แชร์ลงโซเชียลมีเดีย

เกริ่นนำ.

อีกหนึ่งสุดยอดเพชรเม็ดเอกแห่งยุค 90 เกมอาร์พีจีระดับตำนาน ขึ้นหิ้ง ที่ใครที่ได้ชื่อว่าเป็นเกมเมอร์ผู้หลงไหลในวิดีโอเกมอย่างแท้จริงจะต้องเคยเล่น หรือต้องเล่น เท่านั้น.. พลาดคือเสียของเลย.. “Chrono Trigger : โครโน่ ทริคเกอร์” การผจญภัยข้ามการเวลาที่จะพาคุณไปพบกับยุคสมัยต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่หรือแต่ละยุค.. ดีไซน์ตัวละครโดย อ.โทริยามะ อากิระ ผู้สร้างการ์ตูนระดับตำนานอย่าง Dragon Ball ที่ไม่ว่าจะไปออกแบบหรือวาดให้เกมไหน แค่ได้เห็นตัวการ์ตูน แค่ได้เห็นปกเกมหรือโปสเตอร์ ความสนุกก็นำหน้าไปก่อนแล้ว 50% (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน น่ารักน่าเล่นไปหมด).. ตัวเกมถูกออกแบบและสร้างโดยยอดฝีมือจากทั้งทีมไฟนอลแฟนตาซีและดราก้อนเควสต์ ผสมผสานออกมาเป็น RPG ที่ให้กลิ่นแปลกใหม่.. การสู้กับมอนสเตอร์บนพื้นที่ทันที(ไม่ตัดเข้าฉากรบแบบ FF หรือ DQ) มีกลิ่นความเป็นแอ็คชั่นอาร์พีจีเพิ่มเข้ามา เพราะสามารถรอจังหวะให้ศัตรูเดินมาอยู่ใกล้ๆกันและใช้ท่าไม้ตายเพื่อโจมตีให้โดนทั้งกลุ่มได้ เป็นต้น.. แต่ยังคงใช้การเลือกคำสั่งอยู่ ไม่ได้เคลื่อนไหวอิสระแบบแอคชั่นซะทีเดียว.. เสียงดนตรีไพเราะเสนาะหูแทบทุกฉาก(มีวางขายเป็นเรื่องเป็นราว).. กราฟิกที่เรียกได้ว่า สวยงามและจัดเต็มเท่าที่พ.ศ.นั้นจะทำได้.. เวลาเห็นใครเปิดเล่นในร้านเกมนี่ เท่ห์มากๆ สวยมากๆเลยครับ..

ต้องเล่นเท่านั้นครับ.. ไม่ควรพลาด.. ถ้าจะเล่นก็แนะนำเวอร์ชั่นบน Super Famicom และ PlayStation1 เป็นหลักครับ.. ตัวรีเมก HD ที่ลงบน Android และ iOS มีข้อดีคือ มีภาษาไทยให้อ่าน แต่ข้อเสียคืออินเตอร์เฟซสวยงามและลงตัวไม่เท่าต้นฉบับ อีกทั้งยังบังคับใช้ฟิลเตอร์กราฟิกแบบ “ละลายเม็ดพิเซล” อีกด้วย(คงพยายามทำให้มันดู HD ขึ้น แต่ผู้เขียนไม่ชอบภาพแบบนั้นเท่าไหร่ บนอีมูเลเตอร์ก็สามารถทำได้ ก็ยังไม่ค่อยทำ ชอบภาพแบบเห็นพิกเซลชัดๆมากกว่า.. ตั้งค่าก็ไม่ได้ด้วยนะครับ..).. ก็เลือกตามความสะดวกและพอใจครับ บางท่านอาจชอบก็ได้..

สนุกสนานไปกับการ์ตูนดีๆเรื่องนึงที่ อ.โทริฯ เป็นคนวาด โดยที่เราสวมบทเป็นพระเอกตลอดการเดินทาง.. ต้องมีอะไรดีๆแน่นอนครับ….. 🙂

คำเตือน999

บทสรุป.

เริ่มต้นเกม.. เราจะอยู่ในปี A.D.1000 วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปีของเมืองเรา.. มีเทศกาลที่ลานคนเมือง จุดพลุปุ้งๆปั้งๆ อากาศแจ่มใส.. แต่ตัวเรานั้นไซร้ “หลับอยู่” นั่นเอง..

เสด็จแม่จะทิ้งหม้อแกงที่กำลังเดือดอยู่ในครัวขึ้นมาปลุกเราที่ห้องนอน.. “ตื่นได้แล้วลูก.. ไปซื้อตะไคร้ให้แม่หน่อยลูก ตะไคร้หมดลูก..”.. นั่น!.. (อันนี้แม่โครโน่หรือแม่ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจ..).. แม่จะเปิดหน้าต่างให้แสงสาดเข้ามาโดนเรา โดยไม่ถามสุขภาพเราซักคำ.. ก่อนที่แม่จะลงไปพร้อมกับแมวน้อย ทิ้งเราซึ่งเป็นแวมไพร์นอนดึกให้ตะเกียกตะกายลุกจากเตียงโดยลำพัง.. “ย้าฮู้!!” ดีดตัวลุกจากเตียงอย่างมีพลัง.. สำรวจให้ทั่วห้อง แล้วเดินลงมา.. แม่จะยืนดักคุยกับเราตรงบันได “อย่าลืมซื้อซีอิ๊วขาวมาด้วยนะลูก”.. นั่น!.. มีเพิ่มอีก.. แต่เจ๊ก็ยังไม่ได้ให้ตังค์ ให้เราเดินตามไปคุยซ้ำอีกรอบเพื่อกรรโชกทรัพย์.. แล้วเธอก็จะให้ตังค์เรามา.. กอดแมวน้อยหนึ่งทีแล้วออกจากบ้าน.. เริ่มต้นการผจญภัย….. 🙂

ออกจากบ้าน.. เดินขึ้นไปทางทิศเหนือ มุ่งหน้าสู่งานเทศกาลใหญ่ที่กำลังคึกคักกันเลยทีเดียวเชียว.. เมื่อเข้าไปในงานก็ สดใสซาบซ่ากันเลย.. มีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก.. ก็เต็มที่เลยครับ สำรวจให้หมด เล่นเกมให้ครบทุกซุ้ม.. เกมตีกระดิ่ง, เกมแข่งกินน้ำอัดลม, พนันการวิ่งแข่งของเด็กๆ, บ้านผีสิง, เต้นคนป่าจูราสสิค, สู้กับหุ่นยนต์, ฯลฯ

หลายเกมจะให้ Silver Point กับเราด้วย(สู้กับหุ่นยนต์จะได้เยอะที่สุดคือ 15 SP เมื่อได้เยอะๆสามารถเอาไปแลกเป็นเงินจริงๆที่ซุ้มนึงได้ด้วย.. ถ้าไม่รีบ เก็บเงินเยอะๆไปซื้อดาบที่แพงที่สุดในงานได้เลยทีเดียว..)..

ที่โซนแรกด้านหน้า เมื่อเราคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงน้ำพุ เธอจะบ่นถึงสิ่งประดิษฐ์ที่แสนอันตรายของ “ลุคก้า” และคุณพ่อให้เราฟังด้วย.. เมื่อสำรวจโซนแรกเสร็จแล้ว ก็เดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง.. เราก็จะได้พบกับ “หัวใจของเรา” เป็นครั้งแรก.. “มาร์ล” หรือองค์หญิงนาเดียที่ปลอมตัวมานั่นเอง..

..เพียงแรกพบประสบพักตร์ ก็นึกรักจนล้นใจ..

มาร์ลแอบหนีออกมาเที่ยว เธอจะเดินลุกลี้ลุกลนอยู่บริเวณ “ระฆังของลีเน่” นั่นเอง.. เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ เธอจะเดินมาชนใส่เราโครมใหญ่ จนกระเด็นน็อคพื้นทั้งคู่.. “สร้อยคอ” แสนรักของเธอจะกระเด็นหลุดไปขวาบน.. เธอจะขอโทษเราและรีบหาทันที แต่เธอจะหาไม่เจอ ก็ให้เราไปเก็บสร้อยคอมาคืนเธอ.. มาร์ลจะดีใจมากๆ ขอบคุณเรา และขอไปกับเราขอให้เราพาเที่ยวงานที.. 🙂 จัดไป ชุดใหญ่..

จุดที่น่าสนใจที่สุดในงานคือ ทางซ้ายของโซนสองนี้เอง.. จะมีคุณลุงที่รับแลกเหรียญซิลเวอร์พ้อยท์เป็นเงินจริง จะมีอาหารของคุณลุงถุงสีชมพู ซึ่งเราสามารถกินแล้ว HP/MP เต็มได้.. ถัดไปก็จะเป็นเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ที่ชอบร้องเพลง ถ้าเราสามารถชนะเค้าได้ก็จะได้ถึง 15 SP อย่างที่บอก.. ยิ่งได้มาร์ลมาร่วมกลุ่มแล้วยิ่งสะดวกเลยครับ.. วิ่งวนไปมาซักพักก็รวยแล้วครับ.. อิอิ..

เมื่อเราไปคุยกับผู้ชายสองคนที่เป็นการ์ดที่ยืนขวางทางไปโซนที่สามอยู่ เค้าจะบอกว่ายังไม่พร้อมให้เข้า.. ก็ให้วิ่งกลับไปคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงน้ำพุในโซนที่หนึ่งอีกครั้ง เธอก็จะพูดขึ้นมาว่าพื้นที่โซนสามน่าจะพร้อมแล้ว เราก็สามารถไปเข้าโซนที่สามได้แล้วครับ.. แต่ก่อนจะไป อย่าลืมแวะซื้อดาบที่คุณลุงเต๊นท์นึงก่อนด้วย จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้ได้อย่างดีเลยเชียว(เครื่องป้องกันด้วยก็ดี แต่คนละเต๊นท์นะ).. ลุงขายดาบจะสนใจสร้อยคอของมาร์ลด้วย เค้าให้เราช่วยกล่อมให้มาร์ลขาย เราก็ตอบ “ไม่” ไปครับ..

พร้อมแล้วเดินทางไปเข้าโซนสามตรงจุดที่เคยมีการ์ดยืนปิดอยู่สองคน.. พอเข้ามาก็นะ.. เพื่อนรักเรา “ลุคก้า” กับคุณพ่อนั่นเอง.. กำลังจัดแสดง “เครื่องวาร์ปย้ายมวลสาร” อยู่.. กำลังหาหนูทดลองอยู่พอดี.. เข้าไปคุยกับลุคก้า เธอจะบ่นว่าไม่มีใครกล้าทดลองเลย ช่วยหน่อยสิ(ทำไมหวยมาลงที่เราฟร้ะ 😂).. มาร์ลเชียร์เต็มที่ให้เราลอง.. จัดให้ตามคำขอ.. เราจะขึ้นไปยืนบนเครื่องวาร์ปทางซ้าย เมื่อเดินเครื่องเราก็จะวาร์ปมาทางขวา รู้สึกเสียวตูดนิดหน่อยแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี.. มาร์ลชอบใจมากและขอลองเองบ้าง เธอดูมีความสุขสุดๆในวันนี้..

อะไรนะ!!.. ให้เราลองเยี่ยงนั้นหรือ!?..

แต่เมื่อมาร์ลขึ้นไปยืนบนเครื่องแล้วเดินเครื่อง.. กลับเกิดปฏิกิริยาแปลกๆขึ้นกับสร้อยคอของเธอ มีสายฟ้าแลบแปล้บปล้าบและเกิดประตูมิติขึ้น มันดูดมาร์ลหายเข้าไปพร้อมกับความตกตะลึงของทุกคน เหลือไว้เพียงสร้อยคอของมาร์ลที่พื้นเครื่องเท่านั้น..

เกิดอะไรขึ้นล่ะนี่!!?

เราทุกคนจะปรึกษากันถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น.. ลุคก้ามั่นใจว่าน่าจะเป็นเพราะสร้อยคอของมาร์ลแน่นอนที่เป็นตัวแปรสำคัญให้เกิดเรื่องนี้.. โครโน่ไม่รอช้า รีบคว้าสร้อยคอมาไว้กับตัวแล้วไปยืนบนเครื่องทันที บอกลุคก้าให้เดินเครื่องอีกครั้ง เค้าจะรีบไปช่วยมาร์ลกลับมา.. เมื่อเดินเครื่อง ก็สมใจปราถนา โครโน่ถูกดูดเข้าไปในประตูมิติแบบเดียวกับมาร์ลจริงๆ.. ลุคก้าบอกว่าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด..

เราจะวาร์ปมาโผล่ที่ป่าสดใสแห่งหนึ่ง.. เดินหาทางออกมาทางทิศใต้(มอนส์ก็น่ารักๆไม่เก่งมาก เรื่อยๆชิวๆครับ).. เมื่อโผล่ออกจากป่ามา กลับกลายเป็นว่า ป่านี้คือพื้นที่จัดงานในอดีตเมื่อสี่ร้อยกว่าปีที่แล้วนั่นเอง.. ตอนนี้เราอยู่ในปี A.D.600.. แผนที่โลกก็คุ้นตา แต่ก็มีบางอย่างแตกต่างออกไป..

ที่ไหนกันล่ะนี่?
มอนสเตอร์น่ารักจุ๋มจิ๋มอยู่
คุ้นตาอยู่นะแผนที่โลก

เดินลงมาหาข้อมูลละแวกหมู่บ้าน.. เราจะได้รับรู้ข้อมูลเรื่องการหายตัวไปของราชินี “ลีเน่”.. ได้รู้ข้อมูลเรื่องการต่อสู้กับจอมมารที่ยังไม่จบ.. ได้เห็นการสร้างระฆังแห่ง “ลีเน่” ที่ยังทำไม่เสร็จด้วยซ้ำ.. ให้ตายเถอะ มหัศจรรย์พันธุ์ลึกจริงๆ ยังกะแบ็คทูเดอะฟิวเจอร์.. แต่ยังไงก็ตาม มาร์ลสำคัญที่สุด ต้องหามาร์ลให้เจอก่อน.. มีคนพูดถึงว่าพบราชินีในป่าแล้วพากลับไปที่วังด้วย บางทีที่วังอาจมีเบาะแสอะไร.. มีคนพูดถึงว่าที่โบสถ์ทางตะวันตกมีอะไรแปลกๆด้วย.. ต้องแวะซักหน่อยก่อนไปวัง..

พักผ่อนให้พร้อมแล้วออกเดินทาง.. ไปทางตะวันตกไม่ไกลจะได้พบกับโบสถ์ แวะเข้าไปสำรวจหน่อย จะได้พบกับกลุ่มแม่ชีที่พูดอะไรแปลกๆ.. ออกมาแล้วขึ้นเหนือ เข้าป่าเพื่อฝ่าไปวัง.. มอนสเตอร์ก็สบายๆอยู่ครับ ชิลๆ แต่จะมีอยู่ตัวนึงที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ พุ่มไม้จะสั่นๆเมื่อเข้าไปสำรวจมันจะกระโดดออกมา ตัวสีขาวเทาอ้วนๆ มันวิ่งหนีไปและทำไอเท็ม “Shelter” หล่นไว้เสมอ.. ไอเท็มชิ้นนี้เป็นประโยชน์มากๆ คือเติม HP/MP เต็มได้ที่จุดเซฟ.. จำพิกัดที่มันโผล่เอาไว้ และเดินเข้าออกป่าเพื่อเก็บซ้ำหลายๆอันเลย.. พอใจแล้วก็เดินทางต่อ.. เมื่อทะลุป่าก็จะเจอมหาราชวังทันที.. เข้าไปโลด..

ในตอนแรกทหารจะไม่ให้เราเข้า และปากดีใส่เราต่างๆนาๆ.. จนราชินีลีเน่เดินมาบอกว่าเราเป็นเพื่อนของเธอ ให้เข้าไปได้ พวกทหารถึงจะหยุดปากดีและทำดีกับเรา.. เกิดอาการงงนิดหน่อยที่ทำไมราชินีหน้าเหมือนมาร์ลเป๊ะเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ..

หยุดปากดีทันที

เดินสำรวจวังให้ทั่ว เราจะได้รับรู้ข้อมูลมากมาย.. ไปที่ห้องครัวสามารถนั่งกินอาหารได้.. หัวหน้าห้องครัวเป็นคนปากร้ายและใจร้อน เค้ากับหัวหน้าอัศวินไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่ มีการปะทะคารมณ์กันนิดหน่อย.. สำรวจทั่วแล้วให้เข้าไปหาราชินีลีเน่ที่ห้องส่วนตัว..

เมื่อเข้ามาอยู่กันสองคน ราชินีจึงได้เฉลยว่าจริงๆแล้วเธอก็คือมาร์ลนั่นแหละ.. เธอดีใจที่โครโน่ตามมาช่วยเธอ และมั่นใจว่าเราจะต้องตามมาแน่.. ในขณะที่กำลังคุยกันนั่นเอง ก็เกิดอาการปะหลาดกับมาร์ล ตัวเธอเรืองแสง ร้องว่าเจ็บและให้โครโน่ช่วยด้วยก่อนที่เธอจะสลายไป.. อะไรกันอีกเนี่ย!?.. โครโน่คว้าเธอไว้ไม่ทัน..

เดินออกมา เราจะได้พบกับ “ลุคก้า” ที่ตามมาอย่างเร็วด้วยอาการหอบรับประทาน.. เธออธิบายทุกอย่างให้ฟัง.. อันดับแรกคือ มาร์ลคือองค์หญิงนาเดียปลอมตัวมา(โครโน่ตกใจนิดหน่อย).. และองค์หญิงนาเดียก็เป็นลูกหลานของราชินีลีเน่นั่นเอง(ถึงได้มีหน้าตาคล้ายกัน).. ที่มาร์ลสลายไป ก็น่าจะเป็นเพราะตอนนี้ราชินีลีเน่กำลังอยู่ในอันตราย และทางวังกลับคิดว่าเจอตัวพระนางแล้ว(คิดว่ามาร์ลเป็นราชินีลีเน่).. เมื่อไม่มีใครไปช่วย ราชินีลีเน่ก็อาจตายหรือไม่ได้กลับมา ประวัติศาสตร์ก็จะเปลี่ยน มาร์ลก็จะไม่มีตัวตน เธอจึงสลายไป.. ดังนั้นถ้าอยากให้ทุกอย่างกลับเข้าร่องรอยเดิม เราต้องเป็นคนไปช่วยราชินีลีเน่ด้วยตัวพวกเราเองนี่แหละ.. ด้วยเหตุนี้กลุ่มเอ็กซ์ฟอร์ซของเรา(อีกละ 😂)จึงได้ถือกำเนิดขึ้นนั่นเอง!!.. เองๆๆๆ..

ลุคก้าตามมาอย่างเร็ว

ออกจากวัง มุ่งหน้าไปที่โบสถ์ประหลาดนั่นอีกครั้ง.. ออกจากป่าแล้วไปทางตะวันตกจึ๋งนึงนั่นเอง.. รอบนี้เมื่อคุยกับแม่ชี พวกหล่อนจะกลายร่างคืนเป็นร่างปีศาจที่แท้จริง.. เป็นปีศาจทั้งหมดเลย ปราบให้หมด.. เมื่อปราบหมดแล้ว อัศวิน “Frog” สุดหล่อจะปรากฏตัว.. เค้ามาเพื่อช่วยราชินีลีเน่ เค้าจะถามเราว่าจะไปด้วยหรือไม่ ถ้าเราจะไปด้วย เราก็จะได้เค้าร่วมกลุ่มเพิ่มอีกหนึ่งคน.. ท่าพิเศษของฟร็อกจะเป็นประโยชน์มากๆตั้งแต่ท่าแรกเลยคือ “Slarp” เป็นท่าเลียที่จั๊กกระเดียมหน่อย แต่สามารถเพิ่ม HP ให้ทุกคนได้ในขณะที่อยู่ระหว่างการต่อสู้เลยทีเดียว.. เสร็จแล้วสำรวจที่เปียโนซ้ายบน.. เมื่อเรากดสำรวจที่เปียโน ประตูลับเพื่อเข้า “รังปีศาจ” ก็จะปรากฏ(ทางขวาบน).. เข้าไปโลด…..

อ้าว!.. แม่ชี.. เป็นปีศาจทั้งหมด!!
อัศวิน “ฟร็อก” สุดหล่อเข้าร่วมกลุ่มแล้ว!!

ขอบอกเลยว่า.. ภายในรังปีศาจหลังโบสถ์นี้ คือจุดฟาร์มเลเวลและเงินอันยอดเยี่ยม.. ถ้าไม่รีบ วนเข้าวนออกหลายๆรอบได้เลยครับ รวยแน่นอน.. สำรวจให้ทั่ว.. ในตอนแรกประตูที่จะไปต่อในโซนที่สองจะปิดอยู่ เป็นเพียงกำแพงที่มีกระดาษแปะอยู่หนึ่งใบเท่านั้น เราต้องไปกฏปุ่มกลไกหัวกะโหลกก่อนเพื่อเข้าไปในห้องบนกลางที่มีเปียโน หาไม่ยากครับ อยู่ในห้องใดห้องหนึ่งนั่นแหละ.. พอเข้าไปได้ ปราบมอนส์ฯให้หมด แล้วก็ไปสำรวจที่เปียโน ประตูลับเพื่อเดินทางต่อก็จะปรากฏ.. เมื่อประตูแสดง ก็เข้าไปต่อโซนสองได้เลยครับ.. สำรวจให้ทั่วเช่นกัน.. เราจะเจอจุดเซฟทั้งหมดสองจุด.. จุดที่สองคือก่อนถึงห้องบอสนั่นเอง..

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ บุกห้องบอสได้เลยครับ.. เมื่อเข้ามา เราจะได้พบกับราชินีลีเน่และเสนาบดีตัวปลอมอยู่สมปราถนา.. เจ้าเสนาบดีตัวปลอมจะเผยร่างที่แท้จริง กลายเป็นเจ้าปีศาจอ้วนเหลือง “ยาคูร่า” บอสตัวแรก.. จัดการให้ลงครับ ไม่ยากไม่ง่าย.. จัดท่าไม้ตายทั้งหมดที่มียัดใส่รัวๆ.. เดี๋ยวก็เรียบร้อยครับ..

เจ้า “ยาคุร่า” บอสตัวแรก

เมื่อปราบมันได้สำเร็จ เราก็จะช่วยเสนาบดีตัวจริงที่ถูกมัดไว้ในหีบออกมา.. ราชินีลีเน่ดีใจและขอบคุณพวกเรามาก พวกเราทุกคนจะกลับมาที่วัง.. พระราชาดีใจมากที่ราชินีลีเน่ปลอดภัย.. ฟร็อกจะรู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถพิทักษ์ราชินีให้ปลอดภัยได้ตั้งแต่แรก เค้าจะเนรเทศตัวเองเพื่อเป็นการลงโทษ ออกจากอาณาจักร.. คุยกับทุกคนและวิ่งกลับไปในจุดที่มาร์ลสลายไปอีกครั้ง.. มาร์ลคนสวยก็จะกลับมาเป็นปกติดังเดิมที่เดิมอีกครั้ง..

ออกมาพูดคุยร่ำลาทุกคน หรือคุยให้ทั่วปราสาทเลยก็ดีครับ(จะเจอฟร็อกอีกครั้งที่หน้าปราสาท).. แล้วเดินทางกลับมายังจุดวาร์ปในป่าที่เราโผล่มา.. ตอนนี้ลุคก้าสามารถค็อนโทรลประตูมิติได้ประมาณหนึ่งแล้ว มาร์ลทึ่งในความเก่งของลุคก้ามากๆ.. เข้าประตูมิติเพื่อกลับมายังเวลาปกติของเราครับ..

พาราชินี “ลีเน่”กลับมาอย่างปลอดภัย
“มาร์ล” คนสวยกลับมาแล้ว!!!
“ฟร็อก” รู้สึกผิดมากจนเนรเทศตัวเอง

เราจะกลับมายังงานฉลองครบรอบ 1,000ปี ในช่วงเวลาของเราเหมือนเดิม(น้ำตาจะไหล).. ออกจากงานไปแวะหาแม่แป้บนึง แม่จะแซวว่าปกติไม่เคยเห็นไปกับสาวไหนเลยนะนอกจากลุคก้า แล้วแม่สาวน่ารักคนนี้เป็นใครจ๊ะ.. คุยกับแม่เสร็จก็พามาร์ลไปนอนบนห้องนอนเราหนึ่งคืน สองต่อสอง.. แฮร่!!.. (นิสัยจริงมาอีกละ).. HP/MP เต็ม.. พร้อมแล้วเดินทางพาองค์หญิงไปส่งยังปราสาทซึ่งเป็นบ้านของเธอนั่นเอง..

แม่ไม่พลาดที่จะแซว.. อิอิ..

เมื่อถึงปราสาทราชวัง.. เจ้าเสนาบดีเฒ่า จะปรักปรำเราว่าเป็นคนลักพาตัวองค์หญิง และมีประสงค์ร้ายต่อองค์หญิงนาเดียและราชวงศ์ สั่งให้ทหารจับกุมเราโดยไม่ฟังเสียงขององค์หญิงเลย.. เราจะถูกจับมาเป็นจำเลยที่ศาล.. (ตรงนี้น่ารักดีนะครับ บรรยากาศและกราฟิกสวยงามดี ให้ความรู้สึกแปลกๆและตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน.. ให้ความรู้เล็กๆเรื่องขั้นตอนการถกเถียงและเบิกพยานในศาลด้วย..).. โครโน่จะถูกซักและปรักปรำอย่างหนักจากเจ้าเสนาฯเฒ่า.. ที่ฮาคือ พยานที่เบิกมาแต่ละคนเป็นคนที่อยู่ในงานเทศกาลทั้งนั้นเลย.. เช่น คุณลุงที่ให้เรากินห่อข้าวสีชมพูของแก(เพิ่ม HP/MP แล้วไปสู้กับหุ่นยนต์) ก็มากับเค้าด้วย.. บอกว่าเราขโมยอาหารแก แหม่..น่าทุบจริงๆ ก็ลุงให้ผมกินเอง.. สุดท้ายการลงคะแนนเสียงให้ลูกขุน ก็สรุปว่าเราเป็นคนร้ายอยู่ดี..

บรรยากาศอันแสนอลังฯในศาล
น่าตบให้หูหลุด.. เจ้าเสนาฯเฒ่าเจ้าเล่ห์..

เราจะถูกลากมาที่คุก พวกมันจะทำไม่ดีกับเราเลย ปิดท้ายด้วยการเอาด้ามปืนฟาดจนเราสลบ.. เราจะมาฟื้นอีกทีในห้องขังอันแสนมืดและเย็น.. มีจุดเซฟให้ ก็เซฟซะหน่อยครับ เพื่อความปลอดภัย.. วิธีออกจากที่นี่คือ เคาะลูกกรงจนผู้คุมรำคาญแล้วเปิดเข้ามา(หวังตื้บเรา).. เมื่อเปิดประตูก็ เรียบร้อยครับ จัดการซะเลย.. ทีนี้ก็สะดวกโยธิน.. สำรวจให้ทั่วทั้งคุกครับ มีทางไปหลายทาง มีสมบัติให้เก็บมากมาย.. ศัตรูที่มีโล่ห์ป้องกัน รอจังหวะให้มันเปิดโล่ห์แหลมหน้าออกมาก่อนค่อยฟันมันนะครับ.. จะมีห้องนึงที่มีนักโทษถูกล็อคตัวไว้ที่เครื่องตัดหัว ช่วยเค้าแล้วเค้าจะบอกที่อยู่บ้านเค้า ว่างๆให้เราแวะไปหาได้.. จะมีห้องหนึ่งที่กำแพงแตก ให้เราปีนออกไปแล้วไต่กำแพงลงมาเก็บของดีได้ครับ..

สำรวจไปจนสุดทาง.. เราจะได้เจอกับโต๊ะผู้คุม.. ลุคก้าก็จะมาช่วยเราพอดี.. ตื้บผู้คุมแล้วจะมีกระดาษโน้ตหล่นลงมา.. เมื่ออ่าน จะเป็นเอกสารบอกรายละเอียด “รถถังมังกรเหล็ก” อาวุธใหม่ของอาณาจักร.. บอกว่าจุดสำคัญอยู่ที่ส่วนหัว เพราะสามารถใช้ฮีลส่วนอื่นๆได้ทั้งตัว.. ขอบใจมาก.. 🙂 สำรวจที่ตัวผู้คุมจะได้ “Shelter” ถึง 5 ชิ้นเลยทีเดียว.. เตะซ้ำที่ชายโครงอีกทีก่อนไป (กูอำมหิตกว่าที่มึงคิดเยอะ 😂 )..

อย่าว่ากันเลยนะ

หาทางไปต่อเรื่อย.. จะมีห้องที่มีรูที่พื้น สามารถลงไปเก็บของได้.. ไปต่อจะได้เจอกับสะพานยาวแบบตอนที่เรามาทีแรก.. สุดสะพานเราจะได้เจอกับรถถังมังกรเหล็กที่เจ้าเสนาฯเฒ่าหวังเอามาฆ่าเรา.. อย่ากระนั้นเลย.. ระบายความแค้นทั้งหมดที่เรามีใส่เจ้ามังกรเหล็กนี่แหละ.. ย้ากกก!!.. (ทำลายหัวก่อนที่แรก ไม่งั้นมันจะฮีลได้เรื่อยๆ).. โถมทุกกระบวนท่าที่เรามีใส่มัน.. ไม่นานก็เรียบร้อยครับ.. แต่ก็ต้องระวังอยู่เหมือนกัน คอยฮีลให้ทันด้วย เพราะมันโจมตีแรงอยู่เหมือนกัน..

เมื่อเอาชนะได้.. รถถังมังกรเหล็กจะระเบิดตูมใหญ่ จนเจ้าเสนาฯและทหารที่มาด้วยต้องต่อแขนต่อขากันเพื่อรั้งกันไว้ไม่ให้ตก(อย่างฮา).. ให้เราวิ่งเหยียบหลังพวกมันแหละข้ามไป.. สนุกจังเลย.. อิอิ..

ยังไม่หยุดปากดี.. จะตายมิตายแหล่..

เมื่อวิ่งมาใกล้ถึงหน้าปราสาท จะได้เจอกับองค์หญิงนาเดียหรือมาร์ลอีกครั้งในชุดเจ้าหญิง.. เธอไม่โอเคกับเรื่องงี่เง่าพวกนี้มากๆ จนมีปากเสียงกับคุณพ่อหรือพระราชานั่นเอง.. เธอจะไม่ทนอีกต่อไป.. องค์หญิงจะเป็นคนสลัดชุดออกและพาเราหนีออกมาด้วยตัวเอง(กากั๋นจริงๆแฟนเรานี่).. ทหารจะตามเรามาเป็นโขยงจนถึงในป่า.. ให้เราวิ่งไปจนถึงจุดวาร์ปทางด้านขวา.. มันจะเป็นทางตัน แล้วเราไม่มีทางเลือกแล้ว.. เจ้าเสนาฯและทหารจะปิดทางไว้หมด.. จึงเหลือทางเดียวคือ กระโดดเข้าจุดวาร์ปเท่านั้น.. ซึ่งลุคก้าเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการคอนโทรลมันเท่าไหร่ จึงบอกไม่ได้ว่าจะไปโผล่ที่ไหนนะ.. แต่ถึงกระนั้น มันก็เหลือทางเดียวแล้วจริงๆที่จะหนีจากพวกนี้ได้.. เราทั้งสามคนจึงตัดสินใจกระโดดเข้าจุดวาร์ป วาร์ปหายตัวไปต่อหน้าต่อตาเจ้าเสนาฯเฒ่าและเหล่าทหารทั้งหลายนั่นเอง.. พวกนั้นอึ้งอ้าปากค้างกันไปหมดว่าเราหายไปไหนและหายไปได้อย่างไร…..

………

เราจะไปโผล่ที่ๆหนึ่ง.. ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเสื่อมโทรมไปนิด แต่ก็มีวัสดุและสถานที่ที่ดูมีเทคโนโลยีสูงและล้ำหน้ากว่าที่บ้านเรามากๆ.. เมื่อออกมาจะพบกับซากเมือง ที่เสื่อมโทรม เหมือนเกิดปัญหาอะไรซักอย่าง.. สถานที่ๆเราอยู่มีชื่อว่า “บังเกอร์โดม”.. ให้เราเดินทางลงมาทางใต้ จะได้พบกับ “ทรานโดม” ซึ่งที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง.. แต่ทุกคนอยู่ในสภาพที่หิวโหยและสิ้นหวังมากๆ.. มีเครื่อง “เอเนอตรอน” ให้นอนพักได้ฟรี HP/MP เต็ม แต่ไม่ช่วยให้อิ่มท้องได้นะ(ชาวบ้านเค้าว่าแบบนั้น).. คุยกับทุกคนให้ทั่ว เราจะได้ข้อมูลหลายอย่าง.. ออกมาแล้วเดินทางขึ้นทางเหนือบ้าง.. เราได้ข้อมูลว่าทางตะวันออกมี “อารีสโดม” อยู่ ที่นั่นน่าจะมีอาหาร แต่เราต้องผ่าน “Site 16 : ไซต์สิบหก” ไปก่อน.. ที่ไซต์สิบหกนี้ ดูคล้ายที่ทิ้งขยะเศษเหล็กขนาดใหญ่ เสื่อมโทรมและสกปรก มีหนูร้ายเต็มไปหมด.. คำแนะนำในการเดินทางผ่านที่นี่คือ “อย่าให้หนูโดนตัว” ดีที่สุด.. เพราะมันเป็นหนูขี้ขโมยที่จะฉกไอเท็มเราทันทีนั่นเอง ถึงแม้จะเป็นแค่โพชั่น แต่ถ้าโดนบ่อยๆตลอดทางก็น่าเสียดายเหมือนกันนะ.. ดังนั้น จ้องจังหวะเคลื่อนไหวของมันดีๆ แล้วพุ่งตัวออกไปในทางที่เราต้องการ…..

สถานที่แปลกตา
นี่คือที่ไหนกันแน่นะ?
ผู้คนหม่นหมองและหิวโหย

ในไซต์16จะมีมอนสเตอร์จำพวก “ผี” อยู่ด้วย.. ตัวจะออกสีม่วงๆ.. เราจะไม่สามารถโจมตีมันด้วยดาบหรือกระสุนธรรมดาได้.. ต้องใช้ท่าประเภทธาตุ ดินน้ำลมไฟ โจมตีพวกมัน.. ที่มีตอนนี้ก็คือท่า ดาบลมของพระเอก, และท่าปืนไฟของลุคก้านั่นเอง.. ดังนั้นคอยดู MP ให้ดี อย่าให้หมด ไม่งั้นอาจลำบากได้เลย..

ไอ้หนูอัปปรีย์.. อย่าไปโดนมันเชียว..

ทะลุไซต์16ออกมา.. ก็จะพบกับโดม “อาร์ริส” ทันทีทางขวามือ.. เมื่อเข้าไปจะพบกับกลุ่มคนจำนวนมากกว่าที่ทรานโดมอีก มีผู้นำเป็นคุณตา “โดแอน” คุยกับทุกคนเราจะได้รู้ว่า ที่ใต้ดินของที่นี่มีห้องเก็บอาหารอยู่ แต่เข้าไปเอาไม่ได้ มีคนพยายามเข้าไปเอาแต่ก็ไม่กลับมาอีกเลย.. มีน้องคนนึงที่ซ้ายสุด ขายไอเท็มด้วย ซื้อไอเท็มให้แน่นได้เลยครับ Potion นี่ เรารวยพอที่จะซื้อ 99 อันได้แล้วนะครับตอนนี้.. พกไว้ให้แน่น เราก็จะสบายใจครับ ไม่ว่าจะเกิดอีเว้นท์อะไรที่เราไม่คาดฝันขึ้น.. มีเครื่องเอเนอตรอนให้นอนพัก มีจุดเซฟให้..

คุณตา “โดแอน” ผู้นำของที่นี่

ก่อนจะไปต่อตรงนี้ ผู้เขียนแนะนำให้พาพวกเราไปเดินเก็บเลเวลให้แกร่งสุดๆ(เท่าที่จะทำได้ตอนนี้)ก่อน จะเป็นการดีครับ.. เพราะบอสใต้ดินของที่อารีสโดมนี่ เอาเรื่องทีเดียว มีลูกน้องด้วย.. สามารถออกไปเก็บเลเวลได้ที่ “Site 16” ที่เราเพิ่งผ่านมา หรือที่ท่อน้ำโสโครก ทางตะวันออกก็ได้.. ถ้าให้แนะนำ แนะนำเป็นท่อน้ำโสโครกดีกว่าครับ เพราะมอนสเตอร์ให้ Exp เยอะกว่า(ถึงแม้มันจะร้ายพอตัวก็ตาม).. ในท่อน้ำโสโครกนี้ จะมีเหตุการณ์นิดหน่อย จะมีเจ้ากบน้อยวิ่งซนพูดนั่นพูดนี่ให้เราได้ยิน จะมี “พรายน้ำ” จำนวนมาก ซึ่งพวกมันจะโจมตีแรงใช้ได้ แต่ก็ไหวอยู่.. มีทางลับให้ไปกดสวิทช์เพื่อไปต่อ.. จริงๆมันสามารถทะลุไปยัง “ยอดเขาแห่งความตาย” ได้.. แต่อย่าเพิ่งไป.. เพราะบอสปลายท่อนี้ โหดใช้ได้เลย.. ถึงมันจะดูติ๊งต๊องบ้าง แต่มันฟาดเราแรงมาก มันจะฟาดเราแบบที่เดอะฮัล์คฟาดโลกิในภาพยนตร์ดิอเว็นเจอร์1เลยทีเดียว.. แรงมากจนเราตายได้ในครั้งเดียวเลย.. อย่าเพิ่งไปบวกกับมันเพราะตอนนี้เราแค่มาเก็บเลเวลเท่านั้น.. ดังนั้น ให้เดินเก็บเลเวลและหยุดแค่ห้องลับที่เราต้องลอดห้องสีดำไปเพื่อกดสวิทช์ แค่นั้นพอ แล้วกลับออกมา แล้วเข้าไปใหม่(เพื่อโหลดมอนสเตอร์ชุดใหม่).. จนเรารู้สึกว่าโอเคละ พอใจแล้ว.. ก็ให้กลับไปเดินเรื่องต่อที่ “อารีสโดม”.. สังเกตุดีๆบริเวณใต้เท้าของคุณตา “โดแอน” จะมีทางลงไปข้างล่าง โดยมีบันไดปีนโผล่ขึ้นมานิดหน่อย..

พร้อมแล้วลงไปสำรวจ

เซฟหนึ่งที.. แล้วเดินลงไปครับ.. ก่อนลงไป พ่อเฒ่าจะตกใจนิดหน่อยว่าจะลงไปจริงๆหรือ.. เราก็จะยืนยันว่า แน่นอน….. ลงมาจะได้เจอกับห้องแรกที่มีแผงควบคุมอยู่ แต่เรายังทำอะไรมันไม่ได้.. ให้เดินไปต่อที่ประตูทางซ้าย.. จะได้พบกับโซน “ขื่อเหล็ก” พาดกันไปมา ให้เราเสียวตูดเล่น.. เดินไปเรื่อยๆจะได้พบกับ “รูปปั้นหนู” ที่น่าสงสัย พร้อมกับโน้ตอะไรนิดหน่อย.. เดินต่อจะพบทางออกด้านบน.. เราจะมาโผล่ที่ห้องซึ่งมีเสียงสัญญาณเตือนแปลกๆ.. และก่อนที่เราจะทะลุผ่านห้องนั่นเอง เราก็จะได้พบกับ เจ้าหุ่นเฝ้ายามสุดโหด ห้อยลงมาจากเพดาน ซึ่งมันจะมีลูกน้องให้ใช้งานด้วยซ้ายขวา….. เรียกว่า โหดใช้ได้ทีเดียว.. เกมยาวครับบอกเลย.. คำแนะนำในการปราบมันก็คือ ให้เราปราบลูกน้องซ้ายขวาของมันก่อน แล้วค่อยโจมตีตรงกลาง(หรือที่ตัวมัน).. เพราะถ้าเราโจมตีตรงกลางตอนที่มันยังมีบริวารอยู่ มันจะใช้ท่าสามเหลี่ยมสังหาร ซึ่งโดนทุกๆคนพร้อมกันในทีเดียวเลย.. ไม่ดีแน่นอน.. ดังนั้นอย่างที่บอก คือจัดการลูกน้องมันก่อน.. บางท่าก็เข้าบางท่าก็ไม่เข้า ดังนั้นจดจำให้ดีครับว่าท่าไหนโจมตีเข้าบ้าง การโจมตีของเราจะได้ไม่ต้องสูญเปล่า.. คอยเติมพลังให้ทันให้ดี.. สู้ไปเรื่อยๆซักพักก็จะเสร็จเราครับ…..

เจอบอสเข้าแล้ว!!!

เมื่อผ่านมันได้.. จะได้พบกับห้องๆหนึ่ง และศพของผู้กล้าที่เสียสละลงมาหาอาหารให้ทุกๆคน แต่เค้าไม่รอด(หดหู่มาก).. เค้าได้ทิ้งโน้ตเอาไว้ พร้อมกับเมล็ดพืชหนึ่งเมล็ด.. ในโน้ตเขียนว่า เจ้ารูปปั้นหนูนั่น มันไม่ใช่รูปปั้นธรรมดา มันเก็บความลับของโดมนี้เอาไว้.. ก็ให้เราออกมาตรงห้องขื่อ เราก็จะได้พบกับเจ้าหนูผีนั่นรออยู่เลย.. เข้าไปคุยกับมันแล้วมันจะวิ่งหนี.. ไล่จับมันให้ได้….. เมื่อจับมันได้ เราจะได้วิธีเปิดทางลับเพื่อไปต่อที่ห้องแรกที่แผงคอนโทรลนั่นเอง.. (ถ้าเป็นเครื่องคอนโซลก็คือ กด L กับ R ค้างไว้แล้วกด A แต่ถ้าเป็นบนAndroidหรือiOSก็ให้กด สีน้ำเงิน, เหลือง, และแดง นั่นเอง.. ไปที่ห้องแรก สำรวจที่แผงคอนโทรลแล้วกดตามนั้นครับ.. แล้วประตูทางขวาจะเปิดออก.. ออกไปเซฟก่อนซักหน่อยแล้วกลับมา เข้าไปครับ…..

ตะลุยให้ทั่ว เก็บของให้หมดครับ.. เมื่อเข้าไปด้านในสุด เราจะได้พบกับห้อง “ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์” นั่นเอง.. ลุคก้าจะกดใช้อย่างช่ำชอง จนได้รู้ข้อมูลว่า ทางทิศตะวันออกของที่นี่มีโดมที่สำคัญมากๆอยู่ นั่นคือ “โปรโตโดม” ซึ่งเราต้องไป.. และ “มาร์ล” ก็เผลอไปกดปุ่มๆหนึ่ง ซึ่งแสดงบันทึกประวัติศาสตร์การเกิดภัยพิบัติทำลายโลกของเจ้า “ลาวอส” เอาไว้ในปี A.D.1999 และตอนนี้คือปี A.D.2300 นั่นเอง.. มาร์ลรับไม่ได้อย่างมากที่นี่คืออนาคตของโลกของเราจริงๆ.. แต่ความหวังก็ฉายแสงขึ้นมา เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้นี่นา เหมือนกับที่โครโน่เคยทำ.. เราทุกคนจึงตกลงกันว่า พวกเราจะเปลี่ยนแปลงมัน.. แต่อันดับแรก เราต้องหาทางกลับช่วงเวลาของเราก่อน..

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่!!! ไม่จริงใช่ไม๊?!

กลับออกมา.. แล้วปีนขึ้นไปคุยกับคุณตา “โดแอน” อีกครั้ง.. เราจะมอบเมล็ดพืชให้คุณตา เพื่อเพาะปลูกต่อไป.. คุณตาจะให้ “กุญแจเจ็ทไบค์” สุดจ๊าบของแกที่แกเคยแว๊นซ์ตอนวัยรุ่น แต่ตอนนี้มันจอดอยู่ที่ “Site 32” ที่เรากำลังจะผ่านไปนั่นเอง.. ทุกๆคนจะกลับมามีความหวังอีกครั้ง…..

ซื้อไอเท็มให้แน่น พักผ่อนนอนหลับให้เต็มอิ่ม.. ออกจากโดมแล้วขึ้นเหนือ.. เราจะได้พบกับเส้นทางแห่งซากเหล็กซากขยะอีกครั้ง มันคือ “Site 32 : ไซท์สามสิบสอง” นั่นเอง.. เข้าไปปุ๊บเราจะได้พบกับเจ็ทไบท์สุดจ๊าบ “ไชน์นี่แอ็คเซล” ของพ่อเฒ่าโดแอนจอดรออยู่ทันที.. แต่มันใหม่เหลือเกิน ต้องมีอะไรแน่ๆ ใหม่เกินไป.. เมื่อเดินเข้าไปสำรวจที่เจ็ทไบค์ เราจะถูกกลุ่มหุ่นยนต์นักเลงเจ้าถิ่นเข้าล้อมทันที(นั่นไง ว่าละ).. แต่ก่อนที่เราจะโดนพวกมันรุม หัวหน้าของพวกมันจะปรากฏตัว.. เค้าคือ “จอห์นนี่” จอมเก๋าสายแว๊นซ์ที่คุมที่นี่อยู่.. หมอนี่ไม่ใช่นักเลงสายโจรที่ชอบปล้นหรือทำร้ายร่างกาย แต่หมอนี่เป็นสายแว๊นซ์ รักการแข่งขันความเร็วมากที่สุด.. เราหลงเข้ามาแบบนี้ แถมมีท่าทางสนใจเจ็ทไบก์แบบนี้ ก็เข้าทางเค้าเลย.. จอห์นนี่จะใจกว้างถึงขั้นให้เราใช้เจ็ทไบก์คันนี้ได้ แต่ต้องแข่งกับเค้า ชนะเค้าให้ได้ แล้วเค้าจะให้ออกจากที่นี่.. มันสิครับ รออะไร…..

โว่ว.. อย่างจ๊าบ.. เจ็ทไบค์ในตำนาน!!
จอมแว็นซ์ “จอห์นนี่”
ยอมซะที่ไหนเล่า!! มาเลย!!!

รับปากแข่งรถกับเค้า.. ในการแข่งขันจะมี “เทอร์โบบูทส์” ให้ 3 ครั้ง.. คำแนะนำคือ ไม่ต้องใช้เลยระหว่างทาง เพราะจะแซงกันไปแซงกันมาอยู่ดี ถึงใช้เทอร์โบ เจ้าจอห์นนี่ก็จะแซงกลับหน้าตาเฉย.. เก็บไว้ใช้ในจังหวะเกือบถึงเส้นชัยสามครั้งติดเลยครับ.. จ้องไอค่อนด้านบนให้ดี(ที่แสดงระยะระหว่างตัวเรากับเส้นชัย) พอใกล้ถึงเส้นชัย ในจังหวะที่เราเหวี่ยงขึ้นข้างหน้า ให้ใช้จังหวะนั้นแหละ กดเทอร์โบบูทส์ติดๆกันไปเลยครับ.. แน่นอนที่สุด.. กดใช้ระหว่างทาง เสียเปล่าจริงๆ…..

เมื่อเราเอาชนะเค้าได้ เค้าจะบ่นๆนิดหน่อย และจะบอกว่ามาแข่งให้เค้าแก้มือได้ตลอดนะ.. เมื่อถึงปลายทาง อย่าเพิ่งเดินทางต่อ ให้เดินย้อนกลับมาเพื่อสำรวจและเก็บของให้ทั่วก่อนครับ(บางคนลืมนะ) เสียดายของครับ ได้เก็บเลเวลไปในตัวด้วย..

เรียบร้อยแล้วเดินทางต่อ ออกมาจาก Site32.. ไปทางตะวันออก เราจะได้พบกับ “โรงงานร้าง” ที่ยังไม่สามารถเข้าไปข้างในได้เพราะมี “เลเซอร์” ขวางอยู่.. เราไม่มีพาสเวิร์ดเพื่อปิดมันที่คอมฯ.. ให้ออกมาแล้วเดินมาทางใต้ก่อน เราจะได้พบกับ “โปรโตโดม” ในที่สุด.. เมื่อเข้าไปด้านใน ห้องแรกเราจะได้พบเครื่องพักผ่อน “เอเนอตรอน” ก่อนเลย.. ก็นอนพักซะครับ HP/MP เต็ม.. เดินทางต่อเข้ามาด้านในอีกนิด เราจะได้พบกับซากหุ่นกระป๋อง นอนแน่นิ่งอยู่.. ลุคก้าเห็นแล้วถูกชะตา เลยขอเวลาเพื่อนๆดูอาการมันซักนิดนึง.. ดูไปดูมาก็ซ่อมซะเสร็จเรียบร้อยเลย.. เจ้าหุ่นกระป๋องฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าเค้าชื่อ “R-66Y(อาร์หกสิบหกวาย)” ด้วยความสุภาพ พร้อมกับขอบคุณ “มาดามลุคก้า” ที่ช่วยซ่อมแซมเค้า 😂..

การพบกันครั้งแรกของอีกหนึ่งเพื่อนรัก

มาร์ลจะตั้งชื่อให้เค้าใหม่ว่า “Robo : โรโบ้” ส่วนลุคก้าบอกว่า หยุดพูดจาสุภาพได้แล้วเพราะทำให้รู้สึกหงุดหงิดมาก และเรียกว่าลุคก้าเฉยๆก็พอ ไม่ต้องมีมาดาม.. โรโบ้รีบทำตามอย่างเร็ว..

เมื่อเดินขึ้นไปสำรวจที่แผงคอนโทรลต่างๆ เราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะไม่มีไฟฟ้า.. โรโบ้จะบอกว่า เครื่องปั่นไฟอยู่ที่โรงงานทางเหนือ ต้องไปเปิดสวิทช์ที่นั่น และเค้ามีพาสเวิร์ดที่จะผ่านเข้าไปได้.. ดังนั้นเราต้องพาโรโบ้ให้นำทางเพื่อเข้าที่นั่นๆเอง แต่ต้องมีคนเฝ้าที่นี่คนนึง เราต้องเลือกว่าจะให้เฝ้าระหว่าง “มาร์ล” กับ “ลุคก้า”.. เลือกได้แล้วออกมา แล้วเดินทางขึ้นเหนือไปยังโรงงานร้างอีกครั้ง…..

เข้ามาในโรงงานรอบนี้ เมื่อไปสำรวจที่แผงควบคุม โรโบ้จะโชว์เทพโดยการปลดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างง่ายดาย เลเซอร์กั้นทางจะหายไปทันที(เก่งมากเจ้าหนู).. ก่อนจะลุย ขอบอกนิดนึงว่า ความสามารถพิเศษของโรโบ้ในขณะสู้รบ(เทคนิค) สามารถฮีลให้เพื่อนได้ด้วย และท่าใช้คอมโบคู่กับเพื่อนเช่นมาร์ล จะสามารถเติมพลังให้เพื่อนได้ทั้งกลุ่มในทีเดียวเลย 100+ HP ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆครับ..

เมื่อเลเซอร์หายไป เราสามารถผ่านไปได้.. ในห้องนี้จะมีสองลิฟท์ซ้ายและขวา.. ลิฟท์ซ้ายเป็นโซน “แล็บ” ศูนย์วิจัยและพัฒนา ส่วนลิฟท์ขวาเป็นโซน “โรงงาน” ผลิตหุ่นยนต์.. ให้ไปลิฟท์ขวาเข้าโซนโรงงานก่อนครับ เข้าไปโลด..

โซน “โรงงาน”

เข้ามาในโซนโรงงานปุ๊บ.. อย่าเพิ่งเป็นลมหงายท้องไปซะก่อนล่ะครับ เพราะดูเผินๆแล้วซับซ้อนมาก สมองระเบิดแน่ๆ.. จริงๆแล้วไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นครับ มีแค่ “ชั้นล่าง” และ “นั่งร้าน” หรือชั้นบนแค่เท่านั้น.. เริ่มจากง่ายๆก่อน ห้องซ้ายบนใกล้ๆประตูทางเข้านั่นเอง เป็นห้องเล็กๆที่จะไม่ตัดฉากเมื่อเราเข้าไป เดินไปในสุดแล้วหันมาทางขวาจะมีกล่องสมบัติให้เก็บของอยู่ เก็บมาครับ.. ออกจากห้องเล็กๆนั้น เราจะเห็นบันได(ปีนลง) ได้สามอัน(จริงๆก็เห็นตั้งแต่ก่อนเข้าแล้วล่ะ) บันไดซ้ายสุดจริงๆก็คือทางไปเอารหัสลับ แต่ยังไปไม่ได้เพราะมีถังเหล็กขวางทางอยู่.. บันไดอันที่สองหรือตรงกลาง ลงไปได้ ลงไปแล้ววิ่งไปซ้ายสุด จะมีกล่องสมบัติให้เก็บ เก็บมาแล้วกลับขึ้นไปข้างบนเหมือนเดิมครับ.. แล้วไปบันไดอันที่สามหรือบันไดขวาสุด ปีนลงมา วิ่งลงใต้มาเลยครับ เลี้ยวซ้ายนิดนึง จะได้พบกับห้องเล็กๆห้องนึงซึ่งสามารถขึ้นไปยืนบนสายพานได้ ก็ให้เราขึ้นไปยืนบนสายพานแล้ววิ่งไปชนหุ่นยนต์ซักตัวหนึ่ง(วิ่งซ้ายได้อย่างเดียว ไปทางขวาไม่ได้).. เมื่อเราชนหุ่นยนต์ เจ้าเครนคีมหนีบจะหนีบเราไปไว้บนสายพานเส้นบน เราจะไหลไปตามสายพานเรื่อยๆ เมื่อผ่านห้องต่างๆเราก็จะได้สู้กับหุ่นยนต์ที่อยู่ในห้องนั้นๆไปเรื่อยๆ.. จนเราไหลมาอยู่ที่สายพานเส้นล่าง.. เมื่ออยู่สายพานเส้นล่าง เราจะสามารถแวะได้เป็นจุดๆ.. จุดแรกสำคัญที่สุด เพราะสามารถปีนขึ้นไปห้องคอนโทรลเครนคีมหนีบได้.. แวะแล้วเข้าไป ห้องนี้เราจะได้พบแก๊งค์หุ่นแมลงปีกแข็ง Bug หนึ่งแก๊งค์ 4 ตัว จัดการซะ.. (ตรงนี้เป็นจุดเก็บเลเวลที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุดนะครับ เพราะการโหลดมอนสเตอร์ทำได้ง่ายมากๆ แค่ออกจากห้องและเข้าห้องมาใหม่เท่านั้น ตรงประตู.. และสามารถใช้ท่าดาบพายุหมุน Cyclone ของโครโน่ กวาดได้ทีเดียวจบเลย).. ปีนบันไดขึ้นไป เราจะไปโผล่นั่งร้านชั้นบน เพื่อวิ่งไปห้องคอนโทรนเครนได้เลย.. วิ่งไปทางเหนือจะพบห้องสองห้องซ้ายขวา.. ห้องซ้ายคือ “ห้องคอนโทรลคีมหนีบ” ห้องขวาคือ “วิธีควบคุมเครน” ไปที่ห้องขวาก่อน สำรวจที่แผงคอนโทรลแล้วจะได้วิธีกดเครนมา.. ก็มาที่ห้องซ้ายบ้าง จุดซ้ายล่างในห้องคือจุดควบคุม ก็โผล่หน้าออกมาแล้วกดคอนโทรลคีมหนีบให้หนีบถังไปทิ้งทั้งสองใบ ไม่ให้มันขวางทาง.. เสร็จแล้วออกมาจากห้องคอนโทรล วิ่งไปทางซ้าย จะเจอบันไดลง ปีนลงมาแล้วไปทางซ้ายนิดหน่อย จะได้พบกับห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ห้องนั้นแหละคือห้องเก็บรหัสลับความปลอดภัยสูงสุด เข้าไปแล้วกดแผงควบคุม เราจะได้รหัสมา ก็จดไว้ครับแล้วออกมา.. วิ่งมาทางขวาสุด จะสามารถปีนขึ้นมาที่ลิฟท์ทางออกของส่วนโรงงานได้เลย.. ออกได้เลยครับ เรียบร้อยแล้วในส่วนนี้..

ต่อไปไปที่ลิฟท์ฝั่งซ้ายหรือฝั่งแล็บกันบ้าง.. ฝั่งนี้จะมีหลายชั้นและลงได้ทั้งทางลิฟท์และทางบันได.. ลงมาชั้นแรก จะได้พบกับจุดเซฟ(ถ้าลงไปอีกชั้นจะเจอเลเซอร์กั้นทางอยู่).. เดินขึ้นไปทางเหนือจะได้พบกับห้องคอนโทรล สำรวจที่แผงคอนโทรลจะปรากฏบันไดปีนลงที่ขวาล่างของห้อง.. ปีนลงไป วิ่งไปตามทาง จะตีโค้งมาจนถึงจุดที่เคยมีเลเซอร์กั้นอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ก็เข้าไปในห้องด้านบน.. เก็บสมบัติและสำรวจที่แผงคอนโทรล จะเกิดบันไดปีนลงที่ซ้ายล่างอีก.. ลงไป.. ถึงชั้นใหม่วิ่งมาขวาและขึ้นเหนือยาวๆ(เป็นทางยาว).. เก็บสมบัติสำรวจแผงคอนโทรล มันจะให้ใส่รหัสลับที่เราได้มาจากโซนโรงงาน ก็ใส่ไปครับ(ตามที่เราจดมา).. จะปรากฏประตูทางขวาขึ้น ก็เข้าไปครับ.. วิ่งขึ้นเหนือไปอีกครั้ง สำรวจที่สวิทช์ตรงกลาง จะมีเสียงหวอเตือนภัยดังขึ้น.. เราต้องรีบออกจากที่นี่ทันที แต่ลิฟท์จะไม่สามารถใช้ได้แล้ว เราก็ปีนกลับไปทางบันไดปีนที่เรามานั่นแหละครับ..

ใส่รหัสลงไป

เมื่อถึงห้องโถงที่น่าสงสัยห้องหนึ่ง(ที่เราผ่านตอนขามา).. จะมีอยู่หุ่นยนต์รุ่นเดียวกับโรโบ้ถูกปล่อยออกมาจากโรงเก็บเพื่อขวางทางเรา.. โรโบ้จะดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนๆรุ่นเดียวกันอีก แต่เมื่อวิ่งเข้าไปคุยกลับโดนชกจนกระเด็น หุ่นยนต์พวกนั้นจะบอกว่า โรโบ้คือหุ่นยนต์บกพร่องที่เป็นความเสื่อมเสียของกลุ่ม และต้องถูกกำจัดไปพร้อมกับผู้บุกรุก.. กลุ่มหุ่นยนต์พวกนั้นจะรุมทำร้ายโรโบ้อย่างหนักโดยที่โรโบ้ไม่ได้คิดตอบโต้เลย โรโบ้จะพังยับ พวกมันจะโยนซากของโรโบ้ลงไปในช่องๆหนึ่ง แล้วหันกลับมาหาเรา.. มาร์ลโกรธมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าจะจัดการให้หมด.. จัดไปครับ.. ตามคำสั่งเมีย 😂.. โหมกระหน่ำทุกเพลงดาบที่เรามี เพื่อว่าที่ภรรยาของเรา.. ย้ากก!!.. อย่าลืมคอยเติมพลังให้ดี เพราะตัวหลังสุดมันจะสามารถระเบิดตัวเองได้ HP ลดพอสมควรเลยทีเดียว..

เมื่อเอาชนะพวกหุ่นโฉดพวกนี้ได้.. มาร์ลจะพยายามมองหาโรโบ้ในช่องที่ถูกทิ้งลงไป เธอจะมองเห็นโรโบ้ติดคาอยู่.. เราจะช่วยกันเอาโรโบ้ออกมา และช่วยกันลากโรโบ้ข้ามเมืองเพื่อมาให้ลุคก้าซ่อมเลยทีเดียว.. เมื่อมาถึงโปรโตรโดมก็เหนื่อยกันแทบสลบ ลุคก้าจะซ่อมให้อย่างตั้งใจ…..

ช่วยกันพาร่างของโรโบ้กลับมาหาลุคก้า
หมดแรงกันเลยทีเดียว

ในระหว่างที่ซ่อม โรโบ้จะถามคำถามมากมาย.. ถามว่าเรากำลังจะช่วยโลกงั้นหรือ? ลุคก้าตอบว่าก็ตั้งใจไว้แบบนั้น แต่ก็ไม่รู้จะทำได้แค่ไหนนะ.. ลุคก้าถามโรโบ้ว่าอยากทำอะไรต่อไปจากนี้.. เป็นคำถามที่ทำให้โรโบ้อึ้งเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีใครถามเค้าแบบนี้เลย….. เมื่อซ่อมเสร็จ ทุกคนดีใจมากที่ได้เห็นโรโบ้ที่สมบูรณ์อีกครั้ง โรโบ้กล่าวขอบคุณและบอกว่า ตนเองรู้แล้วว่าอยากจะทำอะไรต่อไป.. นั่นคือ ขอติดตามไปกับเราด้วยเพื่อช่วยโลกนั่นเอง.. ว่าแล้วพวกเราก็สามารถเข้าไปด้านในเพื่อเปิดประตูมิติได้แล้ว.. พวกเราจึงเดินทางต่อทันที โดยมีโรโบ้เป็นเพื่อนร่วมเดินทางเพิ่มอีกหนึ่งคน…..

เราจะมาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้.. เมื่อเดินไปด้านหน้าอีกนิด เราจะได้พบพื้นที่เล็กๆที่ดูคล้ายสวนธารณะกลางดึก มีจุดเซฟ จุดฮีล อ่างกระพริบ และคุณลุงโฮมเลสยืนหลับขี้มูกโป่งอยู่ตรงเสาไฟ.. อันดับแรกฮีลและเซฟก่อนเลยครับ.. แล้วไปคุยกับคุณลุง.. ฟองขี้มูกแกจะแตกดังเป๊าะ!..

นี่ที่ไหนกันนะ?

แกจะบอกเราว่า.. ที่นี่คือพื้นที่สุดเขตแห่งเวลานั่นเอง.. ใครที่เดินทางข้ามเวลาเกินสามคนพร้อมกันขึ้นไป จะมาเกยเข้ากับที่นี่แหละ.. ถ้าอยากเดินทางอย่างปกติปลอดภัย ต้องไปทีละสามคนเท่านั้น.. เราจึงต้องเลือกให้เพื่อนเราอยู่ที่นี่ก่อนหนึ่งคนครับ.. และแกจะเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับอ่างกระพริบทางหลังขวานั่น….. จุดที่เราโผล่มาก็คือช่วงเวลาต่างๆ นั่นเอง..

อันดับแรกให้เอาโรโบ้ออกก่อนครับ(จัดการได้ในเมนู).. เพราะเรากำลังจะไปเรียนเวทย์กัน ซึ่งโรโบ้เป็นหุ่นยนต์ ไม่สามารถเรียนได้.. พร้อมแล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลังคุณลุง ถ้าเปิดได้ก็เข้าไปเลย แต่ถ้าเปิดไม่ได้ก็ กลับมาคุยกับคุณลุงอีกรอบ ก็จะเปิดได้ครับ.. พอเข้าไปในประตู เราจะได้พบกับ “สเป็คกิโอ้” เจ้าแห่งเวทย์มนตร์.. เค้าจะถามนั่นถามนี่เรา เราก็ตอบไป.. เค้าจะมีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความแข็งแกร่งของเรา.. เค้าชอบเรา เค้าชอบพลังที่ออกมาจากตัวพวกเรา และเค้าจะช่วยสอนเวทย์มนตร์ให้.. แต่ต้องแลกกับการที่เราวิ่งวนตามเข็มนาฬิกาเลาะรั้วเริ่มจากตรงประตู 3 รอบ(ห้ามโกง และวิ่งเลยไปหน่อยก็ดี).. วิ่งครบสามรอบแล้วกลับไปคุยกับสเป็คกิโอ้อีกที เค้าจะดึงพลังเวทย์ออกมาจากตัวของเราทุกคน.. โครโน่จะได้เวทย์สายฟ้า มาร์ลจะได้เวทย์น้ำแข็ง ลุคก้าจะได้เวทย์ไฟ.. จากนั้นเค้าจะให้เราลองสู้กับเค้า.. ก็ใส่เต็มไปเลย เอาให้ชนะ.. เสร็จแล้วออกมาครับ(อย่าลืมเซฟด้วย)…..

ต่อไป เราจะไปผจญภัยกันต่อ.. เริ่มต้นที่ยุคของเรา A.D.1000 ที่ช่องวาร์ปอันบน.. เมื่อเข้าไป เราจะวาร์ปมาโผล่ที่ทวีปของมอนสเตอร์(ไม่ใช่ทวีปมนุษย์หมู่บ้านของเรา).. เราจะมาโผล่ในตู้เสื้อผ้าของมอนสเตอร์ครอบครัวหนึ่ง ในหมู่บ้าน “เมดิน่า”.. โชคดีที่พวกเค้าเป็นมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างมีอารยธรรมและใจดี.. คุยกับพวกเค้า เราจะได้รู้ว่ามอนสเตอร์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มความคิดใหญ่ๆ คือ 1.รักสงบ และอยากใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข เช่นเดียวกับมนุษย์ ไม่ได้เคียดแค้นอะไรเพราะเรื่องสงครามมันนานมากแล้ว กับ 2.แค้นเต็มพิกัด เกลียดมนุษย์ และรอคอยผู้นำเพื่อกลับมายิ่งใหญ่กันอีกครั้ง.. เค้าจะเตือนให้เราระวังตัวด้วย ในการเดินทางไปที่ต่างๆในทวีปนี้.. เค้าจะบอกว่ามีคุณลุงแปลกๆอยู่ทางตะวันตก บางทีอาจช่วยอะไรเราได้..

ออกมาจากบ้านพวกเค้าแล้วสำรวจให้ทั่วบริเวณเมือง.. ที่ลานกลางเมือง เราจะได้พบกับกลุ่มมอนสเตอร์ที่กำลังเต้นรำทำพิธีบูชารูปปั้นจอมปีศาจที่พวกเค้าหวังให้กลับมานำทัพปีศาจอีกครั้ง.. เมื่อไปที่ร้านค้า เค้าจะเหม็นหน้าเรา ไม่ขายของให้เรา.. ก็ให้เรากระทืบเค้าซักนิดนึง แล้วเค้าจะยอมขายให้(ต้องให้ลงไม้ลงมือ) แต่ราคาก็โหดร้ายมากๆ รับได้ก็ซื้อ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อครับ.. ไปสำรวจที่จตุรัสทางเหนือ จะได้พบพื้นที่โดมสามเหลี่ยมเรืองแสงประหลาดอยู่..

สำรวจเขตเมืองทั่วแล้วก็ออกมา แล้วเดินทางไปที่เขตป่าและถ้ำทางตะวันตกบ้าง.. หน้าถ้ำเราจะได้เจอบ้านพักของใครบางคน.. เมื่อเข้าไป เราจะได้พบกับคุณลุงพ่อค้าขายดาบที่งานเทศกาล 1,000 ปีที่บ้านเรานั่นเอง.. คุยกับแกก็จะสามารถซื้ออาวุธเครื่องป้องกันดีๆได้อีก.. ซื้อให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมา.. ขึ้นเหนือเพื่อเข้าถ้ำ “เฮ็คกรานเคฟ”..

ตะลุยถ้ำเข้าไป เก็บสมบัติ ปราบมอนส์ฯให้หมด(มอนส์ส่วนใหญ่ในถ้ำจะแพ้เวทย์นะ).. เข้าไปถึงด้านในสุดจะพบจุดเซฟ(ก็เซฟซักหน่อย)และเจ้าปีศาจ “เฮ็คกราน” ร้ายกาจใช้ได้ทีเดียว ตบให้ลง.. เมื่อเอาชนะได้ ก่อนตายมันจะคำรามโหดพร้อมกับบอกว่าถ้าจอมปีศาจยังอยู่ ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน..

เดินต่ออีกนิดจะได้พบกับ บ่อน้ำวนเล็กๆ.. กระโดดลงไป เราจะไปโผล่ที่น้ำวนชายทะเลข้างบ้านลุคก้านั่นเอง..

ดีใจจังที่มาโผล่แถวนี้.. แวะบ้านลุคก้าก่อนเลยครับ.. คุยกับคุณแม่ลุคก้าที่ชั้นบนขวา คุณพ่อทาบันจะเอาผลไม้มาให้คุณแม่ แสดงถึงความเป็นห่วงและความรักที่มีให้คุณแม่.. เดินตามลงมาคุยกับทาบันที่ชั้นล่าง.. ทาบันจะมอบเครื่องป้องกันอันยอดเยี่ยมที่เค้าซุ่มทำให้ลูกสาวที่รักลุคก้า.. ใส่ซะ แจ่มมากเลย.. และให้ไอเท็มเพิ่มความแข็งแกร่งแก่เราหนึ่งเม็ด ก็ให้คนที่เราอยากให้แข็งแรงที่สุดกินครับ.. เรียบร้อยแล้วออกมา วิ่งกลับเมืองของเรา ไปหาคุณแม่โครโน่ที่บ้าน.. ทันทีที่เราโผล่หน้าเข้าไป แม่จะดีใจมากเพราะเป็นห่วงเราสุดๆว่าหายไปไหนมา แถมได้ยินเรื่องเราจะถูกประหารที่วังอีก.. พอเห็นหน้าเราก็โล่งอกและบอกว่าอย่าทำให้แม่เป็นห่วงแบบนี้สิ..

ออกจากบ้านโครโน่แล้วตรงไปที่จุดวาร์ปในงานเทศกาล(ตรงจุดโชว์เครื่องย้ายมวลสารของลุคก้า).. กระโดดเข้าจุดวาร์ป เราจะมาโผล่ที่สวนสาธารณะปลายทางแห่งกาลเวลาอีกครั้ง.. รอบนี้จะมีช่องวาร์ปเพิ่มขึ้นอีกสองช่อง เป็น 5 ช่อง.. ไปที่ช่องซ้ายบนเพื่อไปยังยุคอัศวิน A.D.600 อีกครั้ง..

เมื่อมาถึงยุคอัศวินแล้ว.. ออกจากป่าแล้ววิ่งไปที่สะพานทางทิศใต้ของราชวัง.. เมื่อเข้าไปในเขตสะพาน เราจะได้พบกับกองกำลังทหารจากกัวร์เดีย ตั้งกองกันอยู่เพื่อต้านทัพมอนสเตอร์.. แต่เสบียงใกล้หมดเต็มที.. ทุกคนกังวลเรื่องเสบียงกันอย่างมาก.. ให้เราออกมาและไปที่ราชวัง ทะลุป่าไปเช่นเดิม.. คุยกับทหารและผู้คน เราจะได้ยินเรื่องการมาถึงของผู้กล้าที่มาพร้อมสัญลักษณ์ในตำนาน.. ขึ้นไปคุยกับพระราชาที่ห้องบรรทม พระราชาจะบาดเจ็บอยู่บนเตียงโดยมีราชินีลีเน่เฝ้าอาการอยู่.. คุยกับทุกคนให้หมดแล้วลงมาที่ห้องครัวขวาล่าง.. คุยกับทุกคนในครัวและพ่อครัวหัวร้อน.. เราจะได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว พ่อครัวและหัวหน้าอัศวินที่ไม่ค่อยถูกกันเป็นพี่น้องกัน และจริงๆเค้าเป็นห่วงน้องชายมาก(ถึงจะทำปากแข็งก็เถอะ).. คุยเสร็จแล้วให้เดินออกมา พ่อครัวจะวิ่งตามมา และฝากอาหารให้น้องชายของเค้าและกองทหารด้วย.. ก่อนจะกลับเข้าไปในครัว เค้าจะฝากให้เราช่วยน้องเค้าให้กลับมาอย่างปลอดภัยด้วย..

จากนั้นให้เราออกจากวังและวิ่งกลับมาที่สะพานอีกครั้ง.. ก่อนเข้าไปในเขตสะพาน เซฟก่อนซักหนึ่งที(เดี๋ยวต้องบู๊).. เข้าไป เอาอาหารให้หัวหน้าอัศวิน.. เสร็จแล้วเราก็ไปช่วยทหารบู๊บนสะพานได้เลย เพราะพวกเค้าเริ่มไม่ไหวแล้ว.. เราจะได้พบกับหนึ่งในขุนพลปิศาจคนสำคัญ เจ้า “อ๊อซซี่”.. มันจะบัญชาการรบอยู่ เรียกมอนสเตอร์มาจัดการเรา (ปราบมอนส์ชุดแรกได้แล้ว วิ่งกลับไปคุยกับหัวหน้าอัศวิน เค้าจะให้หมวกทองคำกับเรามา เพิ่มพลังป้องกันได้ดี).. สู้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายมันจะเรียกเจ้า Zombor มาจัดการเรา.. ตบให้ลง แล้วเราจะสามารถผ่านสะพานนี้ได้ครับ..

เมื่อข้ามสะพานผ่านมา จะได้พบกับหมู่บ้านโดริโน่ สำรวจพูดคุยให้ทั่ว.. จะได้เห็นพ่อเฒ่าโดริโน่จ้างให้หนุ่มโทมะไปตามหา “หอยทากสายรุ้ง” มา เพื่อสร้างชุดเกราะป้องกันเวทย์.. ซื้อของนอนหลับแล้วออกมา.. ไปทางขวาล่างนิดหน่อยจะได้พบกับบ้านพักของ “ฟิโอน่า” มีกล่องสมบัติให้เก็บ และเธอจะบอกข้อมูลบางอย่างกับเรา.. เสร็จแล้วออกมา เดินขึ้นเหนือแค่นิดเดียว ก็จะพบกับหุบเขา “เดนาโดโร่” มีอมอนสเตอร์ประจำถิ่นที่แสบมากๆอย่างเจ้านินจาอีกาอยู่ ระวังมันด้วย.. พลังป้องกันไม่เยอะ แต่ชอบขว้างหินใส่เราตอนเราเดินทาง.. มีมอนส์เตอร์ถือค้อนที่จะแพ้ธาตุเวทย์แตกต่างกันไป.. เมื่อเข้าไป จะพบกับเด็กชายแต่งชุดคล้ายผู้กล้าบอกให้เราหนีไป แถวนี้อันตราย.. ก็ไม่ต้องไปฟัง เราดื้อ.. ไปเรื่อยๆไปให้สุดทาง.. อย่าลืมซอกซอนชอนไชไปให้ทั่ว เพราะมีทางลับ หรือซอกบังตาให้เข้าไปเก็บหีบสมบัติได้เยอะมาก.. ถ้าไม่อยากพลาดของ สำรวจให้ดี.. วิวน้ำตกสวยงามมีให้ดู..

เข้าไปจนสุดทาง จะได้พบกับดาบ “มาซะมุเนะ” ปักอยู่.. และจะได้พบกับสองภูติน้อย “มาซา” กับ “มุเนะ” ออกมาปกป้องดาบ.. ตอนแรกเค้าคิดว่าเราเป็นพวกโลภมาก อยากได้อำนาจอยากได้ทรัพย์สิน.. เค้าจะกลายร่างมาสู้กับเรา.. เมื่อเราเอาชนะได้ เค้าจะรวมร่างกัน กลายเป็นปีศาจอ้วนล่ำบึ้กมหาปลัย.. เอาชนะให้ได้อีกครั้ง(เอาเรื่องทีเดียว).. เค้าจะสัมผัสได้ถึงพลังที่ดีของเรา เค้าจะยอมรับเรา และมอบดาบมาซามุเนะที่ยังชำรุดอยู่ให้กับเรา..

ออกจากหุบเขา แล้วเดินทางลงมาทางทิศใต้ สู่หมู่บ้าน “เพอเร่” คุยกับผู้คนในโรงเตี๊ยมจะได้ยินคนพูดถึงอัศวินกบน่าเกลียดเคยมากินเหล้าที่นี่(น่าจะเป็นฟร็อกเพื่อนเราแหละนะ).. คุยกับผู้คนในหมู่บ้าน จะได้ยินว่า ผู้กล้าที่ผู้คนกล่าวขวัญถึง คือเด็กในหมู่บ้านนี้นี่เอง.. ปิดท้ายให้ไปที่บ้านขวาล่าง.. ที่นี่คือบ้านของ “ทาท่า” เด็กน้อยจอมซนที่แต่งตัวคล้ายผู้กล้าที่เราได้เจอตอนเข้าไปในหุบเขา “เดนาโดโร่” นั่นเอง..

เมื่อคุยกับเค้า เค้าจะสารภาพว่า เค้าไม่ได้เป็นผู้กล้าตัวจริงหรอก.. เค้าได้ตราผู้กล้านี้มาจากร้านเหล้าที่มีอัศวินกบคนหนึ่งทำตกเอาไว้.. แต่เค้าเริ่มเครียดกับแรงกดดันที่ผู้คนมีกับเค้าแล้ว เค้าไม่เอาแล้ว เค้าจึงมอบตราผู้กล้านั้นให้กับเรา..

ออกจากหมู่บ้านเพอเร่ เดินทางไปทางทิศตะวันตก(นิดเดียว) จะพบกับ “ป่าต้องสาป”.. เข้าไปโลด.. เป็นป่าเล็กๆ ไม่ใหญ่.. เดินไปจนสุดทาง จะได้พบกับพุ่มไม่ดุ๊กดิ๊กสีเขียวน่าสงสัย.. สามารถมุดเข้าไปได้ทางด้านบน.. มุดเข้าไปโลด.. จะได้พบกับห้องสวีทสุดจ๊าบกลางป่า และห้องนี้ก็คือบ้านพักของ “ฟร็อก” อัศวินกบเพื่อนเรานั่นเอง.. สำรวจให้ทั่ว ฟร็อกจะปรากฏตัว เค้าจะอยู่ในภาวะเซ็งชีวิตเซ็งตัวเอง ท้อแท้ ด้อยค่า.. เค้าจะบอกว่า จะสู้กับมากัส ต้องใช้ดาบมาซามุเนะเท่านั้น แต่ดาบพังไปแล้ว.. เมื่อฟร็อกเดินไปทางซีกขวาของห้อง ให้เราเดินไปสำรวจที่อ่างเก็บของที่มีประกายแว้บๆ.. เราจะได้พบกับส่วนด้ามของดาบมาซามุเนะนั่นเอง.. โรโบ้จะทำการสแกนตัวอักษรบนด้ามดาบ แล้วจัดเรียงใหม่.. จะได้เป็นชื่อของคุณลุงขายดาบที่งานเทศกาล.. อ้าว ได้เรื่อง.. หรือว่าแกจะเป็นคนทำดาบนี้!?.. คุยกับฟร็อกอีกทีแล้วออกมาครับ..

กลับไปที่จุดวาร์ปในหุบเขาทรูซ(จุดที่โครโน่วาร์ปมาช่วยมาร์ล).. เราจะมาโผล่ที่สุดเขตกาลเวลาอีกครั้ง เข้าจุดวาร์ปเพื่อไปโผล่ที่หมู่บ้านเมดิน่าในปี A.D.1000(ในตู้เสื้อผ้ามอนสเตอร์รักสงบ).. ออกจากหมู่บ้าน ไปกระท่อมคุณลุงขายดาบซ้ายล่างอีกครั้ง.. แกจะตกกะใจอย่างแรง ว่าเราไปเอาด้ามดาบมาซามุเนะมาจากที่ไหน(ดูเหมือนจะมีความหลัง) กลุ่มเราจะถามว่า ซ่อมให้ได้หรือไม่?.. แกบอกว่าได้ แต่ต้องใช้ “หินสีแดง” ที่พิเศษมากๆก่อน เป็นหินที่มีอายุมากๆๆๆจนที่เราคิดไม่ถึงเลยล่ะ….. จะรออะไรล่ะจ๊ะ.. จุดวาร์ป 65,000,000 ปีก็มีอยู่.. แจ้นไปอย่างเร็วเลยครับ..

กลับมาวาร์ปที่ตู้เสื้อผ้า.. พอมาที่สุดเขตกาลเวลา ก็ไปที่จุดวาร์ปสู่ยุคหกสิบห้าล้านปีก่อนได้เลยครับ.. ถึงเวลาตลุยยุคจูราสสิกพาร์คกันแล้วครับ.. หาอะไรรัดไข่ไว้ให้พร้อม.. 😂

เพราะอะไรน่ะเหรอ?.. เพราะเราจะมาโผล่ที่กลางอากาศ ตรงหน้าผาเลยครับ.. ถ้าไม่หาอะไรรัดไข่เอาไว้ ไส้เลื่อนทะลุกางเกงแน่นอน 😂 .. สูงซะ….. พอถึงพื้นก็มีคนรอรับแขกเลยทันที.. มนุษย์โบราณพันธุ์ผสมไดโนเสาร์ จะรุมทึ้งเรา.. จัดการซะ(ชอบมากๆเลยยืนติดกันเป็นกลุ่มแบบนี้ หวานเจี๊ยบ).. แต่เมื่อจัดการกลุ่มแรกเสร็จแล้ว มันจะพาพวกมาเพิ่มอีก และก่อนที่เราจะโดนรุมกินโต๊ะนั่นเอง จะปรากฏสาวผมทองสุดโหดในชุดหนังสัตว์สีเทามาช่วยเราไว้.. เธอจะไล่ฟัดจนเจ้าพวกนั้นกระเจิดกระเจิงไปหมด..

หลังจากจัดการศัตรูหมดแล้ว เธอจะมาสำรวจพวกเรา และเธอจะชอบโครโน่มากๆเพราะโครโน่เก่งและแข็งแรง(ชอบจนมาร์ลหึงเลยทีเดียว อิอิ).. แต่เธอก็จะบอกว่าเธอชอบทุกคนด้วย เราจะบอกว่าเรามาตามหาหินสีแดง เธอบอกที่บ้านเธอมีหินเยอะมาก เชิญเราทุกคนไปกินและเต้นรำที่หมู่บ้านของเธอ ให้ตามเธอมาได้เลย.. และเธอชื่อ “ไอย์ล่า : Ayla” นั่นเอง…..

ออกจากหุบเขาแล้วไปที่หมู่บ้าน “อีโอกา” ทางขวาบน.. หมู่บ้านนี้จะมีไอย์ล่าเป็นหัวหน้าใหญ่ของเผ่า(โคตรเก๋า).. คุยกับทุกกระท่อมเพื่อเก็บข้อมูล.. กระท่อมของไอย์ล่าจะอยู่บนซ้าย.. กระท่อมบนขวาจะมีคุณลุงรับแลกของและคนขายไอเท็ม.. ข้างๆคุณลุงจะมีคนบอกว่าเอาอะไรมาแลกเป็นอะไรได้บ้าง จำไว้ให้ดี เดี๋ยวเราจะไปล่ากัน(แนะนำให้แลกให้ได้ทุกชิ้น เพื่อความจ๊าบ 😂.. อารมณ์เหมือนสะสมสติ๊กเกอร์ดราก้อนบอลไปแลกของเล่นในยุค ’90 😂.. ฟิลนั้น..)..

คุยกับไอย์ล่า เธอจะบอกว่าจัดงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ไปกินกันดีกว่า.. เธอจะพาเรามาแนะนำกับทุกคนในหมู่บ้านเพื่อให้รู้จักกัน ไปคุยกับมาร์ลเธอจะเดินไปเม้าท์กับไอย์ล่าและชวนเราเต้นรำ.. อย่ารอช้า ใส่ให้ยับ เต้นให้เด็กมันดู 😂.. ชาวเผ่าจะอ้าปากหวอเพราะอึ้งในสเต็ปของเรา.. เสร็จแล้วเดินมาคุยกับไอย์ล่า เธอจะเล่าให้ฟังเกี่ยวสงครามกับ “เรปไทล์” มันแกร่งมากๆ และมันต้องการโค่นทุกหมู่บ้านละแวกนี้ทั้งหมด.. สุดท้ายเธอจะหยิบหินสีแดงออกมาโชว์เรา เธอให้เรา แต่มีข้อแม้ว่า ต้องกินเหล้าชนะเธอให้ได้ก่อน.. รออะไรล่ะครับ โธ่เอ๊ย.. ท้าใครไม่ท้า มาท้าสิงห์เชี่ยงชุนอย่างเรา….. วัดกันตัวๆ แก้วไม่ต้อง กาละมังไปเล้ย!.. กดรัวๆจนเราชนะเธอในที่สุดครับ.. เสร็จโก๋.. สลบทั้งคู่..

รู้สึกตัวเช้ามา เราจะตกเป็นของไอย์ล่าไป 30 รอบในคืนนั้น.. 😂 เราจะตื่นมากลางลานเลี้ยงช่วงสายๆ มีรอยเท้าประหลาดรอบตัว(ไม่มีใครเรียกตูไปนอนในเต๊นท์เลยเหร่อ.. ไอเผ่านี้มันใจดำจังฟร้ะ 😂 ปล่อยนอนกลางดินงี้เลยเหร่อ..).. กุญแจข้ามเวลาของเราจะหายไป.. ให้เรารีบไปหาไอย์ล่าซึ่งกำลังกรนลั่นเต๊นท์อยู่เลยทีเดียว เขย่าให้เจ๊ตื่นให้ได้.. พอไอย์ล่าตื่น เธอจะเข้าร่วมกลุ่มกับเรา พร้อมบู๊ทันที..

ออกจากหมู่บ้านมาขวาบน จะพบกับป่า “จุดล่าสัตว์” เป็นป่าดงดิบ ร้อนชื้น มีฝนตกสลับเป็นระยะ.. ตอนฝนตก จะมีมอนสเตอร์ชื่อ “Nu” ออกมา ตัวอ้วนๆกลมๆตาโตๆ.. มันจะออกมาตามมุม ซ้ายบน ขวาบน ขวาล่างด้วย(แต่ขวาล่างต้องปีนเถาวัลย์ขึ้นไปนะครับ).. มันจะให้ของเยอะมาก เป็นกระตั้ก.. ไอเท็มที่ห้ามพลาดในป่านี้คือ “Third Eye : เติ้ดอาย” ดวงตาที่สาม.. เพิ่มค่าพลังหลบหลีกแบบดิจิตอลขึ้นสองเท่า.. อยากให้ใครพริ้วเป็นพิเศษใส่ให้คนนั้น.. นะจ๊ะ.. (ผู้เขียนได้มาจากตัวขวาบนนะครับ)

ออกมาจากจุดล่าสัตว์ ไปซ้ายบนบ้าง(ใกล้ๆกันเลย).. จะเป็นรังของพวก “Dactly”.. เข้าไปโลด.. ตบให้คว่ำให้หมด.. เป็นโซนหุบเขาและหน้าผา.. หาที่ปีนขึ้นไปให้ถึงบนสุด.. จะได้เจอหีบสมบัติที่มีไอเท็มชุดเกราะ “Mesozoic Mail : เมโสโซอิคเมล” ชุดเกราะที่ทำจากกระดูกของไดโนเสาร์พันธุ์โดราเอโมโนอิคอ็อฟติมัสไพรม์.. ทุ้ย!.. ไปเรื่อย.. 😂 เป็นไอเท็มสำคัญ ห้ามพลาด.. ได้แล้วออกมา.. ปีนลงระวังด้วย เดี๋ยวลื่นหัวฟาด อัมพาตแดกอีก.. 😂..

ออกมาแล้ว เดินลงมาทางทิศใต้ยาวๆ ทะลุลานกินเลี้ยงลงมาด้านล่าง จนเจอกับ “ป่าวงกต”.. เข้าไปในป่า เราจะได้พบกับเจ้า “คิโนะ” หนุ่มชาวเผ่าเดียวกับไอย์ล่า สรุปแล้วคือ คิโนะนี่เองที่ขโมยกุญแจแห่งการข้ามเวลาของเรามา เพราะมันหึงไอย์ล่า ไอย์ล่าเลยทุบไปที(มีดราม่า มีสารภาพรัก 😂).. ไอย์ล่าบอกว่าจริงๆเธอก็ชอบคิโนะ และไม่อยากให้ทำเรื่องไม่ดีแบบนี้.. คิโนะจึงขอโทษพวกเราแล้วบอกว่า เผ่า “เรปไทล์” ชิงกุญแจไปแล้ว.. ไอย์ล่าบอกให้คิโนะกลับไปที่หมู่บ้านก่อน.. ส่วนพวกเราต้องไปชิงกุญแจต่อครับ เดินทางต่อจนทะลุป่า(อย่าลืมเก็บสมบัติระหว่างทางด้วย กล่องสมบัติจะมีสีคล้ายดอกไม้นะ)..

เมื่อทะลุป่า จะได้พบกับรังของเผ่าเรปไทล์.. เข้าไปครับ ลงรูไปเรื่อยๆ.. ระวังตอนใกล้ๆห้องบอส จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่มีบันได้ให้ปีนขึ้น และมีรูอยู่หนึ่งรู อย่าลงไปเชียว ไปโผล่ห้องแรกเลยอิดอก 😂 โคตรเสียเวลา.. เดินเลยไปเลยครับ จนเจอจุดเซพ.. นั่นก็หมายความว่า ถึงห้องบอสแล้วครับ.. เซพหนึ่งทีครับ แล้วลุย!..

เข้าไปเราจะได้พบกับเจ้า “อซาล่า” หัวหน้าของเผ่าเรปไทล์.. เจ้านี่ คำพูดคำจาของมันไม่ธรรมดา มันเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่ดูฉลาดกว่าไอย์ล่าด้วยซ้ำ.. มันสงสัยว่าเราไปเอาของเทคโนโลยีสูงแบบนี้มาจากไหนและใช้ทำอะไร.. เมื่อเราไม่ตอบ มันจะเรียกเจ้า “นิซเบล” ไทเซราท็อปร่างยักษ์ ซิกแพ็คแน่น ออกมากระทืบเรา.. บอกคำเดียวเลยว่า HP ของมันเยอะมากๆ เยอะที่สุดเท่าที่เคยสู้มาเลยครับ(มีร่วง บอกเลย).. พลังป้องกันก็โหด.. วิธีการเล่นงานมันก็คือ ให้เราโจมตีเปิดด้วยเวทย์ “สายฟ้า” หรือท่าสายฟ้า แรงช็อคจะทำให้พลังป้องกันของมันลดลง.. จึงโจมตีท่าอื่นตามหลังครับ แล้วเราจะได้ดาเมจที่โหดยิ่งขึ้นครับ..

เมื่อเราเอาชนะมันได้ มันจะคืนกุญแจให้แล้ววิ่งหนีไป แต่มันก็อาฆาตทิ้งท้ายไว้..

กลับมาที่บ้านของไอย์ล่า.. ไอย์ล่าจะบอกว่า สนุกมากๆเลยที่ได้ผจญภัยกับพวกเรา ว่างๆให้เราแวะมาอีกนะ.. เพราะเรากำลังจะกลับกันแล้วครับ.. ได้หินสีแดงมาแล้ว เราจะกลับไปซ่อมดาบมาซามุเนะกัน.. บอกลาไอย์ล่ากับคิโนะและออกเดินทางไปยังหน้าผาที่เราวาร์ปมาที่นี่ครับ..

ปีนหน้าผาขึ้นไปจนถึงบนสุด จนเห็นจุดวาร์ป.. เดินไปอยู่ด้านบนจุดวาร์ปและหันลงมา จะมีเมนูให้เลือก.. ก็เลือกเข้าจุดวาร์ปครับ…..

เมื่อไปโผล่ที่สุดเขตกาลเวลา ก็ไปที่ช่องวาร์ปเพื่อไปที่ตู้เสื้อผ้าหมู่บ้านเมดิน่าในปี A.D.1,000 ไปหาลุงเมชิเออร์ช่างตีดาบที่กระท่อมทางทิศตะวันตก.. แกจะตกใจมากที่เราไปเอาหินสีแดงมาได้.. แล้วแกจะซ่อมดาบให้เราจนเสร็จ.. เมื่อได้ดาบมาแล้ว ให้วาร์ปกลับไปยังปี A.D.600 วิ่งยาวๆไปหาฟร็อกในป่าต้องสาปที่เดิม.. ฟร็อกจะตกใจมากที่ได้เห็นดาบ “มาซามุเนะ” ที่สมบูรณ์อีกครั้งขนาดนี้..

ฟร็อกจะบอกให้เราพักที่นี่ก่อนหนึ่งคืน เค้าขอคิดอะไรนิดหน่อย ขอตัดสินใจก่อน.. คืนนั้นฟร็อกจะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่เค้าจะกลายเป็นกบ.. เค้ามีชื่อว่า “เกลน” เป็นหนุ่มน้อยรุ่นน้องคนสนิทของอัศวิน “ไซรัส” เค้ามาต่อสู้กับจอมมาร “มากัส” ที่หน้าผาแห่งหนึ่ง.. ในขณะที่ไซรัสรู้แล้วว่าไม่รอดแน่ๆ จึงบอกให้เกลนหนีไป แต่เกลนก็ไม่หนี เมื่อไซรัสตาย มากัสได้สาปให้เกลนกลายเป็นครึ่งคนครึ่งกบตามคำยุแยงของเจ้า “ออสซี่”.. เค้าพลัดตกจากหน้าผาลงมาด้านล่าง ปางตาย และได้เก็บตราของผู้กล้าเอาไว้กับตัว.. เวลาผ่านไป 10 ปีจนถึงวันนี้…..

รุ่งเช้าฟร็อกจะตัดสินใจเข้าร่วมเดินทางกับเรา เพื่อต่อสู้กับโชคชะตา ไม่หนีอีกแล้ว.. เมื่อตกลงกันได้ดังนั้น ให้พาฟร็อกไปยัง “ถ้ำแห่งเวทย์มนตร์” ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของกระท่อมของฟีโอน่าได้เลย(ใกล้ๆกัน)..

เมื่อมาถึงแล้วเข้าไปด้านใน.. เราจะได้พบเพียงแค่หน้าผาสูงใหญ่เพียงเท่านั้น.. ฟร็อกจะเดินไปที่หน้าผา แล้วนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกครั้ง.. ไซรัสเป็นรุ่นพี่ที่อบอุ่น และคอยดูแลปกป้องเค้ามาตลอดตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย.. ในวันที่เค้าถูกรังแก ในวันที่เค้าอ่อนแอ จะมีไซรัสคอยอยู่ข้างๆเสมอ.. จนถึงวัยหนุ่มเต็มตัว ไซรัสตัดสินใจเข้ากองทัพเป็นอัศวิน.. เค้าถามฟร็อกว่าจะเป็นด้วยกันไม๊.. ฟร็อกหรือ “เกลน” มีฝีมือดาบที่เก่งกาจและยอดเยี่ยมยิ่งกว่าไซรัสซะอีก.. แต่เค้าก็ปฏิเสธ และยอมรับว่าตัวเค้าเองขี้กลัวเกินไป เป็นอัศวินที่ดีไม่ได้แน่นอน.. (เก่งกว่าไซรัสอีกนะ ทำเป็นเล่น ยอดอัศวินไซรัสเป็นคนพูดเองอีกด้วย.. ไม่ธรรมดานะ เพื่อนเรานี่..)

การสูญเสียไซรัส.. ความเจ็บปวดที่เก็บเอาไว้ตลอดมา.. เผาผลาญออกมาเป็นพลังใจให้อัศวินกบลุกขึ้นสู้อีกครั้ง.. “ขอดาบมาซามุเนะให้ข้าที”.. ฟร็อกหันมาพูดกับโครโน่.. โครโน่ปักดาบให้เพื่อนรักบนพื้นดิน.. อัศวินกบสูดหายใจลึกก่อนประกาศก้อง..

“ชื่อของข้าคือ เกลน!!! นานมาแล้วที่ข้าแบกรับความหวังและความฝันของไซรัสเอาไว้! และตอนนี้ข้าก็ยังรับมาซามุเนะมาอีกด้วย!.. นับจากนี้ ข้าขอรับมันมาเป็นของข้าเอง! ข้าจะกำจัดราชาปีศาจมากัส และทวงเกียรติของเราคืนมา!!!!!”

อัศวินกบก้มจับด้ามดาบทั้งสองมือ.. เปลวสายฟ้าสาดเป็นสายเป็นประกายรอบตัว ผืนแผ่นดินสนั่นหวั่นไหว.. ดาบที่ชักออกมาส่องแสงสว่างไสวเจิดจ้า.. พลังคอสโม่ของเกลนพุ่งถึงขีดสุด เค้ากระโดดเหวี่ยงดาบในตำนาน ผ่าหน้าผาใหญ่จนแหวกออกเป็นสองฝั่ง มองเห็นทางเข้าถ้ำแห่งเวทย์มนตร์ที่ถูกผนึกไว้ชัดเจน…. ครืนน.. ปิดท้ายด้วยท่าโพสที่เท่ห์โคตรๆเลย เพื่อนฟร็อกเรา.. 🙂 ได้ใจ..

เมื่อทางเข้าถ้ำเวทย์มนตร์เปิดแล้ว.. ใจเย็นครับ อย่าเพิ่งเข้าไป.. ก่อนไปบู๊ในรังปีศาจ ไปอัพเวทย์ให้ฟร็อกสุดหล่อก่อนครับ.. เพราะทางค่อนข้างไกลใช้ได้ทีเดียว.. มีเวทย์ติดตัวไว้ ใช้เวทย์เป็น ยังไงก็ได้เปรียบมากขึ้น.. วิธีก็คือ พาฟร็อกวาร์ปไปหาสเป็คกิโอ้ที่สุดเขตกาลเวลาครับ ไปคุยกับสเป็คกิโอ้ เค้าก็จะดึงเวทย์ประจำตัวของฟร็อกออกมาให้ ซึ่งก็คือเวทย์ “น้ำ” นั่นเองครับ.. เซฟให้เรียบร้อย แล้วกลับมาที่ถ้ำเวทย์มนตร์อีกครั้ง..

เป็นถ้ำที่ไม่กว้างมากครับ.. มีค้างคาวกับเจ้าหนูเป็นฝูง.. เจ้าค้างคาวโจมตีทางกายภาพได้แต่เจ้าหนูต้องใช้ท่าที่เป็น “ธาตุ” หรือเป็น “เวทย์”.. (จริงๆเป็นอะไรที่แจ่มทีเดียวนะ เพราะเจ้าหนูชอบยืนกันเป็นฝูงเป็นกลุ่ม ใช้ท่าดาบลมที่พุ่งเป็นแนวยาวของโครโน่ทีเดียวก็ตายทั้งฝูงแล้วครับ หวานเจี๊ยบเลย..).. เมื่อถึงทางออกถ้ำ จะพบกับทหารที่นอนเดี้ยงอยู่.. คุยกับเค้าเค้าจะเตือนว่าให้ระวังมอนสเตอร์ชื่อ “Jugglers” ในวังปีศาจให้ดี(ตัวสีเหลือง มีผ้าคลุม).. ถ้าเราโจมตีมันทางกายภาพ มันก็จะอัพพลังป้องกันกายภาพ ถ้าเราโจมตีมันด้วยเวทย์มนตร์ มันก็จะอัพพลังป้องกันเวทย์ นั่นเอง.. สรุปก็คือ เราต้องสลับโจมตีมันนั่นเอง..

ออกจากถ้ำ เราก็จะทะลุมายัง ซ่องปีศาจนั่นเอง.. เดินเข้าไปได้เลย.. เป็นปราสาทใหญ่ ฟิลปราสาทแดร็กคูล่าดีๆนี่เอง(เอาแส้มาซิ).. บรรยากาศสยึ๋มกึ๋ยใช้ได้ทีเดียว…..

เข้ามาในปราสาท.. เดินขึ้นบันไดไปจะมีทางแยกสองทาง ซ้าย ขวา.. สำรวจให้ทั่ว ฝั่งซ้ายจะมีวิญาณเด็กๆและผู้คนที่เราไม่รู้จัก ส่วนฝั่งขวาจะมีแต่คนที่เรารู้จัก(เฮ้ย มาอยู่ที่นี่กันได้ไง?).. ออกมาก็จะเจอกับจุดวิ้งๆคล้ายจุดเซฟตรงกลาง.. เมื่อเดินไปสำรวจ เจ้า “ออสซี่” หนึ่งในเสนาฯปีศาจคนสำคัญออกมาต้อนรับเรา.. มันจะปากดีสารพัด และมันจะเรียกลูกน้องมารุมจัดการเรา.. จัดการเสร็จแล้ว ก็ไปสำรวจที่ซีกซ้ายและขวาอีกรอบ.. แต่รอบนี้ วิญญาณเหล่านั้นจะกลายเป็นปีศาจมาโจมตีเรา.. สุดทางฝั่งซ้ายจะได้พบกับ “สแลช” หนึ่งในขุนพลปีศาจยอดฝีมือของมากัส โดดเด่นเรื่องความรวดเร็ว ปราบให้ได้ แล้วเราจะได้ดาบสีม่วงดำ “สแลชเชอร์” ที่แสนเตะตาตั้งแต่เห็นครั้งแรกมาครอบครอง..

มาฝั่งขวาอีกรอบบ้าง.. เช่นเดียวกัน ทุกคนจะกลายเป็นปีศาจมากระทืบเราทั้งหมด.. สุดทางจะได้เจอกับปีศาจนักเวทย์ “ฟลี”.. เก่งเวทย์.. เป็นเพศชายแต่มีรูปกายภายนอกเป็นหญิง.. เหนื่อยใช้ได้เลยสู้กับฟลี.. เราสามารถใช้ไอเท็มเพื่อลดดาเมจจากเวทย์ 1/3 ที่เพิ่งได้มา ให้คนที่เราเห็นว่าสำคัญที่สุดในทีมได้ครับ..

เมื่อปราบได้แล้ว กลับมาตรงกลางอีกครั้ง จะไปต่อได้.. เจ้าออสซี่จะมาปากดีใส่อีกเช่นเคย ให้ตามมันไป.. เราจะได้พบกับโซน “ใบมีด”.. ก็กะจังหวะให้ดี วิ่งผ่านตอนมันยกขึ้นไป.. จนถึงตัวเจ้าออสซี่ มันก็จะหนีไปอีก.. ตามไป จะเจอกับโซน “บันได”.. ก็ขึ้นไปเรื่อยๆครับ.. ผ่านโซนบันไดจะเจอกับโซน “ห้องหลุม”.. เราจะตกหลุมเป็นว่าเล่น แต่ไม่ต้องตกใจ ตกลงมาเราจะเจอจุดเซฟทั้งสี่ทิศ.. แต่ไม่ใช่จุดเซฟแท้ทั้งหมด มีจุดเซฟแท้แค่อันเดียว ที่เหลือคือจุดเซฟปลอม(เป็นมอนส์ฯโจมตีเรา) และจุดวาร์ปกลับขึ้นไปข้างบน.. เราจะตกหลายรอบมากกว่าจะถึงตัวมัน..

พอเราถึงตัวมัน มันจะหอบแฮ่กๆ เพราะเหนื่อยทั้งวิ่งหนี เหนื่อยทั้งโยกกับดักใส่เรา(โถ.. ไอปัญญาอ่อน.. ลูกน้องมึงเยอะแยะ.. ไอต๊อง.. 😂)..

ตามไปเรื่อยๆเรื่อยๆ จนสุดทาง.. มันจะนั่งรอเราอยู่ตรงบัลลังก์.. มันจะไม่หนีละ มันจะสู้ละทีนี้.. เมื่อเริ่มการต่อสู้ มันจะเสกน้ำแข็งมาหุ้มตัวมัน.. ในการต่อสู้ ให้เราเล็งไปที่กลไกรอบตัวมัน ซ้ายมาขวาจนหมด(โจมตีที่มันไม่มีประโยชน์ มันสวนตลอด).. เมื่อเราทำลายกลไกจนหมด หลุมตรงกลางจะเปิดออก แล้วมันจะหล่นลงไปทั้งเกราะน้ำแข็งนั่นแหละ.. ร้องเสียงหลงเลยทีเดียว.. (โถ.. ไอต๊อง.. 😂)

เมื่อปราบเจ้าเบื๊อก “ออสซี่” ได้.. จะปรากฏจุดวิ้งๆสองจุดซ้ายและขวา.. จุดวิ้งฝั่งขวาคือ “จุดเซฟ” จุดวิ้งฝั่งซ้ายคือ “จุดวาร์ป” ไปหาบอสใหญ่ นั่นเองครับ….. ถึงตรงนี้ ผู้เขียนอยากจะบอกว่า เป็นจุดฟาร์มเลเวลได้อย่างดีทั้งข้างหน้า๊ยบและข้างหลัง.. ถอยไปข้างล่าง(ห้องที่เคยผ่านมาแล้ว) เราจะเจอมอนส์ฯ สองกลุ่มหลังสุดที่ให้ Exp ถึง 500+(ต่อกลุ่ม) เข้าหนึ่งรอบ ได้แน่ๆ 1,000+(ไม่ต้องเดินจนสุดห้อง เพราะกลุ่มอื่นๆให้น้อยลงไปเรื่อยๆ).. แต่เลือกเส้นนี้ จะต้องเจ็บตัวนิดหน่อย เพราะมีเจ้าตัวเหลืองที่เก่งพอควร แต่ก็คุ้มอยู่.. แต่ถ้าอยากได้แบบหวานเจี๊ยบ ให้เข้าจุดวิ้งวาร์ปทางซ้าย.. จะเจอบันไดยาวก่อนถึงห้องบอส.. วิ่งไปจนสุดทาง ไม่ต้องเบรก จะมีฝูงค้างคาวบินตามเราเป็นโขยง เป็นก้อน หวานเจี๊ยบ.. ให้ใช้ท่า “Cyclone” ของโครโน่ ปั่นทีเดียวจบ หวานๆเลยครับ 384Exp แทบไม่เจ็บตัวเลย.. ถ้าว่าง ก็วิ่งเข้าวิ่งออกหลายๆรอบครับ สบายๆเลย…..

เมื่อได้เลเวลเพียงพอกับที่ต้องการแล้ว ก็อย่าลืมเซฟด้วยครับ หนึ่งทีที่จุดเซฟ.. พร้อมแล้วก็เดินเข้าห้องบอสได้เลยครับ.. จะมืดตึ้บเลย และเราจะได้ยินเสียงสวดคาถาบางอย่างงึมงัมระงม.. เมื่อเดินต่อ ไฟสีขาวม่วงข้างทางจุดติดขึ้นตามก้นเราไปเลยครับ(ตื่นเต้นดีจุม).. เมื่อถึงปลายทาง เราจะได้พบกับจอมปีศาจ “มากัส” สมใจปราถนา.. เค้ากำลังทำพิธีอัญเชิญลาวอสอยู่.. ฟร็อกชักดาบมาซามุเนะออกมา พร้อมบวกสุดๆ.. คุยกันไม่นาน ก็เปิดกันเลยครับ.. บิ๊กบอสแห่งปราสาทแดร็กคูล่า..

วิธีจัดการ “มากัส” ก็คือ.. ให้ฟร็อกใช้ดาบมาซามุเนะเปิด(มากัสแพ้ดาบมาซามุเนะ โดนมาซามุเนะฟัน พลังป้องกันจะลด), จากนั้นให้โครโน่โจมตี, และให้เพื่อนคนสุดท้ายคอยฮีลให้ทุกคน(ถ้าฮีลเต็มแล้วก็เปลี่ยนเป็นโจมตีแทน).. แบบนี้วนไปเรื่อยๆ.. แต่มีข้อระวังนิดนึงคือ มากัสจะคอยร่ายเวทย์ “ดูดซับพลังงานทั้งหมด ยกเว้นธาตุ (…)” อยู่ตลอด.. เราต้องใช้ธาตุที่มันยกเว้นนั่นแหละ โจมตีมัน.. ถ้าใช้ธาตุอื่นจะกลายเป็นเติมพลังให้มันนะครับ.. สู้ไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่.. ฮีลให้ทัน ฟันให้แรง..

เมื่อเอาชนะมากัสได้.. “ลาวอส” ทำท่าจะตื่นขึ้นมา แผ่นดินสะเทือน ประตูมิติเปิดออก.. มากัสบอกว่า เค้าไม่ได้เป็นคนสร้างมัน แต่แค่อัญเชิญเท่านั้น!! เจ้าพวกโง่!!!.. ว่าแล้ว ประตูมิติก็ดูดเราทุกคนเข้าไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปโผล่ที่ไหน..

สุดท้ายเราจะมาโผล่ที่ยุค 65ล้านปีของไอย์ล่า.. ไอย์ล่าเจอเราสลบอยู่บนยอดเขา แล้วลากเรากลับมาที่กระท่อม.. เมื่อพวกเราได้สติ จะถามว่าเห็นผู้ชายหน้าซีดๆ(มากัส)ด้วยรึเปล่า ซึ่งก็ไม่มีใครเห็น.. จะมีคนวิ่งมาบอกว่าหมู่บ้าน “ลาลูบ้า” เกิดไฟไหม้ และถูกโจมตี.. ให้เราออกมา.. แต่ก่อนไปหมู่บ้านลาลูบ้า อย่าลืมแวะหาคุณลุงแลกอาวุธที่เต๊นท์ขวาบนก่อน เพราะมีอาวุธใหม่มาเพียบเลยครับ..

ได้อาวุธใหม่ครบเซ็ทแล้วก็ไปที่หมู่บ้านลาลูบาทางซ้ายบนได้เลย(เป็นกระท่อมเดี่ยวกลางป่ารกใกล้ๆนั่นเอง).. เมื่อเข้าไป จะเห็นหมู่บ้านถูกไฟไหม้ราบ คุยกับทุกคนจะได้รู้ว่าหมู่บ้านถูกโจมตีโดยเหล่าเรปไทล์นั่นเอง ตัวประกันถูกจับไปบางส่วนรวมทั้งคิโนะด้วย.. และพ่อเฒ่าหัวหน้าหมู่บ้านก็โทษว่าเป็นเพราะไอย์ล่านั่นแหละ ที่ไปมีเรื่องกับเหล่าเรปไทล์จนพวกมันตามมา.. ไอย์ล่ารู้สึกเสียใจ แต่ก็ยืนยันว่ายังไงก็ต้องสู้ แพ้คือตาย ชนะคืออยู่ เป็นกฏอยู่แล้ว(กล้าหาญได้ใจจริง แม่เสือสาว)..

ไอย์ล่าขอไอเท็มสำคัญจากพ่อเฒ่าแล้ววิ่งผลุนผลันออกไป.. ให้เราตามไอย์ล่าไปที่ “รังของแดคไทล์” ขวาบน(จำได้ไม๊?.. ที่ๆเราเคยปีนขึ้นไปเอาชุดเกราะล้านปีไงครัช..).. ปีนขึ้นไปบนชั้นบนสุด.. ไอย์ล่าจะเรียกพาหนะสุดจ๊าบของยุคนี้มา นั่นคือ “เทราโนโดราเอโมโนเจ็ต” นั่นเอง!.. ทุ้ย! 😂 (ชื่อคล้ายๆชุดเกราะคราวก่อนเลยนะ)..

ในขณะที่เธอกำลังจะขึ้น พวกเราจะเรียกเธอไว้.. ไอย์ล่าตกใจที่พวกเราตามมา พวกเราบอกจะไปด้วย จะปล่อยให้ไอย์ล่าอันตรายคนเดียวไม่ได้.. ถึงแม้จะห้ามในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอม ไอย์ล่าซึ้งใจมากและเรียก “”เทราโนโดราเอโมโนเจ็ต” มาอีกสองคัน เผื่อพวกเราด้วย….. ฮี่ๆๆ ทางของเรา.. ขี่มังกรมาเยอะแล้ว.. วันนี้ขอแว๊นซ์ไดโนเสาร์มั่งล่ะโว้ย!!.. 😂

แว๊นซ์ลงใต้มายังปราสาทกลางแม็กม่านั่นแหละครับ จอดหน้าปราสาทเลย.. มันคือ “รังของ Tyranno” นั่นเอง.. บุกเข้ามาด้านใน เราจะพบกับทางเข้าซึ่งเป็นกะโหลกของไทแรนโนซอรัสซ้ายขวา.. อันซ้ายยังเข้าไม่ได้ มาอันขวาก่อน.. เราจะเจอกับเชลยที่ถูกจับมา(เอาไว้กิน) ช่วยพวกเค้าออกมาจากห้องขัง โดยกดปุ่มเปิดประตู.. ไปต่อจะพบกับ “คิโนะ” ที่ถูกขังอยู่.. ไอย์ล่าจะช่วยคิโนะออกมาโดยการทำลายประตูห้องขัง(แข็งแรงจัดๆ).. คิโนะจะอาสาพาไปอีกทาง ก็ให้เราตามคิโนะไป.. ทีนี้เราจะสามารถไปทางซีกซ้ายได้แล้วครับ..

ไปตามทางเรื่อยๆ เราจะเจอกับห้องๆหนึ่งที่ค่อนข้างมืดๆหน่อย มีกล่องสมบัติอยู่ทั่วห้อง(กล่องหน้าตาคล้ายไข่ไดโนเสาร์) แต่เราจะไม่สามารถเดินชิวไปหยิบได้ง่ายๆเพราะจะมีจุดวาร์ปบนพื้นที่เรามองไม่เห็น วาร์ปไปวาร์ปมาให้เรางง.. วิธีการก็คือ จำเอาไว้ว่าเหยียบตรงไหนแล้วไปโผล่ตรงไหน แค่นั้นครับ.. ก็เก็บให้ครบทุกกล่อง มีของดีอยู่ด้วยนะ คือ “เกราะหัวไทเซอราท็อป” เพิ่มพลังป้องกัน.. พยายามมาทางขึ้นไปชั้นต่อไปซ้ายบนให้ได้..

พอทะลุออกมา จะเป็นชั้นลอยเอ๊าท์ดอร์อีกครั้ง ประตูตรงกลางจะปิดเข้าไม่ได้ ให้ไปประตูขวา เข้าไปจะเจอกับกลไกที่พื้น อันขวาเปิดทางไปต่อ อันซ้ายมีมอนส์ฯออกมา.. เหยียบแม่งให้หมดอะ 😂.. เสร็จแล้วเข้าไปกดสวิทช์ตรงกลางเพื่อเปิดปั๊กกะตู.. ทีนี้ประตูตรงกลางก็สามารถไปได้แล้ว ก็ออกมาแล้วเข้าประตูตรงกลางครับ..

เข้ามาปุ๊บ ก็จะได้เจอกับไอเบื๊อก “นิซเบล” ไทเซราท็อปบ้ากล้ามที่เราตบไปคราวก่อน ยืนเบ่งกล้ามโชว์จั๊กกะแร้เหม็นเขียวของมันอยู่.. อย่าไปสนใจ เอามืออุดจมูกแล้วเดินลอดจั๊กกะแร้อันแสนน่ารังเกียจของมันไป 😂.. เจอจุดเซฟก็เซฟและเติมพลังให้เรียบร้อยครับ.. ในขณะที่เรากำลังจะผ่านห้องนั้นไปนั่นเอง เจ้านิซเบลก็เบรกเราไว้ แล้วบอกเราว่า คิดว่ามันมันจะง่ายอย่างนั้นเลยรึ ต้องผ่านข้าไปก่อน!!!.. (รู้ตั้งแต่แรกแล้ว.. คงไม่มายืนส่งกลิ่นเหม็นเขียวเฉยๆหรอก..)..

จัดการซะครับ.. วิธีจัดการนิซเบลก็คือ ให้โครโน่เปิดด้วยเวทย์ “สายฟ้า” เบาๆก็พอ(มันแพ้สายฟ้า) แล้วพลังป้องกันมันจะลด.. จากนั้นก็ให้ไอย์ล่ากระทืบโดยท่าที่โหดที่สุดเท่าที่มี ให้เพื่อนอีกคนคอยฮีลสลับโจมตี ไปเรื่อยๆครับ.. สักพักก็เรียบร้อย.. เป็นปุ๋ย…..

เดินทางต่อ ก็จะได้พบกับชั้นลอยอีก.. ตรงกลางยังไปไม่ได้ ต้องไปกดสวิทช์ที่ห้องขวาก่อน.. ไปที่ห้องขวา จะเจอตุ่มเหยียบที่พื้นสามตุ่ม.. ตุ่มซ้ายพื้นจะเป็นหลุมซ้ายขวา ตุ่มขวาจะมีมังกรเขียวหล่นลงมาสู้กับเรา(เหยียบซ้ายเสร็จมาเหยียบขวาโคตรฮา เพราะมันหล่นลงไปในหลุมเลย ไม่ทันสู้.. 😂 ).. แต่จะให้ดีไม่ต้องเหยียบเลย เหยียบตุ่มกลางตุ่มเดียวพอ เพราะฝั่งซ้ายมีจุดเซฟอยู่ เราต้องเดินไปเซฟด้วยไง.. เซฟซะนะครับ เพราะเรากำลังจะได้เจอบอสใหญ่ของปราสาทนี้แล้ว..

ออกมาแล้วเข้าประตูกลาง.. เราจะได้พบกับหัวหน้าของเผ่าเรปไทล์ “อซาล่า” นั่นเอง.. มันจะปากดีแป๊บนึงก่อนวิ่งออกไปทางประตูหลัง.. ให้เราตามไป.. สุดทางเราจะได้เจอกับเจ้า “แบล็คไทแรนโน”.. แก๊ซซ!! แก๊ซซ!!.. (เสียงร้อง) 😂..

แน่นอน คงไม่ต้องถามว่ามันพามาทำไม มันพามากระทืบเราแน่นอน.. จัดให้เค้าไปครับ.. อซาล่าจะยืนอยู่บนหัวไหล่ ให้จัดการมันก่อน เพราะมันจะคอยบัฟให้เจ้าแบล็คและยกเรา”ขึ้น”แล้วปล่อยลงมากระแทก น่ารำคาญ.. จัดการอซาล่าได้ ทีนี้ก็ถนัดมือขึ้นเยอะ.. สู้กับเจ้ายักษ์นี่ ก็ตามสเต็ปครับ เปิดด้วยสายฟ้า แล้วก็ใส่ให้ยับ..

เมื่อเอาชนะ “อซาล่า” กับ “แบล็คไทแรนโน” ได้.. ดนตรีเศร้าก็มา.. อซาล่าคลานหมดสภาพอยู่กับพื้น.. บ่นน้อยใจโชคชะตา ว่าสวรรค์เลือกเข้าข้างลิงไม่มีขนพวกนี้มากกว่าไดโนเสาร์งั้นหรือ?.. ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า จริงๆแล้วการต่อสู้ครั้งนี้มันไม่มีใครผิดใครถูก แค่สู้เพื่อดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อเท่านั้นเอง..

ในระหว่างนั้นเอง “ลาวอส” หรืออุกกาบาตขนาดใหญ่ก็ได้พุ่งตรงมายังโลก.. คิโนะขับเทราโนเจ็ตฯมาช่วยเราทุกคนพอดี.. ไอย์ล่าพยายามจะช่วยอซาล่าให้ไปด้วยกัน.. แต่อซาล่าก็ไม่ได้พยายามลุกขึ้น.. คำสั่งลาสุดท้ายของอซาล่าที่มีให้ไอย์ล่าก็คือ….. “ดู.. ดูแลโลกนี้ ต่อไปแทนเค้าด้วย..”.. (หล่อซะงั้น.. อยู่ดีๆก็หล่อซะงั้น..).. แล้วอุกกาบาตก็ “ตูมมมม..ม..!!..”.. กลายเป็นหลุมกว้างและลึก 2 ซ.ม. 😂.. ทุ้ย.. หลุมน่าจะใหญ่กว่านี้นะที่จริง..

เมื่อบังคับตัวละครได้ ให้เดินเข้าไปในหลุมครับ.. จะพบกับจุดวาร์ปกาลเวลาธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะความไม่เสถียรของสะมะนะกึ๋ยและสะมะนะแก๋ว(เป็นธาตุพิเศษที่สายวิทย์คณิตเท่านั้นที่จะเข้าใจ 😂).. ก็ให้เข้าไปครับ.. แล้วเราจะไปโผล่ในปี B.C.12,000 หรือหนึ่งหมื่นสองพันปีก่อนอารยธรรมนั่นเอง..

ในยุค B.C.12,000 ปีนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 เลเยอร์แผ่นดิน.. คือแผ่นดินบนพื้นโลกที่เป็น “ยุคน้ำแข็ง” และแผ่นดินที่ลอยฟ้าอยู่ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์.. เราจะโผล่ออกมาจากถ้ำเล็กๆถ้ำหนึ่ง เดินออกมาจะพบกับโลกน้ำแข็งหนาวเหน็บ พายุหิมะรุนแรงตลอดเวลา.. เดินมาขวาล่างใกล้ๆนั่นเอง ก็จะได้พบกับ “สกายเวย์” จุดวาร์ปขึ้นแผ่นดินลอยฟ้า เข้าไปครับ.. เราจะไปโผล่บนเกาะลอยฟ้าเล็กๆเกาะหนึ่ง.. โว่ว..สวยหยด หญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าเมฆขาวนวล ช่างต่างจากข้างล่างยิ่งนัก ดูเหมือนจะมีเกาะอื่นๆอีกด้วย.. ชมวิวชื่นใจแล้วให้เดินเข้า “เมืองแห่งความฝันเอนฮาซ่า” ซึ่งอยู่ใกล้ๆนั่นเอง.. เข้าไปคุยกับทุกๆคน.. ดูเหมือนที่นี่เค้าจะสนุกกับการนอนฝัน อารมณ์เหมือนโลกเสมือนในเดอะแมททริก อะไรประมาณนั้น.. เราจะได้ข้อมูลเรื่องเรือเหาะและเมืองอื่นๆ ได้ข้อมูลเรื่องราชินีและประวัติบางส่วนของที่นี่.. มีหนังสือที่เปิดแล้วมีพลังธาตุต่างๆออกมาอีกด้วย ให้เปิดเรียง น้ำ, ลม, และไฟ ประตูทางลับจะเปิดออก(ซ้ายบนของไฟ) เข้าไปจะพบกับชาว Nu ยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วตอบ “ใช่” เค้าจะแยกร่างเป็น 6 ร่างเพื่อสู้กับเรา เอาชนะเค้าให้ได้ แล้วเค้าจะให้ยาเรามาสองเม็ด คือ ยาเพิ่มพลังเวทย์ถาวร1เม็ด, ยาเพิ่มสปีดความเร็วถาวร1เม็ด.. ที่สำคัญ เราจะได้เจอเด็กน้อยที่พูดเป็นลางไม่ดีถึงกลุ่มเราซักเท่าไหร่ และเด็กน้อยคนนี้จริงแล้วก็คือ “มากัส” ในวัยเด็กนั่นเอง.. คุยกับทุกคนแล้วออกมา เข้าจุดวาร์ปด้านบนเราจะลงมาแผ่นดินด้านล่างอีก เดินไปซ้ายบนจะมีแท่นวาร์ปสกายเวย์อยู่อีก เข้าไปก็จะมาโผล่ที่แผ่นดินด้านบนอีกเกาะหนึ่ง เกาะนี้จะใหญ่กว่าเดิมมาก มีน้ำตก มีภูเขา สวยงาม.. เดินข้ามสะพานมาทางซีกซ้าย จะได้เจอถ้ำเพื่อขึ้นไปยัง “พระราชวังแห่งอาณาจักรซีล” แต่อย่าเพิ่งไป เลยมาอีกนิดจะได้พบกับ “คาร์จา” เมืองแห่งเวทย์มนตร์ เข้าไปครับ.. คุยกับทุกๆคนจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก ว่าเกาะทางใต้มี “ศิลาตะวัน” ซึ่งใช้ทำอาวุธชุดเกราะได้ แต่พระราชินีสั่งห้ามไม่ให้ไปใช้แล้ว.. มีชาว “นู” ตัวอ้วนๆกลมๆขายของและบอกว่า จริงๆเค้ามีชุดเกราะแพล็ทตินั่มขายด้วยแต่ต้องได้รับอนุญาตจากราชินีก่อนถึงจะขายได้.. จะมีหนังสือสามเล่มกระจายกันวางอยู่ เปิดแล้วจะมีธาตุ น้ำ, ลม, และไฟ(เรียงตามนี้) ออกมา.. เมื่อเปิดค้างไว้ทั้งสามเล่ม จะมีประตูลับเปิดขึ้นใกล้ๆกับเล่มที่มีไฟออกมา(ทางขวา).. เข้าไปจะได้พบกับมอนส์ตัวน้อยยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเราจะได้ไอเท็ม “Black Gemstone” มาครอบครอง.. เป็นเครื่องประดับ เมื่อสวมใส่แล้วจะสามารถใช้ท่าประสานสามคน “Eternal Darkness” ได้ในภายหลัง..

ไปสำรวจที่ห้องด้านบนทั้งสองห้อง จะได้รับรู้เรื่อง “วังสมุทร” และข้อมูลสำคัญบางส่วนเพิ่มอีก.. จะมีคนบอกว่ามี “ผู้หยั่งรู้” มาที่วังอีกด้วย.. คุยกับทุกคนแล้วออกมา.. ไปที่จอด “ปักษาทมิฬ” ทางซ้าย.. เมื่อเข้าไปคุยกับคนเฝ้าเครื่องบิน จะมีคนโผล่มาเช็คเราว่าเราเป็นใครมาจากไหน.. เค้าชื่อ “ดาลตัน” เป็นหนึ่งในขุนพลของราชินี.. ตอนแรกนึกว่าจะตื้บเรา แต่ก็เปล่า เค้าบอกว่าเรานี่สินะที่จะโผล่มาขัดขวางตามที่เจ้าผู้หยั่งรู้แปลกหน้านั่นทำนายเอาไว้.. เสร็จแล้วก็เดินจากไป..

เรียบร้อยแล้วออกมา เดินไปที่ถ้ำ วาร์ปขึ้นดอยไปเรื่อยๆ จนถึงบนสุด ก็คือ “พระราชวังแห่งอาณาจักรซีล” นั่นเอง.. คุยกับทุกคนให้ทั่วจะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆในอาณาจักรมากมาย แม่นางซ้ายล่างถูกราชินีบังคับให้เอาต้นกล้าแห่งชีวิตไปเผาทิ้ง เธอจะถามเราว่าควรทำหรือไม่ ก็ให้บอกไปว่า “ไม่” แล้วเธอจะแอบเก็บต้นกล้านี้ไว้.. ที่ห้องซ้ายบนเป็นห้องเก็บเครื่องจักร “แมมม่อน” ใช้ดูดพลังจากลาวอสขึ้นมาใช้(ฟังดูงี่เง่าชอบกล).. เราจะได้ข้อมูลว่าลุง “เมชิเออร์” ช่างตีดาบสุดจ๊าบเป็นผู้รู้กูรูแห่งชีวิตของอนาจักรนี้ แต่ขัดแย้งกับราชินีจึงหายตัวไป.. ได้รู้ว่าพระราชินีทำตัวแปลกๆไปหลังจากเริ่มใช้พลังของลาวอส….. ไปที่ห้องขวาบนจะเป็นห้อง “บรรทม” (แยกเป็นสองห้อง).. เมื่อเข้าห้องทางขวา จะได้พบกับ องค์หญิง “ชาล่า” เฮดชาล่า 😂.. และองค์ชายน้อย “เจนัส” ยืนคุยกันอยู่ถึงลางร้ายที่จะเกิดขึ้น.. องค์หญิงเป็นคนที่มีพลังเวทย์สูงที่สุดในอาณาจักร และเธอไม่ค่อยโอเคหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่ราชินีหรือท่านแม่กำลังทำอยู่เท่าไหร่..

ในระหว่างนั้นเอง จะมีนางสนมวิ่งมาเชิญองค์หญิงชาล่าให้ไปเฝ้าราชินี องค์หญิงก็จะออกไป ถึงแม้จะแปลกใจที่ไม่คุ้นหน้าเราแต่เธอก็ไม่มีเวลาคุยด้วย.. ให้ตามเธอไปที่ห้องกลางบน.. ชาล่าจะใช้สร้อยคอของเธอ(ซึ่งเหมือนกับของมาร์ลมากๆ)เพื่อเปิดประตู.. แต่พอเราวิ่งตามไปทำบ้าง กลับไม่สามารถเปิดได้.. คุยกับนางสนมหน้าประตู พวกเธอจะบอกว่า เคยเห็นองค์หญิงไปชาร์จแบตให้สร้อยคอที่เครื่องแมมม่อน.. อ้าว รอไรล่ะครับ ไปที่เครื่องแมมม่อนห้องซ้ายทันที.. กดทีแผงควบคุม เจ้าเครื่องแมมม่อนจะชาร์จพลังให้กับสร้อยคอของเราจนเต็ม สีแดงแจ๊งแว๊ง..

วิ่งกลับมาที่ประตูเวทย์มนตร์ที่ห้องกลางอีกครั้ง.. กระทืบพื้นสามครั้งเป็นเคล็ดแล้วเปิดประตู.. รอบนี้เราจะสามารถเปิดประตูได้สมใจปราถนา เย่!.. เมื่อเข้าไปจะได้พบกับ ราชินี, ดาลตั้น, ผู้หยั่งรู้ปริศนา, และองค์หญิงชาล่า.. ราชินีถามทันทีว่าพวกมึงเป็นใคร?! มาเฮ็ดอิหยังแถวนี่?!.. อยากตายบ่?!!!..

เจ้าผู้หยั่งรู้จะใส่ไฟทันที บอกว่าพวกเรานี่แหละคือตัวอัปปรีย์ที่จะมาทำทุกอย่างพัง.. ราชินีไม่รอช้า สั่งดาลตันให้จัดการเราทันที ดาลตันจะส่งโปเกม่อน “โกเลม” มาจัดการเรา.. ตีโหดซะขนาดนี้ อย่าไปใช้ไอเท็มให้เปลืองเลย สู้เท่าที่สู้ได้ก็พอ แพ้ก็ไม่เป็นไรครับ.. พอเราร่วงหมด เราจะถูกจับไปขังในคุกสุดล้ำ หมุนติ้วๆๆอยู่บนอากาศ..

องค์หญิงชาล่าจะมาช่วยเรา แต่จนแล้วจนรอดเจ้าผู้หยั่งรู้ก็ตามมาเห็นจนได้.. องค์หญิงจะขอร้องว่าอย่าทำร้ายหรือฆ่าพวกเรา เจ้าผู้หยั่งรู้มันจึงขอแลกเปลี่ยน ไม่ฆ่าก็ได้ แต่ต้องส่งมันกลับไปยังที่ของมันแล้วอย่าให้มันกลับมาอีก.. ว่าแล้วมันก็ให้เราพาไปจุดวาร์ปที่เราเข้ามา หลังจากถีบเราลงประตู มันก็บังคับให้องค์หญิงชาล่าร่ายเวทย์ล็อคประตูเอาไว้.. แม้ไม่อยากทำ แต่เธอก็จำใจต้องทำ เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา.. เราจะกลับมายังยุค B.C.65,000 อีกครั้ง..

มาร์ลจะนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เรามีสร้อยคอเวทย์ที่สามารถเปิดผนึกประตูและกล่องที่สะกดด้วยเวทย์ได้แล้ว และในโลกอนาคตปี A.D.2300 ก็มีอยู่หลายจุดที่เธอเห็น บางทีมันอาจจะเป็นเบาะแสสำคัญเรื่องปราบลาวอสก็ได้.. คิดได้ดังนั้น พวกเราจึงตกลงจะไปที่นั่นกัน.. เดินลงมาขวาล่าง จะพบกับเทราโนเจ็ตของเราจอดรออยู่.. กระโดดควบแล้วแว๊นซ์กลับไปที่หุบเขาที่เราโผล่วาร์ปมาที่นี่ครั้งแรก.. วิ่งขึ้นไปชั้นบนสุด กระโดดเข้าจุดวาร์ปเผื่อกลับมายังจุดสิ้นสุดแห่งเวลา.. เข้าจุดวาร์ปไปยังปี A.D.2300 อีกครั้ง..

เมื่อวาร์ปมาที่ปี A.D.2300 เราจะอยู่ในโปรโตโดม.. ออกมาแล้วไปซ้ายบน เดินทางข้ามไซต์32มาทะลุอีกฝั่ง(จะเดินก็ได้ หรือจะแข่งรถกับจอห์นนี่ก็ได้).. ทะลุแล้วให้มาขวาล่าง เข้า “ท่อระบายน้ำ” โสโครก กดประตูกลไกต่างๆจนทะลุมาอีกฝั่ง.. ก่อนจะถึงทางออก เราจะได้พบกับเจ้า “ลุคเอาต์” กำลังฟ้องเจ้า “ครอวลีย์” อยู่พอดี.. พอมันคุยกันเสร็จก็เข้าบวกได้เลยครับ.. มาถึงตอนนี้ เราแข็งแกร่งพอสมควรแล้ว สามารถฆ่ามันตายได้ไม่ยาก แต่ก็อย่าประมาทไป มันสามารถจับเราฟาดได้รุนแรงเหมือนเดิม มันสามารถฆ่าเราได้ด้วยท่าฟาดที่รุนแรงนั้น.. จัดการเรียบร้อยแล้วออกมาครับ..

เดินทางลงใต้เพื่อไปยัง Keeper’s Dome หรือโดมของผู้ดูแล.. เมื่อเข้ามา เราจะได้พบกับชาว Nu คนหนึ่งยืนหลับ เข้าไปคุยด้วยก็จะหลับต่อซะงั้น.. ก็เดินต่อ ลอดข้างขึ้นไปทางเหนือครับ(ไม่ใช่ชั้นบนนะ ชั้นล่างนี่แหละ).. จะพบกับประตูเวทย์ ก็ใช้สร้อยคอเปิดประตูได้ทันทีครับรอบนี้.. เมื่อเข้าไปในห้อง เราจะได้พบกับ “ข้อความแสง” หล่นเป็นสะเก็ดเรียงรายไปตามพื้น.. เป็นข้อความจาก “เบลธาซาร์” กูรูแห่งเหตุผลจากอาณาจักรซีล.. เค้าวิจัยลาวอสและเฝ้าดูอยู่ตลอด เค้าจะอธิบายว่าลาวอสเป็นเหมือนปรสิตขนาดใหญ่ที่ใช้โลกเป็นโฮสต์ ฝังตัวอยู่ในยอดเขาแห่งความตายใกล้ๆนั่นเอง.. แต่เค้าแก่ชราลงเรื่อยๆ จนไม่ไหวแล้ว เค้าจึงได้ฝากสุดยอดสิ่งประดิษฐ์เอาไว้ เพื่อให้เราใช้ปราบมัน.. ฝากพวกเราด้วย.. ประมาณนั้น…..

เมื่อถึงประตูก็เปิดได้เลยครับ.. เข้าไปเราจะพบกับสุดยอดนวัตกรรมที่เบลธาซาร์ได้ฝากเอาไว้ “ยานเจาะเวลามหาปลัย Eporch” นั่นเอง.. เดินไปบนสุดของห้อง พวกเราจะพูดคุยกันนิดหน่อยด้วยความทึ่ง.. เสร็จแล้วเดินลงมาตรงทางออก ชาวNuจะเดินเข็นลังเข้ามา.. รอบนี้เค้าจะคุยกับเรา บอกว่าเค้าคือเบลธาซาร์ที่ได้ถ่ายทอดความทรงจำเอาไว้ที่เจ้านี่(เย้ดด อย่างล้ำ.. ประมาณว่า ถ้าสมองเป็นฮาร์ดดิสก์ที่มีระบบปฏิบัติการณ์อยู่.. เค้าโคลนนิ่งสมองตัวเองใส่ไว้ที่เจ้านี่นั่นเอง.. สามารถพูดคุยได้เหมือนคุยกับเค้าเองเลย.. โว่ว ล้ำเกิ๊นน.. เกมจากปี 199x จริงป่าวนี่.. อิอิ..).. เค้าจะอธิบายการใช้งานยานลำนี้.. แตะที่แผงควบคุมแล้วเลือกปีที่จะไป.. ประมาณนั้นครับ..

ก็กดขึ้นยานโดยสำรวจที่เบาะด้านหลังเจ้าNuขี้เซาได้เลย.. พอขึ้นยานเสร็จ จะมีแผงเลือกเวลาขึ้นมา ก็เลือกได้เลยครับ ไปจุดสิ้นสุดของกาลเวลาก่อนเลยที่แรก ไปคุยกับคุณลุง ฮีลที่อ่างฮีล และเซฟไว้ก่อนเลยเน้นๆ ณ จุดนี้.. ทีนี้ก็เป็นเวลา “เก็บของ” และ “เปิดกล่อง” ที่มีผนึกเวทย์ตามที่ต่างๆให้หนำใจครับ.. หลักการคือ เก็บจากช่วงเวลาที่ใหม่กว่าไปเก่ากว่า นะครับ.. A.D.2300 ไล่ไปจนถึง B.C.65,000,000 ประมาณนั้น.. เพราะบางกล่องเป็นกล่องเดียวกัน ไปเก็บช่วงเวลาเก่าก่อน พอไปเก็บช่วงเวลาใหม่กว่า มันก็จะไม่มีอะไรแล้ว.. ตามหลักของฟิสิกซ์กลศาสตร์ควอนตั้มหมาหั่มมาฮั่มครับ.. 😂

เมื่อซนจนพอใจแล้ว.. หรือขี้เกียจจะซน อยากเดินเรื่องต่อเลยมากกว่า ก็มาเดินทางต่อกันเลยครับ..

แว๊นซ์ยานเหาะ “Eporch” ของเราไปที่ช่วงเวลา B.C.12,000 หรือยุคโบราณนั่นเอง.. เราจะมาโผล่ที่หน้าถ้ำจุดวาร์ปเก่าของเราที่โดนชาล่าล็อคไว้นั่นเอง.. เดินทางมาทางทิศตะวันตกไม่ไกล เราจะได้พบกับ “ถ้ำเทอร่า” เมื่อเข้าไป เราจะได้พบกับชุมชนชาวบ้าน “อัลเก็ตตี้” ที่ถูกเนรเทศแยกตัวออกมาจากชาวเกาะลอยฟ้าหรือชาว “ซีล” นั่นเอง.. เป็นชนชั้นแรงงานทาส เป็นชาวบ้านที่ไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ได้..ให้เราสำรวจให้ทั่วทั้งหมู่บ้านทั้งถ้ำ คุยกับทุกคน ทุกห้อง เราจะได้ข้อมูลอีกมากมายเลยทีเดียว.. เราจะได้รู้ว่าองค์หญิงชาล่าให้เกียรติผู้คนที่นี่ไม่ต่างจากชาวซีล เพราะจิตใจที่ดีงามของเธอ.. จะได้รู้ว่าราชินีเพี้ยนไปเพราะการดูดพลังของลาวอสมาใช้นั่นเอง….. ที่ร้านขายอาวุธมีอาวุธและเครื่องป้องกันดีๆขายเยอะทีเดียวครับ ห้ามพลาดทีเดียว..

ปีนขึ้นและปีนลงมาทางซีกซ้ายจะได้พบกับจุดเซฟ.. ก็เซฟซะครับ แล้วเดินทางต่อ ไปอีกไม่ไกลก็จะได้พบกับฝูงบอสทั้งสามตัวคือ เจ้าอิ๊มพ์เขียวเป็นหัวหน้า ควายธนูไฟและควายธนูน้ำแข็ง เป็นลูกน้อง.. แสบใช้ได้เลยทีเดียวครับ.. ใช้เวทย์ที่ตรงข้ามกับธาตุมันโจมตีมัน.. จัดการให้เรียบร้อยทั้งหมดครับ… แล้วเราจะสามารถปีนขึ้นโซ่ยักษ์เพื่อขึ้นไปยังเกาะลอยฟ้าได้.. ขึ้นไปบู๊ซะให้ราบครับ เก็บของให้หมด.. ไปจนสุดทางจะได้พบกับก้อนน้ำแข็งยักษ์ และบอส “Giga gaia”.. ตบให้ลง แล้วเราจะได้พบกับคุณลุงเมลชิเออร์ช่างตีดาบในตำนาน แกจะงงนิดหน่อยที่เรารู้จักแก แล้วแกจะบอกรายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น.. สุดท้ายพวกเราทั้งหมดจะรีบหนีกลับมาที่หมู่บ้านอัลเก็ทตี้อีกครั้ง เกาะลอยฟ้าจะขาดออกจากโซ่ และหล่นลงมา…

เราจะคุยกับคุณลุง “เมลชิเออร์”.. องค์หญิงชาล่าจะปรากฏตัวพร้อมนายน้อยเจนัส.. เธอจะเล่าแผนการณ์ของเสด็จแม่ให้ทุกคนฟัง เธอต้องการให้พวกเราช่วยหยุดแม่ของเธอ.. ในขณะคุยกันนั่นเอง เจ้าดาลตั้นก็ตามมา มันมาตามองค์หญิงกลับไปทำพิธีนั่นเอง.. มันจะเก๋ามาก ต่อยท้ององค์หญิง ยิงพลังใส่เมลชิเออร์ และตบเจนัสซะกระเด็น(เดี๋ยวมึงเจอกุแน่).. ก่อนที่มันจะพาองค์หญิงไปในที่สุด..

คุยกับคุณลุงเมลชิเออร์อีกครั้ง เราจะตกลงว่าจะช่วยกันหยุดแผนอันตรายนี่จากองค์ราชินี คุณลุงจะปลื้มเรามาก(เราจะได้ “รูบี้ไนท์” จากแกด้วย เพื่อใช้ทำลายเครื่องจักรแมมมอล).. ทีนี้เราจะไปปราบดาลตั้นกันที่พระราชวังลอยฟ้าที่เราเคยไปกันครับ…..

ออกจากหมู่บ้านอัลเก็ทตี้มาทางซีกขวาบ้าง จะได้พบกับสกายเวย์เพื่อขึ้นไปยังพระราชวังลอยฟ้านั่นเอง ขึ้นไปครับ.. เดินทางไปตามทางเรื่อยๆอย่างที่เราเคยไป.. ห้ามลืมแวะที่เมือง “คาจาร์” ด้วย(ที่อยู่ตีนเขาใกล้โรงเก็บเครื่องบิน).. เข้าไปแล้วไปฮีลฟรีที่จุดฮีลขวาล่าง.. เสร็จแล้วเดินไปคุยกับชาวนูที่เค้าท์เตอร์ขายของ เค้าจะถามเราว่าจี้ที่เรามีนั่นใช่ขององค์หญิงชาล่าหรือไม่ ให้เราตอบว่า “ไม่” แล้วเค้าจะขายของให้เราตามปกติ ซึ่งจะมีทั้งอาวุธและเครื่องป้องกันดีๆหลายชิ้นเลยครับ ซื้อให้ฉ่ำ แล้วออกมา.. เดินทางต่อขึ้นเขาไปยังพระราชวัง มุ่งหน้าไปที่ห้องใหญ่ของราชินี.. เราจะได้พบกับเจ้า “ดาลตั้น” ที่กำลังหงุดหงิดว่ามันไม่ได้ไปพระราชวังใต้สมุทรกับเค้าด้วย ต้องมาเฝ้าที่นี่.. ก็บวกกันเลยครับ รอมานานละ..

ดาลตั้นจะใช้เวทย์ทำให้พลังพวกเราลดลงครึ่งนึงอยู่ตลอด.. คอยฮีลให้ทันและตีมันไปเรื่อยๆ ไม่ยากเท่าไหร่ครับ.. พอมันแพ้เรา จุดวาร์ปสู่พระราชวังใต้สมุทรจะปรากฏ.. วิ่งออกมาเซฟก่อนหนึ่งทีแล้วเข้าไปครับ…

เมื่อเราวาร์ปมาถึงพระราชวังใต้สมุทร เดินลงมานิดหน่อยเราก็จะได้เจอจุดเซฟอีกหนึ่งจุด(ซึ่งดีมากๆเลยครับ.. เพราะเดี๋ยวเราจะปักหลักฟาร์มเลเวลกันซักหน่อย.. ).. องค์ราชินีจะกำลังทำพิธีอยู่ เธอจะบอกให้องค์หญิงชาล่าเพิ่มพลังให้เครื่องจักรแมมม่อนแบบเต็มพิกัด องค์หญิงก็ทำให้แบบไม่เต็มใจนักจนตัวเธอเองล้มทรุดลง ผู้หยั่งรู้ทำท่าเหมือนเป็นห่วงเธอ..

เดินลงมาจะพบกับ Mune ยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเค้าจะแว้บหายไป.. เดินทะลุลงมา จะได้พบกับห้องโถงใหญ่ที่มีอาวุธและสมบัติซ่อนอยู่เต็มไปหมด.. สูดหายใจลึกๆ ตั้งสติก่อนครับ มีหลายห้องทีเดียว.. อันดับแรก เก็บของในห้องโถงใหญ่นี้ให้หมดก่อน.. ขอแนะนำเรื่องมอนส์ประจำถิ่นที่เหมือนลูกกะตาบินได้ มันจะมีสองสี คือสีฟ้ากับสีเหลืองส้ม สีฟ้าจะแพ้เวทย์น้ำกับน้ำแข็ง สีเหลืองส้มจะแพ้เวทย์ไฟและแสงเลเซอร์ คำเตือนคือ “ห้ามใช้เวทย์อื่นกับมัน” ต้องใช้เวทย์ที่มันแพ้เท่านั้น ไม่งั้นมันจะเค้าท์เตอร์เราจนเจ็บทั้งกลุ่ม..

เมื่อเก็บห้องโถงใหญ่จนครบหมดแล้ว ก็ไล่เก็บห้องเล็กๆด้านข้างให้หมด เริ่มจาก ขวาบน, ขวาล่าง, ซ้ายล่าง, ซ้ายบน, (ห้องบนและกลางจะทะลุหากันได้) จะได้ไม่งง.. ห้องขวาล่างกับซ้ายล่างจะเชื่อมกัน มีกลไกให้เหยียบนิดหน่อย ก็ลองสังเกตุดูครับ.. ไอเท็มที่เก็บได้ยากที่สุดคือ “Demon Hit หรือ Demon Slayer” ดาบของฟร็อก.. อยู่ที่ห้องซ้ายล่าง ต้องเดินเลียบกำแพงทางซ้ายลงมา ตีโค้งเดินมาได้ถึงกลางห้อง จะสังเกตุมีห้องสมบัติเล็กๆอยู่ คลำตรงแถวกำแพงจะสามารถทะลุเข้าไปในห้องได้ ก็เก็บออกมาครับ.. ของดีของแรร์…

สำหรับใครที่ไม่รีบ อยากจะแนะนำให้เก็บเลเวลที่ห้องซ้ายกลาง(ทะลุซ้ายบนได้).. ในห้องนี้จะมีมอนสเตอร์ 3 ตัว ตัวกลางใช้เวทย์ให้เราความจำเสื่อมได้ ใช้คาถาไม่ได้ ส่วนตัวริมเป็นลูกกะตาบินได้สีฟ้า 2 ตัวซึ่งแพ้เวทย์น้ำและน้ำแข็งนั่นเอง.. สเต็ปก็คือ ให้ใครซักคนฟันเจ้าตัวกลางแรงๆและให้ใครอีกคนใช้เวทย์น้ำหรือน้ำแข็งแบบโดนทุกตัว แค่นี้ก็เรียบร้อยครับ จะได้สามเด้งคือ 1.ไอเท็ม Lapis ที่เพิ่ม HP 200 ได้ทั้งกลุ่ม ไม่ต้องไปซื้อให้เสียเงิน 2.ค่าประสบการณ์ Exp 790 คะแนนทุกคน 3.เงินสด 1,050 บาท วิธีโหลดมอนส์ชุดใหม่ก็แค่เข้าห้องออกห้องแค่นั้นเองครับ.. ใครไม่รีบก็ฟาร์มยาวๆไปเลยครับ มีแต่ได้กับได้จริงๆ.. แต่ก็อย่าลืมวิ่งไปเซฟห้องด้านบนเป็นระยะด้วยนะครับ ห้ามลืมเด็ดขาด…

เมื่อเรียบร้อยในส่วนของห้องเก็บสมบัตินี้แล้ว ก็ให้เดินลงมาเพื่อไปห้องต่อไป ห้องนี้จะเป็นห้องเล็กๆที่ทะลุออกมาก็เป็นเหมือนชานบ้านเล็กๆยื่นออกมา.. ไปต่อ ลงบันไดไปเรื่อยๆ มอนส์ที่ถือไม้กระบองควงไว้บนหัว จะสามารถเค้าท์เตอร์สวนเราได้ในทุกๆการโจมตี.. ดังนั้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ ฆ่ามันให้ได้ภายในดาบเดียว อย่าใช้เวทย์กลุ่มโจมตี ไม่งั้นมันมีกี่ตัวมันก็สวนเราเละเลย.. ระวังรูปปั้นบางตัวสามารถพ่นไฟใส่เราได้.. ลงมาเรื่อยๆ สุดท้ายจะได้พบกับ “มาสะ” คุยกับเค้าแล้วเค้าจะวาร์ปหายไป.. แล้วภาพจะตัดไปที่ราชินีที่กำลังทำพิธีอยู่.. แม้จะมีคนเตือนว่าอันตราย แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะให้องค์หญิงชาล่าเพิ่มพลังให้เครื่องจักรแมมม่อนเข้าไปอีก..

เมื่อบังคับตัวละครได้อีกครั้ง ให้เดินลงบันไดต่อมาอีก จะได้พบกับ “ลิฟท์” ขนาดใหญ่.. ปราบมอนส์ให้เรียบร้อยแล้วกดที่สวิทช์ที่มีแสงแวววาว ลิฟท์จะเริ่มทำงาน เดินเครื่องเพื่อลงไปด้านล่าง.. ระหว่างนี้เราต้องสู้กับมอนส์ไปเรื่อยๆ.. เมื่อลิฟท์หยุด เดินไปที่ห้องด้านบน.. เมื่อเราโผล่เข้าห้องมา จะเจอสวิทช์ที่พื้น รอให้เราเหยียบอยู่ อย่าเพิ่งเหยียบ ไปกดสวิทช์ที่ห้องบนซ้ายกับห้องบนขวาก่อน.. แล้วกลับมาเหยียบ.. เส้นทางตรงกลางจะปรากฏขึ้น ก็เดินขึ้นไปเพื่อเข้าห้องถัดไป..

เราจะได้พบกับจุดเซฟและหีบสมบัติ.. เก็บสมบัติและเซฟซะครับ เพราะเรากำลังจะได้บวกบอสแล้วนั่นเอง.. พร้อมแล้วก็ลุยห้องต่อไปได้เลย เราจะได้พบกับเจ้าดาลตั้นอีกครั้ง มันจะเรียกบอส “โกเลมซิสเตอร์” มาสู้กับเรา.. เป็นบอสคู่ ตบให้ลง.. (วิธีจัดการคือ ฮีลสองคนและโจมตีหนึ่งคน.. เพราะมันจะโจมตีโดยทุ่มลูกเหล็กใส่เราหนึ่งตัวพลังลดครึ่งหนึ่งและอีกตัวจะยิงบอลพลังใส่เราซ้ำอีก ฮีลคนเดียวมันจะไม่ทัน.. ฮีลให้ทันฟันให้แรงไปเรื่อยๆ..).. เมื่อเอาชนะโกเลมซิสเตอร์ได้ เจ้าดาลตั้นจะออกมาอีกครั้งและมันจะสัมผัสพลังของลาวอสได้..

เดินทางต่อไปห้องถัดไป.. เราจะได้พบกับชาวนูยืนอยู่ คุยกับเค้าแล้วเค้าจะรีบกระโดดหนีไป เพราะว่าลาวอสจะตื่นขึ้นแล้วนั่นเอง.. เดินต่อไปอีกนิดจะพบกับพื้นที่ทำพิธีของราชินี.. องค์หญิงชาล่าจะเริ่มไม่ไหว เธอทรุดลงกับพื้น แต่ราชินีก็จะยังไม่หยุด เธอปลุกลาวอสจนสำเร็จ เราจะสู้ลาวอสไม่ได้เลย(ร่วงทันที) จอมมารมากัสที่อยู่ในคราบผู้หยั่งรู้จะเปิดเผยตัวตนว่าเค้ามาเพื่อกำจัดลาวอส.. ราชินีไม่สน สั่งลาวอสเล่นงานทันที สุดท้ายแม้แต่มากัสก็ไม่ไหวอยู่ดี.. โครโน่กัดฟันลุกขึ้นมาในขณะที่ลาวอสกำลังจะดูดกลืนทุกคนนั่นเอง.. แต่สุดท้าย โครโน่ก็ต้องตาย และสลายไปเพราะลำแสงที่ลาวอสยิงออกมานั่นเอง…

ทุกอย่างเกินจะควบคุม.. ราชินีเหมือนคนบ้า.. องค์หญิงชาล่าใช้พลังวาร์ปส่งพวกเราทุกคนไปที่ปลอดภัยก่อนวังจะถล่ม.. พลังของลาวอสระเบิดออก สร้างความวายป่วงให้ทั่วแผ่นดิน.. นครลอยฟ้าถูกทำลาย แผ่นดินแยกออก ร่วงหล่นลงพื้นดิน…

เราจะรู้สึกตัวอีกครั้งในบ้านหลบภัยของคุณตาคนหนึ่ง แกจะเดินเอาสร้อยคอของโครโน่มาให้ และบอกว่ายานอีพอร์ชของเราปลอดภัยดี.. เราต้องจัดทีมใหม่อีกครั้งโดยไม่มีโครโน่…

***** ยังไม่จบนะครับ ลงต่อเรื่อยๆครับ 🙂

Chrono Trigger, โครโน่ ทริคเกอร์, บทสรุป Chrono Trigger, บทสรุป โครโน่ ทริคเกอร์,


แชร์ลงโซเชียลมีเดีย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: ชอบบทความ กรุณาส่งลิงก์มาที่นี่แทนนะครับ อย่าก็อปปี้บทความไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด..