมกับความสามารถพิเศษในการเหาะเหินเดินอากาศ แว๊นซ์ได้อีกด้วย.. สุดยอดไปเลย…
ก่อนที่ยานจะตก เราทุกคนจะช่วยกันกดปุ่มมั่วไปหมด จนเผลอไปกดปุ่ม “ยิงเลเซอร์” เฉือนเอาปีกยานปักษาทมิฬแหว่งเป็นแนวยาว.. ไฟท่วม.. เครื่องตก ตายอนาถยกลำ แบบที่เราเองก็ไม่ได้ตั้งใจ.. (ขอโทษทีละกัน เพิ่ลๆที่อยู่บนยาน 😂.. คราวหน้าจะไม่ให้พลาดแบบนี้ 😂..).. แต่สุดท้าย เราก็จะสามารถคอนโทรลอีพอร์ชได้สำเร็จ.. เราจะกลับมาอยู่ที่หมู่บ้านผู้รอดชีวิตอีกครั้ง…
เข้าไปซื้อของในเต๊นท์.. มีของใหม่ๆมาเพียบ อาวุธ ชุดป้องกัน.. รอบนี้เมื่อซื้อของเสร็จ ชาวนูจะเดินหลบไป เพื่อให้เราสามารถเข้าไปเก็บไอเท็มด้านหลังเค้าได้.. และมันคือ “เมจิคแคปซูล” หรือยาเพิ่มพลังเวทย์ถาวรนั่นเอง… เสร็จแล้วออกมาเซฟให้เรียบร้อยครับ…..
เตรียมตัวพร้อมแล้วออกเดินทางไปยังถ้ำทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสุด.. เมื่อเข้าไป เราจะพบกับแสงกระพริบวิบวับที่สุดชะง่อนผา.. ให้เราเดินไปสำรวจ แล้วจอมมาร “มาร์กัส” จะปรากฏตัว.. เค้าจะชี้ให้เราดูความย่อยยับของอาณาจักร “ซีล” ที่พังทลายจมลงทะเลเพราะความทะเยอทะยานงี่เง่าของผู้คน.. เค้าจะเล่าและยอมรับ ว่าเค้าก็คือนายน้อย “เจนัส” ของอาณาจักรซีลนั่นเอง.. เค้าจะเล่าเหตุการณ์ตอนที่ “ลาวอส” แผลงอิทธิฤทธิ์ จนตัวเค้าและเหล่านักปราชญ์ในอาณาจักร ต้องถูกดูดกลืนไปโผล่ในช่วงเวลาต่างๆ จนเป็นปัญหามาถึงวันนี้นั่นเอง.. เค้าบอกว่า เค้าพยายามจะฆ่ามัน แต่เราก็มาขัดขวางได้อยู่ตลอด.. ระวังจะต้องตายเหมือนโครโน่ซักวัน.. ฟร็อกทนไม่ไหว ชักดาบออกมา และบอกให้มาร์กัสระวังปากเอาไว้(ถ้าเอาฟร็อกมาด้วย)…
เหตุการณ์เริ่มตึงเครียด.. มาร์กัสจะถามว่า เราอยากจะสู้กับเค้ารึเปล่าล่ะ?.. จะมีช้อยช์ขึ้นมาให้เลือก.. เอาตรงๆ ในใจก็อยากบวกขั้นสุดแหละ.. แต่มันไม่มีประโยชน์อะไร.. แถมเป้าหมายของหมอนี่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับเราอีกด้วย คือ “กำจัดลาวอส”.. ควรเอามาร่วมกลุ่มมากกว่า ดีกว่าฆ่ากันให้ตายไปข้างโดยไม่ได้อะไร… ดังนั้น ให้ใจเย็น เก็บดาบ และตอบว่า “ไม่” ไปครับ… แล้วเราจะได้เค้ามาร่วมกลุ่ม “เอ็กซ์ฟอร์ซ” ของเราเมื่อเดินออกมา….. 😂 เค้าจะบอกว่า โครโน่ยังมีโอกาสกลับมาได้ และนักปราชญ์ “กัสปาร์” (คุณลุงโฮมเลสที่สุดเขตเวลา) สามารถช่วยเรื่องความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในเส้นเวลาต่างๆได้…
เมื่อได้ “มาร์กัส” มาร่วมกลุ่มแล้ว.. เซฟให้เรียบร้อยและไปขึ้นยานอีพอร์ช.. เราจะเห็นว่าสัญญาณเวลาต่างๆเริ่มรวน และมีประตูมิติเกิดขึ้นในหลายช่วงเวลา… ให้เรามุ่งหน้าไปที่สุดเขตเวลาอีกครั้ง.. เข้าไปคุยกับคุณลุงโฮมเลส.. คุณลุงจะแสดงความเสียใจด้วยเรื่องโครโน่ แต่คงช่วยอะไรได้ไม่มาก มอบเพลงให้หนึ่งเพลง.. ให้เราทำทีเดินกลับมาขึ้นยาน คุณลุงจะเรียกเราอีกครั้ง.. ให้เรากลับไปคุยกับคุณลุง.. แกจะมอบสิ่งสำคัญมากๆให้กับเรา นั่นคือ “Chrono Trigger” ไข่แห่งกาลเวลา.. อาจจะฟักออกมาเป็นอะไรก็ได้ อยู่ที่ความมุ่งมั่นพยายามของเราทั้งหมด.. ให้เราเก็บเอาไว้ให้ดี.. บางทีมันอาจช่วยเรื่องของโครโน่ได้… สุดท้าย คุณลุงก็ยอมรับ ว่าแกคือ “กัสปาร์” นักปราชญ์แห่งเวลานั่นเอง…..
ต่อไปเดินทางข้ามเวลามายัง ปี 2300 A.D. เข้าไปที่โดมแรกใกล้ๆนี่แหละ Keepers Dome เปิดประตูเดินเข้าไปด้านในสุด.. จะได้พบกับชาวนูยืนหลับอยู่.. คุยกับเค้า เค้าจะให้ข้อมูลที่สำคัญมากๆ คือ “ยอดเขาแห่งความตาย” อาจสามารถชุบชีวิตคนที่ตายไปแล้วได้.. แต่ต้องมีสิ่งสำคัญสามอย่าง 1.ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของผู้ทำพิธี 2.ต้องเป็นคนสำคัญกับบางเรื่องอย่างมาก 3.ตุ๊กตาตัวแทนที่ต้องเหมือนผู้ตายทุกรายละเอียด.. และคนที่จะทำตุ๊กตาแบบนั้นได้ก็คือ พ่อมด “นอร์สไตน์ เบเคลอร์”.. ซึ่งเค้าจะชอบอยู่ตามงานเทศกาล.. ประมาณนั้น…
ไม่รอช้า.. รีบแว๊นซ์ยานอีพอร์ชไปยังงานเทศกาลในช่วงเวลาปกติของโครโน่ทันที.. เข้าไปที่เต๊นท์ผีสิงแรกขวามือนั่นเลย.. ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิด ว่าเจ้าตัวตลกหัวลอยได้ในเต๊นท์ผีสิงเห่ยๆนี่ จะเป็นยอดพ่อมดที่ทำเรื่องมหัศจรรย์แบบนั้นได้.. เราจะขอของรางวัลเป็นหุ่นเหมือนโครโน่ถ้าเราชนะเกมนี้.. เค้าดูอิดออดนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ตกลง.. เค้าต้องการ 40 Silver Point เพื่อเริ่มเกม.. ถ้าเรามีพอก็เล่นได้เลย แต่ถ้าเรามีเหรียญไม่พอก็ต้องไปเล่นเกมซุ้มต่างๆก่อนครับ(แนะนำให้ไปสู้กับหุ่นยนต์ที่โซนสองซ้ายมือเลยครับ จบเร็วดี สู้สามรอบก็ได้มา 45 Silver Point)..
กลับมาเล่นเกมกับคุณพ่อมดในเต๊นท์ผีสิงเมื่อพร้อม.. เค้าจะให้เราทำท่าเลียนแบบ “หุ่นเสมือนของโครโน่” เราก็กดไปตามที่หุ่นทำ.. ยกแขนซ้าย, ยกแขนขวา, หัวเราะ, และตกใจ.. เมื่อเราเอาชนะได้ ทำตามได้หมด เค้าจะขอเงินนิดหน่อยก็ให้ไป แล้วเค้าจะจัดส่งหุ่นเสมือนโครโน่ให้ถึงที่บ้านโครโน่เลย(เค้าว่างั้น)…
ออกจากงาน แล้วแจ้นไปที่บ้านโครโน่ทันที.. ขึ้นไปชั้นสอง จะได้เจอกับหุ่นเสมือนโครโน่และคุณแม่อยู่.. เข้าไปคุยกับคุณแม่ คุณแม่จะถามว่าโครโน่สบายดีไม๊ ฝากดูแลโครโน่ด้วยนะ(เล่นเอาเราจุกลำคอกันไปทั้งกลุ่มเลยทีเดียว.. เศร้าๆชอบกลนะ.. แต่ก็ต้องอดทนไว้ พูดอะไรไม่ได้..).. แล้วเราจะขอเอาหุ่นเสมือนของโครโน่ไป คุณแม่ก็อนุญาต.. เราก็เดินไปสำรวจที่หุ่น ก็จะได้ “หุ่นเสมือนโครโน่” มาครอบครอง…..
นั่งยานอีพอร์ชไปที่ปี 2300 A.D. อีกครั้ง.. เข้าไปคุยกับชาวนูใน Keepers Dome ที่เดิม.. เค้าจะบอกว่าโอเคทุกอย่างพร้อมแล้ว และเค้าจะส่งบางอย่างไปรอช่วยเราที่เทือกเขาแห่งความตาย.. จริงๆแล้วที่ชาวนูคนนี้พูดทั้งหมด คือข้อความที่เบลธาซาร์ฝากเอาไว้.. จบเรื่องแล้วก็กดปิดสวิทช์ที่ตัวเค้า แล้วเค้าก็จะได้หลับพักผ่อนอย่างแท้จริง…..
ออกจาก Keepers Dome ไปที่เทือกเขาแห่งความตายขวาบน.. เมื่อเขาไปในเทือกเขา จะปรากฏว่าลมแรงมากๆ.. ห้ามปล่อยจอยเด็ดขาดตอนเดิน ถ้าปล่อยจอยคือ จะถูกลมพัดออกจากภูเขาเลยจริงๆ.. เราจะได้เจอกับมอนสเตอร์ผู้ช่วย(ที่ชาวนูส่งมาช่วยเรา)ตนแรก.. เค้าจะแปลงร่างเป็นต้นไม้เพื่อบังลมให้เรา.. รอจังหวะที่ลมอ่อนแรง ค่อยเดินต่อไป ไปหลบหลังต้นไม้อีกต้น.. เดินไปเรื่อยๆจนทะลุบนสุด…
เมื่อทะลุ ก็จะเป็นโซนหิมะที่เราจะต้องผจญภัย เก็บสมบัติและตีมอนส์ไปเรื่อยๆ.. ของดีๆเยอะทีเดียว.. เราจะเจอจุดเซฟบริเวณซีกขวา.. เป็นจุดเซฟสำคัญที่ควรแวะมาเซฟบ่อยๆ.. เข้าถ้ำไปเราจะได้เจอ “Lavos Spawn : ลาวอสสปอว์น” อารมณ์คล้ายๆ “เซลจูเนียร์” ในดราก้อนบอล.. เป็นลาวอสตัวขนาดย่อมๆ มาขวางทางอยู่เรื่อยๆ.. แสบใช้ได้ทีเดียว.. ยิงหนามสามอันขึ้นฟ้าให้ลงมาปักหัวพวกเราพร้อมๆกัน ใช้เวทย์โดมไฟโจมตี.. พยายามอย่าให้ใครตายระหว่างการต่อสู้ เพราะหาจังหวะชุบชีวิตยากมากๆ.. ฮีลให้ทัน ฟันให้แรง.. น้องๆบอสดีๆนี่เอง…
กดสวิทช์เพื่อเปิดปากถ้ำใหม่.. เข้าไปเรื่อยๆจะไปโผล่อีกโซน แล้วเราจะได้เจอมอนสเตอร์ผู้ช่วยอีกหนึ่งตน.. เค้าจะบอกเราว่า ทางลื่นและลมแรงมากๆ ให้เดินระวัง.. ถ้าเราพลาดตก จะไปโผล่ตรงจุดเซฟข้างล่างเลย.. เสียเวลาไปอีก… ก็ระวังกันให้ดีครับ…..
เมื่อผ่านทางเดินแคบแสนลื่นมาได้.. ก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ.. เราจะได้เจอกับมอนสเตอร์ผู้ช่วยอีกหนึ่งตน บอกคำใบ้ว่า “ให้ดันเปลือกหอย และให้ปีนขึ้นเปลือกหอย” เป็นปริศนา… พอสุดทางเราสามารถปีนลงมาเจอจุดเซฟและกล่องสมบัติหนึ่งกล่องที่คาใจเราตั้งแต่เข้ามาแรกๆ.. ก่อนจะได้พบกับ ลาวอสสปอว์นตัวสุดท้าย… ปราบมันให้ได้ แล้วดันเปลือกของมันมาทางขวาบน.. แล้วสำรวจที่เปลือกมัน.. เราจะมีปีนขึ้นมาบนเปลือก เพื่อที่จะสามารถปีนขึ้นหน้าผาไปต่อได้อีก(ถึงจุดนี้ ผู้เขียนอยากแนะนำให้เอา มาร์ล เป็นผู้นำกลุ่มนะครับ ตามด้วย ลุคก้า และฟร็อก ถ้าไม่อยากพลาดฉากกอดในตำนานของ มาร์ลที่กอดโครโน่หลังเค้าฟื้นนะครับ.. ถ้าใช้คนอื่นจะไม่มีฉากนี้นะ.. 😁)…
เดินต่อไปด้านบน.. เราจะได้พบกับจุดสูงสุดของยอดเขาแห่งความตายนี้.. จะมีต้นไม้แห้งๆอยู่หนึ่งต้น… พวกเราจะเอา “โครโน่ทริคเกอร์” ออกมาโชว์.. มันจะลอยขึ้นบนฟ้าแล้วแตกสลาย.. ตอนแรกเราคิดว่าไม่ได้ผล แต่สักพักมันจะพาเราวาร์ปไปตอนที่โครโน่กำลังจะถูกลาวอสยิงแสงใส่นั่นเอง.. มันเป็นช่วงเวลาที่หยุดเดิน.. มึเพียงพวกเราที่ขยับได้.. เราจะเอาตุ๊กตาเสมือนของโครโน่ไปวางไว้แทนตัวจริงของโครโน่.. แล้วนำร่างจริงของโครโน่ออกมา.. 😊
เสร็จแล้วเราจะวาร์ปกลับมาที่ยอดเขาอีกครั้ง.. โครโน่ได้สติอย่างอ่อนเพลีย ท่ามกลางเพื่อนๆที่รายล้อมน้ำตาซึม.. มาร์ลจะเข้าไปสวมกอดอย่างอบอุ่นและดีใจ แล้วบอกว่า “อย่าทิ้งพวกเราไปแบบนี้อีกนะ…”… น้ำตาจะไหลครับ.. นึกว่าจะเสียไปแล้วนี่นะ…..
เราจะกลับมายังจุดสิ้นสุดของเวลาอีกครั้ง.. คุณลุงจะแสดงความยินดีกับเรา และบอกว่าเราสามารถเลือกจบเรื่องนี้ได้หลากหลายแบบ.. พร้อมกับบอกใบ้ถึงไอเท็มสำคัญในแต่ละยุคสมัยให้กับเรา.. มันจะช่วยเป็นพลังให้กับเราได้อย่างมาก.. เราไม่พลาดอยู่แล้วสิครับ จะรีบจบทำไม.. เราจะไปแว๊นซ์กันต่อ ในเมื่อกลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซอยู่พร้อมหน้ากันขนาดนี้.. 😁 อย่าลืมฮีลที่ถังน้ำแล้วเซฟให้เรียบร้อยครับ…..
ตะลุยภาระกิจ รวบรวมไอเท็มมหาเทพเพื่อปราบลาวอสสส !!!
ตรงนี้จะเป็นโค้งสุดท้ายของตัวเกมแล้วนะครับ.. เป็นการหาไอเท็มสำคัญ ไอเท็มเทพ และเพิ่มเลเวลให้กับตัวละคร ก่อนจะไปตบบอสใหญ่.. ดังนั้น ฟาร์มเลเวลให้ฉ่ำที่สุด ในทุกจุดที่เห็นว่าจ๊าบ… ปะ ไปกัน.. 😁
ล่าอาวุธเทพให้ “โรโบ้” !!
ไปยังปี 2300 A.D. เดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขาแห่งความตาย.. ไปยัง “จีโน่โดม” เกาะกลางทะเลซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเหล่าโรบ็อทต่างๆนั่นเอง…
ในภาระกิจนี้ เราจำเป็นจะต้องให้ “โรโบ้” อยู่หัวแถวแนวหน้า.. เพราะมีหลายจุดที่ต้องโรโบ้เท่านั้นในการสื่อสาร หรือถอดรหัสต่างๆ.. เปลี่ยนให้โรโบ้อยู่หน้าสุดในคำสั่ง “ปาร์ตี้”… พร้อมแล้วเดินเข้าไปในโดม อย่าลืมพกยาดมเข้าไปด้วย เพราะซับซ้อนและมึนขั้นสุด.. เตรียมสมองในการจดจำทางให้ดี… 😁
เมื่อสำรวจทีแผงคอนโทรล.. จะมีเสียงพูดดังปรากฏขึ้น.. ทักทายโรโบ้ราวกับรู้จักโรโบ้เป็นอย่างดี รู้ทั้งรหัส และชื่อเล่น.. พูดจาแปลกๆชวนให้สงสัยบางส่วน.. เค้าจะเปิดประตูเพื่อให้เข้าไปในโรงงานได้.. เราก็เข้าไป…
เมื่อเข้าไปในส่วนแรกนี้.. สิ่งจะได้เจอคือสายพานขนาดใหญ่ตรงด้านหน้า.. ขึ้นไปโลด… เราจะได้พบกับศัตรูทั้งหมด 5 ชุดด้วยกัน.. 2ตัว, 2ตัว, 4ตัว, 4ตัว, และ 6ตัว.. เรียกว่า “หวานเจี๊ยบ” และเหมาะจะเป็นจุดเก็บเลเวลอย่างยิ่ง.. ผู้เขียนแนะนำให้วนเก็บเลเวลบนสายพานนี้หลายๆรอบเลย เอาให้สะใจก่อนจะไปต่อ.. มันจะทำให้เรากระทืบบอสได้สบายขึ้นอีกด้วย…
เทคนิคที่แนะนำก็คือ.. ให้ใส่แหวนที่ทำให้ติดสถานะ “บ้าคลั่ง” ให้กับเพื่อนของเราสองคน.. เหลือไว้แค่คนที่ใช้เวทย์สายฟ้าให้เราควบคุมได้คนเดียว(คนที่ใช้ได้แรงที่สุด).. สาเหตุที่แนะนำแบบนี้ก็เพราะว่า มันจะทำให้ทุกๆอย่างจบเร็วมากๆ เราจะได้วนได้เยอะรอบที่สุด เร็วที่สุด.. อย่างตัวผู้เขียน ใส่แหวน “บ้าคลั่ง” ให้กับ โรโบ้และโครโน่ และใส่แหวน “โจมตีสวน+50%” ให้กับ มาร์กัส.. การใส่แหวนที่ติดสถานะบ้าคลั่ง จริงอยู่ที่เราไม่สามารถควบคุมตัวละครได้ แต่สิ่งที่เราได้กลับมาคือ “การโจมตีที่รุนแรงขึ้นเกือบสองเท่า”+”ไม่มีลังเลใดๆทั้งสิ้น” หลอดเต็มคือฟันทันที.. มันสะดวกมากๆสำหรับการฟาร์มเลเวล… ในชุดที่มี 2 และ 4 ตัว เราสามารถฟันปกติช่วยเพื่อนเราไปเรื่อยๆได้(เพื่อประหยัดเวทย์).. แต่ในชุดสุดท้าย 6 ตัว.. ให้ใช้เวทย์ “สายฟ้าระดับ2” ของมาร์กัส.. ทีเดียวจบ ตายยกฝูง… เมื่อสุดสายพานก็ ให้”โรโบ้”ฮีลให้ทุกคนเลือดเต็ม… ออกจากห้อง แล้ววิ่งไปทางขวาสุด สำรวจที่แสงกระพริบเพื่อกระโดดลงท่อระบายไปออกด้านหน้าใหม่ เพื่อขึ้นสายพานอีกรอบ.. วนไปแบบนี้ครับ.. จนกว่าจะได้ค่าประสบการณ์หรือเลเวลที่พึงพอใจ…..
เมื่อพอใจแล้วกับการฟาร์มเลเวล.. ทีนี้เราจะเดินทางต่อ เริ่มจากตรงสุดสายพานใหญ่นะครับ.. ออกจากห้องไป อย่างที่รู้คือ ทางขวาสุดจะมีแสงกระพริบเพื่อออกไปด้านหน้า.. แต่เราจะมาเริ่มแนะนำห้องจากทางซ้ายกันก่อน.. ห้องซ้ายสุด เป็นห้องแนวตั้ง บนสุดมีตุ๊กตามอนสเตอร์วางอยู่ แต่ยังเข้าไปเอาไม่ได้เพราะมีหุ่นยนต์อารักขาคอยขวางทางเราอยู่ ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหน.. ก็ให้ออกมาก่อน…
ถัดมาจะเป็นช่องทางเดิน.. เดินเข้าไปจะเจอโซนแรก มีประตูทางซ้ายมือและทางขวาจะเป็นห้องชาร์จสายฟ้าให้หุ่นยนต์(มีสายฟ้าแลบแปล้บปล้าบรอบตัว).. ให้ไปประตูทางซ้ายก่อน.. เมื่อเข้าไปจะพบกับโซนที่สอง ซึ่งทางซ้ายจะเป็นห้องวางตุ๊กตามอนสเตอร์อีกตัว แต่ล็อคอยู่.. ให้มาทางขวาก่อน.. จะมีสวิทช์แสงสามอัน.. ให้กดให้อันซ้ายและขวาเป็นสีแดง อันกลางเป็นสีเขียว.. จะได้ยินเสียงปลดล็อคที่ห้องชาร์จสายฟ้าให้หุ่นยนต์ที่โซนหนึ่ง.. เดินกลับลงไปดู จะมีหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเดินเข้าไปชาร์จไฟ แล้วเดินลงไปเข้าช่องๆหนึ่งซึ่งพอดีตัวมัน แล้วประตูห้องใกล้ๆจะเปิดออก(ทำเป็นตัวอย่างให้เราดู).. เราก็เข้าไปเก็บสมบัติให้ห้องที่มันเปิดซะ.. แล้วกลับมาทำบ้าง…
ให้เราเข้าไปชาร์จตัวเองในห้องชาร์จ.. พอมีสายฟ้ารอบตัวโรโบ้ ให้เรารีบวิ่งเอาตัวเข้าไปในช่องที่อยู่ข้างๆประตูที่ล็อคอยู่ในโซนสองด้านซ้าย ประตูใกล้ๆจะคลายล็อคเช่นเดียวกัน.. ก็เข้าไปในห้องแล้วเก็บตุ๊กตามอนสเตอร์มาครอบครองก่อนหนึ่งตัว…
ได้มาแล้วออกมายืนตั้งหลักตรงจุดที่เราเข้ามาตอนแรกอีกครั้ง(ที่ขวามือเป็นแสงกระพริบเพื่อออกไปห้องแรก).. ใกล้ๆแสงกระพริบจะมีลิฟท์อยู่หนึ่งตัว.. ขึ้นลิฟท์ไปโลด.. ลิฟท์จะพาขึ้นไปชั้น 2.. เมื่อโผล่ออกมาจากลิฟท์ ก็ให้เข้าประตูซ้ายมือใกล้ๆนั่นเลย.. วิ่งขึ้นไปด้านบนจนสุด จะเจอลิฟท์อีกตัว.. แต่ตัวนี้จะพาเราลงไปชั้น 1 ชั้นเดิมนั่นแหละ.. แต่เมื่อโผล่ออกมาจากลิฟท์ อย่าเพิ่งเดินไปไหน ให้เหลือบไปมองทางซ้าย จะมีทางเดินและมีลูกศรสีเขียวเรืองแสงอยู่ด้านบน.. เดินไปโลด.. เดินไปทางซ้ายจนทะลุ เราจะได้เห็นหุ่นยนต์หนึ่งนายกับกล่องสมบัติสองกล่อง แต่ยังไปหามันไม่ได้ เพราะจริงๆเป็นคนละห้องและมีท่อขวางอยู่.. ให้เราเดินลงมานิดนึง จะพบกับสวิทช์ไฟ.. กดไปหนึ่งที ทีนี้สายพานจะไหลสลับจากล่างขึ้นบน(เพื่อให้เรานำสายฟ้ามาทัน)..
วิ่งกลับมาที่สายพาน.. วิ่งสวนสายพานลงมานิดนึงแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอกับประตูหน้าห้องที่มีเจ้าหุ่นยนต์กับกล่องสมบัติเมื่อกี๊นี้นั่นแหละ.. กดสวิทช์ให้ช่องสำหรับหุ่นยนต์เปิดไว้.. ง้างรอไว้… เพื่อเดี๋ยวเราจะไปชาร์จไฟที่เดิม แล้วแจ้นเข้ามาอยู่ในช่องนี้นั่นเอง.. เพื่อให้ประตูเปิด… คำนำแนะนำก็คือ “รีบวิ่งให้เร็วที่สุด” เพราะมันค่อนข้างไกล สายฟ้าจะหมดซะก่อน…
ว่าแล้วก็กลับไปที่ช่องชาร์จไฟเพื่อชาร์จสายฟ้าอีกครั้ง.. ได้สายฟ้าแล้วรีบวิ่งกลับมา เอาตัวยัดเข้าไปให้ช่องให้ทัน ประตูก็จะคลายล็อคออก.. ปึ้ง!!.. เข้าไปโลด.. กวาดสมบัติให้หมด.. แล้วเดินนำเจ้าหุ่นยนต์นั่นออกมา(มันจะเอ๋อๆหน่อยนะ) พามันไปเหลี่ยมดีๆ.. พามันจนมาถึงห้องที่มีตุ๊กตามอนส์เตอร์ห้องแรก.. ให้มันยืนจ้องหน้ากันแบบนั้น.. ทีนี้เราก็เดินเข้าไปหยิบตุ๊กตาและสมบัติได้แล้ว.. เย่!!.. ได้แล้วเดินออกมา…
กลับไปขึ้นลิฟท์ใกล้แสงกระพริบอีกครั้ง.. เมื่อลิฟท์เปิด ไม่ต้องเข้าประตูใกล้ๆแล้ว.. ให้เดินลงมาแล้วไปทางซ้าย.. จะมีหุ่นยนต์สีชมพูหวานแหววเดินมาต้อนรับเรา พร้อมกับทักเราว่า “สวัสดี โพรมิทิอุส..”.. เหมือนรู้จักกับโรโบ้เป็นอย่างดี…
ใช่แล้ว เธอคือ “อโทรโพธ” พี่น้องของโรโบ้นั่นเอง.. โรโบ้เองก็จำเธอได้.. เธอจะบอกว่า ให้โรโบ้หยุดแกล้งเป็นพวกเดียวกับมนุษย์ได้แล้ว.. ถึงเวลาฆ่าพวกเราตามที่แม่ต้องการได้แล้ว(อ้าว.. มาเชี่ยแล้วไง.. ทรง.. 😆).. เธอจะลงมือโจมตีเรา แต่โรโบ้จะขวางเอาไว้ โรโบ้จะรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนเดิม และขอพวกเราว่า ให้เค้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง.. แล้วอโทรโพธกับโรโบ้จะสู้กัน.. ในตอนนี้ดูเหมือนพลังและความสามารถของโรโบ้จะนำอโทรโพธไปไกลแล้ว.. เอาชนะได้ไม่ยากเท่าไหร่(แต่ก็ต้องระวังอยู่นะ)..
เมื่อโรโบ้เอาชนะอโทรโพธได้.. ความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ จะทำให้เมมโมรี่ดั้งเดิมของอโทรโพธที่แอบสำรองไว้ก่อนจะถูก “มาเธอร์เบรน” เขียนทับ ใช้งานได้.. อโทรโพธจะเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง.. เธอจะฝากไอเท็มสำคัญไว้ให้โรโบ้ได้ใช้เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง… ก่อนที่เธอจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ… ดราม่าไปอีก.. งี่เง่าที่สุด เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ…..
เดินทางต่อมาซ้ายบน.. จะได้พบกับ “ประตูใหญ่” ซึ่งมีจุดสีเขียวอยู่ซ้ายและขวา.. เอาตุ๊กตามอนสเตอร์วางที่จุดแสงสีเขียวทั้งซ้ายและขวา แล้วประตูจะเปิดออก… เข้าไปในห้องใหญ่ จะได้พบกับมหาเอไอตัวแม่แห่งวงการ.. นั่นคือ “มาเธอร์เบรน” ผู้เป็นผู้นำและผู้สร้างหุ่นยนต์ทั้งหมดในยุคนี้นั่นเอง.. เธอแนะนำให้โรโบ้อยู่เฉยๆเพื่อให้เธอควักสมอง ล้างเมมโมรี่ และมาร่วมครองโลกไปพร้อมๆกันในฐานะกองทัพหุ่นยนต์ ปล่อยให้มนุษย์เป็นอดีต.. แต่ก็แน่นอนว่า โรโบ้ไม่ยอมแน่นอน เพราะสิ่งที่ “ลุคก้า” และเพื่อนๆทุกคนมอบให้เค้า.. เป็นความทรงจำที่ ไม่สามารถประเมินค่าได้จริงๆ.. จึงทำให้อีเจ๊กริ้วขั้นสุด.. ก็จึงต้องบวกกัน อย่างแรง… 😂
เอาอีเจ๊ให้ลง.. เมื่อเอาชนะได้.. เราจะสามารถปิดระบบทั้งหมดได้อย่างถาวร.. หุ่นยนต์ทั้งหมดจะหยุดทำการ และโรโบ้จะได้ไอเท็มมหาเทพถึง 2 ชิ้นด้วยกัน… ก็ลองใช้กันดูครับ….. 👍👍👍
นำหินสุริยะมาสร้างอาวุธเทพให้ “ลุคก้า” !!!
กลับไปเติมพลังและเซฟให้เรียบร้อย ที่ไหนก็ได้ แต่ชัวร์ที่สุดก็ “สุดเขตเวลา” เช่นเคย.. จบๆง่ายๆ มีทั้งอ่างฮีลและจุดเซฟ… พร้อมแล้ว จัดทีมสามคน.. เปลี่ยนชุดเกราะเป็นชุดเกราะกันไฟ “รูบี้เวสต์” หรือ “ตาบันส์เวสต์” จะช่วยลดดาเมจจากไฟได้ครึ่งนึง.. และอย่าใส่แหวนหรือเครื่องประดับที่เพิ่มความสามารถในการ “โจมตีสวนอัตโนมัติ”.. เดี๋ยวจะเสียเรื่อง… เตือนแล้วนะ…
พร้อมแล้วออกเดินทางไปที่ปี 2300 A.D. เช่นเคย.. แต่รอบนี้เราจะมาที่เกาะทางซ้ายล่างบ้าง.. เป็นเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลเช่นเคย.. กลางเกาะมีถ้ำอยู่.. เมื่อเข้าไปก็จะได้พบกับ “วิหารสุริยะ” Sun Palace.. เดินเข้าไปไม่ไกลจะได้พบกับ “ซันอ็อฟเดอะบิช” ทุ้ย!!.. 😂 “ซันอ็อฟเดอะซัน” เฟ้ย!!.. (Son of the Sun).. ลูกพระอาทิตย์ว่าซั่น.. จะเป็นลูกกะตาแห่งเปลวเพลิง มีไฟล้อมรอบ 5 หย่อม.. อย่าโจมตีดวงตาตรงกลาง เพราะไม่มีประโยชน์และมันจะโจมตีสวนแบบเจ็บทั้งกลุ่ม.. มันถอดดวงใจเอาไว้ที่ไฟหย่อมใดหย่อมหนึ่งในทั้งห้าหย่อม.. เราต้องหาให้เจอโดยการแบ่งกันโจมตีไม่ซ้ำกัน(โจมตีธรรมดาเท่านั้นนะ ไม่ต้องใช้เวทย์ ไม่มีประโยชน์ครับ).. จนโดนหย่อมไหนแล้วดังปิ๊งป่อง.. นั่นแหละ รุมสกรัมหย่อมนั้นทันที.. เพราะดาเมจจะเข้าตัวกลางด้วย.. ซักพักมันจะหมุนเปลี่ยนตำแหน่งอีก เราก็แยกกันโจมตีอีก.. พอเจอ ก็ค่อยรุมตีหย่อมนั้น.. ทำไปเรื่อยๆจนมันแพ้.. มันก็จะถอยเข้าไปด้านใน.. ก็ไม่ต้องตาม ก็นั่งอยู่ตรงนี้แหละ….. จะบ้ารึไง!!!.. ตามมันเข้าไป!! จะนั่งทำไมเล่า.. 😂 ..
เข้าสำรวจที่ตัวเจ้านั่น.. เราก็จะได้ “Moon Stone” หรือศิลาจันทรามาครอบครอง.. ขึ้นเครื่องอีพอร์ช วาร์ปไปยุคหิน แล้วเหาะไปที่ถ้ำ “Sun Keep” หรือ “ศาลเจ้าสุริยะ” เป็นถ้ำอยู่บนเกาะเล็กๆขวาบนสุดของแผนที่.. เมื่อเข้าไป เราก็จะได้เห็นจุดที่แสงอาทิตย์สอดเป็นลำลงมาพอดี.. ก็ให้เอา “Moon Stone” วางไว้ตรงนั้นแหละ ให้มันอาบแสงอาทิตย์.. เสร็จแล้ววาร์ปไปดูในปี 600 A.D. ปรากฏว่ามันก็ยังอยู่ และส่องแสงประกายสวยงาม.. เสร็จแล้ววาร์ปไปดูที่ปี 1,000 A.D. ปรากฏว่า มันได้หายไปแล้ว.. ต้องมีหมาตัวไหนซักตัวแฮปไป.. เราต้องตามให้เจอแล้วเอามาวางที่เดิม.. ใครฟระ ซนจริงๆ…
ยังไม่ต้องวาร์ปไปไหน.. ขับมาบินหาบริเวณหมู่บ้าน “พอร์เร่” ซ้ายล่างสุดของแผนที่.. แหม่ ชัดมาก อิดอก.. 😂 แวววาวทะลุหลังคาออกมาเลยทีเดียว.. บ้านผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง.. จอดอีพอร์ชแล้วลงไปตบมัน… 😆
พอเราเข้าไปหาข้อมูล.. อิผู้ใหญ่บ้านจะทำไม่รู้ไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง.. ปล่อยไปก่อน เดินขึ้นไปเก็บของในหีบสมบัติผนึกเวทย์ที่ชั้นสอง.. จะได้มาสองชิ้น “แบล็กเวสต์” กับ “ ไวท์เวสต์”.. ออกมาจากบ้านหมอนั่น.. แล้วไปที่ร้านอาหาร “Snail Stop” ทางขวามือ.. คุยกับเจ้าของร้านที่บาร์.. แกจะเสนอขายเนื้อแห้งพรีเมี่ยมให้เรา.. ก็ซื้อไว้เลย.. แพงหน่อย แต่ก็ต้องใช้…
เมื่อได้เนื้อแห้งมาแล้ว.. ให้ขึ้นยานแล้ววาร์ปไปที่ปี 600 A.D. เข้าไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านทางซ้ายนั่นแหละ.. แล้วเอาเนื้อแห้งพรีเมี่ยมให้แม่ครัวที่กำลังง่วนอยู่.. เธอพยายามจะจ่ายเงินให้เรา แต่ไม่ต้องเอา เลือกให้เธอฟรีๆไป.. แล้ววาร์ปกลับมายังปี 1,000 A.D. อีกครั้ง.. เข้าไปคุยกับอิผู้ใหญ่บ้านใหม่.. รอบนี้จะไม่ไก๋แล้ว.. จะมอบ “Moon Stone” คืนให้เรา.. ได้มาแล้ว เราก็เอากลับไปวางที่ศาลเจ้าแสงอาทิตย์ที่ขวาบนของแม็พเหมือนเดิม.. แล้ววาร์ปไปที่ยุคอนาคตปี 2,300 A.D. (เอาลุคก้าเข้ากลุ่มด้วยนะ)..
เมื่อเข้าไปในศาลเจ้าแสงอาทิตย์รอบนี้.. “Moon Stone” ได้กลายเป็น “Sun Stone” ที่เปี่ยมไปด้วยพลังเรียบร้อยแล้ว.. ลุคก้าไม่รอช้า รีบเอาซันสโตนกลับบ้านทันที.. เธอใช้เทคโนโลยี อัดพลังจากซันสโตน ย่อลงไปอยู่ในปืนมหาปลัยอันใหม่ของเธอ มันมีชื่อว่า “วันเดอร์ฉ็อต” นั่นเอง.. ในขณะที่กำลังอวดปืนใหม่ คุณพ่อตาบันก็ไม่ยอมแพ้ แอบจิ๊กซันสโตนไปโมแก็ดเจ็ตให้ลูกสาวเหมือนกัน.. นั่นคือ “แว่นกันแดดสุดจ๊าบ” ที่สามารถบู๊ตดาเมจให้รุนแรงขึ้นได้ด้วยว่าซั่น.. สรุปคือ ภาระกิจนี้ สาวลุคก้าได้อัพพลังโจมตีไปแบบโหดๆนั่นเอง… เย่!!..
ฟื้นฟูธรรมชาติ ด้วยพลังพืช!!!
ยังจำได้หรือไม่ ในตอนที่เราไปลุยอาณาจักรลอยฟ้า … จะมีแม่นางคนหนึ่ง ถามเราเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์พืช ว่าควร “เก็บไว้” หรือ “ทำลาย”.. แล้วเราบอกว่า ให้เก็บไว้ให้ดี… นั่นแหละ เราจะมาสานต่อภารกิจนี้กันครับ…..
เริ่มต้น.. นั่งยานไปที่ปี 600 A.D. แว๊นซ์ไปที่ “Fiona Villa” หรือบ้านของฟิโอน่านั่นเอง.. บ้านเดี่ยวใกล้ทะเลทราย.. เข้าไปในบ้านฟิโอน่า และเดินไปคุยกับเธอ 2 รอบ.. รอบแรก เธอจะบอกว่า ดีใจมากที่สามีของเธอกลับมาจากสงครามแล้ว.. รอบที่สอง เธอจะพูดถึงสุดยอดเมล็ดพืชที่เธอได้รับมา.. มันยอดเยี่ยมและแข็งแรงมากๆ.. แต่ไม่สามารถปลูกได้ เพราะมีมอนสเตอร์จากทะเลทรายด้านล่าง คอยกวนและทำลายพืชพรรณที่เธอปลูกเสมอ… ไม่รอช้าครับ.. ไปตื้บมันกัน..
อันดับแรก.. จัดปาร์ตี้ที่มีนักเวทย์ “น้ำ” หรือ “น้ำแข็ง” อยู่ในกลุ่ม.. ซึ่งก็คือ “มาร์ล” กับ “ฟร็อก” นั่นเอง.. สาเหตุก็เพราะ มอนส์เตอร์และบอสในถ้ำ แพ้น้ำ.. เมื่อโดนน้ำ พลังป้องกันมันจะลดลง.. จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมากครับ.. “ลุคก้า” ไม่ต้องเอาไปนะครับ.. เพราะธาตุไฟจะเพิ่มพลังให้มัน.. ไม่มีประโยชน์…
ออกจากบ้านฟิโอน่าลงมาทางทิศใต้.. จะเจอหลุมหมุนวนทรายดูดอยู่ซ้ายล่างใกล้ๆ.. เข้าไปในทรายดูดนั้น.. เราจะลงมาในถ้ำทราย ซึ่งมีกล่องสมบัติวางอยู่เต็มไปหมด.. เดินไปเก็บให้หมดครับ จะเจอมอนส์ฯดักตีเราแทบทุกกล่องเลย… เก็บครบแล้ว ลงไปชั้นต่อไป.. เราจะเจอบอสโผล่มาจากทราย ก็ระวังไว้ครับ.. เก็บของไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะโผล่ขึ้นมาสู้กับเรา…
เมื่อมันโผล่ขึ้นมา.. ก็จัดการได้เลยครับ.. วิธีปราบคือ.. ใช้ท่าโจมตีปกติ โจมตีที่ตาที่กลางตัวมันก่อน.. พอตาสลายไป จะเหลือท่อนบนกับท่อนล่าง.. ซึ่งพลังป้องกันของมันจะเพิ่มทุกครั้งที่ถูกโจมตี.. ดังนั้น เราต้องคอยใช้เวทย์น้ำหรือน้ำแข็งคอยลดพลังป้องกันของมันเรื่อยๆ.. จึงจะโจมตีมันเข้าเต็มๆได้… ก็คอยฮีลเพื่อนเรา, ใช้เวทย์น้ำหรือน้ำแข็งลดพลังป้องกันมัน, และโจมตี สลับกันไปเรื่อยๆ จนมันตายครับ…..
เมื่อเอาชนะมันได้แล้ว กลับขึ้นมาชั้นบน จะมี “เม็ดเพิ่มความแข็งแรง” หล่นกระพริบอยู่ที่พื้นซ้ายบน.. อย่าลืมเก็บครับ… เก็บแล้วออกมา.. ก่อนคุยกับฟิโอน่าอีกครั้ง ให้เพิ่ม “โรโบ้” เข้ามาในปาร์ตี้ด้วย.. แล้วเข้าไปคุยกับฟิโอน่า.. เธอจะพูดขึ้นมาว่า การฟื้นฟูคงต้องใช้เวลานานมากพอสมควร ถ้ามีใครที่ทำงานได้เป็นร้อยปีก็คงจะดี(เพราะเธอคงอยู่ไม่ถึง).. โรโบ้จะเอ่ยปากขึ้นว่า เค้าอยากช่วยงานที่นี่ เค้าจะขออาสาแล้วให้เรามารับเค้าหลังจากงานฟื้นฟูป่าเสร็จสิ้น.. เราก็อนุญาตไปครับ… พอออกมา เราก็จะเห็นโรโบ้เริ่มพรวนดินทั่วทะเลทรายเลยทีเดียว…..
ขึ้นยานเจาะเวลามายังปี 1,000A.D. เข้าไปที่ “ศาลเจ้าฟิโอน่า” กลางป่า.. จะพบแม่ชีสามท่านที่คอยดูแลที่นี่ต่อจากฟิโอน่าสืบทอดกันมา.. มีแม่ชีท่านหนึ่งขายของดีให้เราด้วย.. หมวกที่แพงที่สุด สามารถป้องกันการติดสถานะผิดปกติต่างๆได้ทั้งหมด.. จัดมาเก็บไว้ตามทุนทรัพย์ที่มี หรือความเหมาะสมครับ…
เดินเข้าไปด้านในสุด.. จะได้พบกับสุดหล่อ “โรโบ้” ที่ถูกบูชาอยู่บนแท่นบูชา ในฐานะผู้มีพระคุณสุดจ๊าบของที่นี่นั่นเอง… สำรวจที่ตัวเค้า พวกเราจะเอาเค้าลงมา.. ระบบจะรีสตาร์ทอีกครั้ง.. โรโบ้จะรู้สึกตัว และดีใจมากๆที่ได้เจอเราอีก หลังจากการรอคอย 400 ปี(สำหรับเค้า)..
พวกเราทั้งหมดจะพากันมาพักในป่าใหญ่ที่แสนน่าภาคภูมิใจที่โรโบ้และฟิโอน่าช่วยกันสร้างและดูแลนั่นเอง… ลุคก้าจะง่วนอยู่กับการเช็คสภาพและซ่อมบำรุงโรโบ้.. ส่วนโรโบ้ก็จะเอ่ยขึ้นมาว่า เค้าได้ตระหนักถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ “ลาวอส”.. พูดกันไปมาสักพักเกี่ยวกับการท่องเวลา และการมองเห็นบางอย่างในขณะที่เรากำลังจะตาย.. มาร์ลจะถามลุคก้าว่า มีอะไรที่ลุคก้าอยากแก้ไขหรือเปล่า ถ้าสามารถกลับไปแก้ไขมันได้?.. ทำเอาลุคก้าสะอึก แต่ก็กลบเกลื่อนไปว่าไม่มีอะไร…
ตกกลางคืน ลุคก้าจะนอนไม่หลับ และตื่นขึ้น ในขณะที่เพื่อนๆยังหลับอยู่…
เดินมาทางด้านขวา จะได้พบ “วาร์ปเกท”.. ให้เราเข้าไป.. แล้วลุคก้าจะมาโผล่ในห้องของเธอในสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก.. สำรวจที่เศษกระดาษขวาล่าง.. จะได้พบไดอารี่ที่ “ลุคก้าน้อย” เขียนบ่นเอาไว้ว่า พ่อผิดสัญญากับเธอที่ว่าจะพาไปเที่ยวปีนเขา เพราะติดงานวิจัยวิทยาศาสตร์งี่เง่า(ดูเหมือนเธอจะยังไม่ชอบวิทย์ฯในตอนนี้).. เดินลงบันไดทางขวาล่าง ลงมาด้านล่าง.. เราจะได้พบกับ “ลาร่า” คุณแม่ลุคก้า และ ลุคก้าตอนเด็ก… ลาร่าจะเดินไปใกล้เครื่องจักรของตาบันที่เดินเครื่องอยู่.. กระโปรงของเธอจะไปติดเข้ากับสายพาน และมันจะลากเธอเข้าไป(อันตรายมาก) เธอจะเรียกให้ลุคก้าช่วย.. ให้เราเดินไปสำรวจที่เครื่อง มันจะขึ้นให้ใส่รหัสผ่าน ให้เราพิมพ์ “LARA”.. แล้วเครื่องจะหยุดทำงาน.. เรียกว่ารอดตายหวุดหวิด…..
เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กหญิงลุคก้า ตระหนักได้ว่า เธอควรรู้เรื่องเครื่องจักรพวกนี้ไว้บ้าง เพราะวันนี้เธอช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย(เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ทำให้เธอสนใจวิทยาศาสตร์และเครื่องจักรนั่นเอง).. เราจะกลับมาอยู่บนห้องอีกครั้ง.. สำรวจที่แผ่นกระดาษชิ้นใหม่ จะได้พบไดอารี่ใหม่ที่สาวน้อยเขียนไว้ว่า เธออยากเรียนรู้วิทย์ฯให้มากกว่านี้.. จะได้รู้เรื่องและช่วยแม่หรือผู้คนได้… 👍
กลับเข้าวาร์ปเกทเพื่อกลับไปหาเพื่อนๆ.. โรโบ้จะตื่นขึ้นมายืนดักรอเรา.. เค้าบอกว่าลุคก้าใจดีและคิดถึงผู้อื่นเสมอ.. เค้ามีของขวัญจะให้ เป็นของขวัญที่เค้าใช้ยางไม้ในป่าและแรงดัน 400 ปีสร้างขึ้น.. นั่นคือแหวน “Green Dream” ซึ่งสามารถชุบชีวิตผู้ที่สวมใส่ได้อัตโนมัตินั่นเอง…..
เมื่อรุ่งเช้า.. แวะไปที่บ้านลุคก้า.. คุยกับคุณพ่อลุคก้า 2 ครั้ง.. จะได้ “Taban’s Helm” และ “Taban’s Suit” อย่างละหนึ่งชิ้น.. อิทธิฤทธิ์ดีงาม.. ลองใช้กันดูครับ…
จบภาระกิจฟื้นฟูป่า แต่เพียงเท่านี้ครัช ….. 👍
ทำลายอารยะธรรมอสูร!!
ขึ้นยานเหาะมายังยุค 600A.D. .. แว๊นซ์ไปยังรังของเจ้า “อ๊อซซี่” หรือ “Ozzie’s Fort” นั่นเอง(อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของถ้ำที่เราเอาหินพระจันทร์ไปอาบแสงอาทิตย์นั่นเอง)..
แนะนำให้มี “มาร์กัส” ในปาร์ตี้ด้วย.. จะได้ไม่พลาดบทสนทนาสำคัญๆไปครับ… พร้อมแล้วเข้าไปด้านใน.. เราจะได้พบเจ้าอ็อซซี่.. มันจะตกใจนิดหน่อย.. แล้วเรียกลูกน้องมาสู้กับเรา.. ทั้ง “ฟลี” และ “แสลช” และอื่นๆ.. ก็จัดการไปเรื่อยๆ.. ระวังตรงจุดที่มีกล่องสมบัติแต่มีกิโยตินใบมีดยักษ์ขวางอยู่.. ถ้าเราเข้าไปเอา เราจะโดนกับดักนั้นโจมตี พลังเราจะเหลือแค่ 1.. ให้เติมพลังให้เต็มก่อนจะไปห้องต่อไปนะ ไม่งั้นเกมโอเวอร์เลยนะ แค่โดนมันโจมตีทีเดียว.. ระวังด้วยครับ…
เมื่อผ่านตรงใบมีดไปได้.. เข้าห้องไป มันจะรวมพลังกันสามตัว.. ก็ไม่ยาก.. เจ้าอ็อซซี่มันจะโวยใส่ “มาร์กัส” ว่าเค้าหลอกใช้มัน.. ทำไมถึงร่วมมือกับโครโน่มาปราบมัน? แล้วแผนที่ปีศาจจะครองโลกล่ะ?.. มาร์กัสก็ตอบไปตรงๆว่า เค้าไม่ได้แคร์เรื่องปีศาจจะครองโลกเลย เค้าแค่ต้องการ “พลัง” เพื่อไปปราบลาวอสเท่านั้น.. อ็อซซี่ก็คงจุกอกน่าดู… มันจะกดสวิทช์ให้เราตกลงไปด้านล่าง.. เราก็วิ่งกลับเข้าไปอีก.. รอบนี้จะมีน้องเหมียวเดินมากดสวิทช์อีกอัน ซึ่งผิดอัน.. จะเกิดหลุมที่พื้นตรงเจ้าอ็อซซี่เอง.. มันจะตกลงไปในหลุม น็อคพื้น ดับอนาถ.. จบอารยะธรรมอสูรร้ายแต่เพียงเท่านี้.. 😂 ซะงั้น…..
วาร์ปไปที่ปี 1,000A.D. ไปที่ลานกิจกรรมในเมือง “เมดิน่าสแควร์” เมืองมอนสเตอร์.. จากปกติจะมีเหล่ามอนส์ฯคลั่งศาสนาบูชารูปปั้นมาร์กัสอยู่.. แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว.. รูปปั้นมาร์กัสหายไป และมอนสเตอร์ไม่ได้เกลียดมนุษย์อีกแล้ว.. มอนสเตอร์อารมณ์ดี วิ่งเล่น และใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์อย่างสงบ มีความสุข… ไปซื้อของที่ร้านขายของ ราคาของก็เป็นปกติแล้ว.. ไม่ได้ขายโหดเลือดสาดเพราะความเกลียดชังมนุษย์อย่างที่เคยเป็น…
บริษัทกำจัดผี!!!
ไปยังยุค 600A.D. อีกครั้ง.. ไปที่หมู่บ้านขวาล่างของแผนที่โลก.. เข้าไปในโรงเตี๊ยมหรือ Cafe.. เราจะได้พบกับ “โทมะ” สุดหล่อนักผจญภัยอีกครั้งที่บาร์.. เค้าจะมอบไอเท็ม “Toma’s Spirits” แก่เรา.. เค้าบอกว่า ช่วยเอาสิ่งนี้โรยบนป้ายหลุมศพให้เค้าด้วย ถ้าวันนึงเค้าตาย.. จะเป็นเกียรติอย่างมาก… เดินมาคุยกับผู้ชายที่ดื่มเหล้าที่โต๊ะข้างล่าง แกจะบ่นว่า มีคนมาโขมยเครื่องมือช่างของเค้าไป.. แล้วเค้าจะทำงานได้อย่างไร?.. เซ็งสุดๆ ประมาณนั้น…..
ให้เราวาร์ปไปยังยุค 1,000A.D. (ที่หมู่บ้านเดิมนี่แหละ).. เข้าไปในโรงแรม “Choras Inn” เดินไปคุยกับผู้ชายที่ดื่มเหล้าอยู่.. เค้าบอกจะบอกว่า ถ้าจะยืมเครื่องมือช่างของเค้าก็ได้ แต่ตอนนี้เค้าติดดื่มอยู่ ต้องไปเอากับภรรยาของเค้าเองนะ.. คุยกับผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆกัน เธอจะถามว่ารู้เรื่อง “วิญญาณอัศวิน” ที่อาคารร้างทางเหนือหรือไม่? ก็ตอบ “ไม่” ไป.. แล้วเธอจะเล่ารายละเอียดให้เราฟัง…
ออกมาแล้วเข้าไปในส่วนเรสสิเด้นท์หรือหมู่บ้านที่อยู่อาศัย.. เราจะได้พบกับภรรยาของช่างไม้ขี้เมาและลูก.. คุยกับคุณภรรยา แล้วเธอจะเดินไปหยิบเครื่องมือช่างให้เรา.. ก็ให้เราเอาเครื่องมือช่างชุดนี้ไปให้ช่างขี้เมาในปี 600A.D. ใช้.. เค้าจะดีใจมาก ขอเรา ก็ให้ตอบตกลงไป.. ตามไปคุยกับเค้าที่บ้านด้านล่าง เค้าบอกว่าจะเริ่มงานเลยที่อาคารร้างด้านเหลือนี่แหละ.. เค้าจะเรียกลูกศิษย์ของเค้าที่พักกันอยู่ที่ชั้น2 ไปช่วยด้วย..
ตามไปที่ “ซากอาคารปรักหักพัง” ทางเหนือ.. เมื่อไปถึง คุยกับช่าง เค้าจะบอกว่า.. ซ่อมเสร็จเป็นบางส่วนแล้ว แต่ตรงจุดที่ยังมีมอนสเตอร์อยู่ เค้าจะยังซ่อมไม่ได้.. เราต้องไปปราบมอนส์ฯให้เค้าก่อน แล้วค่อยไปตามเค้าที่บ้านอีกที.. เราก็ตีมอนส์ฯให้หมดเท่าที่ไปได้ แล้วก็ไปเรียกช่างที่บ้าน วนไปเรื่อยๆ(รอบละ 2,000G ต่อเที่ยว).. รอบสองนี้ เมื่อกลับไปที่ซากอาคาร อย่าลืมเอา “ฟร็อก” เข้าปาร์ตี้.. เสร็จแล้วไปทางซีกซ้ายของอาคาร เข้าไปในประตูที่เพิ่งใช้ได้.. เราจะได้พบกับหลุมศพและวิญญาณของอัศวิน “ไซรัส” ผู้เป็นเหมือนพี่น้องร่วมสาบานของฟร็อก(หรือเกลน).. ทั้งคู่ได้คุยกันอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมตอนปะทะกับมาร์กัสเมื่อนานมาแล้ว.. ไซรัสบอกว่าฟร็อกแข็งแกร่งและเก่งอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ยิ่งแกร่งขึ้นอีก ฟร็อกเป็นอัศวินที่เก่งที่สุดเท่าที่เค้าเคยพบมาด้วยซ้ำ.. ฝากปกป้องราชินีลีเน่และทำสิ่งที่ควรทำที่เคยฝันไว้ด้วยกันด้วย…
ฟร็อกเหมือนได้พูดสิ่งที่ค้างคา.. ได้เคลียร์สิ่งที่ค้างคาใจ.. ดาบมาซามุเนะของเค้าเปล่งประกาย.. วิญญาณแห่งดาบ “มาสะ” และ “มุเนะ” ออกมาปรากฏกาย แนะนำให้ฟร็อกปล่อยวางอดีตและมีจิตที่เข้มแข็งขึ้น.. ดาบจะแข็งแกร่งและจ๊าบขึ้นอีกขั้นเช่นกัน.. เท่ห์ซะไม่มีล่ะ… 👍😁
ไปเรียกช่างมาซ่อมรอบที่สาม.. รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว.. เราจะสามารถเข้าไปถึงกล่องสมบัติแบบ “แบบผนึกเวทย์” ได้ทั้งสามกล่องแล้ว.. แต่อย่าเพิ่งเปิดนะครับ.. เรากำลังเล่นกับเวลา.. ดังนั้น ถ้าจะให้คุ้ม.. นั่งยานไปเปิดกล่องในปี 1,000A.D. ก่อน.. แล้วค่อยกลับมาเปิดในปี 600 A.D. อีกทีหนึ่ง.. จะได้สองเด้งครับ.. แจ่มๆทั้งนั้นเลย อิอิ…..
จบภาระกิจ “ปราบผี” เก็บไอเท็มแต่เพียงเท่านี้ครับ..
สานต่อภาระกิจเก็บ “หอยทากสายรุ้ง” !!!
ยังคงไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาระกิจที่แล้วได้ใช่ไม๊ครับ.. ที่เราเจอกับพ่อหนุ่ม “โทมะ” ที่บาร์ในคาเฟ่ แล้วโทมะให้ไอเท็ม “Toma’s Spirits” แก่เรา..
เดินทางไปยังปี 1,000A.D. ไปที่หมู่บ้านขวาล่างของแผนที่เช่นเคย.. มองไปซ้ายบนตรงแหลม เราจะพบหลุมศพใครบางคน.. เมื่อเข้าไปสำรวจดู จะพบว่าเป็นหลุมศพของโทมะนักผจญภัยนั่นเอง.. เมื่อเห็นเป็นแบบนั้น เราจึงใช้ไอเท็มที่โทมะเคยฝากฝังไว้ โรยไปที่ป้ายหลุมศพของเค้า ตามที่เค้าเคยออกปากขอร้องเราไว้นั่นเอง.. ทันใดนั้น วิญญาณของโทมะจะปรากฏตัว เค้าจะบอกว่า เค้าได้ค้นพบ “เปลือกหอยสายรุ้ง” แล้วนั่นเอง.. มันอยู่ในถ้ำกลางทะเล ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากที่นี่.. ถ้าเราจะเข้าไปเอา ให้ระวังด้วย เพราะมอนสเตอร์เยอะมาก.. เค้าดีใจที่ได้เจอเราอีก วิญญาณเค้าจะลอยขึ้นฟ้า และจากไปสู่สุขคติ หลังจากรอคุยกับเรามา 400 ปี…..
จากนั้นเดินทางไปยังปี 600A.D. ไปที่ถ้ำกลางทะเลทางซ้ายบนของหมู่บ้านที่เจอโทมะ(จะอยู่กลางๆแมพ).. เข้าไปในถ้ำ.. เราจะได้พบเศษกระดาษที่โทมะเขียนโน้ตหล่นไว้ระหว่างทาง.. อ่านเสร็จแล้วเดินทางต่อ(เค้าจะพูดถึงรูที่พื้น อะไรบางอย่าง การกระโดดลงไปในรู).. เดินไปอีกเราจะได้พบกับบัลลังก์ที่คุ้นตา.. เราจะได้รับรู้ละว่า นี่มันบัลลังก์ของพวกเรปไทด์ในยุคหินนี่นา.. อย่าบอกนะว่า ถ้ำนี้คือถ้ำที่ไม่เคยมีใครมายุ่งเลย สืบทอดมาจากยุคหินผ่านเวลามาโดยตรงเลย.. ชักสนุกซะแล้วสิ…
เดินไปจนถึงห้องที่มีจุดเซฟ, หัวกระโหลกทีเร็กซ์, และปุ่มที่พื้นสามปุ่ม, ระวังปุ่มที่เท้าให้ดี อย่าเพิ่งไปเหยียบ(ถ้าอยากเซฟ).. เดินไปเซฟที่จุดเซฟก่อน แล้วเดินมาเหยียบที่ปุ่มที่พื้นซ้ายล่าง.. พื้นจะถล่มหายไปทั้งซ้ายขวา.. กระโดดลงไปครับ.. จะมาอยู่ที่ห้องที่มีหัวกระโหลกทีเร็กซ์และปุ่มที่พื้นสองปุ่ม.. เหยียบปุ่มซ้ายแล้วกระโหลกทีเร็กซ์จะอ้าปาก.. ก็เข้าไปห้องด้านบนเพื่อเก็บไอเท็ม “เม็ดเพิ่มความแข็งแรง” กลับมาเหยียบปุ่มขวาจะมีมอนส์ออกมา กระทืบซะ แล้วไปต่อครับ…
เก็บสมบัติ ตีมอนส์ ไปเรื่อยๆ.. เมื่อไปถึงห้องที่มีหัวกระโหลกทีเร็กซ์สองหัว ก็ให้ไปหัวซ้ายที่อ้าปากก่อนครับ(หัวขวา เดี๋ยวเราจะวนกลับมาเองในภายหลัง).. พยายามเดินให้ทั่วนะครับ ของดีๆเยอะทีเดียว.. ที่ห้ามพลาดเลยคือ “Wrath Band” ที่จะเพิ่มอัตราการโจมตีสวนกลับอัตโนมัติถึง 80% เลยครับ.. ไปต่อจนถึงห้องที่มีจุดเซฟ ก็เซฟกันเหนียวซะหน่อยครับ.. กดสวิทช์ข้างประตูเพื่อเปิดประตู.. เมื่อเข้าไปก็จะพบกับเจ้า “ทีเร็กซ์ยักษ์” อีกครั้ง(อยู่มาได้ไงนานขนาดนี้😁).. สำรวจที่บริเวณทางขวาของตัวมัน การต่อสู้ก็จะเริ่มขึ้นครับ… HP มันเยอะใช้ได้ทีเดียว.. แต่พลังโจมตีก็งั้นๆครับ.. ตีไปเรื่อยๆจนเอาชนะมันได้.. เดินต่อไปก็จะพบกับ “หอยทากสีรุ้งในตำนาน” นั่นเอง.. แต่มันจะหนักมากจนพวกเรายกไม่ไหว…
ให้เราออกมาแล้วพวกเราจะไปหาคนช่วยที่ “พระราชวังกัลเดีย”.. พระราชาและพระราชินีจะยินดีช่วยอย่างถึงที่สุด พระองค์จะส่งทหารออกไปเก็บกู้หอยทากสายรุ้งและเก็บไว้ที่ห้องนิรภัยของปราสาทเพื่อส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป(ถ้ามีฟร็อกอยู่ในกลุ่มด้วย จะได้รับถ้อยคำที่แสนชื่นใจจากราชาและราชินีลีเน่ด้วยนะ 😊)…
ให้เราออกมาจากพระราชวัง.. เปลี่ยนเอา “มาร์ล” เข้าปาร์ตี้ และเดินทางไปยังปี 1,000A.D. เข้าไปในพระราชวังอีกครั้ง..
เมื่อเข้าไปในวัง.. เจ้าเสนาฯเฒ่าจะวิ่งมาหาองค์หญิงนาเดีย(มาร์ล)ด้วยความเป็นห่วง.. เค้าจะหลุดปากออกมาถึงเรื่องที่พระราชาบ้างานจนปล่อยให้ราชินีเสด็จแม่ของมาร์ลเสียชีวิตโดยที่ยังไม่ได้กลับไปหาครอบครัวตามที่ต้องการด้วยซ้ำ.. ในวังดูเหมือนจะมีกิจสำคัญบางอย่างอยู่ ปิดไม่ให้เราเข้า.. เรื่องอะไรจะฟัง.. วิ่งมาทางซีกขวา ขึ้นมาด้านบนจะได้พบบันได “ซ้าย” และ “ขวา” ไปทางซ้ายก่อนครับ..
อย่าลืมเก็บสมบัติระหว่างทางด้วย.. ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด ก็ยังจะเจอทหารปิดทางไว้.. มาร์ลจะทนไม่ไหว เธอจะตวาดจนทหารยอมเปิดทางให้.. เมื่อเข้าไป ก็จะได้พบกับพระราชาที่กำลังตกเป็น “จำเลย” เรื่องที่ต้องสงสัยว่านำเอามรดกของตระกูลหรือ “หอยทากสายรุ้ง” ไปขายเพราะความโลภ.. พระราชาจะบอกว่าเค้าไม่รู้เรื่องและโดนปรักปรำ.. เราจะถูกผลักออกมาอีกครั้ง…
ตอนนี้เราต้องไปหา “หอยทากสายรุ้ง” ให้พบ เพื่อช่วยพระราชาให้พ้นจากข้อกล่าวหา… ลงมาตรงที่มีบันไดให้เลือกซ้ายขวาอีกครั้ง.. รอบนี้ให้ไปทางขวาครับ…
เข้ามา เราจะได้ยินปีศาจคุยกันถึงเรื่องแผนที่มันพยายามใส่ร้ายพระราชาแล้วจะยึด “หอยทากสายรุ้ง” เอาไว้เอง.. ให้เราบุกเข้าไปจนถึงด้านในสุด.. เราจะได้พบกับหอยทากสายรุ้ง แวววาว ตั้งอยู่นั่นเอง.. สำรวจแล้วเราจะได้พบจดหมายของราชินีลีเน่จากอดีตเขียนถึงมาร์ลเอาไว้ด้วย.. จะได้รับไอเท็ม “เรนโบว์ชาร์ด” มาครอบครอง…
กลับไปที่ห้องพิพากษาอีกครั้ง.. ทหารก็ยังไม่ยอมให้เข้าอยู่ดี.. องค์หญิงนาเดียจึงแอบปีนเข้าทางด้านหลังห้องพิพากษา และกระโดดทะลุกระจกเข้ามาในห้องเลยทีเดียว(ก๋ากั่นจริงๆเลย แฟนเรานี่).. มาร์ลจะเอาหลักฐานให้ดูว่าหอยทากสายรุ้งยังอยู่และเรื่องทั้งหมดนี้เป็นการจัดฉาก.. เจ้าเสนาเฒ่าตัวปลอมจึงเผยร่างที่แท้จริง.. มันคือลูกหลานของเจ้ายาคุร่าที่มาแก้แค้นให้บรรพบุรุษของมันนั่นเอง.. จัดการซะครับ.. ดูเหมือนจะไม่ยาก แต่ก็ระวังด้วย พลาดได้เหมือนกันนะ ถ้าไม่ระวัง…
เมื่อเอาชนะมันได้.. มาร์ลและคุณพ่อจะปรับความเข้าใจต่อกัน.. ด้วยความรักความเข้าใจ ตามที่ราชินีลีเน่ได้ให้แง่คิดไว้ในจดหมายนั่นเอง… แอบซึ้งไม่น้อยเลยนะเนี่ย… ♥️🌹😊
หลังจากคุยกันเสร็จแล้ว ภาพจะตัดมาที่บัลลังก์ของพระราชา พระราชาจะฝากให้เราดูแลลูกสาวของเค้าด้วย.. หลังจากนั้น คุณลุง “เมลชิเออร์” จะเข้ามา.. แล้วโชว์อ็อฟจะสร้างอะไรเจ๋งๆให้เราจาก “เปลือกหอยสายรุ้ง” นั่นเอง… ให้เราวิ่งกลับไปเก็บ “ยาคุร่าซ์คีย์” จากห้องพิพากษาอีกครั้ง(ประกายแว้บๆ).. เสร็จแล้วเอาลงมาไขกล่องสมบัติที่ถูกล็อคไว้ ที่เราเปิดไม่ได้ในตอนแรก.. ท่านเสนาฯที่ถูกปีศาจมัดไว้ก็จะหลุดออกมาครับ.. ลงไปชั้นล่างสุด(ในครัว) สำรวจที่โต๊ะ คุณทหารจะทำอาหารใหัเรากิน.. ให้เราเลือกเมนู “โครโน่สเปเชียล” ทหารจะบอกว่า เมนูนี้สร้างจากชื่อฮีโร่ในอดีตของอาณาจักร(เรานั่นเอง อิอิ).. จานเบ้อเร่อ กินแล้ว HP และ MP เต็มครับ.. ความภาคภูมิใจยิ่งเต็มเปี่ยม.. ว่ะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!..
วิ่งไปที่ห้องเก็บ “หอยทากสายรุ้ง” คุณลุงเมชิเออร์จะให้เราเลือกระหว่าง “Prismatic Dress 1 ชิ้น” หรือ “Prism Helm 3 ชิ้น”.. ก็เลือกตามความต้องการครับ… และถ้าเราผ่านเควส์ “ศิลาแสงอาทิตย์” มาแล้ว ให้คุยกับแกอีกรอบ แกจะทำไอเท็มเพิ่มให้อีก 2 ชิ้น.. คือ “Prism Spectacles” และ “Rainbow” นั่นเองๆๆๆ…..
จบมหาเควสท์ “หอยทากสายรุ้ง” แต่เพียงเท่านี้…..
ตื้บนางพญาคลั่งแห่งซีล!!!
ตอนนี้คือโค้งสุดท้ายจริงๆของเกม “Chrono Trigger” แล้วนะครับ.. ไปซนได้เลยให้ทั่วโลก ทุกยุคทุกสมัย.. เก็บเลเวลให้เต็มให้แน่น ซื้อของให้เต็มให้แน่น ที่สุดเท่าที่จะทำได้.. ข้องใจจุดไหน ไปเคลียร์ ไปเก็บของ ให้หมดครับ.. เพราะเรากำลังจะไปตื้บคุณราชินีคลั่งที่ “Black Omen” หรือปราสาทดำที่ลอยอยู่(กลางๆแม็พ) กันแล้ว.. ต้องพร้อมที่สุดครับ…
ขับยานอีพอร์ชไปที่ปี 12,000 B.C. ก่อนเลย.. เอายุคเจ๊เค้าเลย.. ขับสอดเข้าไปใต้ยาน แล้วกดสำรวจ(แบบเข้าเมือง).. เราก็จะเข้าไปอยู่บนยานยักษ์ปราสาทดำเรียบร้อย.. มีจุดแว้บๆด้านล่างเพื่อกระโดดขึ้นยานอีพอร์ชของเรา…
ดอกแรก จะเจอกับโรบ็อทอัตโนมัติหน้าประตู 6 ตัว สาดกระสุนใส่ทันที.. จัดการครับ.. เรียบร้อยแล้วเข้าประตูไป… เราจะได้พบกับนางพญาราชินีแห่งซีลทันที.. เธอจะด่าเราว่า “Fool!!!” เจ้าพวกโง่!! โง่เง่าสิ้นดี!! ความพยายามของพวกเอ็งไม่มีความหมาย!! ข้าและลาวอส จะอยู่จนถึงวันสิ้นโลกในอีก 14,000 ปีข้างหน้าโว้ย!!.. เสร็จสรรพ เจ๊จะเรียกสมุน “เมก้ามิ๊วท์แต๊น” มากระทืบเรา.. อย่าให้เป็นปัญหา จัดการซะแล้วเดินทางต่อครับ..
มอนส์ระหว่างทางจะเริ่มร้ายขึ้นเรื่อยๆ.. บางตัวจะทำให้เราติดสถานะ “สับสน” ได้เรื่อยๆ.. แนะนำให้สวมเครื่องประดับหรือหมวกหรือชุดเกราะที่ทำให้ไม่ติดสถานะใดๆทั้งสิ้นไว้คนละชิ้นครับ จะชิวมากๆเลยทีนี้.. ลองไล่อ่านคุณสมบัติไอเท็มดูครับ(แปลกูเกิ้ลเอาก็ได้ครับ ถ้าอ่านไม่ออกจริงๆ)…
เข้าไปเรื่อยๆจะพบจุดเซฟและชาวนูสองนาย(ซื้อของได้หนึ่งนายและพาออกจากยานหนึ่งนาย).. ก็ซื้อของที่อยากได้ให้แน่นครับ แล้วเดินทางต่อ.. จะได้พบกับบอสร่างเขียว “กิกะมิ๊วท์แต๊นท์”.. ตึงนิดๆ แต่ไม่เกินฝีมือครับ จัดการให้เรียบร้อยแล้วเดินทางต่อ…
จะมีอยู่จุดหนึ่งที่ดูเหมือนเราจะย้อนกลับทางเดิมตอนแรกให้เราใจหายเล่น.. ไม่ต้องตกใจครับ เดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนถึงห้องที่มีหุ่นยนต์ติดฝาผนังสี่ตัวรุมตื้บเรา.. พอเราเอาชนะมันได้ จะปรากฏจุดเซฟ ก็เซฟและเติมพลังซะให้เรียบร้อยครับ เก็บสมบัติ แล้วไปต่อ.. เราจะได้พบกับบอสสีเทาแดง “เทอร์ร่ามิ๊วท์แต๊นท์”.. ตึงนิดๆ.. อย่าใช้ท่าโจมตีปกติหรือกายภาพ เพราะไม่คุ้ม.. ให้ใช้เวทย์แรงๆ โฟกัสที่ท่อนบนเป็นหลัก(ท่อนล่างช่างหัวมัน) แม้จะใช้เวทย์กลุ่มที่โจมตีโดนท่อนบนแต่จะฮีลให้ท่อนล่าง ไม่ต้องแคร์ครับ ซัดเข้าไป.. พอท่อนบนถูกทำลาย ท่อนล่างจะสลายตามไปเองครับ…
เดินทางต่อไปจะได้พบกับ “ลาวอสสปอว์น” หรือลาวอสจิ๋ว อีกครั้ง.. ความร้ายกาจยังคงเป็นท่าพุ่งหนามแหลมใหญ่ขึ้นฟ้า แล้วตกลงมาปักหัวเรา(โคตรแรง) ระวังให้ดี.. สามารถขโมยของจากมันได้(ใช้ท่า Charm ของไอย์ล่า).. ของดีนะครับ ไม่ควรพลาด.. ขโมยได้ทั้งส่วนหัวและส่วนหลังเลย(2ชิ้น “การ์เดี้ยนเฮลม์” และ “เฮสเฮลม์” อิทธิฤทธิ์ดีงามทั้งคู่เลย).. ชนะแล้วไปต่อ จะพบห้องที่มีบางอย่างที่คล้ายกับพวกเราอยู่ในแคปซูล.. แล้วเราจะได้บู๊กับซือเจ๊ “ราชินีแห่งซีล” กันที่ห้องนี้แหละ.. ไม่ยากไม่ง่าย แต่เสียวสุดๆ เพราะท่าที่ทำให้พวกเราทุกคนพลังเหลือ 1 พร้อมกันทั้งหมด.. เรียกว่า แค่โดน “ตดใส่” ก็ตุยได้เลยทีเดียว 😂😂😂.. ดังนั้น ฮีลให้ทัน ฟันให้แรง เอาชนะให้ได้ครับ(ฮีลคนที่มีท่าฮีลก่อนนั่นแหละ)..
เมื่อเอาชนะเจ๊ได้ เจ๊จะเรียก “เครื่องจักรแมมม่อน” มาตบเรา.. จะว่ายากก็ไม่ยาก แต่ความอันตรายคือ เราต้องรีบเติมพลังให้ทันในช่วงแรกที่เราต้องสู้ต่อจากราชินีนี่แหละครับ.. ผ่านช่วงแรกได้ก็สบายๆครับ.. ผ่านเครื่องจักรแมมม่อนได้แล้ว เจ๊จะโผล่มาอีกรอบ.. คราวนี้จะของจริงละ เจ๊ของขึ้นละ 😂..
วิธีสู้กับ “ราชินีแห่งซีล” ในร่างบอส ก็คือ.. เล็งที่หัวเท่านั้น อย่าไปโจมตีมือมัน เดี๋ยวมันใช้ท่าเค้าท์เตอร์ให้เลือดเหลือ 1 อีก.. เล็งที่หัวไปเรื่อยๆครับ.. จัดหนักๆ…
เมื่อเราเอาชนะเจ่เจ้ได้ในที่สุด.. ก่อนที่เจ๊จะสลายไป เจ๊จะปลุกพี่เบิ้ม “ลาวอส” ขึ้นมาสู้กับเราจนได้… ทีนี้ล่ะของจริง…
บอสใหญ่ “ลาวอส” ปรากฏกาย!!!
ในช่วงแรก ลาวอสจะเปลี่ยนโหมดการต่อสู้ไปเรื่อยถึง 9 รอบ(เลียนแบบพลังและเทคนิคการต่อสู้ของบอสที่เราเคยสู้มาทั้งหมด เหมือนทดสอบความจำเรา ว่าจำได้หรือไม่ เทคนิคในการปราบบอสแต่ละตัว).. ข้อดีคือ ระหว่างรอบเราจะสามารถเติมพลัง ใช้ไอเท็ม ได้เต็มที่ พร้อมแล้วเดินไปคุยกับมันถึงจะเริ่มการต่อสู้ในรอบต่อๆไปครับ.. ก็สู้ไปเรื่อยๆเลย ไม่ยากนะ..
เมื่อเราปราบได้ทั้งหมด.. ลาวอสจะกรี๊ดเสียงดัง “แก๊ซ..ๆ..ๆ!!!” แหกปากเข้าไป 😂.. หัวมันจะกุด เกิดโพรงเบ้อเร่อ.. เราจะเข้าไปในนั้น และนี่คือไฟนอลไฟท์แล้วครับ.. การเดิมพันสุดท้าย… เราจะมาโผล่ในตัวมัน มีจุดเซฟทางขวา และวาร์ปเกจเพื่อไปที่จุดสิ้นสุดของเวลาทางซ้าย.. จัดการตัวเองให้เรียบร้อยและเดินทางต่อครับ(ถ้าซนไปสำรวจวาร์ปเกจเข้าจนไปโผล่ที่จุดสิ้นสุดของเวลา ก็กระโดดเข้าถังแห่งวันโลกาวินาศนั่นแหละ เพื่อกลับมาครับ)..
พร้อมแล้วเดินขึ้นไปจนสุดทาง.. จะได้เจอกับลาวอสร่างแรก(หน้าตาคล้ายๆเซลจากดราก้อนบอล).. จัดการแขนซ้ายขวาของมันก่อน แล้วจัดการหัว.. พอเอาชนะมันได้ จะได้เจอกับลาวอสร่างไฟนอล(ยังกะนักบินอวกาศ😂) กับสมุนซ้ายขวาของมัน.. ดูเหมือนไม่ยาก แต่เกมค่อนข้างยาวทีเดียว.. จะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไมง่าย.. สมุนตัวซ้ายจะคอยฮีลให้ สมุนตัวขวาจะคอยชุบชีวิตให้.. ผู้เขียนแนะนำแบบนี้ครับ คืออัด “เวทย์หมู่” ใส่มันเลย(แบบโดนทุกตัว).. ดาเมจจะโดนแค่ตัวกลางและตัวขวาเท่านั้นแต่จะฮีลให้ตัวซ้าย ไม่ต้องไปสนใจ.. เป้าหมายของเราคือ ให้ตัวกลางตายและให้ตัวขวาบาดเจ็บสาหัสหลังจากตัวกลางตาย.. เวทย์ดำของมาร์กัสจะได้ผลดีมากๆ.. เมื่อตัวกลางตาย รีบรุมกระทืบตัวขวาสุดให้ตายเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่มันจะชุบชีวิตให้ตัวกลาง.. เมื่อตัวขวาตายตาม.. ก็เสร็จเราครับ… จบตำนาน “ลาวอส” อสูรไคจูมหาปลัยทำลายโลก แต่เพียงเท่านี้ๆๆๆๆ….. ตูมมมมมมม!!~~….. …..
เราจะมารู้สึกตัวอีกทีบนเตียงของเรานี่เอง.. “โครโน่.. ตื่นได้แล้ว…”
ไม่ใช่เสียงแม่.. แต่เป็นเสียงทหาร.. ทหารมาเชิญไปสอบสวนที่วังอีกครั้งครับ…
เมื่อกลับไปที่วัง ก็นึกว่าจะงานเข้าอีกแล้ว .. แต่กลับกลายเป็นว่า เป็นเซอไพรส์ที่พระราชาทำให้เราและมาร์ลนั่นเอง.. ลุคก้าพาทุกคนจากในทุกๆยุค มาเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระราชาฟัง.. พระราชาภูมิใจและชื่นชมองค์หญิงนาเดีย(มาร์ล)และเราอย่างมาก.. จัดงานฉลอง “พาเหรดพระจันทร์” ให้เรา.. ทุกคนมาร่วมยินดีด้วยที่ลานคนเมืองในตอนกลางคืน.. ชื่นมื่น อบอุ่น.. คุณแม่ของโครโน่ก็มา…
ให้เราเดินขึ้นไปด้านบนสุดที่เครื่องเจาะเวลาของลุคก้าตั้งอยู่..
ถึงเวลาต้องบอกลากันแล้ว.. ทุกคนต้องรีบกลับไปที่ยุคของตัวเอง ก่อนที่ประตูมิติจะอ่อนแรงและหายไป.. มีรายละเอียดที่น่ารักและน่าประทับใจหลายอย่างที่ไม่ขอเล่าละกันนะครับ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสเองดีกว่า… 😁👍
และในขณะที่ทุกอย่างกำลังจะจบสวยนั่นเอง.. คุณแม่ของโครโน่ก็วิ่งขึ้นมาไล่จับแมวน้อยที่กำลังหิว.. จนพลัดตกเข้าไปในประตูมิติ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน.. อย่ากระนั้นเลย.. เหลืออีกทางเดียวเท่านั้น คือแว๊นซ์ยาน “อีพอร์ช” ไปช่วยคุณแม่กลับมานั่นเองๆๆ.. ฮิ้ววว!!!!!.. ไปกันเลยพวกเรา….. 😁👍♥️🌹
จบบริบูรณ์แต่เพียงเท่านี้ครับผม…..
*** เกมโครโน่ทริคเกอร์เป็นเกมที่มีฉากจบมากถึง 12 แบบ(+1บน Nintendo DS).. ดังนั้น สามารถเล่นหลายรอบเพื่อเจอฉากจบที่แตกต่างกันได้นะครับ…
********* จบบริบูรณ์ *********
ขอได้รับความขอบคุณจาก ซีวีดีอินเตอร์เนชั่นแนลมา ณ โอกาสนี้.. 😁 ก็จบลงไปจนได้ หลังจากดองแล้วดองอีกข้ามปีกันเลยทีเดียวนะครับ.. ขอบคุณแฟนๆทุกท่านที่รออ่านนะครับ… ❤🌹
Good Job
👍🌹♥️
ชื่นชมและขอบคุณมากๆครับ ไม่ได้บทสรุปอันนี้เล่นไม่จบแน่นอน
👍♥️🌹